ตอนที่ 73 ใช้มันซะ (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 73 ใช้มันซะ
"หง่าววววว..."
แม็กนัสตื่นขึ้นมาเพราะเสียงกรีดร้องของแชด เขาแหงนคอมองเห็นว่าตัวเองใช้แชดเป็นหมอน ตอนนี้หัวของเขาวางอยู่บนท้องของแมว
แม็กนัสหัวเราะเบาๆ และรู้สึกสบายขึ้น “อา นุ่มจัง ขอฉันนอนมากกว่านี้นะ แชด”
"เมี้ยว..." ชาดยกอุ้งเท้า
"ตกลง นายจะได้เบค่อนสามแผ่นทีหลังนะ" แม็กนัสติดสินบนเขาและได้นอนหลับสบายไปอีก 15 นาที
อีก 2 สัปดาห์ต่อมา เขาจะต้องยุ่งกับควิดดิช แต่เขาเจออะไรล่ะ? กัปตันทีมสลิธีรินลงแทนเขาแล้ว
แม็กนัสยักไหล่ บอกว่ายังไงก็แพ้อยู่ดี เขาแค่นอนเล่นและสนุก ในขณะเดียวกัน ทีมสลิธีรินก็ต่างหัวเสีย
น่าแปลกที่เมื่อการแข่งขันกับกริฟฟินดอร์มาถึง ครั้งนี้เจมส์เล่นในตำแหน่งเชสเซอร์
หลังจากแพ้ติดต่อกัน 2 ครั้ง ทีมสลิธีรินก็พาเขากลับมา พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้เพื่อแก้แค้นได้ พวกเขาสามารถจัดการกับเขาได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
ดังนั้นแม็กนัสจึงชนะอย่างสนุกสนาน เขาไม่เพียงแค่ต้องการชนะ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าทีมของเขาไร้ค่าเพียงใด ดังนั้น เขาจะจับลูกโกลเด้นสนิชได้ก่อนที่เชสเซอร์ในทีมจะทำคะแนนได้เสียอีก
ตลอดเดือนพฤศจิกายนเขาใช้เวลาอยู่ที่สนามควิดดิชทุกวัน หลังจากชนะได้ทุกครั้ง แม็กนัสจะได้รับภาพที่ใหญ่ขึ้นในหนังสือพิมพ์บางฉบับ เขากำลังได้รับความนิยมและนี่คือแรงจูงใจหลักของเขา เพราะยิ่งเขามีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ เสียงของเขาก็จะยิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น
ความสามารถพิเศษของเขาในการสร้างไฟจากเท้าของเขาก็น่าเกรงขามเช่นกัน แม้ว่าผู้คนจะคาดเดาเกี่ยวกับมันแต่ก็ไม่รู้ว่าเขาทำได้อย่างไร
...
ควิดดิชนัดสุดท้าย
สลิธีรินเจอกับเรเวนคลอ ฮัฟเฟิลพัฟเป็นทีมแรกที่ตกรอบ ต่อมาก็กริฟฟินดอร์เป็นทีมที่สองเพราะพวกเขาไม่สามารถหาซีกเกอร์ที่ดีพอได้
คู่หูแม็กน่ากับเอ็มม่าก็ได้รับความนิยมอย่างมาก และการทำงานเป็นทีมของพวกเขาก็ราบรื่น ลูเซียสรู้ดีว่าไม่ควรทำผิดพลาดซ้ำอีกหลังจากเหตุการณ์ที่แล้ว แม็กนัสเคยบอกดัมเบิลดอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยและบอกให้เขาจับตาดูพวกเขา
ตอนนี้ไม่มีร่มสิทธิพิเศษสำหรับลูเซียสอีกแล้ว และเขาจำเป็นต้องก้าวอย่างระมัดระวังเช่นกัน เขาต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะได้รับอิทธิพลแบบเดียวกับที่พ่อของเขาเคยได้รับ
"ขึ้น" เอ็มม่าตะโกน
แม็กนัสถอยออกจากบลัดเจอร์และจับลูกโกลเด้นสนิชได้ทันที ครั้งนี้ด้วยมือเขาเอง ดอกไม้ไฟถูกจุดดังขึ้นทันทีที่เขาจบเกม ปีนี้ สลิธีรินได้ถ้วยควิดดิช
"YEEEEEAAAAH..." เอ็มม่าคลั่งไคล้ที่สุดในตอนนี้ เธอรักควิดดิชมากเกินไป
*เปรี้ยงงง*
ออกจะมากเกินไปหน่อยเพราะวิธีแสดงความตื่นเต้นของเธอคือการกระแทกไม้กวาดลงบนพื้นเหมือนพวกร็อคสตาร์
"ใจเย็น ทุกคนกำลังดูอยู่นะ" แม็กนัสกระซิบบอกเธอ
"ช่างพวกนั้นดิ... ฮ่าฮ่าฮ่า..."
แม็กนัสส่ายหัวหุบปากทันที เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของฤดูกาลนี้ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากเหรียญทองเล็กๆ มันอาจมีค่าไม่ถึงทองคำหนึ่งเกลเลียนด้วยซ้ำ
เย็นวันนั้น ห้องโถงใหญ่ถูกปกคลุมด้วยสีเขียวของสลิธีริน
ในเวลาเดียวกัน ในมุมกลุ่มภาพเหมือน เมอร์ลินกำลังมองไปที่ห้องโถงอย่างเพ้อฝัน "อา... รู้สึกดีจังที่ได้เห็นสลิธีรินกลับมาบนเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่"
อาเธอร์เย้ยหยัน “หึ นี่เป็นกีฬาของแต๋วชัดๆ ข้าจะยอมรับถ้าเป็นการต่อสู้กับมังกร นั่นคือสิ่งที่ลูกผู้ชายทำ”
"เฮ่... นี่ไม่ใช่สมัยก่อนนะ เจ้าโง่ มังกรใกล้จะสูญพันธุ์อยู่แล้ว" เมอร์ลินกล่าว
"อะไรนะ? ใครฆ่าพวกมันกัน?" อาเธอร์ถามด้วยความโกรธ
“คงเป็นพวกขี้ยาบ้าๆ อย่างเจ้าไง” เมอร์ลินตอบ
...
หลังอาหารเย็น ทุกคนกลับหอ แต่แม็กนัสสังเกตว่าไม่เจอสเนปเลย
“เซฟอยู่ไหน?” เขาถามรักนาร์
รักนาร์กำลังเล่นกับเป็ดน้อย “ไม่รู้สิ เราอยู่ด้วยกันจนเขาเข้าห้องน้ำ”
"หืมมม เราควรไปดูว่าเขาสบายดีไหม อย่าลืมสิ ลูเซียสกับพรรคพวกของเขายังอยู่ในโรงเรียนนี้" แม็กนัสเตือนรักนาร์
รักนาร์ผลักดั๊กออกไปแล้วลุกขึ้น “ไปเถอะ เขาบอกว่าเขาแค่จะฉี่ นี่มันนานเกินไปแล้ว”
“แคว๊กก...”
“ไม่นะดั๊ก ตอนนี้นายยังเล็กเกินไปที่จะสู้ นายต้องใช้เวลาอีกหลายปีจึงจะเติบโตช่วยเราได้ แค่เล่นกับพี่น้องของนายไป รอจนกว่าจะถึงเวลา” แม็กนัสเบรคดั๊กทันทีที่เห็นว่ามันจะตามไปด้วย
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหน้าห้องน้ำชาย แม็กนัสเกลียดฮอกวอตส์ด้วยเหตุผลเดียว นั่นคือมันเก่าเกินไป และไม่เคยปรับปรุงเลย เพราะการออกแบบในสมัยก่อน ห้องน้ำมักถูกสร้างให้ห่างจากห้องนั่งเล่น แม้กระทั่งตอนนี้ ถ้าใครต้องการปลดทุกข์ พวกเขาก็ต้องออกไปนอกห้องนั่งเล่น
“เดี๋ยวก่อน ขอฉันดูก่อน” แม็กนัสหยุดรักนาร์
พอเข้าไปข้างในก็เริ่มได้ยินเสียง
"บอกเรามา... เซเวอร์รัส มันสร้างเปลวไฟจากเท้าได้ไง?"
“ฉันไม่รู้จริงๆ เขาไม่เคยบอกฉันเลย” สเนปตอบกลับ ตอนนี้เขาถูกลูเซียส เอเวอรี่ และเด็กสลิธีรินอีก 3 คนต้อนจนมุม
ใบหน้าของแม็กนัสเปลี่ยนเป็นโกรธเมื่อเขาได้ยินพวกเขาสอบปากคำสเนป แต่เขายังไม่ได้เข้าไปข้างใน เขาอยากรู้ว่าพวกเขาเสนออะไร เขาจึงตั้งใจฟังต่อไป
“บอกเรามา เซเวอรัส ฉันสามารถพาแกให้รับใช้ท่านจอมมาร เข้าร่วมกับเราแล้วแกจะได้รับทุกสิ่งที่แกฝันถึง ความร่ำรวย อำนาจ หรือจะทรัพยากรอะไรก็ตาม” พวกเขาพยายามล่อลวงสเนป
สเนปตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ฉันคิดว่าเจ้าแห่งศาสตร์มืดเกลียดทุกคนยกเว้นพวกเลือดบริสุทธิ์ไม่ใช่หรอ?”
"เจ้าแห่งศาสตร์มืดก็ให้ความสำคัญกับความสามารถเช่นกัน เซเวอรัส แกมีความสามารถมากในการปรุงยา" ลูเซียสตอบกลับ
สเนปเย้ยหยัน "หือ... แล้วเจ้าแห่งศาสตร์มืดก็เป็นพวกหน้าซื่อใจคดด้วยงั้นเหรอ? อย่าบอกนะว่าเขาเป็นลูกครึ่งหรือมักเกิ้ลอย่างลับๆ” [เดาซะแม่นเลยพี่เซฟ]
แม็กนัสพอแล้ว เขาหัวเราะเบาๆ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ เขามีดาบสองเล่มอยู่ในมือ
“ดูซิเราเจออะไรกัน? ปาร์ตี้ลับๆ หรอ? พวกนายแอบทาเล็บกับลิปสติกหรือเปล่า?” แม็กนัสถามอย่างเย้ยหยัน
ทั้ง 5 คนหันกลับมา แม็กนัสและก็มีรักนาร์ด้วย แต่เขาไม่ได้ถือไม้กายสิทธิ์ แต่ถือหลอดทดลองสองหลอดที่เต็มไปด้วยยา
มัลซิเบอร์ที่ 2 ชักไม้กายสิทธิ์ออกมาอย่างรวดเร็ว "วันนี้ฉันจะฆ่าแก ไอ้สารเลวแห่งเมอร์ลิน"
แม็กนัสขูดดาบทั้งสองของเขาเข้าหากัน ชิ๊ง ทำให้เกิดเสียงโลหะที่น่าสะพรึงกลัวพลางหัวเราะ
"ฮ่าฮ่า... แน่นอน แต่นายรู้ไหมว่าไม้กายสิทธิ์ของนายมีร่องรอยอยู่ ดังนั้นถ้านายทำอะไรกับใครที่นี่ล่ะก็ นายจะถูกจับได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
ในขณะที่ฉันสามารถฟันนายด้วยดาบของฉัน และแน่นอนว่าไม่มีใครคาดเดาอะไรได้ พวกเขาอาจจะสงสัยฉัน แต่ไม่มีหลักฐานนี่"
"ฮิฮิ แล้วฉันสามารถเทยาละลายผิวหนังนี้ใส่พวกแกทุกคน และจะไม่มีใครสงสัยอะไรกับเด็กปี 1 ตัวเล็กๆ จะฆ่าพวกปีสูงๆ จำนวนมากได้ยังไงหนอ?" รักนาร์ก็เปล่งเสียงเช่นกัน
มัลซิเบอร์ที่ 2 ก้าวถอยหลัง "แก... แกไม่กล้าหรอก"
แม็กนัสส่ายหัว "ฉันรู้ว่านายเป็นพวกขี้ขลาด ทำไมนายถึงพยายามเผชิญหน้ากับฉันล่ะ? เวลาของพวกนายที่นี่ไม่กี่ปีข้างหน้าเดี๋ยวก็ออกไปกันแล้ว แล้วพวกนายได้อะไรจากการทำให้ฉันเป็นศัตรูหรอ?"
แม็กนัสสนใจที่จะรู้คำตอบของเรื่องนี้จริงๆ เพราะความโกรธของพวกนั้นที่มีต่อเขานั้นไร้ความหมาย
ลูเซียสทำหน้าบึ้งใส่เขา
“เพราะแกเป็นเลือดสีโคลน เวทมนตร์ของแกไม่บริสุทธิ์ และแกเป็นความอัปยศต่อชื่อของเมอร์ลินแกช่างน่าละอายสำหรับพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ทุกคน”
"ทำไมล่ะ? เพราะฉันคือตัวอย่างที่มีลมหายใจที่มีชีวิตแล้วสายเลือดไม่สำคัญหรือไง?” แม็กนัสถามกลับ
“ไม่ แกเป็นตัวอย่างที่ยังหายใจได้ของการที่มักเกิ้ลสร้างมลพิษให้กับอันดับของเรา แกไม่ควรได้รับเวทมนตร์ แกขโมยมันไปจากเรา” ลูเซียสเถียง
แม็กนัสกลอกตา “นายกำลังจะบอกว่า สาเหตุที่พ่อมดเลือดบริสุทธิ์มีจำนวนลดลงและอ่อนแอลงก็เพราะคนอื่นๆ กำลังขโมยเวทมนตร์ของพวกนาย? ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเวทมนตร์คือพิซซ่า ใครกินก่อนคนนั้นก็ได้ไป?
“พวกนายทุกคนรังเกียจฉัน สาเหตุหลักที่ทำให้เลือดบริสุทธิ์น้อยลงและอ่อนแอลงเป็นเพราะความหลากหลายน้อยลงแล้วการมีเพศสัมพันธ์ที่มากขึ้น แต่ฉันรู้ว่านายจะไม่เชื่ออย่างนั้น พวกนายทุกคนติดอยู่ในกรอบความคิดแบบเดียวกับมักเกิ้ลเมื่อ 3 ร้อยปีที่แล้ว พวกเขาเดินหน้าต่อไปแล้วก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ส่วนพวกนายก็ดักดานและลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงยังไงฉันก็ไม่สนใจชีวิตพวกนายหรอก เซฟ ไปกันเถอะ”
สเนปเดินผ่านพวกเขาและมาหาแม็กนัส แต่ทันใดนั้นเขาก็หยุดและหันกลับไปมองที่เอวาน โรเซีย เขาหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนไปทางเอวาน
“ใช้มันซะ ลมหายใจของนายโคตรเหม็น” สเนปพูดและจากไป
_____________________________