ตอนที่แล้วตอนที่ 387 การมาเยือนของทาร์ตัน 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนทที่ 389 ทฤษฎีของผี่ผา 

ตอนที่ 388 ดินแดนฝันประหลาด


ถังเทียนฟื้นฟูความรู้สึกกลับคืนมา  เขาจำได้ว่ามีแสงเจิดจ้าสีครามฉายออกมาจากเส้นขอบฟ้าในทะเลกระจกคราม  ทะเลเปล่งแสงแบบนั้นได้ยังไง?  แสงนั้นฉายออกมาจากตรงไหน?

ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังก้องจากเหนือหัวเขา

“เจ้าช่างเป็นสวะไร้ประโยชน์จริงเจ้าพลาดตอบคำถามร้อยข้อแรก แล้วจะเชี่ยวชาญมือปีศาจพันแปลงได้อย่างไร?  นอกจากศิษย์ทุกคนของข้าแล้วเจ้านี่แหละช้าที่สุด เจ้าไม่ละอายใจตัวเองบ้างหรือ?”

ถังเทียนรีบลืมตาและกวาดมองไปรอบๆ  มีชายชราคนหนึ่งที่ขาวทั้งหน้าทั้งตัวกำลังโมโหฉุนเฉียวอยู่

นี่คือ...

ถังเทียนอ้าปากแต่ไม่มีเสียงออกมา

“เจ้าไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถ้ายังจะมัวเสียเวลาต่อไปเจ้าจะเป็นแค่อันธพาลที่ไร้ประโยชน์”  ชายชรายังคงโกรธเขา  แต่เขามีเสียงอ่อนโยนลง  “เจ้าเป็นเด็กฉลาดแต่ขี้เกียจและไม่เต็มใจจะฝึกฝนหนักเพื่อเป้าหมายของเจ้า  เจ้าอาจไม่มีความรับผิดชอบเกี่ยวกับสำนักหรือดูแลเรื่องของตระกูล  แต่ถ้ามีงานบางอย่างที่จำเป็นต้องให้เจ้าช่วย  เจ้ายังจะทำอะไรอื่นได้นอกจากสำนึกผิด?”

ชายชราจากไปอย่างผิดหวัง

ถังเทียนตะลึงเพราะโดนดุโดยไม่รู้ตัวขณะที่เขาได้สติคืนมา สภาพใจของเขายังคงสับสนพลางเหลียวมองดูรอบๆ ตัว

ในห้องตกแต่งไว้อย่างเลิศหรูด้วยเครื่องประดับเรือนราคาแพง

ถังเทียนสดุดตาอยู่ที่หนังสือเล่มหนาที่ใต้โต๊ะเขาเดินเข้าไปและพลิกเปิดดู มันคือหนังสือที่เรียกว่าเคล็ดเคลื่อนมือ

ทันใดนั้นเขาคิดถึงคำที่ชายชราพูดถึง  ความคลั่งไคล้หลงใหลของเขาเกิดขึ้น เมื่อชายชรานั้นพูดว่าเขาไม่สามารถตอบคำถามร้อยข้อแรกได้  จะเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่?

เขาเปิดดูผ่านๆบนคำถามที่ 91 เมื่อเขาพลิกไปที่หน้าสุดท้าย เขาอ้าปากค้าง 1024 คำถาม!

ถังเทียนสงสัย  ที่นี่ที่ไหน? คนเหล่านี้เป็นใคร?

เขาเดินไปที่หน้าห้อง  ต้องการจะผลักเปิดประตูดูว่าข้างนอกมีอะไร  แต่ไม่ว่าเขาจะใช้แรงมากเพียงใดเขาก็ไม่สามารถผลักเปิดประตูได้

“ประตูปีศาจ!”

ถังเทียนตะลึง  เขารู้ว่าเขามีพลังน่ากลัว  ด้วยพลังที่เชี่ยวชาญของเขาในตอนนี้ประตูน่าจะระเบิดเปิดออกไปแล้ว แต่มันไม่ขยับเขยื้อน

ขณะที่เขาลองเก็บหรือขนย้ายสิ่งของรอบๆห้อง เขาพบว่ามีแต่หนังสือที่สามารถขยับได้ ส่วนอื่นๆ ยังคงอยู่นิ่ง เป็นภาพลวงตาทั้งหมดหรือ?

หลังจากวนเวียนอยู่ครึ่งค่อนวัน  เขาเริ่มรู้สึกเบื่อ เขานั่งลงและหันไปหาหนังสือเคล็ดการเคลื่อนไหวมือ

เขาดื่มด่ำกับหนังสือนี่มันกล่าวถึงเรื่องวิธีการเอาชนะการโจมตีรูปแบบต่างๆ  ช่างดูลึกลับมากจริงๆ

เนื่องจากถังเทียนเชี่ยวชาญในการต่อสู้ระยะประชิด หนังสือนี้จึงช่วยเพิ่มพลังประสิทธิภาพให้เขาอย่างมีนัยสำคัญ ถังเทียนได้รับประสบการณ์กระบวนท่าโจมตีมากมายที่อธิบายในหนังสือนี้มาก่อน เขาพบว่าการตอบโต้ของเขาไม่ได้แตกต่างจากนักสู้คนอื่นๆ มากเท่าใดนัก

ถ้าเขาสามารถใช้วิธีการเหล่านี้ที่อธิบายไว้ในหนังสือ  เขาจะมีความได้เปรียบมากมายในสนามต่อสู้

เนื่องจากเขาไม่สามารถออกไปได้ เขาจึงได้แต่อุทิศตนเองเพื่อซึมซับเนื้อหาของหนังสือ

ในไม่ช้าถังเทียนก็หมกมุ่นจมอยู่ในเนื้อหาความรู้ในหนังสือ

การอ่านเป็นเรื่องที่ง่าย  แต่พอเกี่ยวกับคำถาม  ถังเทียนพบว่าเป็นเรื่องท้าทายมาก  ที่ยังคงแย่ก็คือเขาไม่สามารถเข้าใจบริบทและเนื้อหาของคำถามได้  หนังสือนี้เหมาะกับอาเฮ่อมากกว่า ถังเทียนสงสัย

ปังปัง ปัง!

ใครบางคนเคาะประตูจากนั้นประตูถูกผลักเปิด เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งใบหน้าเหลี่ยมหูกางใหญ่วิ่งเข้ามาในห้อง  “อาอวี่ ข้ารอเจ้ามาครึ่งค่อนวันแล้ว   ทำไมเจ้ายังไม่เริ่มเคลื่อนไหวสักที?ไปกันเร็วๆ และเอาปัญหาไปด้วย ไปเถอะ”

หลังจากเสร็จแล้วเด็กหนุ่มก็หมุนตัววิ่งไปที่ประตู ถังเทียนวางคำถามลงและติดตามเด็กหนุ่มคนนั้นออกไป  จากนั้นเขาพบว่าเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายได้

เฮ้เฮ้ เฮ้ ทำไมมันเป็นอย่างนี้ไปได้?

ถังเทียนพบว่าไม่มีคำพูดอะไรออกมาจากปากของเขา ถังเทียนไม่ได้ถูกสภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข่มขู่คุกคามแต่อย่างใด

เรื่องนี้ง่ายมาก  มันต้องเป็นความฝันแน่นอน

ช่างเป็นความฝันที่น่าสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีประสบการณ์กับความฝันเช่นนั้น

ถังเทียนสงบจิตใจตนเองลงและติดตามไปด้านหลังของเด็กหนุ่มคนนั้น  ว่าแต่ใครคืออาอวี่?

“อาอวี่,ตอนนี้เราจะพาเจ้าไปฝึกที่ถ้ำพันวิญญาณ เจ้าเป็นคนฉลาดมาก เจ้าจะเชี่ยวชาญวิชามือปีศาจพันแปลงได้อย่างแน่นอน”  เด็กหนุ่มอธิบาย

ถังเทียนรู้สึกพอใจอยู่ภายใน  ในที่สุดก็มีคนวิจารณ์เขาว่าฉลาด! อยู่ในสภาพนี้ เขารู้สึกว่าเป็นฝันที่คุ้มค่าจริงๆ

มือปีศาจพันแปลง...เอ่.. ชื่อนี้ฟังดูคุ้นๆ...

เดี๋ยวก่อน...นั่นมันสุดยอดวิชาโดดเด่นไม่ใช่หรือ?

ทั้งสองวิ่งไปจนถึงจุดหมายปลายทอง เด็กหนุ่มทั้งสองคนมีพลังตัวเบาที่แข็งแกร่ง  ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงถ้ำด้านหลังภูเขามีนักสู้ยืนเฝ้าอยู่สองคน

ในถ้ำนั้นมีชื่อว่าถ้ำสิบลี้พันวิญญาณ สลักชื่ออยู่ด้านบนพื้นที่โล่ง

ถังเทียนตื่นตัว นักสู้ที่ยืนเฝ้ามีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งเย็นยะเยียบอยู่รอบๆ ตัวเขา

นักสู้ที่เฝ้ายามจำพวกเขาได้จึงปล่อยให้พวกเขาผ่านเข้าไป

เมื่อเข้าไปภายในถ้ำเด็กหนุ่มให้กำลังใจถังเทียน  “อาอวี่! เจ้าทำได้แน่!, ครั้งนี้เจ้าจะต้องผ่านสองร้อยระดับได้ในรวดเดียว!  ข้าจะคอยหนุนหลังเจ้า

เด็กหนุ่มทั้งสองหายเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ

ถังเทียนรู้สึกอบอุ่นใจกอดเขาทันที เขาจำได้ว่าครั้งที่เขาอยู่ในสถาบันคาราเมลที่ซึ่งเขากับเจ้าวัวแมลงวันมักต้องมาเผชิญหน้าฝึกร่วมกันเสมอ

น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพูดอะไรออกสักคำ

เขาได้แต่ติดตามเด็กหนุ่มเข้าไป

ลึกเข้าไปข้างใน ถังเทียนรู้สึกว่าทัศนวิสัยการมองของเขาย่ำแย่  มันมองดูเลือนลาง

ขณะที่เขาเดินลงไปตามทางในถ้ำ  เขาจะเห็นบล็อกหินขนาดใหญ่ทุกๆ สิบเมตร นอกจากนี้แท่นหินแต่ละก้อนจะมีขุนพลวิญญาณอยู่หนึ่งตน  เขาสามารถเห็นขุนพลวิญญาณไปตามทางผ่านเป็นจำนวนมาก

ถ้าสิบลี้พันวิญญาณอย่าบอกนะว่าหมายถึงขุนพลวิญญาณพันดวง

ถังเทียนปากอ้าค้าง  เขามัวตะลึงกับจำนวนขุนพลวิญญาณ  นั่นมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้

หลังจากเขาสงบใจได้  เขาเดินเข้าไปหาขุนพลวิญญาณตนแรก เมื่อเขาเข้าไปในระยะสามเมตร  ตาของขุนพลวิญญาณฉายแสงวาบทันที  เขาปล่อยหมัดตรงใส่ถังเทียน

ถังเทียนหลบหลีกการโจมตีอย่างคล่องแคล่วและตอบโต้มันด้วยดาบของเขาโจมตีใส่สีข้างด้านซ้ายของขุนพลวิญญาณ

ปัง!

ขุนพลวิญญาณกระจายเป็นลำแสงและหายไป

ถังเทียนสูดหายใจลึกการโจมตีครั้งแรกจากขุนพลวิญญาณความจริงก็คือปัญหาข้อแรกจากหนังสือเคล็ดเคลื่อนไหวมือ

อาจเป็นได้ว่า...

ถังเทียนไม่ลังเลใจพุ่งเข้าหาขุนพลวิญญาณที่สองที่อยู่ใกล้ๆ

ความเคลื่อนไหวของเขาคล่องแคล่วด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาเปลี่ยนขุนพลที่สองกลายเป็นบอลแสง

หลังจากเอาชนะขุนพลวิญญาณได้มากมาย ถังเทียนยืนยันว่าขุนพลวิญญาณเหล่านี้มีบุคลิกอยู่ในเคล็ดคัมภีร์ท่ามือ  แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากในการถอดความหมายในคัมภีร์แต่ความสำเร็จของเขาที่มีต่อขุนพลวิญญาณยิ่งเพิ่มพูนความมั่นใจให้เขา

ตอนนี้เขาเข้าใจว่าความฝันทำให้เขาเข้าใจเชี่ยวชาญวิชามือปีศาจพันแปลง

ถังเทียนดีใจและเริ่มเดินหน้าต่อโดยไม่กลัว

ความก้าวหน้าของเขายังไม่ถือว่าเร็ว  แม้ว่าเขาจะมีคำตอบสำหรับคำถาม เขามิได้ทำตามคำตอบในหนังสือทั้งหมดเขาจะคิดหาวิธีเอาชนะขุนพลวิญญาณเหล่านี้เอง

ทุกครั้งที่เขาเอาชนะขุนพลวิญญาณ  เขาจะหยุดและเทียบกับคำตอบของหนังสือกับคำถามซึ่งเขากำหนดวิธีตอบโต้ด้วยตนเอง  คำตอบของหนังสือจะถูกต้องพิถีพิถันและมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการโต้ตอบของเขา

ถังเทียนไม่คุ้นกับวิชาท่ามือ  ในอดีต เขาไม่เคยคิดเลยว่า หลายๆ วิชาอาจถูกฝ่ายตรงข้ามตอบโต้ได้  เขารู้สึกสดชื่นหลังจากเรียนเคล็ดวิชานี้  นี่เหมือนกับสัมผัสโลกใบใหม่เลยทีเดียว

เมื่อถึงคราวต้องเรียนรู้วิชาใหม่  ถังเทียนมักจะอุทิศตนเองเต็มที่

หลังจากจากเอาชนะขุนพลวิญญาณไปหลายสิบตน  ในไม่ช้าเขาพบว่าเคล็ดการเคลื่อนไหวมือขณะโต้ตอบนั้นน่าสนใจมาก

ตอนนี้เขามองขุนพลวิญญาณแต่ละตนด้วยสายตาที่เร่าร้อนคะนอง

เครื่องเซ่นพันชิ้นที่ข้าจะบดขยี้เพื่อการฝึกฝนของข้า

ถ้าข้าสามารถผ่านด่านทั้งหมดนี้ได้  นี่คงเป็นข้อพิสูจน์ว่าข้าแข็งแกร่งทรงพลังเพียงไหน...

ถังเทียนปลดปล่อยเพลิงครอบคลุมตัวและพุ่งไปข้างหน้า

เมื่อหนุ่มน้อยชาวฟ้าปรากฏตัวเตรียมตัวแพ้ได้เลย! นอกจากนี้เขาไม่รู้สึกหิวหรือเหนื่อยในความฝันเขา  นี่คือสถานการณ์ฝึกฝนที่พิเศษของเขา

ถังเทียนเป็นคนไม่ค่อยฉลาด  ถ้าใจเขาต้องการเรียนรู้วิชาเหล่านี้ทั้งหมด มันต้องใช้เวลานาน  แต่เขาเลือกวิธีที่ดีที่สุดมีประสิทธิภาพที่สุดในการเรียนรู้ซึ่งก็คือการสู้นั่นเอง

ในท่ามกลางการต่อสู้ถังเทียนไม่มีเวลาชื่นชมกับเคล็ดวิชาที่ซับซ้อนซึ่งเขาได้เรียนรู้   เขาตั้งใจโจมตีและเปิดทางของคู่ต่อสู้

เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ยาก  ส่วนที่เยี่ยมที่สุดของคนจะปรากฏออกมา

การโจมตีจากขุนพลวิญญาณมีความซับซ้อนมากขึ้น  นับว่าได้เปิดหูเปิดตา  เขาต้องเพ่งสมาธิมากและผลักดันตัวเองเตรียมพร้อมรับการโจมตีที่จะตามมา

เขาไม่รู้ตัวว่าเขามีพรสวรรค์ธรรมชาติสำหรับเรื่องนี้

แน่นอนถังเทียนเผชิญหน้ากับความล้มเหลวระหว่างฝึกฝนหลายครั้ง เป็นเรื่องปกติสำหรับเขาที่จะติดขัดอยู่ที่ระดับเดียวกับขุนพลวิญญาณตนหนึ่งถึงเกือบครึ่งค่อนวัน  เมื่อใดก็ตามที่เขาเผชิญหน้ากับปัญหานี้เขามักจะทำอย่างดีที่สุด ตามตื๊อศัตรูไม่หยุด

เขาจะไม่หยุดจนกว่าเขาชนะในที่สุด

เขาใช้กลยุทธนี้จนกระทั่งก้าวหน้าผ่านระดับนี้ไปอย่างช้าๆ

ในถ้ำมืดมิดกระจุยกระจายไปด้วยขุนพลวิญญาณนับไม่ถ้วน  มีแต่ร่างเขาผู้เดียวเดินก้าวหน้าอยู่ในความมืดเอาชนะศัตรูแต่ละตนทีละครั้ง

บนชั้นที่สิบเอ็ดของโรงแรมบุปผาสวรรค์  มีคนสองคนยืนอยู่ที่ระเบียงมองดูสิ่งก่อสร้างบรอนซ์ในแนวเส้นขอบฟ้า

สิ่งที่ตามมาต่อจากความเจริญเติบโตของเมืองสามวิญญาณผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือกิจการโรงแรม การไหลบ่าเข้ามาของคนต่างถิ่นทำให้เกิดมีโรงแรมขึ้น ตอนนี้เมืองมีโรงแรมเกือบหกสิบแห่งที่เจริญรุ่งเรืองทุกวัน

โรงแรมบุปผาสวรรค์เป็นโรงแรมที่เก่าที่สุด  เนื่องจากบริการและบรรยากาศที่ดี

“นี่ช่างเลิศหรูจริงๆ”  บุรุษวัยกลางคนร่างสูงใช้ไม้เท้าค้ำตัวกล่าว

ข้างๆเขาเป็นบุรุษศีรษะล้านที่ดูเหมือนมีอายุสามสิบปี เขามีกลิ่นอายที่น่ากลัว และยิ้ม “นี่น่าจะเพียงพอสำหรับเรา”

บุรุษวัยกลางคนถาม  “เจ้าหาสิ่งนั้นพบหรือเปล่า?”

“พบแล้ว” บุรุษศีรษะล้านกล่าว  “พวกเขาไม่ใช่นักสู้ที่แข็งแกร่ง พวกเขาเป็นแค่กลุ่มนักสู้ในทำเนียบสวรรค์วิถี  ไม่มีอะไรมากไปกว่ากลุ่มทหารอ่อนหัด  ต่อให้มีนักสู้สายจักรกลพวกเขาจะทำอะไรเราได้ มีแต่จะถูกเราสังหารได้ง่าย”

บุรุษวัยกลางคนตอบอย่างไม่ลังเลใจ  “เราจะลงมือคืนนี้  และคลี่คลายปัญหาอย่างรวดเร็ว!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด