ตอนที่ 386 การกลับมาของทาร์ตัน
อังเดรและหยวนจี๋มองดูภาพบันทึกอย่างตั้งใจ การต่อสู้ระหว่างถังเทียนกับจีเสี่ยวหย่าถูกเปิดดูหลายรอบ มีผู้ชมดูไม่กี่คนสามารถบันทึกภาพการต่อสู้เอาไว้ได้ อังเดรและหยวนจี๋ใช้เงินไปมากพยายามกวาดซื้อไว้ทั้งหมด
“ข้าไม่รู้จะพูดยังไงดี” อังเดรยิ้มขมขื่น “ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถังเทียนถึงเอาชนะได้ เขาน่าจะไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย”
หยวนจี๋มีประสบการณ์มากกว่าอังเดร สีหน้าของเขาเปลี่ยนขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากขึ้น “ไม่, ลองดูรายละเอียดอีกครั้ง ตอนแรกดูเหมือนถังเทียนจะเสียเปรียบ แต่เขาไม่เคยได้รับบาดเจ็บเลย เขาวิเคราะห์อย่างหนักเมื่อประเมินถึงอันตรายที่เป็นไปได้ที่เกิดจากศัตรู นี่คือสิ่งที่นักสู้ทำได้ยากมากจริงๆ”
อังเดรย้อนดูภาพบันทึกอีกครั้งหนึ่งและสังเกตรายละเอียดที่เขาพลาดไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว, ท่านพูดถูกดูเหมือนว่าเขามีความสามารถทำนายสถานการณ์อันตรายก่อนที่จะเกิดขึ้น เขามีสัญชาตญาณที่แข็งแกร่งมาก”
“ใช่แล้ว! สามารถอดทนและหลบหลีกการโจมตีของจีเสี่ยวหย่าได้ทั้งหมด เขาต้องมีความสามารถในการตัดสินใจในสนามรบอย่างโดดเด่น นักสู้เพียงไม่กี่คนที่มีสัญชาตญาณสูงระดับนี้” หยวนจี๋กล่าว “นี่คือเหตุผลที่ถูจื่อซานยกย่องเขา ถ้าสำนักของเขาได้สมาชิกเช่นนั้น พลังของสำนักของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นอีกมากมาย”
“ใช่แล้ว, ท่านพูดถูก!” อังเดรตอบ
“แต่ฝ่าบาท,ท่านไม่จำเป็นต้องยกย่องถังเทียนเท่ากับถูจื่อซานก็ได้ วิชาสุดท้ายที่เขาใช้พิชิตจีเสี่ยวหย่าเป็นเรี่ยวแรงล้วนๆไม่เกี่ยวกับกลยุทธอะไรเลย ถ้าจีเสี่ยวหย่าโจมตีใส่เขาได้สักครั้ง ถังเทียนก็จะตาย” หยวนจี๋อธิบาย “จีเสี่ยวหย่าประมาทถังเทียนมากเกินไป ถ้าเป็นนักสู้คนอื่นจีเสี่ยวหย่าอาจไม่ทำผิดพลาดเหมือนกัน”
“จีเสี่ยวหย่าประมาทเขาอย่างแท้จริง” อังเดรเห็นด้วย
“มีวิธีเอาชนะได้อย่างไม่คาดหมาย แต่นั่นเป็นวิธีการที่เอาแน่นอนไม่ได้ ฝ่าบาทอย่าตื่นเต้นกับชัยชนะของถังเทียนนักเลย ฝ่าบาทมีทรัพยากรและประชาชนที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่ท่านต้องการก็คือคนที่สามารถสู้ได้ด้วยพลังและความมีระเบียบวินัย ชัยชนะอย่างถังเทียนไม่มีความหมายอะไร” หยวนจี๋อธิบายอย่างเคร่งขรึมและเป็นการตักเตือนกลายๆ
อังเดรตอบ “สิ่งที่อาจารย์หยวนกล่าว ข้าจะจดจำไว้เสมอ”
หยวนจี๋ยิ้ม แม้ว่าอังเดรยังอายุเยาว์ แต่ทักษะและความแข็งแกร่งของเขาในแต่ละด้านล้วนโดดเด่นทั้งนั้น
หยวนจี๋ถาม “ฝ่าบาท,ท่านมีแผนการต่อกลุ่มดาวอันโดรเมดายังไง?”
อังเดรยิ้ม“กับการต่อสู้ที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เราต้องอธิบายกับกลุ่มดาวอันโดรเมดา แอนเดรียนาดูเหมือนมีเจตนาอย่างอื่นในใจ นางมีทีท่าว่าจะไม่เข้าข้างเรา ทำไมเราไม่กลับเล่า”
“กลับเหรอ?” หยวนจี๋ประหลาดใจ ครูต่อมาเขาค่อยๆยิ้มหลังจากใคร่ครวญถึงสิ่งที่เขากำลังอธิบาย “นั่นเป็นกลยุทธที่ฉลาด ฝ่าบาท”
แอนเดรียนาแทบรับมือไม่ทันกับการถอนตัวกะทันหันของอังเดร นางรู้ว่าอังเดรกำลังวางแผน ต้องเป็นการถอยอำพรางรุกแน่ กลุ่มดาวอันโดรเมดาในตอนนี้ขาดแคลนนักสู้ระดับยอดฝีมือเนื่องจากพวกเขาถูกกำจัดไปหมด ดังนั้นมาตรการป้องกันในปัจจุบันจึงอ่อนด้อย ทั้งยังต้องสูญเสียพลังปกป้องจากกลุ่มดาวราชสีห์ไปด้วย ทันทีที่สมาพันธ์ชาวยุทธบุก ไม่มีทางที่กลุ่มดาวอันโดรเมดาจะป้องกันตัวเองได้
แอนเดรียนารู้สึกหนักใจ นางเข้าใจแผนของอังเดรเต็มที่แต่ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย
เดี๋ยวก่อน!
ทันใดนั้นแอนเดรียนาคิดถึงถังเทียนและกลุ่มสหายของเขาทันที ปัจจุบันนี้กลุ่มดาวหมาป่าและกลุ่มดาวอันโดรเมดา หนึ่งนั้นกำลังจะรุ่งเรืองและอีกหนึ่งกลุ่มดาวกำลังจะแตกกระสานซ่านเซ็น ถังเทียนและพวกจะไม่มีทางยอมให้กลุ่มดาวอันโดรเมดาตกไปอยู่ในเงื้อมมือของสมาพันธ์ชาวยุทธแน่
แต่มีอันตรายแฝงอยู่ในเบื้องหลังกลยุทธนี้ พลังความแข็งแกร่งของคนของถังเทียนยังคงด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับกลุ่มดาวราชสีห์ ถ้ามีศัตรูเพียงเล็กน้อย อย่างนั้นก็ยังพอจะควบคุมได้ แต่ถ้าพวกเขามากันเป็นจำนวนมาก ถังเทียนคงไม่ใช่คู่มือของพวกเขาแน่
จากนั้นแอนเดรียนาคิด ถ้าศัตรูมากันเป็นกลุ่ม ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการทำลายล้างกลุ่มดาวอันโดรเมดาได้เลย
เมื่อนางหาถังเทียนในที่อยู่เขาและพบกับคนของเขานางได้ทราบจากอาเฮ่อว่า ตอนนี้ถังเทียนปิดประตูฝึกฝนนางได้แต่จากมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจและหวังว่าต่อไปคงโชคดี ขณะที่นางกลับ นางพบว่าบางอย่างเป็นเรื่องที่แปลก บรรดาบุรุษทั้งสาม ถังเทียนคือหัวหน้าพวกเขา!
ในมุมมองของนาง นางรู้สึกว่าอาเฮ่อน่าจะเป็นหัวหน้า เนื่องจากพลังและความสงบใจเย็นของเขาระหว่างต่อสู้
นางรู้สึกโล่งใจเพราะในที่สุดกองทัพบิดานางก็มาถึงเมืองหลวงจนได้
การกลับมาของกองพลทหารราบทำให้ชาวเมืองส่งเสียงโห่ร้องต้อนรับ นี่สามารถช่วยยกระดับขวัญกำลังใจทหารที่ถูกทิ้งให้ปกป้องเมือง
“ไม่ถูกต้อง, ทำไมจู่ๆเราถึงได้รับการต้อนรับในที่นี้เล่า?”
“ในอดีตดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้รับการต้อนรับแต่อย่างใด”
……
เมื่อได้ฟังคำพูดของทหารของเขาทาร์ตันยังคงไม่แยแส เขามองดูซากปรักหักพังและเมืองที่สับสนวุ่นวาย ทำให้เขารู้สึกหดหู่มากขึ้นเมืองที่ต้องทนรับการโจมตีผ่านไปสองเดือน นี่มากกว่าที่คนรุ่นอื่นๆ ต้องทนรับ
ทาร์ตันควบม้าเข้าไปในเมืองผิวของเขาดำคล้ำ สายลมปะทะหน้าของเขาขณะที่ผมลู่ลมไปข้างหลังสายตาของเขาแหลมคมเหมือนมีด ลักษณะของเขามีอานุภาพคุกคาม
เมื่อเขาเห็นแอนเดรียนาผู้รอเขาอยู่ที่ประตูเมืองสายตาเยือกเย็นของเขากลับกลายเป็นอบอุ่นและเป็นมิตรทันที
“ท่านพ่อ!”
แอนเดรียนาโถมตัวเข้าไปหาทาร์ตันพร้อมกับหลั่งน้ำตาไม่หยุด ทาร์ตันใช้มือหยาบกร้านลูบหลังแอนเดรียนาพลางปลอบนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ที่แล้วก็แล้วไปเถอะ แอนเดรียนาไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อจะไม่ยอมให้ลูกต้องทนทุกข์ทรมานอย่างนี้อีกต่อไป”
แอนเดรียนายิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม
ไม่มีทหารในกองกล้าหัวเราะเยาะ พวกเขาได้ยินเรื่องการทนรับการโจมตีในเมือง ตอนนี้แอนเดรียนาไม่ใช่แค่ธิดาของทาร์ตันเท่านั้นนางยังเป็นเจ้าปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดาอีกด้วย”
หลังจากได้ระบายอารมณ์ที่อัดอั้นแล้วแอนเดรียนาหยุดร้องไห้ นางมองดูกลุ่มคนที่อยู่ต่อหน้านางนางอายเพราะร้องไห้ต่อหน้าสาธารณชน นางรีบฉุดรั้งบิดานางพาเขาไปที่ตำหนักด้านหลัง
เมื่อพวกเขามาถึงบ้านและทานอาหารค่ำร่วมกันแล้ว แอนเดรียนาพาบิดานางไปที่ห้องสมุดและอธิบายรายละเอียดเหตุเปลี่ยนแปลงในช่วงสับสนวุ่นวายนี้ให้บิดานางทราบ
ขณะที่ทาร์ตันได้ยินได้ฟังเรื่องแล้วเขากำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น แต่หลังจากได้ยินว่าธิดาของเขามีส่วนร่วมต่อการระเบิดวังเทพธิดา เขาได้แต่นิ่งเงียบ
หลังจากได้ยินเรื่องบุรุษลึกลับผู้ฆ่าฉีซานหัวใจของเขาหนาวเหน็บยิ่งขึ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่แอนเดรียนาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน พวกเขากำลังเครียด ทาร์ตันดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเท่าใดนัก
แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องอสูรพลังงานร้อยตัว ตาของเขาเป็นประกายทันที “เจ้าให้อสูรเหล่านี้กับใครไปบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่ ข้าไม่ได้ให้ใคร” แอนเดรียนารีบตอบ
ทาร์ตันกระตือรือร้น “อสูรพลังงานทั้งร้อยชุดจะให้สมบัติประจำกลุ่มดาวอันโดรเมดาแก่เราร้อยชิ้นถ้าข้าสามารถเอามาใช้ในกองทัพข้าได้ อย่างนั้นต่อให้เราพบกับนักสู้ชั้นทองเราก็ไม่ต้องกลัวพวกเขา”
“จริงหรือ?” แอนเดรียนาประหลาดใจและดีใจพร้อมกัน นักสู้ระดับทองจากสมาพันธ์ชาวยุทธ ต้องการจะทำลายกลุ่มดาวอันโดรเมดาทั้งหมด
“ใช่แล้ว” ทาร์ตันพยักหน้าจริงจัง “ถ้านั่นเป็นแค่สมบัติธรรมดาก็คงไม่มีผลอะไรมาก แต่สมบัติที่สร้างขึ้นมาด้วยอสูรพลังงานเหมาะสำหรับเป็นเครื่องมือกองทัพ แม้ว่ากองทัพจะมีอาวุธสมบัติอยู่บ้าง ถึงจะเป็นสมบัติชั้นดีแต่ก็ยังไม่แข็งแกร่งมากเท่ากับสมบัติที่สร้างขึ้นจากอสูรพลังงาน แม้ด้วยสมบัติปัจจุบันที่เรามีอยู่นี้ก็ทำให้กองพลทหารราบของเราแข็งแกร่งที่สุดในสิบเก้ากลุ่มดาวฟากฟ้าเหนือ และด้วยสมบัติที่เกิดขึ้นจากอสูรพลังงานพลังของพวกเราจะเพิ่มขึ้นอีกเป็นร้อยเท่า”
แอนเดรียนาตื่นเต้นกับเรื่องนั้น “พวกเขายังคงมีอสูรพลังงานอีกมาก แต่พวกเขายอมขายให้เพียงร้อยตัว”
ทาร์ตันมีประสบการณ์มากกว่าแอนเดรียนา เขาพยักหน้า“ดูเหมือนว่าเราจะคิดเหมือนกัน เราไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องการจะขายหรือว่ามีแผนใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับกองทัพพวกเขา ถ้าพวกเขาต้องการขาย อย่างนั้นเรายินดีรับซื้อไว้ทั้งหมด เราจะต้องไปเจรจากับพวกเขา”
“อย่างนั้นเราสามารถทำอย่างอื่นได้อีกไหม” แอนเดรียนาถาม
“เราคงต้องรีบปรับแต่งอสูรเหล่านี้ให้เป็นสมบัติประจำกองทัพของเรา” ทาร์ตันตอบ “เราต้องการพวกมันเอาไว้ปกป้องตัวเราเอง”
“อย่างนั้นข้าจะไปด้วย!” แอนเดรียนายืนขึ้นและวิ่งไปที่ลานด้านหลัง
ทาร์ตันติดตามไปอย่างกระชั้นชิด
เขาพากลุ่มทหารบุกเข้าไปในป่า
“ท่านขอรับ, เรากำลังจะไปไหน?” ผู้กองเซียวซือหวินถาม เขาคือมือขวาผู้ภักดีของทาร์ตัน ซือหวินดีใจที่พวกเขาได้ช่วยปราบกบฏที่เตรียมก่อการ
“เราจะไปเยี่ยมชมกองทัพหมาป่า” ทาร์ตันตอบ
เซียวซือหวินตกใจกองทัพหมาป่าถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล ส่วนใหญ่มีความเห็นพ้องกันว่ากองทัพหมาป่ามีศักยภาพเหนือกว่ากองกำลังในฟากฟ้าเหนือ
“ดีจริงที่ได้ยินเช่นนั้น!” เซียวซือหวินตอบ “เราทุกคนเดือดดาลกันทั้งนั้น เราจะไม่ยอมให้พวกเขาดูหมิ่นดูแคลนพวกเรา! ใครก็ตามที่กล้าหาเรื่องเรา ข้าจะต้องลงโทษพวกมันด้วยตัวเอง”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ทหารทุกคนตื่นตัวกันทันที ขวัญกำลังใจของทุกคนเพิ่มขึ้นมาก
มีนักสู้เป็นจำนวนมากไม่เชื่อมั่นว่ากองทัพหมาป่าจะมีดีพอสมกับชื่อเสียงที่เยินยอกัน ในสายตาพวกเขา เด็กใหม่ผู้รวมตัวกันเป็นกองกำลัง ไม่คู่ควรเรียกว่ากองทัพเลย ในกองพลทหารราบ ทหารแต่ละคนรับราชการทหารมาอย่างน้อยคนละห้าปี ไม่มีใครที่สรรเสริญทหารกองทัพของกลุ่มดาวหมาป่าเลย
นอกจากนี้ กลุ่มดาวหมาป่ายากจนและกันดารเป็นสถานที่รกร้างไม่มีประโยชน์กับใครๆ
พวกเขาเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเซียวซือหวินกระซิบบอกทาร์ตัน “แว่วเสียงนกหวีดอยู่แถวนี้”
ทาร์ตันพยักหน้า เขาไม่ประหลาดใจ ถ้าไม่มีเสียงนกหวีดเตือนกองทัพดาวหมาป่าว่ากองทัพของเขากำลังมา อย่างนั้นเขาคงเห็นว่ากองทัพหมาป่าไม่ได้เตรียมพร้อมสู้ศึกเลย เขาหันไปทางเซียวซือหวิน “ตอบรับเสียงนกหวีดพวกเขา เราไม่ต้องการให้มีความเข้าใจผิด
เซียวซือหวินตะโกนไปทางเสียงนกหวีด “แม่ทัพกองพลทหารราบทาร์ตันขอเข้าพบแม่ทัพกองทัพหมาป่าโปรดเรียนความจริงใจของเราให้เขาทราบด้วย”
คนสอดแนมจากกองทัพหมาป่ากระโดดออกมาจากพุ่มไม้หนา “เชิญมากับข้า ท่านแม่ทัพก็คงเป็นท่านสินะ”
เขาวิ่งไปข้างหน้านำทางให้ทาร์ตัน
พวกเขาติดตามอย่างกระชั้นในไม่ช้าก็ไปถึงค่ายทหารกองทัพหมาป่า
ทาร์ตันและเซียวซือหวินต่างมองหน้ากัน แม้ว่าค่ายจะดูเหมือนไม่ได้เตรียมตัว ราวกับเพิ่งตั้งค่ายเมื่อวันก่อน แต่กองทหารมีระเบียบวินัยที่เข้มงวดสามารถเห็นได้ชัด
ทหารเกือบทั้งหมดกำลังฝึกซ้อมเสียงตะโกนร้องในสนามศึกดังแว่วมาในอากาศ พวกเขามองไปรอบๆ ทหารที่กำลังฝึกฝนรอบตัวเขา
ความเข้มแข็งของกองทัพเหล่านี้อยู่ในระดับทั่วไป คุณสมบัติเพียงเท่านี้ไม่เพียงพอเข้ากองพลทหารราบของเขาเป็นแน่
กองพลทหารราบมีสีหน้าถือตัวทันที
แต่ในทันทีนั้นทาร์ตันหันไปมองทางเสียงตะโกนที่ดังมาจากด้านหลังทันที