ตอนที่ 12-7 ศาสนาใหม่
ความจริงขณะที่เขามองดูวอร์ตัน เกทส์และซาสเลอร์ ลินลี่ย์รู้สึกได้ถึงความกังวลบางส่วนของเขา
ที่สำคัญก่อนที่เขาจะขังตัวฝึกฝนเขาพูดไว้ว่าเว้นแต่มีเรื่องสำคัญมากเกิดขึ้น ไม่ต้องรบกวนเขา และแม้แต่วอร์ตันและคนอื่นๆก็ยังมาขอความช่วยเหลือจากเขา เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์รุนแรงมาก
“เป็นไปได้ไหมว่าอันตรายซ่อนเร้นในสงครามประจำทวีปเริ่มเผยตัวออกมา?” ลินลี่ย์ค่อนข้างกังวล เขายังจำคำเตือนของลอร์ดเบรุตได้
วอร์ตัน เกทส์และซาสเลอร์มองหน้ากันเอง หลังจากเงียบไปชั่วครู่ซาสเลอร์มองลินลี่ย์จากนั้นพูด “ลอร์ดลินลี่ย์! ท่านขังตัวฝึกฝนมานานห้าปีแล้วในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่ามา มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงคราม เราไม่สามารถอธิบายเรื่องราวทั้งหมดรวดเดียวได้ กลับไปที่ห้องกันเถอะ เราจะค่อยๆ ปรึกษาเรื่องราวทั้งหมด”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ขณะที่เดินออกมาจากห้องใต้ดิน วอร์ตันถามขึ้นทันที “พี่ใหญ่ท่านถึงระดับเทพหรือยัง?”
เกทส์และซาสเลอร์หันมามองดูลินลี่ย์ทั้งคู่เช่นกัน
ที่สำคัญลินลี่ย์ได้รับการคาดหมายแต่แรกว่าเขาจะต้องใช้เวลาราวๆสิบปีจึงจะกลายเป็นเทพได้ นี่เกือบเป็นเวลาหกปีแล้ว
“ยังขาดอีกเพียงเล็กน้อย” ลินลี่ย์ส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ “ถ้าพวกเจ้าไม่รบกวนการฝึกของข้า บางทีอาจใช้เวลาครึ่งปีข้าก็จะเข้าถึงระดับนั้น” ลินลี่ย์มีความต้องการจะกลายเป็นเทพอย่างแรงกล้า การฝึกฝนในระดับปัจจุบันของเขาเกี่ยวกับสัจธรรมแห่งความเร็ว ลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ชัดเจนว่า..ระดับเทพอยู่ใกล้มากจนเขารู้สึกได้
เขาเพียงแต่ต้องการฝึกอีกเล็กน้อยก็สามารถบรรลุได้ สัจธรรมแห่งความเร็วต้องผสานด้านทั้งสองคือด้านเร็วและด้านช้าเข้าด้วยกัน ถ้าคนผู้หนึ่งถึงขีดจำกัดในด้านใดด้านหนึ่งของทั้งสองด้านเขาจะกลายเป็นเทพชั้นต้นได้ แต่เมื่อเชี่ยวชาญสัจธรรมแห่งความเร็วอย่างแท้จริงลินลี่ย์จะกลายเป็นเทพระดับกลาง
ในการฝึกสัจธรรมแห่งความเร็วอาการคอขวดจะปรากฏเพียงครั้งเดียวเมื่อถึงระดับเทพ
แต่จะไม่มีอาการคอขวดแม่แต่น้อยในที่ระดับเทพชั้นต้น
ตัวอย่างเช่น เฟน เดลี่โรซารี่และถูลี่ทุกคนติดอยู่ในสภาพคอขวดในขั้นสุดท้าย เพราะความลึกลับของกฎธาตุที่พวกเขากำลังฝึกฝนมีความลึกลับอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในจักรวาลและพิภพอนันต์ เซียนส่วนใหญ่ทั้งหมดฝึกฝนในส่วนสัจธรรมที่มีความลี้ลับค่อนข้างต่ำ
ที่สำคัญคือลินลี่ย์เพียงแต่ฝึกสัจธรรมแห่งความเร็วในบางส่วนได้ เพราะค่อนข้างจะโชคดี
แม้ว่าภายในครึ่งปีเขาจะกลายเป็นเทพก็ตามแต่เป็นธรรมดาที่ลินลี่ย์จะต้องออกจากการฝึกฝนเมื่อวอร์ตันขอให้เขาออกมา ที่สำคัญเมื่อถูกบังคับว่าต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับการฝึกฝน ในที่สุดครอบครัวก็ยังสำคัญมากกว่า ถ้าครอบครัวและสหายของเขาต้องพบกับความยากลำบากลินลี่ย์จะทำเป็นเมินแล้วเอาแต่ฝึกฝนให้เป็นเทพได้ยังไง?
ภายในห้องประชุมใหญ่ปราสาทเลือดมังกร
ที่นี่มีคนหลายคนประชุมรวมกันอยู่ ลินลี่ย์นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานอย่างเงียบงันฟังวอร์ตันอธิบายเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงห้าปีที่ผ่านมา
“มีเซียนระดับสูงปรากฏตัวขึ้นหลายคน?” ขณะที่ลินลี่ย์ฟังวอร์ตันอธิบายถึงการสู้รบและลักษณะที่ยอดฝีมือผู้น่ากลัวนี้ปรากฏออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เขาอดเริ่มกังวลใจไม่ได้ “เท่าที่วอร์ตันและคนอื่นๆ บอกคนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีพลังสูงกว่าสุดยอดเซียนนักรบและแม้จะเทียบกับเซียนอย่างเดลี่และถูลี่ก็ตาม”
ลินลี่ย์สามารถตัดสินสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง
ต้องเข้าใจไว้ก่อนว่าเมื่อพูดตามธรรมดาสุดยอดนักรบระดับเซียนน่าจะนับได้ว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งทรงพลังที่สุดในแผ่นดินแล้ว ประการที่สองสำหรับเซียนสุดยอด สุดยอดนักรบระดับเซียนมองได้ว่าน่าจะพอๆกับไฮเดนส์ โอเซนโนและคนอื่นๆ เท่านั้น
“มีความเร็วเทียบกับกิ้งก่าสายฟ้าแต่สามารถเอาชนะได้ในกระบวนท่าเดียว” แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกทึ่งกับพลังของสองเซียนผู้ปรากฏตัวในจักรวรรดิโรฮอลท์
“ยอดฝีมือหลายคนระดับเดียวกับเดลี่และลูเธอร์ฟอร์ดปรากฏตัวออกมาหมดนี่...” ลินลี่ย์ค่อนข้างงง
ในอดีตห้าปีที่ผ่านมา เซียนลึกลับหลายคนปรากฏตัวขึ้นและทั้งหมดนั้นแข็งแกร่งกันมาก
ดูเหมือนว่าพวกเขาทั้งหมดจะมีพลังระดับเซียนสุดยอด
“นี่ก็ไม่ถูกต้อง” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว “ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในอดีต ถ้าพวกเขามีอยู่ พวกเขาคงหลบไม่พ้นการสังเกตเห็นของเทพสงครามแน่” ลินลี่ย์แน่ใจในจุดนี้ แต่เนื่องจากพวกเขาไม่เคยปรากฏมาก่อนในอดีต อย่างนั้น...
เห็นได้ชัดว่ายอดฝีมือเหล่านี้น่าจะเพิ่งมาถึงทวีปยูลานในช่วงราวๆห้าปีที่ผ่านมา
“ยอดฝีมือจากพิภพอื่น?” ลินลี่ย์ตกใจกับข้อสันนิษฐานของตัวเอง
“เดี๋ยวก่อน,ไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น” ลินลี่ย์ปฏิเสธทฤษฎีของเขาเองทันที “แล้วจะเป็นยังไงถ้าพวกเขามาจากพิภพอื่น? เป็นไปได้ไหมว่ายอดฝีมือทุกคนในดินแดนอื่นมีพลังเทียบเท่าสุดยอดเซียน?”
สำหรับพิภพอื่นในจักรวาล ทวีปยูลานก็ถือว่าเป็นต่างดินแดน
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ยอดฝีมือเหล่านี้จากพิภพอื่นจะเป็นผู้แข็งแกร่ง แต่พวกเขา..ไม่น่าจะแข็งแกร่งกันมากมายทุกคน!
“พี่ใหญ่!นอกจากนี้ในช่วงเวลานี้มีศาสนาใหม่ลึกลับเกิดขึ้นเผยแพร่อยู่ในจักรวรรดิบาลุค พวกเขานับถือเทพเจ้าที่รู้จักกันในนามว่าเทพมูบา” วอร์ตันกล่าวอย่างไม่พอใจ “พี่ใหญ่! นานมาแล้วท่านกล่าวว่าจะไม่มีศาสนาใดๆได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในดินแดนจักรวรรดิของเรา เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อกำจัดศาสนาเหล่านี้ แต่เราไม่สามารถทำได้” วอร์ตันส่ายศีรษะ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
ศาสนาลึกลับ?
ใครเล่าที่ต้องการพลังศรัทธา? คำตอบอย่างไม่ต้องสงสัยก็คือ...
เทพ!
“ว่าต่อไป” ลินลี่ย์มองดูวอร์ตันทันที “ทำไมเจ้าถึงไม่สามารถกำจัดศาสนานี้ได้?”
วอร์ตันพยักหน้าและพูดต่อ “ก่อนอื่นเลย ศาสนจักรนี้มียอดฝีมือซ่อนไว้ นอกจากนี้.. ศาสนานี้ยังมีฝีมืออยู่บ้าง มีการสร้างปาฏิหาริย์! เพราะการปรากฏขึ้นของปาฏิหาริย์เหล่านี้ ภายในอาณาเขตของจักรวรรดิบาลุคเรา จึงมีคนมากมายเริ่มเชื่อและเทิดทูนเทพเจ้ามูบานี้”
“ปาฏิหาริย์?”
ลินลี่ย์หน้าซีดขาวทันที
“เป็นอะไรหรือ, พี่ใหญ่?” วอร์ตัน เกทส์ อังเก้และคนอื่นๆ มองดูลินลี่ย์ด้วยความสับสน
เพราะลินลี่ย์เองแทบจะมาถึงจุดกลายเป็นระดับเทพแล้วบ่อยครั้งเมื่อพูดถึงยอดฝีมือระดับเทพกับเดลี่และเซียนคนอื่นเขาจึงรู้ดีว่าพลังของศรัทธาเป็นประโยชน์ต่อพวกเทพมาก นั่นคือเหตุผลเหมือนกับที่เทพสงครามในจักรวรรดิโอเบรียนอนุญาตให้พลเมืองของเขาเทิดทูนบูชาเทพสงครามเท่านั้น
ศาสนาอื่นถูกห้ามอย่างเคร่งครัด
สำหรับปาฏิหาริย์ทั้งหลาย....
หลายๆเหตุการณ์สามารถสร้างขึ้นได้บนพื้นฐานของกฎธรรมชาติที่ลึกซึ้งลึกลับซึ่งมีแต่เทพที่เข้าใจ
“ศาสนาไร้ชื่อที่มีความสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ อย่างนั้น...” หัวใจของลินลี่ย์สั่นสะท้าน “เบื้องหลังศาสนาที่อยู่ในจักรวรรดิบาลุคจะต้องมียอดฝีมือระดับเทพอยู่ด้วยแน่นอน!”
“วอร์ตัน,ซีน่า” ลินลี่ย์สั่งทันที “ฟังให้ดี เป็นเรื่องดีแล้วที่พวกเจ้ายังคงปราบปรามการเผยแพร่ศาสนานี้ แต่เจ้าต้องจำไว้ให้ดี เจ้าไม่อาจเพิ่มกำลังและความรุนแรงเพื่อปราบปรามพวกเขาอย่างเด็ดขาด ไม่ว่ายังไงก็ตามอย่าไปบังคับให้ศาสนาสู้กับจักรวรรดิของเราโดยตรง อย่างน้อย..ตอนนี้ อย่าเพิ่งทำเช่นนั้น”
คนในห้องประชุมยังไม่เข้าใจ
ที่สำคัญ นอกจากลินลี่ย์แล้วเกทส์กับวอร์ตันเป็นระดับเซียนมานานเท่าใดแล้ว? แม้แต่ซาสเลอร์ แม้จะมีประสบการณ์ ก็เป็นเพียงประสบการณ์ทางโลกพอๆกับประสบการณ์ในการใช้เวทพ่อมด ความเข้าใจเรื่องของเทพของเขายังด้อยกว่าลินลี่ย์ห่างไกล
“พวกเจ้าทุกคน จำสิ่งที่ข้าพูดเอาไว้” ลินลี่ย์พูดอย่างจริงจัง
“เข้าใจแล้ว” วอร์ตัน ซีน่าและคนอื่นๆ ตอบรับยืนยันพร้อมกัน พวกเขาจะไม่ขัดขืนคำสั่งของลินลี่ย์แน่นอน
เพียงเท่านี้ลินลี่ย์ก็ระบายลมหายใจโล่งอก คู่ต่อสู้เป็นยอดฝีมือระดับเทพ นี่ไม่มีข้อสงสัยเลย!
ที่สำคัญคือ จนกว่าจะเข้าถึงระดับเทพพลังของศรัทธาจะไม่มีประโยชน์เลย
พอตั้งแต่ฝ่ายตรงข้ามเป็นนักสู้ระดับเทพ ลินลี่ย์ไม่ต้องการจะรุกรานเขาเป็นธรรมดา
แม้ว่าหลังจากลินลี่ย์เองจะกลายเป็นเทพ เขาก็ไม่ต้องการจะกลายเป็นศัตรูกับคู่ต่อสู้ ที่สำคัญลินลี่ย์จะเป็นแค่เพียงเทพชั้นต้นมาใหม่ๆส่วนคู่ต่อสู้ถึงระดับเทพมานานเท่าใดแล้ว? ไม่มีทางที่ลินลี่ย์จะรู้ได้
“พี่ใหญ่, เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวแปลกประหลาดแพร่กระจายอยู่ในจักรวรรดิบาลุคเรา ในเมืองบลูเลียน...” วอร์ตันเริ่มพูดคุยเหตุการณ์ตายยกเมือง ขณะที่อธิบายถึงลักษณะการตายที่แปลกประหลาดของคนในเมือง
เมื่อได้ยินเรื่องราวนี้ ลินลี่ย์ประหลาดใจเช่นกัน ขณะเดียวกันเขายิ่งมีความสงสัยมากขึ้น
คนทั้งเมืองตายภายในคืนเดียว
นี่เป็นเรื่องร้ายแรงยิ่งกว่าการสังหารหมู่ในสนามรบ ที่สำคัญมันแปลกประหลาดเกินไป
ทั่วทั้งห้องประชุม ทุกคนรู้สึกจนใจที่สำคัญพวกเขาไม่ได้ร่องรอยอะไรสักนิด นอกจากนี้ในตอนนี้ยังมียอดฝีมือลึกลับอยู่ในทวีปยูลานมากมายหลายคน แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่มั่นใจว่าเขาจะค้นพบตัวการร้ายได้ยังไง
“เจ้าเพิ่งบอกว่าปัญหาเดียวกันนี้เกิดขึ้นในจักรวรรดิโอเบรียนด้วยใช่ไหม?” ลินลี่ย์ถามทันที
“ถูกแล้ว เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนมาแล้ว” วอร์ตันตอบ
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย “งั้นเอาอย่างนี้เป็นไง พวกเจ้ารออยู่ที่ปราสาท ข้าจะไปเยือนภูเขาเทพสงครามในจักรวรรดิโอเบรียน” ที่สำคัญเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นในจักรวรรดิของเขาเอง แต่ก็ยังเกิดขึ้นในจักรวรรดิโอเบรียนเมื่อเดือนกว่ามาแล้ว
นอกจากนี้ภูเขาเทพสงครามยังมีเซียนที่ทรงพลังมากกว่าฝ่ายเขา
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนเต็มวิทยาลัยเทพสงครามอาจจะพบร่องรอยบางอย่างก็ได้
“พี่ใหญ่ ท่านจะไม่อยู่ร่วมโต๊ะอาหารกับเราก่อนหรือ?” วอร์ตันค่อนข้างประหลาดใจ ลินลี่ย์เพิ่งออกมาจากการฝึก แต่ก่อนที่จะทานอาหารร่วมกับครอบครัว เขากำลังจะไปภูเขาเทพสงคราม นี่ค่อนข้างจะรีบร้อนไปหน่อยไม่ใช่หรือ?
“ไม่จำเป็น” ลินลี่ย์ตั้งใจไว้แล้ว
หลังจากคลี่คลายปัญหานี้แล้วเขาจะกลับเข้าไปขังตัวฝึกฝน ที่สำคัญลินลี่ย์ใกล้จะบรรลุเป็นระดับเทพเต็มที
ในช่วงนี้เป็นเวลาพลบค่ำประกายเลือนรางวาบผ่านเหนือปราสาทเลือดมังกรหายลับไปทางขอบฟ้าตะวันตก
“ลอร์ดเบรุตพูดถูก ทวีปยูลานตกอยู่ในอันตรายมากมายจริงๆ” ลินลี่ย์รู้สึกถึงเค้าลางได้ ลัทธิลึกลับเป็นตัวแทนของยอดฝีมือระดับเทพ ลินลี่ย์จะไม่กังวลได้ยังไงเมื่อความจริงที่ว่ามีเทพคนใหม่ปรากฏอยู่ในพิภพแห่งนี้?
แสดงว่าตัวการหลักที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์แปลกประหลาดเหล่านี้อาจเป็นเทพก็ได้
ถ้าเขาไม่สามารถถึงระดับเทพด้วยตนเองบางทีเขาคงไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้เลย
“หลังจากคลี่คลายเรื่องนี้แล้ว ข้าจำเป็นต้องต้องยึดทุกช่วงเวลาที่สำคัญทันทีและเข้าถึงระดับเทพให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้” ตราบใดที่ลินลี่ย์คิดถึงเรื่องเหตุการณ์ ‘เมืองมรณะ’ เขารู้สึกยิ่งกังวลมากขึ้น เขารู้สึกว่า.. เหตุการณ์ ‘เมืองมรณะ’ ที่แปลกประหลาด จะต้องมีเบื้องหลังที่น่ากลัวซ่อนอยู่แน่
สายลมหวีดหวิวพัดผ่านขณะที่เขาบิน
“ดูเหมือนว่าทวีปยูลานกำลังจะเผชิญกับพายุและหายนะอย่างไม่เคยมีมาก่อน” ลินลี่ย์พุ่งไปข้างหน้าผ่านท้องฟ้าไปเหมือนกับรังสีแสง
ภูเขาเทพสงคราม
การมาถึงของลินลี่ย์ทำให้เฟนที่อยู่ในภูเขาเทพสงครามต้องออกมารับเขาด้วยตัวเอง ทั้งพาเข้าไปในห้องส่วนบุคคลในภูเขาเทพสงครามเพื่อพูดคุย เฟนฝึกฝนอย่างพิถีพิถันมาห้าปีแต่ก็ยังไม่บรรลุระดับใหม่
“ลินลี่ย์เจ้ามาที่นี่ในเวลานี้ เป็นเพราะเหตุการณ์ ‘เมืองมรณะ’ ใช่ไหม?” เฟนตั้งหัวข้อสนทนาก่อน
“ใช่แล้ว, เฟนท่านได้ร่องรอยอะไรบ้าง?” ลินลี่ย์ถามทันที
เฟนอดฝืนยิ้มขมขื่นไม่ได้ เนื่องจากหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาก็กังวลเหตุการณ์ ‘เมืองมรณะ’ ในจักรวรรดิโอเบรียนเช่นกัน หลังจากเหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นในจักรวรรดิบาลุค เขารู้ได้อย่างรวดเร็วทันทีเนื่องจากเขาก็ให้ความสนใจปัญหานี้เป็นพิเศษ
“ข้ามีอยู่ร่องรอยเดียว” เฟนพูดพลางถอนหายใจ “ยอดฝีมือลึกลับผู้นี้เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงฆ่าคนหมดเมืองในคืนเดียวโดยฆ่าทีละคน”
“โอว?” ลินลี่ย์ตกใจ “ทีละคนหรือ?”
พวกเซียนสามารถฆ่าคนเป็นแสนได้อย่างรวดเร็ว ถ้าพวกเขาเพิ่มระดับถึงขีดจำกัดก็มีแนวโน้มว่าทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งพวกเขาผ่านไปอาจตายได้ในทันที สำหรับพวกเซียนหลายร้อยเมตรในหนึ่งวินาทีสามารถคนเป็นสิบได้อย่างง่ายดาย
ฆ่าคนเป็นแสน แค่ชั่วโมงหรือสองชั่วโมงก็พอ
ถ้าเป็นเซียนระดับลินลี่ย์ทำเช่นนั้น เขาอาจจะทำได้ไวกว่า
“ทำไมเขาทำอย่างนั้น?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
พวกเซียนมีพลังแบบนี้ แต่นักสู้ระดับเซียนมีเป้าหมายอะไรถึงได้ฆ่าคนธรรมดาไปมากมาย? นอกจากนี้ ไม่เพียงไร้ประโยชน์ แต่เมื่อถูกพบจะส่งผลให้เกิดความเกลียดชังจากเซียนอื่นๆ ให้ร่วมกันลงมือต่อตัวการร้ายได้!
“ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” เฟนส่ายศีรษะ “บางทีเราได้ร่องรอยนี้เพราะความโชคดี เมื่อน้องแปดของข้ากำลังจะบินอยู่ เขาเผชิญหน้ากับมือสังหารผู้ลึกลับในชุดยาวสีเงิน เขาโกรธและโจมตีทันที .. แต่โชคไม่ดีที่ยอดฝีมือชุดเงินไม่โต้ตอบ เขาหนีไปทันที ยอดฝีมือชุดเงินรวดเร็วมากและแม้แต่น้องแปดของข้าก็ตามความเร็วของเขาไม่ทัน แต่เพราะเหตุนั้นบุรุษชุดเงินได้ฆ่าคนไปเป็นพันแล้ว และผู้เคราะห์ร้ายเป็นพันนั้นตายในลักษณะเดียวกันกับผู้ที่เสียชีวิตใน ‘เมืองมรณะ’”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ศิษย์ส่วนตัวคนที่แปด สำหรับเขาถือว่ามีระดับที่สูงมาก เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นยอดฝีมือที่ฝึกอยู่ในวิทยาลัยเทพสงครามมาหลายพันปี
“หืม?”
ลินลี่ย์และเฟนหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือทันที คลื่นพลังงานที่น่ากลัวแผ่ขยายออกมาไกลจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ว่าคลื่นพลังงานที่ทรงพลังจะอยู่ห่างไกลเป็นหมื่นกิโลเมตร แทบจะตรวจพบไม่ได้ในขณะนี้ แต่จะหลบพ้นการตรวจของลินลี่ย์กับเฟนได้ยังไง?
พวกเขาสามารถรู้สึกได้ถึงการสู้รบของเซียนจากที่ห่างไกลไปหมื่นกิโลเมตร
พวกเขาจะพลาดสังเกตถึงคลื่นพลังที่น่ากลัวทรงพลังอย่างนี้ไปได้ยังไง? สำหรับพวกเขาคลื่นพลังที่น่ากลัวเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ปรากฏในยามราตรี
“เกิดอะไรขึ้น?” เฟนพูดอย่างตกใจ
แต่ขณะที่เขาพูด สีหน้าของเขาและลินลี่ย์ชะงักค้าง
“เซียนทั้งหมดและเทพผู้เกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่ากันในสิบแปดแคว้นแดนเหนือหรือมีการรบกวนความสงบของไพรทมิฬ จะต้องถูกฆ่าทันทีโดยไม่ลังเล!”เสียงแหบแห้งดังขึ้นในใจของเซียนและเทพทุกคนในทวีปยูลาน
ยอดฝีมือทั้งหมดพูดไม่ออกเพราะความตกใจ