ตอนที่ 12-21 ไหมวิญญาณ
“พี่ใหญ่เยล, เจ้า..?”
หน้าของเยลสงบและสายตาที่เย็นชาของเขาบาดใจลินลี่ย์เหมือนกับมีดคม เป็นเวลาหลายปีมากแล้ว พี่น้องสี่สหายแห่งหอพัก1987 มีความสนิทสนนคุ้นเคยกันมาก แม้ว่าพวกเขาจะมีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างเมื่อยามเยาว์วัย แต่ไม่มีใครทำอันตรายมิตรภาพของพวกเขา
ลินลี่ย์ไม่เคยคาดคิดว่าเยลจะมองเขาด้วยสายตาอย่างนั้น
เหมือนกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้า ราวกับว่าเขากำลังมอง... คนตาย!
“หือ?” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
ในที่สุดเขาก็พบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา หลังจากดื่มเหล้าแก้วนั้นลงท้องแล้ว เขาตระหนักได้ทันทีว่าแก้วเหล้าผสมสิ่งที่แปลกประหลาดจริงๆเส้นไหมสีเทาเลือนราง เส้นไหมหลายเส้นแล่นเข้าสู่สมองของลินลี่ย์อย่างรวดเร็วและพวกมันเข้าสู่จิตสำนึกของเขาอย่างรวดเร็ว
เส้นไหมเทาเลือนรางหลายเส้นรายล้อมทั่วทะเลจิตสำนึกของเขาและจากนั้น... เริ่มซึมผ่าน!
“อือออ...”
ลินลี่ย์รู้สึกว่าศีรษะของเขามึนงงมากขึ้น เขาซวนเซอย่างช่วยไม่ได้และทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ด้านหลังของเขา หลังจากกระแทกเก้าอี้ เขาล้มลงกับพื้น แต่ตอนนี้เขาไม่ได้สังเกตรับรู้อะไรทั้งนั้น ความสนใจของเขามุ่งเน้นอยู่ที่ทะเลจิตสำนึกของเขาสิ้นเชิง
“ลอร์ดลินลี่ย์” หญิงรับใช้ที่อยู่ใกล้กรีดร้องแตกตื่นทันที
ตัวลินลี่ย์สำหรับหญิงรับใช้และองครักษ์ของปราสาทเลือดมังกรเป็นเหมือนกับเทพเจ้า หญิงรับใช้ผู้นี้ไม่เคยคาดคิดว่าลินลี่ย์ผู้แกร่งไร้เทียมทานจะหมดสติฉับพลันเหมือนกับว่าเขากลายเป็นคนธรรมดา แต่เมื่อหญิงรับใช้กรีดร้องอย่างตื่นตระหนกกลับดึงดูดความสนใจของคนภายนอกทันที
คนแรกที่ให้ความสนใจคือซาสเลอร์
ซาสเลอร์พรวดพราดเข้ามาในสวนดอกไม้หลังปราสาท เมื่อเห็นฉากภาพต่อหน้าเขา หน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที “ลอร์ดลินลี่ย์” ซาสเลอร์วิ่งเข้าไปหาลินลี่ย์ แต่ตอนนี้ไม่มีใครสามารถช่วยลินลี่ย์ได้ ซาสเลอร์หันหน้าไปจ้องมองเยลทันที
“เป็นเจ้า!” ตาของซาสเลอร์ฉายแสงรัศมีแช่แข็ง
เยลยังคงอยู่ในความเงียบไม่พูดอะไรสักคำ
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่” วอร์ตันและกลุ่มคนอื่นวิ่งเข้ามาหาด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นลินลี่ย์ล้มอยู่กับพื้นพวกเขาตกใจหวาดผวา
พวกเขาคงไม่กลัว ถ้าลินลี่ย์ถูกแทงหรือถูกฟัน แต่สำหรับลินลี่ย์ที่ทรุดตัวลงไปกับพื้นอย่างไม่มีเหตุผลแม้แต่น้อย...พวกเขาจะไม่กลัวและกังวลได้ยังไง?
ภายในสำนึกของลินลี่ย์
เส้นสีเทาบางหลายตัวในที่สุดก็ทะลวงผ่านชั้นสีฟ้าเลือนรางของแสงที่ล้อมรอบสัมปชัญญะของเขา สายเส้นเทาเลือนรางหลายเส้นเจาะเข้าไปในทะเลจิตสำนึก และเริ่มขดพันรอบวิญญาณรูปกระบี่ของลินลี่ย์ทันที
วิญญาณรูปกระบี่ตอนนี้กำลังโฉบฉวัดเฉวียนในส่วนลึกที่สุดของทะเลจิตสำนึกของเขา
“แย่แล้ว” ลินลี่ย์ไม่ยอมให้เส้นไหมเหล่านั้นโจมตีวิญญาณเขา เขาพยายามควบคุมพลังจิตของเขาป้องกันเอาไว้
ทะเลจิตสำนึกในสมองของเขาเริ่มปั่นป่วนทันทีและพลังจิตมหาศาลเริ่มเหวี่ยงเส้นไหมสีเทาบางนั้นทันที หลังกลายเป็นเซียนจอมเวทแล้ว พลังจิตของลินลี่ย์ได้รับการขัดเกลามากขึ้นและควบคุมได้ง่ายขึ้นอย่างไรก็ตามเส้นไหมเทาบางนั้นผลักดันผ่านพลังจิตหนาแน่นของเขาเข้ามาใกล้วิญญาณร่างกระบี่ด้วยความเร็วสูง
แต่ในกระบวนการทำเช่นนั้น เส้นไหมเทาก็ลดพลังลงไปมาก
มันสูญเสียพลังไปถึงหนึ่งในสาม แต่ยังคงมีเส้นไหมเทาเลือนรางเข้าไปห่อพันรอบวิญญาณของลินลี่ย์ มีเส้นไหมเทามากมายเหล่านั้นพันรอบวิญญาณรูปกระบี่ของเขาลินลี่ย์ วิญญาณของลินลี่ย์เป็นเหมือนเต่าที่ติดอยู่ในไห เส้นไหมสีเทาเหล่านั้นพยายามเจาะลึกลงไป
วิญญาณเป็นส่วนสำคัญมาก เมื่อมันถูกเจาะเข้าไปได้ คนผู้นั้นมีแนวโน้มว่าจะต้องตาย ลินลี่ย์เข้าใจเรื่องนี้ดี
“ครืนนน...”วิญญาณรูปกระบี่เปล่งแสงสีน้ำเงินสว่างวาบราวกับดวงอาทิตย์ทันที เส้นไหมเทาบางเหล่านั้นคลายตัวทันทีและละลายไปเหมือนกับหิมะ ภายในทะเลจิตสำนึกของเขาไม่มีเส้นไหมเทาเหลืออยู่แม้แต่เส้นเดียว
ตอนนี้ลินลี่ย์ลอบระบายลมหายใจโล่งอก
เขาลืมตา
“เจ้าทำอะไรลงไป?” ทันทีที่ลินลี่ย์ลืมตา เขาอดคำรามด้วยความโกรธไม่ได้
เยลขดตัวกองอยู่ด้านหนึ่ง ร่างของเยลเต็มไปด้วยเลือด แต่เยลยังเคลื่อนไหวได้ เขายังไม่ตาย วอร์ตัน เกทส์และคนอื่นๆ โดยเฉพาะเทย์เลอร์ลูกชายเขาเตะใส่เยล
“ปัง” เยลกระอักโลหิตเต็มปากทันที
“พี่ใหญ่!, ลอร์ดลินลี่ย์” วอร์ตัน ซาสเลอร์และคนอื่นได้ยินเสียงแค่นด้วยความโกรธของลินลี่ย์จึงหันไปมองอย่างประหลาดใจระคนดีใจ
“ท่านพ่อ!” เทย์เลอร์หันมาเช่นกัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขาตอนนี้ตกใจและดีใจ
ทุกคนนอกจากพ่อบ้านแอชลี่ย์ที่ดูแลลูกของเทย์เลอร์รวมตัวกันหมด คนนับสิบจากปราสาทเลือดมังกรชุมนุมกันอยู่ที่นี่ ทุกคนจ้องมองเยลด้วยสายตาที่เกลียดชัง อย่างไรก็ตามตอนนี้ลินลี่ย์ฟื้นแล้วพวกเขาดีใจและสงบอารมณ์ได้
“ท่านพ่อ, ปลอดภัยหรือเปล่า?” เทย์เลอร์วิ่งเข้ามาหาลินลี่ย์ทันที
“ทุกคน! หลีกไปข้างๆ ก่อน” ลินลี่ย์จ้องมองเยล
ลินลี่ย์มั่นใจว่า..เขาได้รับทุกข์ทรมานจากพลังโจมตีที่ร้ายกาจมาก ถ้าไม่ใช่เพราะพลังป้องกันนักรบเลือดมังกรที่รายล้อมวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน คงยากจะพูดได้ว่าเขาจะผ่านช่วงเวลาที่วิกฤตินั้นมาได้หรือไม่
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะสิ่งที่เรียกกันว่า เหล้าเลิศรสของเยล
“แค่ก แค่ก!” เยลปิดปาก แต่เลือดยังคงไหลผ่านง่ามนิ้ว เห็นได้ชัดว่าเทย์เลอร์และคนอื่นโกรธมากแน่นอน ที่สำคัญลินลี่ย์มีครอบครัว เทย์เลอร์ วอร์ตันและคนอื่นโกรธจัดจนลงมือทำร้ายเยล
ถ้าไม่ใช่เพราะเยลมีสัมพันธ์ที่พิเศษกับลินลี่ย์ เขาคงถูกทุบตีจนตายไปนานแล้ว
ลินลี่ย์มองดูเยลและสารรูปของเขาในตอนนี้ เขายื่นมือไปวางบนไหล่เยลและควบคุมพลังมุกชีวิตในร่างของเขาขณะที่เขาทำเช่นนั้นพลังงานพิเศษเต็มไปด้วยพลังชีวิตหลั่งไหลออกจากมุกชีวิตผ่านมือขวาของเขาและเข้าไปในร่างของเยล
แผลของเยลสมานตัวได้อย่างชัดเจนต่อหน้าพวกเขา
“พี่ใหญ่เยล, บอกข้าที ทำไมกัน” ลินลี่ย์จ้องมองเยล เสียงของเขาต่ำ
ตอนนี้ร่างของเยลหายแล้ว, และเขาไม่ไออีกต่อไป เขามองลินลี่ย์อย่างสงบ “ไม่มีเหตุผล”
หัวใจของลินลี่ย์เย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็ง
นี่คือสหายทั้งชีวิตของเขา!
เมื่อตอนที่เขาอกหักเพราะอลิซและใช้เวลาสิบเอ็ดวันสิบเอ็ดคืนในท่ามกลางอากาศเหน็บหนาวเยล จอร์ชและเรย์โนลด์อยู่เป็นเพื่อนเขาตลอดเวลา เพราะพวกเขาห่วงใยเขา สหายของพวกเขา เมื่อเขาไปแก้แค้นราชาแห่งเฟนไลเยลหลังจากรู้เรื่องนั้นก็ยังพยายามช่วยเหลือเขาอย่างเต็มที่
เยลไม่สนใจการกระทำเหล่านี้แม้แต่น้อยทั้งที่อาจจะไปล่วงเกินศาสนจักรเจิดจรัส
ครั้งหนึ่งลินลี่ย์เชื่อว่าความรักฉันท์พี่น้องระหว่างพวกเขาทั้งสี่คนจะไม่มีทางเปลี่ยน
แต่เมื่อเห็นสายตาที่เย็นชาบนใบหน้าของเยลลินลี่ย์รู้สึกปวดใจ
“พี่ใหญ่เยล, ข้าจะเรียกเจ้าว่าพี่ใหญ่เยลอีกครั้ง บอกข้าที ทำไมถึงทำกับข้าอย่างนี้!” ลินลี่ย์ข่มความเจ็บปวดใจขณะจ้องมองเยล นี่ยังเป็นพี่ใหญ่เยลคนเดิมผู้ที่มักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บุรุษผู้ยอมเอาตัวเองเข้าเสี่ยงอันตรายเพื่อประโยชน์ของสหายเขาหรือ?
เยลมองดูลินลี่ย์ “ทำไมต้องถามอะไรเสียมากมาย? ก็แค่ต้องการฆ่าเจ้า” คำพูดของเยลสงบราบเรียบเหมือนกับว่าเขาพูดเรื่องที่สมควร”
หัวใจของลินลี่ย์เกร็ง ราวกับว่าถูกฟาด ความเจ็บปวดค่อยๆแผ่กระจายออกไปจากหัวใจมากจนลินลี่ย์สั่นเล็กน้อย ลินลี่ย์เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรักทั้งต่อภรรยา บุตรและสหายของเขา
ลินลี่ย์เชื่อเสมอว่าความสัมพันธ์ที่เขามีอยู่นั้นล้ำค่าที่สุด
เขามักเชื่อว่าพี่น้องของเขาไม่มีทางทอดทิ้งเขาและว่าความรักของพวกเขามั่นคงไม่คลอนแคลน
“มัน..มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง?” ร่างของลินลี่ย์สั่นเล็กน้อย ตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจและเจ็บปวด!
ทำไมสหายรักของเขาถึงได้ทรยศเขา?
แต่ขณะที่เขาจ้องมอง สายตาของเยลเย็นชา สงบ ลินลี่ย์ไม่รู้ว่าเขาควรจะพูดอะไรต่อไป
“พี่ใหญ่, เยลผู้นี้ต้องการจะฆ่าท่านทำไมท่านยังลังเลอยู่อีก? คนแบบนี้สมควรถูกฆ่า!” วอร์ตันตอนนี้ยังมีอารมณ์โกรธคุกรุ่นโดยเฉพาะอยางยิ่งหลังจากได้ยินเยลพูดอย่างใจเย็นว่า “ก็แค่ต้องการฆ่าเจ้า”ในนามของพี่ชายของเขา เขารู้สึกผิด!
ลินลี่ย์สูดหายใจลึก ทำให้ใจของเขาสงบลงมาเล็กน้อย
“พี่ใหญ่เยล, นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าเรียกท่านว่าพี่ใหญ่เยล” ลินลี่ย์มองดูเยล, หัวใจของเขาเจ็บแปลบในใจของเขา เขาอดเห็นฉากภาพที่สี่พี่น้องยังอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่ได้
“เจ้าไปได้” ลินลี่ย์หันหลังให้ และไม่มองเยลอีกต่อไป
ลินลี่ย์ชำเลืองมองลินลี่ย์จากนั้นหมุนตัวเดินจากมาโดยไม่พูดสักคำ
“พี่ใหญ่”
“ท่านพ่อ”
“ลอร์ดลินลี่ย์!”
วอร์ตัน เทย์เลอร์ เกทส์ บูนและคนอื่นๆ แทบคลั่ง เยลต้องการฆ่าลินลี่ย์ แต่ลินลี่ย์กำลังปล่อยเขาไปโดยไม่ลงโทษอะไรเลยหรือ?
“จำเอาไว้ อย่าสร้างปัญหาให้กับเยล, ที่สำคัญ... เขา..ครั้งหนึ่งเขาคือพี่ชายข้า” ลินลี่ย์พอพูดคำว่า ‘ครั้งหนึ่ง’ รู้สึกเจ็บปวดใจเพิ่มขึ้น “พอได้แล้ว พวกเจ้าออกไปกันให้หมดข้าต้องการอยู่ตามลำพังสักครู่”
ทุกคนมองหน้ากันเองจากนั้นมองดูหลังของลินลี่ย์ซึ่งหันมาทางด้านพวกเขาและจากนั้นพวกเขาค่อยๆ เดินออกมาทีละคน
ทั่วทั้งสวนดอกไม้หลังปราสาทนอกจากลินลี่ย์แล้วยังเหลืออยู่อีกเพียงคนเดียว ซาสเลอร์
“ซาสเลอร์” ลินลี่ย์ไม่ได้หันกลับมา “ท่านก็ไปด้วยเช่นกัน”
“ลอร์ดลินลี่ย์ ข้าสงสัยว่าท่านยินยอมจะบอกข้าได้ไหมว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นในร่างกายของท่าน บางที...ข้าอาจทำความเข้าใจได้เพิ่มสองสามเรื่อง” ซาสเลอร์จ้องมองดูลินลี่ย์ สายตาของเขาหนักแน่น
“ไม่จำเป็น” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น “ข้าไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป”
ตอนนี้สภาพอารมณ์ของลินลี่ย์ย่ำแย่
“ลอร์ดลินลี่ย์,ถ้าท่านบอกข้าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในร่างกายของท่าน, บางที.. ข้าอาจบอกท่านได้ว่าทำไมเยลถึงทำเช่นนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเยลไม่ควรถูกตำหนิสำหรับการกระทำของเขา” ซาสเลอร์ชะงักเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยพูด
ทันใดนั้นลินลี่ย์หันมาจ้องมองซาสเลอร์ “ท่านพูดว่าไงนะ?”
“ข้าบอกว่าบางทีเยลไม่สมควรถูกตำหนิสำหรับการกระทำของเขา อาจจะมีเหตุผลอื่นอยู่อีก” ซาสเลอร์กล่าว
เมื่อลินลี่ย์ได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจของเขาค่อยเต็มไปด้วยความหวัง เขาหวังจริงๆ ว่าเยลคงพบเรื่องลำบากใจเองซึ่งเป็นเหตุผลที่เขาขอให้เยลพูดเหตุผลที่เขาลงมือในครั้งนี้ แต่จากสายตาของเยล เขาไม่เห็นความเจ็บปวดหรือความละอายใจมีแต่ความเฉยเมยเย็นชา
นี่ทำให้หัวใจของลินลี่ย์กลับกลายเป็นหนาวเหน็บ
“ก็ได้, ข้าจะบอกท่าน” ทันใดนั้นลินลี่ย์เริ่มอธิบายรายละเอียดเหตุที่เกิดขึ้นในร่างกายเขากับซาสเลอร์ทันที ลินลี่ย์ไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับแสงป้องกันพิเศษของนักรบเลือดมังกรที่จู่ๆก็เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราด ที่สำคัญสำหรับซาสเลอร์ สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วโจมตีลินลี่ย์
“ไหมวิญญาณ?” ตาของซาสเลอร์เป็นประกายวูบเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ “อย่างนั้นข้อสงสัยของข้าก็ถูกต้อง”
“ไหมวิญญาณคืออะไร?” ลินลี่ย์มองดูซาสเลอร์
ซาสเลอร์อธิบายรายละเอียด “ลอร์ดลินลี่ย์ ข้าสงสัยเรื่องนี้มาตลอดเวลา แต่ตอนนี้ข้าได้ข้อสรุปแน่นอน ข้าจะบอกท่านเดี๋ยวนี้ ไหมวิญญาณนี้เกี่ยวข้องกับเวทพ่อมดเป็นพิษรูปแบบหนึ่งที่พิศษใช้โจมตีวิญญาณของคนอื่น เพียงแต่มันผลิตออกมาได้ยากมากและต้องใช้ความสามารถสูง แม้แต่ข้าก็ไม่เคยผลิตพิษชนิดนี้ได้
“ท่านกำลังบอกว่าเหล้านี้ผสมด้วยไหมวิญญาณอย่างนั้นหรือ?” ลินลี่ย์ถาม
ซาสเลอร์พยักหน้า “ใช่แล้ว หลังจากไหมวิญญาณถูกสร้าง จำเป็นต้องเก็บไว้ในของเหลวที่พิเศษ ด้วยวิธีนั้นไหมวิญญาณจะคงอยู่ได้เป็นเวลานาน”
“ดังนั้นตัวการที่อยู่เบื้องหลังเยลก็คือคนที่ฝึกมาทางเวทพ่อมดใช่ไหม?” ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
ซาสเลอร์พยักหน้า “ลอร์ดลินลี่ย์, ความจริง...เมื่อท่านแจ้งเราว่าเมื่อวานนี้หลังจากฆ่าบุรุษชุดเงินสองคนที่จ้าวมุสิกม่วงทองแฮรี่บอกท่านว่านักสู้ระดับเทพที่อยู่เบื้องหลังคนทั้งสองรู้ว่าเป็นท่านทั้งสองที่ฆ่าบุรุษชุดเงิน..ข้าก็เริ่มสงสัยแล้ว”
“เพราะแม้แต่พวกเทพไม่สามารถแสดงพลังเทพของพวกเขาได้ทุกที่ทุกเวลา ท่านฆ่าบุรุษชุดเงินได้อย่างกะทันหันพวกเทพที่อยู่เบื้องหลังจะรู้ได้ยังไง? แต่แฮรี่มั่นใจว่าเทพนั้นรู้ ดังนั้น.. ในใจของข้า นึกถึงความเป็นไปได้ประการเดียว!”
“นั่นคือเมล็ดวิญญาณ!”
ซาสเลอร์พูดอย่างจริงจัง “พวกพ่อมดสามารถใช้พลังวิญญาณพวกเขาเองควบแน่นเป็นเมล็ดวิญญาณ,และจากนั้นฝังเข้าไปในวิญญาณคนอื่น จากนั้นคนผู้นั้นจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้สร้างเมล็ดวิญญาณอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน ระหว่างทาสกับเจ้านายจะมีการเชื่อมวิญญาณถึงกันและสามารถติดต่อกันได้ ดังนั้นก่อนที่บุรุษชุดเงินสองคนจะตาย พวกเขาสามารถแจ้งลักษณะของท่านกับเฟนไปที่เทพผู้นั้นได้”
ลินลี่ย์ตกใจอย่างหนัก
“ลอร์ดลินลี่ย์ ท่านบอกว่ามีบุรุษชุดเงินเก้าคน และเป็นไปได้ว่าพวกเขาแต่ละคนจะมีพลังระดับสุดยอดเซียน ข้านึกภาพว่า...คนที่สามารถควบคุมสุดยอดเซียนเก้าคนนี้ได้จะต้องเป็นยอดฝีมือที่ฝึกฝนมาทางเวทพ่อมดจนถึงระดับเทพแล้ว” ซาสเลอร์พูดด้วยความมั่นใจ “นี่เป็นเพราะพ่อมดจอมเวทไม่มีความสามารถควบคุมเซียนสุดยอดฝีมือได้มากมายแน่ ที่สำคัญคือ ยิ่งเป็นผู้มีพลังควบคุมมาก ความต้องการในการใช้เมล็ดวิญญาณก็มีความเป็นไปได้สูง”
“นอกจากนี้, ท่านลอร์ด, ท่านกับเยลมีความผูกพันที่ลึกซึ้ง แต่เมื่อเขาพยายามฆ่าท่าน เขาไม่มีความเสียใจและไม่ใส่ใจใดๆ เขาสามารถวางยาพิษอย่างไหมวิญญาณได้..ก็มีคำอธิบายเพียงประการเดียว เขาโดนควบคุมโดยเมล็ดวิญญาณจากเทพตนนั้น”
ซาสเลอร์มองดูลินลี่ย์ “ลอร์ดลินลี่ย์ ท่านควรจะอภัยให้เยล เมื่อคนผู้หนึ่งถูกเมล็ดวิญญาณควบคุมฝังลึกในจิตใจ พวกเขาจะทำตามความปรารถนาของเจ้านายเหมือนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ต่อให้เขาได้รับคำสั่งให้ฆ่าตัวตายหรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็จะทำได้โดยไม่ลังเลใจเลย ตอนนี้เขาไม่มีอะไรมากไปกว่าหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมเท่านั้น”
ลินลี่ย์ทั้งรู้สึกดีใจและกลัวในใจเขาด้วย
กลัวเพราะเยล!
“เยลถูกควบคุม..อย่างนั้น..มีวิธีใดทำให้เขากลับคืนเป็นปกติบ้างไหม?” ลินลี่ย์ห่วงใยเยล
“มีอยู่” ซาสเลอร์พยักหน้า “วิธีก็คือ..ฆ่าเทพตนนั้นซะ เวลานั้นเมล็ดวิญญาณจะสลายไปเอง”