ตอนที่ 12-18 คำแนะนำ
ภายในห้องใต้ดินที่เย็นและมืด
แสงเรืองรองสีเขียวน้ำทะเลเย็นยะเยือกกระพริบอยู่ภายในห้องนี้ ร่างเลือนรางพร่ามัวอยู่ในความมืดอยู่ในท่านั่งสมาธิ ที่อยู่ต่อหน้าเขามีแก้วผลึกใสใหญ่เท่าศีรษะมนุษย์กำลังเปล่งแสงสีเขียวสลัว
ภายในแก้วผลึกมีพลังงานคล้ายหมอกปริมาณมากม้วนตัวเป็นเกลียวและในใจกลางหมอก มีหยดสีเงินเล็กสองสามหยด
แสงระยิบระยับซึ่งแก้วผลึกน้ำเปล่งออกมาฉายต้องใบหน้าชราของบุคคลลึกลับผู้หนึ่งในห้อง หน้าของเขาแก่มากจะดูเหมือนเป็นชั้นหนังที่หุ้มกะโหลก เขาผอมมาก ผอมเหมือนกระดูกเดินได้แต่ดวงตาที่น่าสยดสยองเยือกเย็นเป็นประกายเขียวทำให้เขาดูน่ากลัวมาก
เขามองดูเหมือนมีดที่เคลือบยาพิษอย่างเห็นได้ชัด
“หืม?” แสงเขียวในดวงตาของชายแก่สว่างมากยิ่งขึ้นทันที
ช่วงเวลาต่อมา...
“เกิดอะไรขึ้น? ลอร์ดเบรุตประกาศให้สิบแปดแคว้นเหนือเป็นเขตหวงห้ามตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ชายชราผอมแห้งพึมพำกับตนเอง “ดูเหมือนลอร์ดเบรุตต้องการแสดงพลัง ไม่ยั่วโทสะของเขาเป็นดีที่สุด ใครก็ตามที่ทำให้เขาระคายเคืองก็จะเป็นเหมือนไก่ เหมือนภาษิตว่า ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’”
“เพียงแต่ข้าต้องเสียองครักษ์ชุดเงินไปอีกหนึ่ง”
“อย่างไรก็ตาม ถ้ากระบวนการสร้างนี้ทำได้สำเร็จก็นับว่าคุ้มค่าต่อให้ข้าต้องเสียองครักษ์ไปหมดทั้งเก้าคน” ชายชราร่างผอมแห้งจ้องมองแก้วผลึกเหมือนกับอสรพิษที่โลภที่เพิ่งจะพบเหยื่อ
ยอดฝีมือทั้งหมดในทวีปยูลานเป็นแค่เซียนชั้นต้น เซียนที่หลบหนีมาจากพิภพจองจำเกบาโดสหรือพวกเทพ..เมื่อได้ยินเสียงเตือนพวกเขาทุกคนรู้สึกใจสั่นสะท้านและหนาวยะเยือก
เบรุต!
ราชันย์แห่งทวีปยูลาน สงครามล้างโลกเมื่อหมื่นปีที่แล้วได้สร้างความมั่นคงให้เขาตำแหน่งของเขา
ณ.ภูเขาเทพสงคราม จักรวรรดิโอเบรียน
“นั่นน่าจะเป็นเสียงของลอร์ดเบรุต” เฟนขมวดคิ้ว “วันก่อนอาจารย์ไปยังสุสานเทพเจ้าท่านบอกข้าว่าลอร์ดเบรุตสั่งมาทางใจกับท่าน ห้ามมิให้สร้างความลำบากใจให้ไพรทมิฬและสิบแปดแคว้นแดนเหนือ”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ห้าปีที่แล้ว, ลอร์ดเบรุตเพียงแต่ส่งสาส์นให้ลินลี่ย์เทพสงครามและมหาพรต ขณะที่เทพสงครามจากไป แน่นอนว่าเขาย่อมให้คำแนะนำเฟนด้วยเช่นกัน
“พลังที่รุนแรงนั่น...” ลินลี่ย์สันนิษฐาน “เป็นไปได้ว่าเป็นพลังคลื่นระเบิดที่ลอร์ดเบรุตใช้ฆ่ายอดฝีมือที่กล้าเข้าไปสังหารคนในสิบแปดแคว้นเหนือ”ลินลี่ย์ตกใจกับพลังทำลายล้างของเบรุตเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่า ลอร์ดเบรุตไม่มีความปราณีแม้แต่น้อย
“เป็นไง ลินลี่ย์” ตาของเฟนทอประกายวูบ “ร่วมสังหารในสิบแปดแคว้นเหนือ?เซียนธรรมดาจะกล้าเข้าไปลงมือฆ่าแบบนั้นได้ยังไง? บอกข้าทีเจ้าคิดว่าเป็นไปได้ไหม..?”
ลินลี่ย์คิดเหมือนกันเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ท่านกำลังว่าตัวการร้ายที่อยู่เบื้องหลัง ‘เมืองมรณะ’ ก็คือยอดฝีมือชุดเงิน?”
เฟนพยักหน้า “เป็นกรณีนั้น อย่างนั้นก็หมายความว่าตัวการร้ายถูกทำลายไปใช่ไหม?”
ลินลี่ย์เงียบอยู่พักนึ่ง “เฟน, การคาดเดาของท่านอาจถูกต้อง แต่ก็อาจจะผิดด้วยเช่นกัน แม้ว่าลอร์ดเบรุตจะสร้างคลื่นที่ทรงพลังไว้ แต่คนที่เขาฆ่าอาจจะไม่ใช่ยอดฝีมือชุดเงินก็ได้ ต่อให้ใช่ ก็ยากจะบอกได้ว่ายอดฝีมือชุดเงินลงมือตามลำพังหรือไม่”
“ลินลี่ย์, เจ้ากำลังจะบอกว่า...” เฟนอดประหลาดใจไม่ได้
เฟนแอบมั่นใจว่าตัวการร้ายไม่มีอะไรมากไปกว่าการมีเป้าหมายพิเศษ เขาไม่เคยพิจารณาความเป็นไปได้ว่าจะมีกลุ่มของยอดฝีมือชุดเงินอยู่
แต่ลินลี่ย์มีความคิดที่แตกต่างออกไป
เขารู้เรื่องศาสนาลึกลับที่ก่อตั้งอยู่ในจักรวรรดิบาลุค ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่ามีพวกเขาเทพเกี่ยวข้องอยู่ด้วย ลินลี่ย์กำลังเริ่มคาดการ...ว่ายอดฝีมือที่ปรากฏในทวีปยูลานจะไม่ใช่มีแค่เซียน แต่น่าจะมีระดับเทพอยู่ด้วยเช่นกัน
สำหรับใครบางคนที่กล้าลงมือปฏิบัติการ ‘เมืองมรณะ’ นี้อย่างเปิดเผย..มีแนวโน้มว่าเทพนั้นต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชามากกว่าหนึ่งคน
“เฟน”แทบจะทันทีที่ลินลี่ย์คิดถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นยอดฝีมือระดับเทพอยู่หลังฉากเขาอดรู้สึกไม่มั่นใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาพูดกับเฟนทันที “เราไม่สามารถหาตัวการร้ายโดยเอาแต่คิดเท่านั้น เอาอย่างนี้เป็นไง เราสองคนไปไพรทมิฬกัน ไปถามปัญหานี้”
“ไปไพรทมิฬ?”
เฟนรู้สึกมีความกังวลบางอย่างในใจเกี่ยวกับไพรทมิฬ ลอร์ดเบรุตคือคนที่แม้แต่เทพสงครามก็ให้ความเคารพเขา,เฟนยังเป็นแค่เซียน แน่นอนว่าเขารู้สึกกลัวเบรุตอยู่บ้างเป็นธรรมดา
“ไม่เป็นไร มากับข้าเถอะ” ลินลี่ย์ยังรู้สึกค่อนข้างมั่นใจ
นอกจากความสัมพันธ์กับบีบีแล้วลินลี่ย์ยังมีสัมพันธ์ที่ดีกับลูกทั้งสามของเบรุต แฮรี่, ฮาร์ทและฮาร์วีย์ ลินลี่ย์แค่ต้องการถามปัญหาสองสามคำ เขามั่นใจ...ว่าเขาจะทำได้สำเร็จ
“ก็ได้, ข้าจะเดินทางไปกับเจ้า” เฟนพยักหน้า
เฟนให้คำแนะนำบางอย่างกับศิษย์อื่นในวิทยาลัยเทพสงครามทันทีจากนั้นบินเคียงคู่ไปกับลินลี่ย์ออกจากภูเขาเทพสงครามหายลับไปในขอบฟ้ายามราตรี เฟนไวมากในตอนเริ่มต้นขณะที่ลินลี่ย์เนื่องจากการฝึกฝนของเขาในวิชาสัจธรรมแห่งความเร็วทำให้ความเร็วของเขาถึงระดับสบายๆ
ไม่นานนักทั้งสองมาถึงไพรทมิฬ
ลึกลงไปในใจกลางไพรทมิฬที่ซึ่งปราสาทโลหะที่มีชีวิตตั้งนิ่งอยู่ ลินลี่ย์จ้องมองปราสาทโลหะจากในกลางอากาศ และรู้สึกสะท้านยะเยือกในหัวใจ นี่คือสิ่งมีชีวิตรูปแบบโลหะขนาดใหญ่... ลินลี่ย์คาดว่ามันมีพลังเหนือกว่านางพญาแลชเพิล
ลินลี่ย์และเฟนลงพื้นที่ด้านนอกปราสาทโลหะ
ในท่ามกลางความมืดในยามราตรี ปราสาทตั้งโดดเด่น ไม่ได้ยินเสียงอะไรอยู่ในนั้น
เฟนและลินลี่ย์มองหน้ากันเอง
“เราควรจะทำยังไงดี? จะตะโกนเรียกเขาจากข้างนอกหรือ?” เฟนฝืนหัวเราะ “หรือจะเข้าไปข้างในเลย? ข้าได้ยินว่าเว้นแต่เจ้ามีพลังระดับเทพทันทีที่เข้าไปในปราสาทโลหะ เจ้าจะถูกมันโจมตี”
“ไม่ต้องรีบร้อน” ลินลี่ย์หัวเราะ
หลังจากนั้นไม่นาน...
“ควั่บ!”เงาดำสายหนึ่งพุ่งออกมาจากภายในปราสาทโลหะและลงไปยืนบนตัวลินลี่ย์
“พี่ใหญ่, ข้าคิดถึงท่านนัก.. วันนี้ท่านมาหาข้าแล้ว!” บีบีเงยหน้าจ้องมองลินลี่ย์ด้วยดวงตาน้อยๆที่มีทั้งความดีใจและประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าบีบีคิดถึงลินลี่ย์มากในช่วงที่แยกจากกันหกปี
ลินลี่ย์หัวเราะและกอดบีบีไว้ เมื่ออยู่ด้วยกันกับบีบีลินลี่ย์รู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย
ให้ความรู้สึกเหมือนกับตอนนี่ปู่เดลินเคยอยู่ข้างตัวเขา เขาไม่เคยรู้สึกเหงาสูญเสียเลย
“บีบี, ข้าก็คิดถึงเจ้าเหมือนกัน แต่ตอนนี้ลอร์ดเบรุตอยู่ไหน?” ลินลี่ย์ถาม
“ปู่เบรุต?” บีบีส่ายหัว “ข้าไม่รู้เหมือนกัน ปู่เบรุตไม่อยู่ในปราสาทในช่วงนี้ เขาบอกว่าเขาต้องไปข้างนอกสองสามวันดูเหมือนว่าเขาจะไปเยี่ยมดินแดนอื่น อีกไม่กี่วันก็คงจะกลับมา”
“ไม่ได้อยู่ที่นี่หรือ? ไปเยี่ยมดินแดนอื่น?” ลินลี่ย์และเฟนมองหน้ากันเอง
ถ้า ‘ปู่เบรุต’ ไม่อยู่ในปราสาทโลหะ และไปเยี่ยมพิภพอื่น แล้วใครลงมือที่สิบแปดแคว้นแดนเหนือเล่า? ก็เสียงนั้นเพิ่งจะดังขึ้นนี่?
ขณะเดียวกัน ทั้งสองคนลอบถอนหายใจอยู่ในใจ
“ไปเยี่ยมดินแดนอื่น ... จะกลับมาในอีกสองสามวัน...ลอร์ดเบรุตคิดเดินทางไปเยี่ยมพิภพไหน? เป็นการเที่ยวแบบไหน?” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ เขาเคยได้ยินมาจากผู้เฝ้าดินแดนฮ็อดเดิลบอกว่าต้องใช้ราคามากมายขนาดไหนจึงจะกลับมาได้หลังจากออกไปแล้ว
แค่ดูจากบรรพบุรุษของเขาเองไม่มีนักรบเลือดมังกรเลยสักคนที่กลับมาได้หลังจากออกไปจากพิภพนี้
จากตรงนี้ ก็คงบอกได้ว่าการได้กลับมานั้นยากขนาดไหน
แต่ลอร์ดเบรุตเล่า? เขาเดินทางเข้าออกเป็นว่าเล่นเหมือนเด็กเล่นเกม
“ลินลี่ย์, เจ้ากำลังตามหาท่านพ่อข้าหรือ?” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นและประกายม่วงทองปรากฏขึ้นและโฉบลงต่อหน้าลินลี่ย์และเฟน เป็นหนึ่งในสามของจ้าวมุสิกม่วงทอง
ลินลี่ย์เมื่อเห็นจ้าวมุสิกม่วงทองได้แต่หัวเราะอย่างเก้อเขิน
ไม่มีอะไรสำหรับเรื่องนั้น เจ้ามุสิกม่วงทองทั้งสามมีลักษณะเหมือนกัน เท่าที่ลินลี่ย์กังวล แม้แต่รัศมีของพวกเขาก็ยังคล้ายกัน ลินลี่ย์เองยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นใครในจ้าวมุสิกทองม่วงทั้งสาม
“ข้าแฮรี่” เจ้ามุสิกทองนี้เข้าใจปัญหาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเขาประกาศนามโดยตรง “ข้ารู้สาเหตุที่เจ้ามา”
“โอว?” ลินลี่ย์ประหลาดใจ เขายังไม่ได้พูดอะไรเลย
แฮรี่หัวเราะ “จักรวรรดิโอเบรียน, จักรวรรดิบาลุคประชาชนในเมืองของจักรวรรดิทั้งสองของพวกเจ้าถูกสังหาร เหตุผลที่พวกเจ้าสองคนมาก็คงมีแนวโน้มจากเรื่องนี้ใช่ไหม? นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในสิบแปดแคว้นอิสระเหนือเหมือนกัน เพียงแต่ทันทีที่มันเริ่มเราก็ฆ่าเจ้าผู้นั้นทันที”
“เรา?” ลินลี่ย์คิดทันที
คำพูดว่า ‘เรา’ จากปากของแฮรี่หมายความว่ายังไง?
เฟนรีบถาม “แฮรี่, ข้าขอถามได้ไหม,ยอดฝีมือชุดเงินมีมากกว่าหนึ่งคนหรือเปล่า? ทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนั้น?”
“โอว, เจ้ารู้ว่ามันคือบุรุษชุดเงินด้วยหรือ?” แฮรี่ประหลาดใจเล็กน้อย แต่จากนั้นเขาพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว ฆาตกรคือบุรุษชุดเงิน..มีทั้งหมดเก้าคน สำหรับเหตุผลที่พวกเขาทำเช่นนั้นความจริงพวกเขาทำเรื่องนี้ตามคำสั่งของยอดฝีมือระดับเทพ”
เห็นได้ชัดว่าแฮรี่รู้เรื่องหลายอย่าง
ลินลี่ย์ลอบตกใจ
งั้นนี่ก็เป็นเรื่องจริง! เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับยอดฝีมือระดับเทพตนหนึ่ง ลินลี่ย์และเฟนรู้สึกท้อแท้ทั้งคู่ เทพและเซียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ราวกับฟ้าและดิน แม้ว่าลินลี่ย์จะสามารถฆ่าเซียนต่างๆได้มากมาย แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพเขาไม่สามารถทำอะไรได้
“นี่...เราควรจะทำยังไง?” เฟนทำอะไรไม่ถูก
เทพสงครามยังอยู่ในสุสานเทพเจ้า เขา, เฟนเป็นแค่ระดับเซียน แล้วจะสู้กับเทพได้ยังไง?
“โอว,... ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น หนึ่งในเก้าบุรุษชุดเงินถูกฆ่าไปแล้ว ขณะที่อีกแปดกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆโอ, มีสองคนที่อยู่ด้วยกัน ตอนนี้พวกมันอยู่ในเขตแดนของจักรวรรดิบาลุค”แฮรี่กล่าว
“ว่าไงนะ?” ลินลี่ย์รู้สึกไม่ดีทันที
มีสองคนอยู่ภายในเขตแดนของจักรวรรดิบาลุค? พวกเขาวางแผนใดอยู่กันแน่?
“หึหึ ใช่แล้ว ข้าคาดว่าอีกไม่นาน พวกมันจะต้องลงมืออีกเมืองหนึ่งแน่” แฮรี่หัวเราะเบาๆ แฮรี่ไม่ได้สนใจเรื่องการเข่นฆ่าล้างเมือง ที่สำคัญเขาเป็นเพียงอสูรเวท สำหรับเขา...พวกมนุษย์เป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างสายพันธุ์ การทำลายล้างเมืองมนุษย์ไม่ส่งผลกระทบต่อเขาแม้แต่น้อย
ลินลี่ย์กังวลมากขึ้นทันที “แฮรี่, พวกมันอยู่ที่เมืองไหน?”
“ลินลี่ย์, เจ้าจะไปจัดการพวกมันหรือ?” เฟนเริ่มรู้สึกกังวล “นั่นไม่อาจทำได้,เจ้าไม่ได้ยินว่าแฮรี่พูดอะไรหรือ? พวกมันมีนักสู้ระดับเทพหนุนหลังพวกมัน”
บีบีเริ่มหัวเราะบ้างในครั้งนี้ “ไม่ต้องห่วง ข้ารู้เรื่องนี้เหมือนกัน เทพที่อยู่เบื้องหลังบุรุษชุดเงินทั้งเก้าบาดเจ็บหนักมานานแล้ว และเขาจะไม่ลงมือเองง่ายๆ ที่สำคัญยิ่งกว่า เทพตนนั้นกำลังวุ่นวายกับงานสำคัญ เขาจะไม่มีเวลาจัดการกับท่าน”
แฮรี่พยักหน้าเช่นกัน “ใช่แล้ว ไปฆ่าเจ้าคนชุดเงินได้เลย มีอะไรต้องกลัวด้วย? ต่อให้เจ้าฆ่าพวกมันเทพผู้นั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นเจ้าที่ลงมือ”
ลินลี่ย์กับเฟนหัวเราะทั้งคู่
จริงสิ ถ้าพวกเขาไปฆ่าบุรุษชุดเงิน ตราบใดที่พวกเขายังทำตัวไม่โดดเด่นและไม่ให้นักสู้ชั้นเทพรู้ว่าเป็นพวกเขา เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะค้นพบว่าใครเป็นคนฆ่า?
“ก็ได้แฮรี่ บุรุษชุดเงินสองคนนั้นอยู่ที่ใด?” ลินลี่ย์ถาม
“หึหึ คราวนี้เราจะไปดูความสนุกด้วยนะ” แฮรี่หัวเราะจนเห็นเขี้ยวทั้งสองข้าง “ไม่ต้องห่วง พวกเจ้าทั้งสองแค่ตามข้ามา ข้าจะนำทางเอง” แฮรี่กล่าวจากนั้นกลายร่างเป็นแสงทองม่วงพุ่งวาบไปทางใต้
“รีบตามมา” เสียงของแฮรี่ดังออกมาจากในป่า
ลินลี่ย์และเฟนเริ่มบินออกไปทันที โดยมีบีบีเกาะอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์
“แฮรี่รู้รายละเอียดเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจนได้เพราะอะไร?” ลินลี่ย์เริ่มรู้สึกมึนงง “นอกจากนี้บีบีกับเขาพูดว่าลอร์ดเบรุตออกไปจากทวีปยูลานแล้ว ดังนั้นเสียงที่ดังออกมาก่อนหน้านั้นล่ะ? และแฮรี่รู้รายละเอียดของเหตุการณ์ชัดเจนว่าเป็นนักสู้ระดับเทพและบุรุษชุดเงิน
“เขายังคงคิดย้อนกลับไปถึงวันที่พวกเขาแต่งงานเดเลียและเขาเองได้รับของขวัญวันแต่งงาน ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเทพชั้นต้น
นอกจากนี้ ลอร์ดเบรุตยังเป็นคนควบคุมสุสานเทพเจ้า
“ลอร์ดเบรุตผู้นี้... ตระกูลเบรุต...ข้าคิดว่าชักจะลึกลับมากขึ้นทุกที” ลินลี่ย์มองดูแฮรี่บินตรงไปข้างหน้าเขาอย่างตื่นเต้น เขาสงบใจได้ จากนั้นหัวเราะให้ตนเอง “ทำไมต้องกังวลเรื่องหลายเรื่องด้วย? แล้วไงเล่าถ้าลอร์ดเบรุตลึกลับ? อย่างน้อยเขาก็คือมิตรของเรา ไม่ใช่ศัตรู!”