Chapter 19 : หลบหนี
กว่าโจวเฉินจะมีแรงพอลุกขึ้นยืนและหยิบท่อนเหล็กมาถือไว้ได้อีกครั้งก็เกือบชั่วโมงให้หลัง
สภาพของเขาตอนนี้ยังไม่ได้กลับมาปกติสมบูรณ์แต่ก็ไม่ได้ห่างจากระดับนั้นเท่าไหร่นัก
“โชคดีที่พิษงูที่เรารับมาพอเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆอ่อนลง แผลบนร่างกายที่โดนพวกงูกัดเองก็เป็นแค่แผลเล็กๆเลยทำให้เสียเลือดไปไม่มาก”
โชคของโจวเฉินค่อนข้างดีทีเดียว เมื่อตอนที่เขานอนนิ่งๆแกล้งตายอยู่บนพื้นก็ไม่มีมอนสเตอร์ตัวอื่นปรากฏตัวเลย ส่วนสิ่งมีชีวิตล่องหนที่เคยแอบลอบโจมตีเขาเองก็ไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน
เขาปิดการทำงานของสกิลพิษซากศพลงและปัดฝุ่นที่เปรอะเปื้อนตามร่างกายออก จากนั้นเขาก็เช็ดหน้าเช็ดตาและย่อตัวนั่งลงบนก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง
เขาจำเป็นต้องพักอีกซักครู่
เขาเปิดช่องเก็บของดูแล้วหยิบขวดพลาสติกสีใสออกมาถือเอาไว้ในมือ ด้านในขวดนั้นเต็มไปด้วยของเหลวสีน้ำตาลดำเต็มขวด
นี่คือโค้กที่เขาได้มาเป็นรางวัลจากการผ่านภารกิจเอาชีวิตรอดครั้งที่ผ่านมานั่นเอง โดยมันมีปริมาณโดยรวมแล้วคือ1.5ลิตร
เขาเปิดขวดแล้วจิบเบาๆ พริบตานั้นภายในปากของโจวเฉินก็เต็มไปด้วยรสชาติอันแสนสดชื่น
“ไม่เลวเลย ไม่เพียงแต่จะดับกระหายได้เท่านั้นแต่ยังฟื้นฟูพลังงานได้ส่วนหนึ่งซะด้วย”
เมื่อตอนที่เขาได้โค้กมาเป็นรางวัลโจวเฉินค่อนข้างดูถูกโค้กขวดนี้พอสมควร เขาคิดว่ามันเป็นหนึ่งในรางวัลที่ยัดให้มาแบบลวกๆ ตอนนี้เมื่อลองจิบดูเขากลับพบว่าที่จริงแล้วก็ใช่ว่ามันจะไร้ประโยชน์ซะทีเดียว ต้องบอกว่ามันก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง
หลังจากนั่งพักราวๆห้านาทีและดื่มโค้กไปได้ประมาณนึงแล้วเขาก็เก็บขวดโค้กเข้าไปในช่องเก็บของแล้วเริ่มออกเดินทางอีกครั้งพร้อมกับท่อนเหล็กในมือ
เอาจริงๆแล้วเขาก็อยากจะนั่งพักอีกซักหน่อยแต่จู่ๆก็มีมอนสเตอร์ประเภทหนูหลายสิบตัวโผล่กันออกมาจากบริเวณอุโมงค์ที่อยู่ไกลๆ เขารู้สึกว่าในสภาพของตัวเองตอนนี้อย่าไปสู้กับหนูที่มีขนาดเท่าแมวตัวโตและมีเขี้ยวแหลมคมแบบนี้เลยจะดีกว่า ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงพวกมัน
ปลายทางของอุโมงค์แห่งนี้คือทางแยกดังนั้นเขาจึงเลือกแยกไปอีกทิศทางหนึ่ง
เขาเลี้ยวไปยังทางแยกอีกฝั่งก่อนที่พวกหนูจะสังเกตเห็นแล้วเริ่มเดินต่ออย่างไม่เร่งรีบ
ทุกๆอย่างที่เขาทำล้วนทำด้วยความระมัดระวังถึงขีดสุด
เส้นทางที่เขาเลือกค่อนข้างแตกต่างจากก่อนหน้านี้พอสมควร ในเส้นทางนี้มีลำธารสายเล็กๆไหลผ่านก้อนหินไปจนถึงส่วนลึกของถ้ำ
“ข้างหน้าน่าจะมีน้ำ”
โจวเฉินคิดกับตัวเองแล้วก็เริ่มตะหนักขึ้นมาว่าตัวเองควรจะไปต่อหรือเลือกเส้นทางอื่นดี เขาไม่ค่อยอยากจะสู้กับมอนสเตอร์ในน้ำเท่าไหร่
เขาเดินเรียบลำธารไปอย่างช้าๆโดยเพ่งสมาธิไปที่บริเวณรอบๆตลอดเวลาเพื่อสังเกตุหาเส้นทางอื่น
หลังจากเดินมาได้ราวสิบห้านาทีเขาก็พบกับอะไรบางอย่าง ตรงจุดที่น้ำไหลไปรวมกันมีมอนสเตอร์ลักษณะคล้ายซาลาแมนเดอร์แต่มีเขี้ยวยื่นออกมาจากปากกำลังดื่มน้ำอยู่
มอนสเตอร์ตัวนี้มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ ดูๆไปแล้วน่าจะราวๆสองเมตรเห็นจะได้และดูเหมือนน้ำหนักเองก็ไม่น่าจะน้อยกว่าห้าสิบกิโลกรัม ในตอนนี้มันกำลังเหยียดลิ้นยาวๆออกมาเพื่อดื่มน้ำจากลำธาร
“ขนาดไม่เล็กเลยแต่มีอยู่แค่ตัวเดียว”
เมื่อเห็นเช่นนี้โจวเฉินก็รีบย่อตัวลงและย่องเข้าไปหามันอย่างเงียบเชียบพร้อมด้วยท่อนเหล็กในมือ ในขณะที่เดินเข้าไปนั้นเขาก็ทำการฉาบพิษซากศพลงไปบนท่อนเหล็กด้วยตามปกติ
ถ้ามอนสเตอร์แบบนี้โผล่มาสองตัวเขาคงไม่คิดที่จะยุ่งกับพวกมันแต่ถ้ามันอยู่ตัวเดียวแล้วล่ะก็....ด้วยพิษซากศพของเขาต่อให้เขาไม่ได้อยู่ในสภาพสมบูรณ์แต่ก็ยังมีโอกาสสังหารมันได้สำเร็จสูงมากอยู่ดี
โจวเฉินย่องเข้าไปหามอนสเตอร์ซาลาแมนเดอร์ทีละก้าวๆอย่างช้าๆท่ามกลางทางเดินอันมืดมิดภายในถ้ำ เขาระมัดระวังเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดเสียงแม้แต่นิดเดียวและใช้เสียงน้ำไหลเป็นตัวกลบเสียงย่องของตัวเอง
เขาไม่คิดหรอกว่าวิธีการนี้จะใช้ได้ผลตลอดรอดฝั่งแต่ต่อให้เข้าไปใกล้ได้ซักหนึ่งเมตรก็ยังดี
ระยังห่างระหว่างโจวเฉินและมอนสเตอร์ซาลาแมนเดอร์หดสั้นลงเรื่อยๆ ไม่นานนักก็ห่างกันเพียงห้าเมตรเท่านั้น ในตอนนี้โจวเฉินได้เข้าสู่สภาวะตื่นตัวถึงขีดสุดแล้วเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีฉับพลันของอีกฝ่าย
มอนสเตอร์ซาลาแมนเดอร์จู่ๆก็หยุดกินน้ำ มันเงยหน้าที่มีลักษณะคล้ายกิ้งก่าขึ้นมามองโจวเฉินด้วยดวงตาสีแดงก่ำ จากนั้นมันก็วิ่งหนีไปอีกด้านด้วยความเร็วสูงลิบ
“ทำไมจู่ๆถึงหนีล่ะเฮ้ย! มันผิดบทไม่ใช่รึไง!?”
โจวเฉินยืนบื้อใบ้ไปในทันที เขาคาดเดาวิธีการโจมตีของมอนสเตอร์ตัวนี้เอาไว้หลากหลายรูปแบบ อย่างเช่นพุ่งเข้าชนเขา ไต่ไปบนกำแพงแล้วหาจังหวะกระโจนเข้าใส่เขาหรือกระโดดเข้าหาเขาโดยตรง แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยก็คืออีกฝ่ายกลับหนีไปซะอย่างนั้นแถมยังหนีไปอย่างไม่ลังเลซักกะนิด
“บางครั้งมอนสเตอร์ในถ้ำนี้แมร่งก็ไร้สมองเป็นพวกโง่เง่าไม่กลัวตายแต่ตัวนี้ดันรู้จักกลัวซะอย่างนั้น”
โจวเฉินไม่ได้ไล่ตามซาลาแมนเดอร์ตัวนั้นไป กลับกันเขาเลือกที่จะหยุดยืนอยู่เฉยๆเพื่อขบคิดอะไรบางอย่าง
สิ่งที่เขาจำเป็นต้องทำให้มากที่สุดก็คือระมัดระวังตัวแม้ว่าผลประโยชน์ที่ได้จะน้อยลงไปบ้างก็ตาม
“ไปต่ออีกหน่อยแล้วกัน ถ้าสภาพภูมิประเทศไม่ค่อยดีค่อยถอยกลับออกมา
โจวเฉินเดินเข้าไปในเส้นทางที่มอนสเตอร์ตัวนั้นหลบหนีไปอย่างช้าๆ ปริมาณน้ำบนพื้นยิ่งเข้ามาลึกก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขาปีนขึ้นไปบนหินก้อนแล้วก้อนเล่าจนมาถึงข้างๆบ่อน้ำแห่งหนึ่ง
ต้องขอบคุณสกิลมองในที่มืดที่ทำให้เขาได้รู้ว่าน้ำในบ่อนั้นค่อนข้างใส บ่อน้ำนี้ดูแล้วค่อนข้างลึกพอตัวและมีร่องรอยของโคลนเล็กน้อยอยู่บริเวณขอบบ่อ
“ไอ้ตัวเมื่อกี้มันวิ่งลงไปในบ่อน้ำเลยหรอ? ดูเหมือนคงต้องยอมแพ้แล้วสิ”
โจวเฉินไม่มีทางตามลงไปสู้กับมันในน้ำแน่นอน
เขาหันกายกลับและคิดจะเดินออกไป
แต่ในวินาทีนั้นเองหูของเขาก็พลันได้ยินเสียงของอะไรบางอย่าง แม้เสียงนี้จะค่อนข้างเบาอยู่บ้างแต่ก็ไม่อาจเมินได้ มันดังมาจากที่ไกลๆและไม่นานนักก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงของมันฟังดูแล้วคล้ายกับเสียงของแมลงบางชนิดกำลังคลานไปมาอยู่บนพื้น
โจวเฉินพลันบังเกิดลางสังหรณ์เลวร้ายขึ้นมา เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าการคาดเดาของตัวเองเมื่อครู่นั้นผิดพลาดไปไกล เจ้ามอนสเตอร์ตัวนั้นไม่ได้หนีเพราะกลัวเขาแต่น่าจะเป็นเพราะมันสัมผัสได้ถึงอันตรายใหญ่หลวงบางอย่างเสียมากกว่า
โจวเฉินมองไปทางทิศทางที่มาของเสียงและรอให้สิ่งมีชีวิตที่ว่าปรากฏตัวหรือถ้าไม่ปรากฏตัวเลยจะดีมาก
เขาในตอนนี้ถูกประกบเอาไว้ระหว่างบ่อน้ำและสิ่งมีชีวิตเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นเมื่อครู่ เขาในตอนนี้จึงอยู่ในสภาพจนตรอกและทำได้เพียงรอดูสถานการณ์ไปก่อน
ท่ามกลางเสียง ‘ครืดคราด’ ที่ยิ่งมาก็ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆโจวเฉินก็สังเกตุเห็นที่มาของเสียงในที่สุด มอนสเตอร์กลุ่มใหญ่ที่มีขนาดตัวประมาณเม็ดถั่วและมีลักษณะคล้ายกับมดแดงกำลังกรูกันมาทางเขา!
“นรกแล้ว!”
โจวเฉินที่เห็นดังนี้ก็รู้สึกคล้ายกับว่าวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง เขารู้ตัวในทันทีว่ามอนสเตอร์กลุ่มนี้ไม่ใช่อะไรที่เขาสามารถจัดการได้ ถ้าเขาถูกพวกมันล้อมคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
โจวเฉินวิ่งกลับไปยังบ่อน้ำอย่างไม่ลังเล
ระหว่างที่วิ่งนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่ามอนสเตอร์มดแดงกำลังไล่ตามเขามาติดๆ ระยะห่างระหว่างทั้งสองฝ่ายยิ่งมาก็ยิ่งหดสั้นลงเรื่อยๆ
แผ่นหลังของโจวเฉินเย็นเยียบ เขารีดพลังทั้งหมดที่มีในร่างกายโดยไม่สนใจอีกต่อไปแล้วว่าร่างกายของเขาจะอยู่ในสภาพไม่พร้อมเพียงใดเพื่อหลบหนีไปให้ได้อย่างสุดกำลัง
ท้ายที่สุดเมื่อหนึ่งในมดแดงกำลังจะเข้าถึงตัวเขาเขาก็กระโดดลงไปในบ่อน้ำได้ทันเวลาพอดี