Chapter 17 : ติดตาม
โจวเฉินสุ่มเลือกเส้นทางมาทางหนึ่งแล้วแยกตัวไปจากคนในกลุ่ม
เมื่อพวกเขาแยกทางกันเขาก็สังเกตุเห็นว่าพี่หวังกับเสี่ยวหลี่มุ่งเข้าไปในเส้นทางหนึ่งด้วยกัน ส่วนหญิงสาวร่างสูงผู้ใช้กระบี่ก็แยกไปอีกเส้นทางหนึ่งขณะที่ชายหนุ่มผอมสูงนั้นเลือกติดตามเขามา
“ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงตามฉันมา? ไม่ใช่ว่าหมอนี่ควรจะไปไล่ตามผู้หญิงคนนั้นรึไง?”
โจวเฉินรู้สึกไม่พอใจนักเมื่อเห็นว่ามีคนตามมาด้านหลัง ทีแรกเขาตั้งใจว่าจะแยกไปคนเดียวแท้ๆแต่ตอนนี้กลับมีใครบางคนตามมาด้วย
โจวเฉินออกวิ่งเพื่อเร่งความเร็วและค่อยๆทิ้งระยะห่างจากชายหนุ่มร่างผอมสูงผู้นั้น
หลังจากวิ่งมาได้ซักพักเขาก็พบว่าดวงของตัวเองค่อนข้างดีทีเดียว ไม่เพียงแต่สลัดเจ้าผู้ชายคนนั้นได้เท่านั้นแต่กระทั่งมอนสเตอร์บินได้ที่ไล่ตามพวกเขามาตลอดก็ไม่ได้เลือกจะไล่ตามเขาอีกด้วย ด้วยสายตาที่มองเห็นเป็นภาพขาวดำในที่มืดตอนนี้เขาจึงมั่นใจมากกว่าทั้งด้านหน้าและด้านหลังห้าสิบเมตรรอบตัวเขาไม่มีมอนสเตอร์อะไรอยู่แน่นอน
“แบบนี้ก็ดีแล้ว ไอ้แมลงบินได้พวกนั้นดูแล้วน่าจะจัดการยากไปหน่อย ตอนนี้ในเมื่อปลอดภัยแล้วก็ขอเคลื่อนไหวอย่างสบายๆหน่อยแล้วกัน”
ด้วยอารมณ์ที่ผ่อนคลายลงโจวเฉินก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ต่ออย่างไม่รีบร้อน แน่นอนว่าเขายังคงมุ่งความสนใจไปที่สภาพแวดล้อมโดยรอบอยู่ตลอดเวลา
อุโมงค์แห่งนี้ดูแล้วเงียบเชียบยิ่งนัก ตลอดทางที่ผ่านมามีเพียงเสียงย่ำเท้าของเขาและเสียงรองเท้าผ้าใบกระทบก้อนหินเท่านั้น
ทันใดนั้นเองโจวเฉินก็รู้สึกขึ้นมาลางๆว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเหมือนว่าจะได้ยินเสียงเท้าเบาๆอีกเสียงหนึ่งผสมโรงไปกับเสียงย่ำเท้าของเขาดังขึ้นมาด้วย
เขาหยุดเดินและหันไปมองรอบๆในทันทีก่อนจะพบว่าทุกๆอย่างดูเหมือนจะปกติดี รอบๆตัวของเขาไม่มีอะไรแปลกปลอมอยู่เลยแม้แต่น้อย
“เราได้ยินอะไรแปลกๆรึเปล่านะ?”
โจวเฉินรู้สึกงุนงงอยู่เล็กน้อยดังนั้นเขาจึงนำเอาท่อนเหล็กมากระชับไว้ในมือแน่นแล้วค่อยๆลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลง
ดูเหมือนเขาจะคิดไปเองจริงๆเพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรโผล่หัวออกมา กลับกันด้วยซ้ำเพราะที่เขาพบกลับมีเพียงมอนสเตอร์หนอนตัวยาวตัวหนึ่งที่กำลังเคี้ยวอะไรบางอย่างอยู่เท่านั้น
มอนสเตอร์ตัวนี้ลำตัวยาวประมาณหนึ่งเมตรและมีความหนาพอๆกับแขนของผู้ใหญ่ ลักษณะของมันเหมือนกับหนอนผีเสื้อดูๆไปแล้วน่าขยะแขยงไม่น้อยเลย
ยังไงก็ตามโจวเฉินไม่ใช่คนกลัวแมลงแต่อย่างใด พอเขาสังเกตุเห็นมันเขาก็รีบเดินเข้าไปหาและทุบมันด้วยท่อนเหล็กในมือทันที ท่อนเหล็กในมือของเขาระเบิดร่างของมันจนเมือกเหนียวๆกระจัดกระจายออกมา
ยังไงก็ตามมอนสเตอร์ตัวนี้กลับไม่ตายทั้งๆที่โดนเขาทุบจนแยกเป็นสองส่วนไปแล้ว กลับกันเสียอีกเพราะตัวมันและส่วนที่ถูกแยกออกจากร่างกายนั้นค่อยๆคลานเข้ามาหาเขาและโจมตีเข้าใส่
“ขนาดถูกแยกเป็นสองส่วนก็ยังไม่ตายอีกหรอเนี่ย? งั้นมาดูกันว่าแกจะแยกได้อีกกี่ส่วน!”
โจวเฉินไม่ได้รู้สึกกดดันมากนักเนื่องจากอีกฝ่ายค่อนข้างอืดอาด ถ้าเทียบกับเขาที่คล่องแคล่วว่องไวแล้วมันก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
หลังจากระเบิดร่างของมันจนกลายเป็นชิ้นๆอยู่อีกหลายครั้งโจวเฉินจึงค่อยถอยออกมาโดยไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายได้สัมผัสแม้แต่ชายเสื้อของเขาเลยด้วยซ้ำ
ยังไงก็ตามในตอนที่เขาถอยออกมานั้นเขาพลันสัมผัสได้ถึงวิกฤติถึงตายที่ส่งมาจากความรู้สึกเบื้องลึกในใจ
แน่นอนว่าเขาย่อมเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเอง ฉับพลันนั้นเขาย่อเข่าลงและกระโดดขึ้นไปด้านบนก่อนจะถีบไปบนผนังถ้ำเพื่อไต่ผนังวนไปอีกฝั่งของแมลงที่ถูกแยกส่วนแทน
พอเขาลงถึงพื้นเขาก็รีบหันกลับมาและยกท่อนเหล็กในมือขึ้นมาชูเอาไว้เพื่อเตรียมรับมือกับทุกสถานการณ์
จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง เขาเห็นว่าหินก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆกับร่างที่ถูกทุบจนเละของหนอนตัวนั้นมีรอยแตกปรากฏอยู่ราวกับมีบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นเหยียบมันเข้า
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วโจวเฉินจะไม่รู้ตัวได้ยังไงว่ามีอะไรบางอย่างตามเขามา? พริบตานั้นเองเขาพลันง้างขาเตะทรายและหินให้ลอยฟุ้งขึ้นไปในอากาศ
เศษทรายและกรวดหินที่เขาเตะออกไปชนเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายไม่ได้กลางอากาศและเด้งกลับออกมาอย่างที่เขาคิด
โจวเฉินที่เห็นดังนั้นก็โถมตัวเข้าใส่และเหวี่ยงท่อนเหล็กในมือใส่ศัตรูที่มองไม่เห็นผู้นี้ในทันที
ยังไงก็ตามการโจมตีของเขายังคงพลาดเป้า หินก้อนเล็กๆบนพื้นมีร่องรอยสั่นสะเทือนเล็กน้อย อีกฝ่ายน่าจะถอยออกไปแล้วแน่นอน
โจวเฉินแน่นอนว่าย่อมตามไปได้แต่ไอ้หนอนที่ถูกทุบจนเละมันหันมาพอดีแล้วก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง
โจวเฉินตัดสินใจกำจัดไอ้หนอนระยำตัวนี้ก่อนอย่างไม่ลังเลจึงต้องล้อมเลิกความคิดที่จะไล่ตามศัตรูที่ไม่ทราบที่มาไปก่อนชั่วคราว
การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าถูกกระหน่ำเข้าใส่หนอนนรก โจวเฉินที่เหวี่ยงท่อนเหล็กอยู่ตลอดหาได้ลดความระมัดระวังลงแต่อย่างใดขณะเดียวกันเขาก็ยังคงกระหน่ำทุบร่างของหนอนที่กองอยู่บนพื้นต่อไปเรื่อยๆ
แล้วก็เป็นดังที่คิด หนอนตัวนี้หลังจากที่ร่างถูกทุบจนเละเป็นชิ้นๆพลังชีวิตของมันก็ไม่อาจประคองเอาไว้ได้อีก ไม่ช้าไม่นานก็ตกตายอย่างรวดเร็ว
[พรสวรรค์ช่วงชิงสกิลติดตัวทำงาน : ท่านทำการช่วงชิงสกิลของหนอนถ้ำ - ‘ฟื้นฟูพลังชีวิต (ระดับ1)’ ต้องการดูดซับหรือไม่?]
“ดูดซับเลย!”
โจวเฉินเลือกดูดซับอย่างไม่ลังเลจากนั้นก็ทำการตรวจสอบรายละเอียดสกิล
[ฟื้นฟูพลังชีวิต(ระดับ1)]
[ประเภท : สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำ]
[คำอธิบาย : ความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายของท่านจะเพิ่มขึ้นห้าเท่าจากความเร็วปกติ]
“ห้าเท่าเลยหรอ? ค่อนข้างเยอะทีเดียว ไม่เลวๆ”
เขารู้สึกว่าสกิลนี้ค่อนข้างทรงพลังทีเดียว มันสามารถเพิ่มความทนทานในการต่อสู้ระยะยาวให้กับเขาได้ไม่น้อย
แน่นอนว่าแม้จะดีใจอยู่แต่เขาก็ไม่ได้ลดการ์ดลง ยังไงซะเขาก็กำลังถูกอะไรบางสิ่งบางอย่างที่มองไม่เห็นไล่ตามอยู่ อีกฝ่ายเห็นได้ชัดเลยว่าไม่ได้มีเจตนาดี
“สงสัยจริงๆว่ามันคืออะไรกันแน่ คงต้องระวังกรณีที่ถูกลอบโจมตีซะแล้วสิ...”
ด้วยค่าสถานะจิตวิญญาณที่ค่อนข้างสูงโจวเฉินจึงค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในระยะ10เมตรรอบตัวเขา ถ้าลองเพ่งจิตรับรู้ดีๆเขาก็สามารถตรวจพบอีกฝ่ายได้ถ้าอยู่ในระยะ30เมตรเสียด้วยซ้ำแต่ถ้าอยู่ไกลกว่านี้ก็ยากจะยืนยันแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังให้มาก
โจวเฉินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เขามุ่งหน้าต่อไปในอุโมงค์ด้วยความระมัดระวัง ทุกๆย่างก้าวเขาก็จะตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆตัวไปด้วยเผื่อว่าจะเห็นอะไรผิดปกติ
ราวๆสิบห้านาทีต่อมาเขาก็พบกับฝูงมอนสเตอร์เข้าอีกกลุ่ม
ครั้งนี้มีมอนสเตอร์ทั้งหมดหกตัว พวกมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทหนูที่มีขนาดเท่ากับแมวตัวโต ดวงตาเล็กๆของพวกมันเปล่งแสงสีแดงออกมาจากส่วนลึกของถ้ำและเมื่อพวกมันสังเกตุเห็นเขาพวกมันก็พุ่งเขาใส่อย่างไม่รีรอ
โจวเฉินที่เห็นดังนี้ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขาเพิ่มความเร็วของตัวเองและพุ่งสวนกลับไปเพื่อเข้าปะทะแบบหนึ่งต่อหกอย่างไม่เกรงกลัว
จากนั้นเขาก็เริ่มจากการฟาดหัวของมอนสเตอร์หนูตัวแรกที่กระโดดเข้ามาหาที่ตายด้วยท่อนเหล็กในมือ จากนั้นเขาก็เตะมอนสเตอร์อีกตัวกระเด็นออกไปแล้วปล่อยหมัดซ้ายไปอีกฝั่งอัดร่างของมอนสเตอร์อีกตัวจนกระเด็นไปติดผนังถ้ำ
หลังจากจัดการพวกมันไปได้สามตัวโจวเฉินก็ใช้ความคล่องตัวหลบเลี่ยงการโจมตีจากอีกสามตัวไปได้อย่างสบายๆ ในเวลาเดียวกันท่อนเหล็กในมือของเขาก็ถูกเหวี่ยงลงไปอีกครั้ง
ท้ายที่สุดแล้วมีเพียงกางเกงของโจวเฉินเท่านั้นที่ดูเหมือนจะโดนกัดไปเล็กน้อย นอกจากนั้นก่อนที่พวกมันจะได้สัมผัสกับร่างกายของเขาพวกมันก็ต้องลงไปนอนแน่นิ่งบนพื้นเสียก่อนแล้ว
ยังไงก็ตามโจวเฉินกลับไม่ได้ยินดีเลย ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้สกิลติดตัวหรือไอเทมดรอปเลยแม้แต่อย่างเดียว อาจจะกล่าวได้ว่าเขาลงแรงไปแบบเสียเปล่าก็ว่าได้
“ระบบห่านี่ขี้งกชิบหาย! ฆ่ามอนสเตอร์ไปตั้งหกตัวแต่ไม่มีกระทั่งของดร็อป? อย่างน้อยถ้าไม่ให้สกิลติดตัวมาขอแค่มีดซักเล่มก็ยังดีนะ...”