Chapter 14 : องค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกร
หลังจากเดินมาซักพักโจวเฉินก็กลับมาถึงห้องเดี่ยวของเขา
พอเข้ามาในห้องเขาก็เริ่มตรวจสอบไอเทมภายในพื้นที่แลกเปลี่ยนของระบบเพื่อหาหน้ากาก
หลังจากตรวจสอบก็พบว่าภายในพื้นที่แลกเปลี่ยนภูมิภาคจักรวรรดิมังกรมีหน้ากากวางขายอยู่เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นแต่ราคาของพวกมันค่อนข้างสูงมาก พวกมันแต่ละชิ้นล้วนมีราคาเป็นแสนเหรียญมังกรทั้งนั้นหรือไม่ก็ต้องเอาไอเทมระดับทองแดงขั้นกลางมาแลก
“ไปดูภูมิภาคอื่นบ้างดีกว่า”
ในเมื่อหาหน้ากากที่เหมาะๆภายในภูมิภาคจักรวรรดิมังกรไม่ได้เขาจึงเข้าไปตรวจสอบตลาดของภูมิภาคอื่นบ้าง ยกตัวอย่างเช่นจักรวรรดิเหยี่ยวและจักรวรรดิหมี ยังไงก็ตามหลังจากค้นหาอยู่รอบนึงเขาก็ต้องประสบกับความยากลำบากเนื่องจากตัวเขาไม่ค่อยคุ้นกับภาษาของจักรวรรดิพวกนี้มากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจคำอธิบายของผู้ขายเลยแม้แต่น้อยและแม้จะมีหน้ากากวางขายแต่ราคามันก็ไม่ได้ต่ำเลยเช่นเดียวกัน
“ไอ้หน้ากากกะลั่วๆพวกนี้นี่โคตรแพงเลย ไม่ซื้อดีกว่า...ค่อยรอเข้าไปหาเอาในดันเจี้ยน”
โจวเฉินรู้สึกไม่พอใจนักและตัดสินใจว่าจะไม่ซื้อหน้ากากจากในพื้นที่แลกเปลี่ยนอีก
“เดี๋ยวสิ ถึงแม้จะเอาหน้ากากเข้าไปในดันเจี้ยนไม่ได้แต่ก็น่าจะทำหน้ากากผ้าง่ายๆและเย็บมันติดกับเสื้อเอาไว้ได้นี่ ถ้าสำเร็จล่ะก็...”
เขาจำได้ว่าระบบอนุญาตให้นำเสื้อผ้ากับรองเท้าที่ติดตัวอยู่ติดไปยังโลกดันเจี้ยนได้ โจวเฉินรู้สึกว่าเขาน่าจะมองเห็นช่องโหว่ของกฎของระบบเข้าแล้ว
“เราน่าจะไม่ใช่คนแรกที่คิดวิธีการนี้ได้ ลองตรวจสอบในฟอรั่มดูก่อนดีกว่า”
จากนั้นเขาก็เปิดฟอรั่มของภูมิภาคจักรวรรดิมังกรขึ้นมาและเริ่มค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวกับหน้ากากและเสื้อผ้า
หลังจากอ่านอยู่ซักพักเขาก็ได้ข้อสรุป มีเซอร์ไวเวอร์บางคนเคยลองทำแบบนี้มาแล้วแต่ก็ล้มเหลว สิ่งใดก็ตามที่ถูกเย็บติดกับเสื้อในภายหลังจะถูกระบบกรองทิ้งทั้งหมด!
[“หลังจากลองอยู่หลายครั้งฉันก็พบว่าระบบโคตรจะเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า – รองเท้าเลย ถ้าพวกนายปรับปรุงหรือแก้ไขเสื้อผ้าเยอะเกินไปอย่างเย็บเครื่องประดับต่างๆติดไปด้วยระบบก็จะส่งนายไปในสภาพเปลือยกายเลยด้วยซ้ำ”]
[“มีครั้งหนึ่งที่ฉันลองใส่ชุดเกระเหล็กทำเองเข้าไปในดันเจี้ยนดู ท้ายที่สุดฉันก็ถูกปลอกจนตัวเปล่า จากนั้นฉันก็ลองใส่เสื้อผ้าหกชั้นเข้าไปอีกระบบมันก็ลอกห้าชั้นแรกทิ้งไปจนหมด...ดังนั้นฉันจึงขอแนะนำให้ทุกคนอย่าได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้วุ่นวายจะดีกว่าเดี๋ยวของจะเข้าตัวเปล่าๆ ใส่แค่เสื้อผ้าที่คล่องตัวและทนทานเข้าไปก็พอ”]
โพสต์นี้มาจากเซอร์ไวเวอร์สวมหน้ากากระดับทองแดงขั้นกลางคนหนึ่งภายในฟอรั่มภูมิภาคจักรวรรดิมังกร โจวเฉินค่อนข้างเชื่อว่าโพสต์นี้น่าจะเป็นเรื่องจริงจึงทิ้งความคิดที่จะเย็บหน้ากากติดกับเสื้อเข้าไปในดันเจี้ยนด้วยไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาก็อ่านโพสต์ต่างๆของฟอรั่มในจักรวรรดิมังกรไปเรื่อยๆ จากนั้นเขาก็เห็นว่ามีโพสต์ที่โด่งดังเป็นอย่างมากที่ถูกดันจนขึ้นไปติดท็อปโพสต์อยู่โพสต์หนึ่ง
[การก่อตั้งองค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกรและฉันในฐานะผู้อำนวยการ]
โจวเฉินกดเข้าไปในหัวข้อนั้นทันทีที่เห็นเพราะถ้าเนื้อหาภายในเป็นเรื่องจริงมันก็นับเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับเขาเช่นกัน
[“สวัสดีทุกๆคนผมมีชื่อว่าหลี่กัวเหลียง เดิมทีแล้วเป็นทหารหน่วยรบพิเศษธรรมดาๆภายในจักรวรรดิมังกรเท่านั้น แต่วันนี้ผมได้รับมอบหมายหน้าที่อันหนักอึ้งมาจากคนระดับสูงของจักรวรรดิมังกร ตัวผมได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการขององค์กรที่ก่อตั้งขึ้นใหม่อย่างองค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกรและจะรับผิดชอบเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเซอร์ไวเวอร์ทุกเรื่อง”]
[“อย่างที่ทุกๆคนเห็นผมเองก็เป็นเซอร์ไวเวอร์เหมือนกัน สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือผมถูกระบบเลือกก่อนพวกคุณส่วนใหญ่ซะด้วยซ้ำ ผมผ่านภารกิจเซอร์ไววัลมาแล้วมากกว่า30ภารกิจ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นก็น่าจะขยับไปเป็นระดับทองแดงขั้นสูงในอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้าแล้ว”]
[“ที่ออกมาพูดไม่ใช่เพื่อมาโชว์ว่าผมทรงพลังหรืออาวุโสกว่า แค่อยากจะบอกกับทุกๆคนว่าผมเองก็ไม่ต่างจากพวกคุณ เป็นแค่คนน่าสังเวชคนหนึ่งที่ต้องทนทรมานจากสิ่งเหนือธรรมชาติที่มาจากไหนก็ไม่ทราบ ผมจึงเข้าใจความเจ็บปวดและความหวาดกลัวของพวกคุณเวลาต้องเข้าไปทำภารกิจเซอร์ไววัลเป็นอย่างดีและสามารถดูแลพวกคุณได้แน่นอน”]
[“จากนี้ไปผมจะขอพูดเกี่ยวกับท่าทีอย่างเป็นทางการของจักรวรรดิมังกรที่มีต่อระบบและเหล่าเซอร์ไวเวอร์”]
[“อย่างแรกสุดพวกคุณทั้งหมดที่เป็นคนของจักรวรรดิมังกรสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิและหน้าที่ภายในจักรวรรดิมังกรได้ตามอัธยาศัย ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจักรวรรดิมังกรจะใช้วิธีการใดมากดขี่พวกคุณ จักรวรรดิมังกรจะมองว่าพวกเราเป็นประชาชนไม่ต่างกัน”]
[“ตามคำแนะนำของคนระดับสูงภายในจักรวรรดิ องค์กรของเราจะขอรับสมัครกลุ่มเซอร์ไวเวอร์ หน้าที่หลักของพวกคุณก็คือการช่วยเหลือแผนกวิจัยของจักรวรรดิมังกรในการศึกษาระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดและจัดการกับคดีที่เกี่ยวข้องกับเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆ ใครที่สนใจโปรดเพิ่มผมเป็นเพื่อนเพื่อสมัครเข้ามาได้เลย”]
[“เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณได้รับการยอมรับจากองค์กรพวกคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ผลประโยชน์หลักๆที่พวกคุณจะได้มีดังต่อไปนี้”]
[“1. เงินเดือน1,000เหรียญมังกรต่อวัน อาหาร ที่พักรวมไปถึงการรักษาพยาบาล”]
[“2. เสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำจากเส้นใยที่มีความหนาแน่นสูงฟรีและหลังจากที่แผนกวิจัยสามารถวิจัยของใหม่ๆออกมาได้พวกคุณก็สามารถใช้ได้ฟรีเช่นกัน”]
[“3. ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณทางครอบครัวของคุณจะได้รับค่าสินไหมเป็นจำนวนมากและการดูแลในระยาวจากทางรัฐบาล”]
[“4. ....”]
โจวเฉินอ่านหัวข้อนี้จนจบในเวลาไม่นาน จากนั้นเขาก็หยิบมือถือออกมาตรวจสอบ ไม่นานนักเขาก็เห็นประกาศเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรเซอร์ไวเวอร์บนเว็บไซต์และการแต่งตั้งหลี่กัวเหลียงขึ้นเป็นผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการ
เมื่อเขากดเข้าไปในเว็บไซต์ทางการขององค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกรเขาก็พบกับโพสต์ที่คล้ายกันกับที่อยู่ในฟอรั่มของระบบ
“เรื่องนี้คงเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ ท่าทีของจักรวรรดิมังกรดูเหมือนจะเกินกว่าที่เราคิดไว้ซะแล้ว”
ทีแรกโจวเฉินคิดว่าจักรวรรดิมังกรจะจัดการตรวจสอบเซอร์ไวเวอร์และจับตาดูปัจจัยไม่แน่ไม่นอนเหล่านี้เท่านั้น แต่มาตอนนี้ดูเหมือนทางรัฐบาลของจักรวรรดิมังกรจะไม่ทำเช่นนั้น กลับกันด้วยซ้ำเพราะพวกเราเลือกจะใช้มาตราการสุภาพและประกาศรับสมัครเซอร์ไวเวอร์เพื่อช่วยเหลือในแผนกวิจัยอย่างเป็นทางการ
“น่าจะเป็นเพราะจำนวนของเซอร์ไวเวอร์ที่มีมากเกินไปและพวกเขาต่างก็มีความสามารถในการปกปิดตัวตนและศักยภาพในการเติบโตอันยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีเซอร์ไวเวอร์หน้าใหม่ปรากฏขึ้นมาเสมอๆ ทำให้ทางการเองรู้สึกว่าคงจะดีกว่าถ้าใช้วิธีการนุ่มนวลสินะ?”
โจวเฉินคิดเกี่ยวกับทัศนคติของรัฐบาลแห่งจักรวรรดิมังกรและรู้สึกว่าท่าทีของพวกเขามันพอจะเข้าใจได้ไม่ยาก
แน่นอนว่าอาจจะมีความไม่มั่นคงและอันตรายจากเซอร์ไวเวอร์อยู่บ้างเนื่องจากจำนวนของพวกเขาที่มีมากมายแต่ว่าเซอร์ไวเวอร์หน้าใหม่จะโผล่มาทุกวันและก็ไม่ง่ายเลยที่จะระบุตัวตนของพวกเขา นอกจากนี้ยังอาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ถ้าเซอร์ไวเวอร์โกรธขึ้นมาและทั้งหมดที่ว่ามานั้นล้วนไม่เป็นผลดีต่อการวิจัยระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดของพวกเขาเลย
“เป็นแบบนี้ก็อาจจะดีแล้ว แบบนี้เราก็คงไม่ต้องไปซ่อนตัวที่ต่างประเทศแล้วแถมยังสามารถพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างสงบอยู่ที่นี่ได้ด้วย”
โจวเฉินยินดียิ่งนักกับนโยบายเรื่องเซอร์ไวเวอร์ของทางจักรวรรดิมังกร ถ้าท่าทีของจักรวรรดิมังกรที่มีต่อเซอร์ไวเวอร์มันเข้มงวดเกินไปสถานการณ์ของเขาก็อาจจะยากลำบากกว่านี้
“การดูแลขององค์กรเซอร์ไวเวอร์แห่งจักรวรรดิมังกรเองก็ดูเหมือนจะดีไม่น้อย พวกเขาคำนึงถึงสิ่งจำเป็นทุกๆด้านเอาไว้แล้วด้วยซ้ำ แต่ถึงฉันจะสนใจแต่ก็ไม่คิดจะเข้าร่วมหรอก”
กล่าวตามตรงโจวเฉินถูกข้อเสนอขององค์กรเซอร์ไวเวอร์ดึงดูดใจไปไม่น้อยแต่นิสัยของเขาถูกลิขิตให้ไม่ใช่คนที่ชอบถูกผูกมัดเอาไว้นัก ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าร่วมกับอีกฝ่ายเว้นเสียแต่ว่าจะไม่มีทางเลือก
หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายเรื่องเซอร์ไวเวอร์อย่างเป็นทางการแล้วเขาก็ไปตรวจสอบสถานการณ์ของต่างประเทศดูบ้าง จากนั้นเขาก็พบว่าทางต่างประเทศยังไม่มีนโยบายใดๆเกี่ยวกับเซอร์ไวเวอร์ประกาศออกมาแต่บริษัทใหญ่ๆหลายแห่งดูเหมือนจะได้รับผลลัพธ์ดีๆจากการวิจัยไอเทมของระบบกันพอสมควร
“ดูเหมือนการมาของระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดจะส่งผลกับดาวสีน้ำเงินแห่งนี้มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ ในอนาคตเทคโนโลยีต่างๆอาจจะพัฒนาไปไกลยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้....”
โจวเฉินอดคิดกับตัวเองไม่ได้