ตอนที่แล้วตอนที่ 371 คำแนะนำของถังโฉ่ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 373 อสูรพลังงาน

ตอนที่ 372 เข้าเมือง


“ตราบเท่าที่เรายังคงมุ่งหน้าต่อไป  จะต้องพบกับคนแน่นอน

“หุบปากไปเลยเจ้างี่เง่า!  เราเดินมาเกินกว่าเจ็ดชั่วโมงแล้ว  แม้แต่ผมของมนุษย์สักเส้นก็ยังหาไม่พบ”

“ผมของมนุษย์อะไร?  ใช่ผมบนหัวของมนุษย์หรือเปล่า?”

“เจ้ากำลังจะฆ่าข้า!”

อาเฮ่อมองดูอย่างจนใจขณะที่ทั้งสองทะเลาะกันเขาปาดเหงื่อและชำเลืองมองดูหลิงซิ่วด้วยความเห็นใจ  อีกคนเป็นเหมือนกับสัตว์ป่าแบกตู้อควาเรียสเงินสามสิบสองใบได้อย่างง่ายดาย และยังมีพลังมากพอหาเรื่องทะเลาะต่อได้  แต่เจ้าเหนื่อยจัดราวสุนัขหอบแดดก็ยังอุตส่าห์ใช้พลังงานที่มีค่าของเจ้าไปด่า เพื่อ..

แต่ดูเหมือนตัวข้าเองก็ไม่มีอะไรดีกว่า...ไม่เพียงแต่ร่างกายของข้าแทบจะพังเท่านั้นใจของข้าแทบจะพังทลายเพราะพวกเจ้าทั้งสองคน...

ชีวิตคือการอดทนอย่างหนัก  อาเฮ่อร้องในใจ

“ดูข้างหน้า!  ดูข้างหน้าสิ! เร็วข้าเร็วๆ”

ถังเทียนตะโกนอย่างตื่นเต้นทำให้อาเฮ่อที่กำลังรู้สึกเสียใจอยู่ในใจเงยหน้าและสะดุ้ง

หลิงซิ่วที่อยู่ด้านข้างหัวเราะเหมือนคนบ้า  “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!  รอดตายแล้วเฮ้ย!”

ในที่ไกลออกไปเมืองแห่งหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา

“เอ่, เมืองนี้ดูเหมือนจะเพิ่งระเบิดมานะ!” ถังเทียนชี้พื้นที่สีดำของเมือง “ดูนั่นสิ?”

“น่าเสียดาย”อาเฮ่อพูดอย่างไม่มีความหมายอะไร จากนั้นกล่าวทันที “รีบเข้าเมืองกันเถอะ”

หลิงซิ่วผงกหัวหงึกหงักติดต่อกันเหมือนไก่จิกอาหารบนพื้น

ถังเทียนถามด้วยความสับสน  “พวกเจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ?  ทำไมพวกเขาเป็นแบบนั้น?”

“ไม่ต้องสงสัยเลย”  อาเฮ่อตอบอย่างเย็นชา  เขาปาดเหงื่อ ฝีเท้าของเขาหนักขึ้นทุกที

“ทำไมล่ะ? หลุมมหึมานั่นต้องเป็นการระเบิดครั้งใหญ่  ถึงได้งกลายเป็นแบบนั้น  นั่นมันน่าประหลาดจริงๆ”  ถังเทียนพูดอย่างตกใจ

อาเฮ่อทำเหมือนเขาไม่ฟัง  เขาต้องการสงวนพลังงานของเขาเอาไว้

หลิงซิ่วมีปฏิกิริยาแต่ไม่พูดอะไรสักคำ

“มีอะไรที่น่าสนใจในชีวิตของเจ้าบ้างไหม?  ไม่สงสัยหรือสนใจในโลกนี้บ้างหรือ?  ข้าเข้าใจมิน่าเล่าพวกเจ้าถึงกลายเป็นหนุ่มชาวฟ้าไม่ได้ พวกเจ้าไม่รู้จักสงสัยเรื่องราวในโลกเอาเสียเลย...”  ถังเทียนยังคงบ่นกระปอดกระแปด

อาเฮ่อ  “......”

หลิงซิ่ว“......”

เมื่อย่างเท้าเข้ามาในประตูเมือง  อาเฮ่อและหลิงซิ่วดูเหมือนมีน้ำตาไหลนองแก้ม

อาเฮ่อหยุดถามคนสัญจรและถามอย่างสุภาพ  “ขอโทษนะหอการค้าที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่อยู่ตรงไหน?”

“หอการค้าที่ใหญ่ที่สุดน่ะหรือ?”  คนผ่านทางตอบโดยไม่ลังเล  “นั่นคือสมาคมหอการค้าเทพธิดา  แค่เดินไปตามถนนนี้ พอถึงท้ายถนนเลี้ยวซ้ายเจอร้านแรกก็ใช่เลย”

“ขอบคุณ!”  อาเฮ่อขอบคุณเขาทันที

“ข้าหิว, ไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ”ถังเทียนพูดขณะที่น้ำลายหก

“ไม่!” อาเฮ่อและหลิงซิ่วต้องการกำจัดซากที่แบกอยู่โต้แย้งขึ้นพร้อมกัน  ความตั้งใจของพวกเขาแข็งแกร่งดุจเหล็ก

เมื่อทั้งสามาคนมาถึงสมาคมหอการค้านางฟ้า  พวกเขาตระหนักว่าที่ทางเข้ามีคนอยู่แน่น  มีเสียงต่อสู้รุนแรงภายใน  เสียงดัง ปัง ปัง ปัง ดังในครู่ต่อมาคนสองสามคนปลิวออกมาจากร้าน หน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด

สิวฟานหน้าซีดขาวฝ่ามือข้างหนึ่งของคู่ต่อสู้ฟาดใส่อกเขา พลังชีวิตในกายเขาเหือดหายอย่างรวดเร็วแต่ความเจ็บปวดและความเกลียดในหัวใจเขาแข็งแกร่งมาก เขาชี้ฝ่ายตรงข้ามและเสียงสั่น

“น้องสามกุ้ย,ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าก็กลายเป็นสุนัขรับใช้ของสมาพันธ์ชาวยุทธไปด้วย!”

สมาพันธ์ชาวยุทธสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนทันที ทุกคนมีสีหน้าโกรธ แต่กุ้ยเสียงแสดงพลังทำให้ทุกคนไม่กล้าพูด

กุ้ยเสียงตอบอย่างเฉื่อยชา“พี่รองสีว์ ตอนนี้เจ้าดูสถานการณ์ไม่ออกหรือ? กลุ่มดาวอันโดรเมดาจะตายเร็วๆ นี้แอนเดรียนาบ้าไปแล้วและต้องการผลักดันให้กลุ่มดาวล่มสลายด้วยน้ำมือนาง  ข้าให้โอกาสเจ้าครั้งเดียว  ถ้าเจ้าแสดงความจงรักภักดีต่อนายท่าน...”

“เลวมาก!”  หัวใจของสิวฟานปวดร้าวและเขากล่าวไปสั่นไป  “น้องสามกุ้ย  นายผู้เฒ่าปฏิบัติกับเจ้าเป็นอย่างดี  เมื่อเจ้าต้องการเดินทางไปกลุ่มดาวมังกร  นายผู้เฒ่าก็ไม่ห้ามเจ้ายังออกค่าเดินทางที่มากมายให้เจ้าอีกด้วย ตอนนี้เขาชราและอ่อนแอ และเจ้ากลับพาศัตรูมาที่นี่  ข้าตาบอดจริงๆ”

ตาของกุ้ยเสียงปรากฏแววละอายแต่สีหน้าเขาหมองคล้ำและตอบอย่างไม่แยแสทันที “ถ้านายผู้เฒ่าอยู่ที่นี่  ทำไมเขาต้องปล่อยพวกเจ้าให้ทำตามเด็กผู้หญิงตาบอดที่ไม่รู้จักความแตกต่างระหว่างฟ้ากับดินและด้วยเล่า  พี่รองสิว เจ้าตาบอดจริงๆ มีตาไปก็ไร้ประโยชน์ ข้าจะช่วยเจ้าควักมันออกไปเอง”

พูดเพียงเท่านั้นร่างของเขาหายวับทันที

สองนิ้วที่ไวราวสายฟ้าแทงใส่ตาของสิวฟาน

ปราณแท้ของสิวฟานยังปั่นป่วน  เขากำลังจะตายและไม่มีแรงป้องกัน

ปิง

เสียงโลหะกระทบดังขึ้นสิวฟานสะดุ้งลืมตาทันทีภาพกระบี่เล่มหนึ่งเป็นประกายผ่านดวงตาของเขา

กุ้ยเสียงคาดไม่ถึงว่าจะมีคนโผล่ออกมากะทันหัน  เขายืมพลังสะท้อนกลับพลิกตัวกลางอากาศและกลับไปอยู่ประจำยังจุดเดิม

“เจ้าเป็นใคร?”

หัวใจของกุ้ยเสียงสั่นสะท้านกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามคล่องแคล่วว่องไวมาก เป็นคนที่มีประสบการณ์แน่

ยอดฝีมือ!

สิวฟานประหลาดใจและดีใจหรือว่าเป็นยอดฝีมือที่มาจากกลุ่มดาวนายพรานหรือกลุ่มดาวราชสีห์?

เมื่อเห็นชัดเจนหัวใจของสิวฟานก็ยิ่งมั่นใจ นักสู้แข็งแกร่งที่อายุเยาว์ขนาดนั้น  เขาต้องมาจากกลุ่มดาวนายพรานหรือกลุ่มดาวราชสีห์เป็นแน่

ยอดฝีมือของกลุ่มดาวอันโดรเมดาทั้งหมดถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว  แอนเดรียนาร่วมมือกับเจ็ดหอการค้าใหญ่ก่อตั้งสมาคมหอการค้าเทพธิดาและอยู่ในสภาพที่ไม่มียอดฝีมือดูแล ในอดีตสิวฟานไม่ใช่นักสู้ที่แข็งแกร่งจริงๆในกลุ่มดาวอันโดรเมดา  แต่ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าสมาคมหอการค้าเทพธิดาแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงไหน

โชคดี...

“เขามาจากสมาพันธ์ชาวยุทธ”  อาเฮ่อทำเหมือนกับไม่ได้ยินคำพูดของกุ้ยเสียงและหันไปบอกถังเทียนกับหลิงซิ่ว

กุ้ยเสียงยังคงสงบและสำรวมและพอใจในตัวเอง  ระดับเบื้องบนได้สัญญากับเขาไว้แล้ว  ถ้างานของเขาสำเร็จสวยงาม พวดเขาทุกคนจะสามารถเข้าสมาพันธ์ชาวยุทธได้และช่วยสู้เพื่อสมาพันธ์  สงครามระหว่างสมาพันธ์ชาวยุทธและกลุ่มดาวราชสีห์เริ่มขึ้นแล้ว ดังนั้นจะมีโอกาสมากมายนับไม่ถ้วนสำหรับเขาที่จะเข้าร่วมสมาพันธ์ชาวยุทธสะสมความดีความชอบและบรรลุผลสำเร็จบางอย่างในวันที่จะมาถึง

ผลประโยชน์สำคัญของสมาพันธ์ชาวยุทธถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในสวรรค์วิถี  แต่การรับคนเข้ามานั้นเคร่งครัด  เทียบกับสมาพันธ์ชาวยุทธแล้วกลุ่มดาวราชสีห์เป็นเหมือนขอทานยากไร้ที่ไม่มีอะไร  สำหรับกุ้ยเสียง  มันคือสงครามที่ไร้จุดหมายเพราะสมาพันธ์ชาวยุทธจะชนะในที่สุด

เขาสิ้นเปลืองความคิดนับไม่ถ้วนพยายามหาทางสายนี้และมีคนหนึ่งได้ยินว่าเขาคุ้นเคยกับกลุ่มดาวอันโดรเมดาและมอบโอกาสให้เขา

สำหรับยอดฝีมือผู้แข็งแกร่ง...

กุ้ยเสียงหัวเราะในใจ  จะมีคนมีฝีมืออีกมากเข้ามาจัดการพวกเขาเอง

“ฆ่าเขาซะ” ถังเทียนพูดเหมือนกับว่าเป็นเรื่องสมควรทำ สมาพันธ์ชาวยุทธคือศัตรูของทุกคน

เชียนฮุ่ยเคยพูดมาก่อนจัดการกับศัตรูให้เหมือนกวาดใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ไม่ต้องปราณี

“เจ้าต้องการให้ข้าลงมือไหม?”  หลิงซิ่วก้าวเข้ามาอย่างกระตือรือร้น

“ฆ่าข้าน่ะหรือ?” สีหน้าของกุ้ยเสียงเขียวคล้ำหัวเราะในใจต่อไป  ‘คำพูดหยิ่งยโสขนาดนั้น มันจะมากเกินไปแล้ว ท่ามกลางผู้คนสหายก็ยังอยู่กับข้า อย่างพวกเจ้าทั้งสามต้องการจะฆ่าข้าน่ะหรือ?  เลิกฝันได้แล้ว!”

ทันใดนั้นประกายเยือกเย็นสายหนึ่งปรากฏต่อหน้าเขา

ซี่.....

แย่แล้ว!  สีหน้ากุ้ยเสียงเปลี่ยน,เขาไม่มีเวลาตั้งตัว และรู้สึกว่าคอเย็นยะเยือก จากนั้นเลือดพุ่งออกมาบดบังสายตาเขา  ในที่สุดเขาก็ตั้งตัวได้ และมีแต่เสียงที่หลุดรอดออกมา“ไม่....”

คำพูดของเขาขาดหายไป  ศีรษะของเขาขาดโลหิตพุ่งออกมาจากลำคอของเขาศีรษะเขาตกอยู่ด้านข้าง  ร่างล้มกับพื้นเสียงดังเหมือนเสาไม้ล้ม

ไม่มีใครเห็นกระบี่!

หลูหรงอยู่ในกลุ่มคนรู้สึกหนาวยะเยือกไปทั้งตัวเหมือนกับว่าเขาตกลงไปในโรงน้ำแข็ง เขาไม่เห็นว่าคนผู้นั้นปล่อยกระบี่ออกมาอย่างไร  ในสถานการณ์แบบนั้น มีความเป็นไปได้ประการเดียวพลังของคนผู้นั้นแข็งแกร่งกว่าเขามาก!

เป็นไปได้ยังไง?

ยอดฝีมือของกลุ่มดาวอันโดรเมดาถูกกำจัดไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?

พวกเขามาจากกลุ่มดาวราชสีห์หรือ?

หลูหรงสั่นไปทั้งตัวสายตาของสหายเขามองมาทางเขา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาบังคับตนเองให้ใจเย็นและส่ายศีรษะ สถานการณ์เปลี่ยน ศัตรูมีพลังกล้าแข็งเกินกว่าเขาจะรับมือได้

กลุ่มดาววอันโดรเมดามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งในสิบเก้ากลุ่มดาวฟากฟ้าเหนือ และคนที่สมาพันธ์ชาวยุทธเจาะจงเลือกให้มาคุ้มครองในฟากฟ้าเหนือก็คือหลูหรง  แต่เขาเป็นแค่ผู้น้อยและไม่มีผู้หนุนหลังเดิมทีเขาต้องการสังกัดฉีซาน แต่พลังของเขาธรรมดา ฉีซานจึงไม่รับเขา เหตุการณ์ตามมาทำให้เขาตกตะลึง แต่เขายังคงมองเห็นโอกาสในนั้น

เขาอยู่ในสมาพันธ์ฯมานานและรู้ว่าสมาพันธ์จะรับมือหลายๆ สิ่งได้ยังไง

เผชิญหน้า!

สำหรับสมาพันธ์ชาวยุทธจะรับมือเรื่องเช่นนั้นได้ พวกเขาจะต้องแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้ทรงอิทธิพลอำนาจอันดับหนึ่ง

หลูหรงเริ่มวางแผนและเตรียมการ  พลังของตัวเขาเองก็แค่ระดับทั่วไป  บริวารของเขาไม่ใช่คนมีความสามารถ ความคิดของพวกเขามีแต่เพียงไปหานักสู้ภายนอก  และกุ้ยเสียงเป็นหนึ่งในนั้น

พลังของกุ้ยเสียงโดดเด่นมากและมีใจที่ทะเยอทะยาน  เป็นไปตามคาด พอมีผลประโยชน์เป็นเหยื่อล่อ  กุ้ยเสียงก็งับเหยื่อทันที

หลูหรงเป็นคนมากระแวง ดังนั้นเขาพาคนของเขาไปที่ทำการสมาคมเพื่อสืบเรื่องราว

เขาไม่คาดเลยว่าตนเองจะต้องมาพบนักสู้ผู้แข็งแกร่งขนาดนั้น!

พวกเขามาจากกลุ่มดาวราชสีห์หรือ?  พวกเขามาถึงเร็วเกินไป!  หลูหรงกลัวจัดจนไม่กล้าขยับ

บนอาคารสูงไม่ไกลนักคนสองคนสนทนาถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น

“กระบี่ที่รวดเร็วนัก!”  บุรุษหนุ่มผมทองอุทาน  เขามีรูปงาม ผมสีทองสลวยเงางามจับตา  เขามีร่างกายกำยำล่ำสัน โครงหน้าเด่นชัดจมูกโด่ง เขามีความมั่นใจในตนเองและมีราศีข่มขวัญ

“ดูเหมือนฝึกมาทางธาตุลม”  บุรุษวัยกลางคนนั่งอยู่ข้างเขา  สีหน้าเขาสงบ “การควบคุมของเขายังตื้นเกินไป แต่สำหรับวัยอย่างเขา หายากที่จะมาในระดับนี้ได้”

“ข้ายังคิดว่าการมาที่นี่คงจะน่าเบื่อ  แต่คาดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะมีเรื่องสนุก”บุรุษผมทองหัวเราะ “ถ้าเด็กหนุ่มอีกสองคนแข็งแกร่งเท่ากัน อย่างนั้นก็คงน่าสนใจ”

“ดูเหมือนว่าคุ้นๆเหมือนกับว่าเราเคยเห็นพวกเขามาก่อน” บุรุษวัยกลางคนขมวดคิ้ว พยายามระลึกบางอย่าง

ชายหนุ่มผมทองประหลาดใจ  “พวกเขาคือคนที่เรารู้จักหรือ?”

เขาคิดอย่างระมัดระวังชั่วขณะ  จากนั้นเคาะศีรษะตนเอง  “ข้านึกออกแล้ว  พวกเขาคือสามคนที่มาจากกลุ่มดาวหมาป่า  มิน่าเล่าข้าถึงได้รู้สึกคุ้นๆ นัก เอ่..พวกเขามาปรากฏตัวที่นี่ได้ยังไง? ตระกูลเย่ผนึกกลุ่มดาวหมาป่าไว้แล้วไม่ใช่หรือ?”

“เว้นแต่มีประตูดวงดาวบานหนึ่งเชื่อมถึงที่นี่?”บุรุษวัยกลางคนตาเป็นประกาย

ทั้งสองคนมองหน้ากันมีแววตื่นเต้นปรากฏในดวงตาพวกเขา

ประตูดวงดาวใดๆก็ตามมีมูลค่าเป็นจำนวนเงินมหาศาล และสำหรับประตูดวงดาวใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักยิ่งมีค่ามากกว่า  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะสงคราม  ประตูดวงดาวที่คู่ต่อสู้ไม่รู้จักสามารถเปลี่ยนชัยชนะในสงครามได้เลย

แม้ว่ากลุ่มดาวหมาป่าจะถูกผนึกไว้  แต่สำหรับกลุ่มดาวราชสีห์ย่อมไม่มีปัญหา

“น่าเสียดาย เราไม่พบแอนเดรียนา”  บุรุษผมทองรู้สึกเสียดาย  “ข้าต้องการเห็นสตรีผู้นี้จริงๆ  และดูว่านางจะรับมือสถานการณ์เช่นนี้ยังไง”

“เราจะได้เห็นกัน”  บุรุษวัยกลางคนพูดเฉื่อยชา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด