ตอนที่ 12-9 เทพอัญเชิญ
เพราะการปรากฏขึ้นของสนามพลังเทพ มหาพยุหะรบหกจุดจึงเสียกระบวนไปส่วนหนึ่งทำให้มหาพยุหะรบหกจุดล่มสลาย ทันทีที่พยุหะล่มสลาย บีบีฆ่าเซียนไปหนึ่งคนทันที
“ฮ่าฮ่า, มาเริ่มเข่นฆ่ากันเถอะ”
ถูลี่ซึ่งฝึกมาทางวิถีทำลายล้างตะโกนลั่นและแต่ละครั้งที่ดาบโค้งแดงในมือของเขาเปล่งประกายจะมีเซียนคนหนึ่งถูกฟันตาย
“ฆ่า!” บาร์เกอร์และน้องๆเซียนนักรบอมตะทั้งห้ามีสีหน้าท่าทางดุร้าย พวกเขาคำรามด้วยความโกรธกวัดแกว่งขวานยักษ์ขณะฟันใส่ร่างเซียนที่อยู่ใกล้พวกเขา
ขณะที่พ่อมดจอมเวทซาสเลอร์หัวเราะอย่างน่าสยองขวัญใช้พลังโจมตีวิญญาณขณะที่ออกคำสั่งภูตผีระดับเซียนทั้งแปดอย่างต่อเนื่องโจมตีเหล่าเซียนที่น่าสงสารของฝ่ายศาสนจักรเจิดจรัส “ตาย.. ตาย...พวกเจ้าชอบเข่นฆ่านักไม่ใช่หรือ? งั้นจงตายให้หมด”
สำหรับคนที่เร็วที่สุดในกลุ่มพวกเขา...ย่อมเป็นลินลี่ย์อย่างมิต้องสงสัย
แค่เพียงร่างของเขากระพริบลินลี่ย์ก็บุกเข้าหาท่านใบไม้ร่วง ถ้าพวกเขาได้พูดคุยกันว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในฝ่ายของศาสนจักรเจิดจรัส ความเห็นของลินลี่ย์ก็คือคนผู้นี้ ผู้นำจิตวิญญาณของกลุ่มโยคี ท่านใบไม้ร่วงร่างผอมเห็นลินลี่ย์บินเข้ามาเขาอดบินถอยหลังด้วยความตกใจและโกรธไม่ได้
“ท่านใบไม้ร่วงไม่ต้องหนี” เสียงของลินลี่ย์ดังขึ้นในใจของท่านใบไม้ร่วง
“ควั่บ!ประกายแสงสีม่วงสว่างวาบขึ้น
คมของแสงสีม่วงมีร่องรอยแสงสีฟ้าจาง ไม่ว่ากระบี่ม่วงกวาดผ่านไปที่ใด ดูเหมือนมิติจะเป็นตะเข็บริ้วขาดออกทันที ร่างของท่านใบไม้ร่วงเปล่งเส้นแสงสีขาวนับไม่ถ้วนต้องการพัวพันกระบี่เลือดม่วงนั้นแต่แทบจะทันทีที่แสงเหล่านั้นสัมผัสกับตะเข็บเล็กๆ ในมิติเหล่านั้นเส้นแสงสีขาวจะขาดทันที
“ฉัวะ!”
กระบี่เลือดม่วงฟันใส่ศีรษะของท่านใบไม้ร่วงโดยตรงเหมือนกับมีแนวเส้นบางปรากฏอยู่ในกลางกะโหลกของท่านใบไม้ร่วง กระบี่ผ่าผ่านกะโหลก แต่กะโหลกไม่ได้แยกขาดจากกัน เพียงแต่แนวเส้นเลือดตรงปรากฏอยู่ศีรษะของเขา
“ละ..ลินลี่ย์...” ท่านใบไม้ร่วงมองลินลี่ย์ ในขณะที่เขาจะตาย เขานึกย้อนไปถึงวันนั้น เมื่อกิลเยโมพาลินลี่ย์ไปขอเป็นลูกศิษย์เขา
ในเวลานั้น, ท่านใบไม้ร่วงปฏิเสธลินลี่ย์...
“ข้าเพียงแต่สอนคนที่มีหัวใจเมตตาและมีวิญญาณบริสุทธิ์ แต่เจ้า..หัวใจของเจ้าเต็มไปด้วยความต้องการจะฆ่ารุนแรง ข้าจะไม่สอนให้เจ้า”
เมื่อนึกย้อนกลับไปตอนนี้ ท่านใบไม้ร่วงรู้สึกขมขื่นในใจ
ความปรารถนาฆ่ารุนแรง?
ใครจะคิดกันเล่าว่าในที่สุดเขาจะต้องมาตายในเงื้อมมือลินลี่ย์
และจากนั้นสติของท่านใบไม้ร่วงก็สลายหายไป
ทันทีที่ฝ่ายของลินลี่ย์เริ่มสังหารหมู่กองกำลังของจักรพรรดิแสงสว่างไฮเดนส์ที่ยืนอยู่ทางเข้าวิหารเจิดจรัสก็เริ่มสั่นสะท้าน เขาสั่นไปทั้งตัว และจากนั้นเขาหันไปทางนักบวชหญิงชุดขาวด้านหลังเขาและสั่งทางใจ“เร็วๆ เข้า ไปขอให้ลอร์ดชิกิต้าออกมาเร็วๆ!!”
“เพคะ, ฝ่าบาท”นักบวชหญิงชุดขาวภายในวิหารเจิดจรัสวิ่งเข้าไปในวิหารด้วยความเร็วสูง
จักรพรรดิเจิดจรัสไฮเดนส์กระชับ ‘คัมภีร์เจิดจรัส’ จ้องมองดูภาพข้างบน ใจของเขาสั่นสะท้าน “ตาย พวกเขาตายหมด” หัวใจของไฮเดนส์เจ็บปวด เซียนที่ตายเหล่านี้คือเหตุผลที่ศาสนจักรเจิดจรัสสามารถรักษาอำนาจไว้ในทวีปยูลานได้
เซียนบางส่วนนี้อาจจะมีศักยภาพเหนือเขากลายเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้สักวัน
“สายไปแล้ว, มันสายไปหมดแล้ว” ไฮเดนส์รู้สึกถึงความเศร้าและความโกรธไร้ขอบเขตในหัวใจของเขา
“แต่... ยังคงมีความหวัง!” ไฮเดนส์กัดฟันกรอด “ตราบใดที่เราสามารถฆ่าลินลี่ย์นั้นหลังจากผ่านการฝึกฝนไปสักหลายร้อยปีก็จะรวบรวมกองทัพได้ไหม่ ศาสนจักรเจิดจรัสเราจะต้องเติบโตกล้าแข็งอีกครั้งแน่นอน”
หน้าของไฮเดนส์เปลี่ยน เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ “ใบไม้ร่วง!”
ในเวลานั้น ศพของท่านใบไม้ร่วงตกลงมาจากอากาศ
เนื่องจากความตายของท่านใบไม้ร่วง เซียนอีกยี่สิบแปดคนจากในสามสิบหกคนของศาสนจักรเจิดจรัสเริ่มทยอยตาย
เหลืออยู่เพียงแปด!
ระดับความเร็วที่พวกเขาถูกฆ่าทำให้สมาชิกของศาสนจักรเจิดจรัสที่เห็นกับตารู้สึกตกใจหวาดผวา
“ลินลี่ย์ผู้นี้...” ไฮเดนส์พบว่าน่าอัศจรรย์ คนที่ลินลี่ย์โจมตีคนต่อไปก็คือเลห์แมน ในที่สุดเลห์แมนก็หลุดจากสนามพลังเทพได้ ที่สำคัญสนามพลังเทพของนางยังไม่สมบูรณ์และสามารถกักเขาไว้ได้เพียงไม่กี่วินาที
“ลินลี่ย์!”เลห์แมนคำรามด้วยความโกรธ ใช้ไม้เท้าเต็มกำลังกระแทกใส่ลินลี่ย์
ที่ใดก็ตามที่ไม้เท้ากวาดผ่านไปมิติสั่นเป็นระลอก
“ตาย” ลินลี่ย์พูดอย่างใจเย็น
ประกายแสงสีม่วงชั่วร้ายกวาดผ่านไม้เท้าของเขาจนขาดเป็นสองท่อนทันที ที่ใดก็ตามที่ประกายแสงม่วงผ่านไปมิติจะฉีกขาดทันที ระลอกมิติที่ฉีกขาดผ่านร่างเลห์แมน และร่างที่สูงใหญ่โตของเขาขาดเป็นสองท่อน
ดาบมิติบั่นเศียร!
พอประกายกระบี่กวาดผ่านกะโหลกของเลห์แมนก็ระเบิด
ลินลี่ย์หันมาจ้องมองไฮเดนส์แต่ไกล
“ไฮเดนส์ ทีนี้ถึงคราวเจ้าบ้าง” เสียงของลินลี่ย์ดูเหมือนจะก้องผ่านสวรรค์
เพราะความตายของท่านใบไม้ร่วงและเลห์แมน เซียนที่อยู่ฝ่ายศาสนจักรเจิดจรัสที่เป็นเซียนระดับกลางและระดับต้นยังต่อต้านได้ตอนแรกพออยู่ต่อหน้ายอดฝีมืออย่างถูลี่ เดลี่และบีบีพวกเขาไม่มีความสามารถตอบโต้กลับได้แม้แต่น้อย
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเซียนทั้งสามสิบหกคนฝ่ายศาสนจักรเจิดจรัสก็ถึงกาลพินาศ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่หลบหนีได้
“ไฮเดนส์ เจ้ามีแผนอะไรซ่อนอยู่หลังวิหารเจิดจรัสใต้วงเวทศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัส?” ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศถือกระบี่เลือดม่วงถลึงตามองจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์
ครั้งหนึ่ง....
ในเมืองเฟนไลเด็กหนุ่มลินลี่ย์ต้องการจะปลงพระชนม์เคลย์กษัตริย์เฟนไลเพื่อล้างแค้นแทนบิดามารดา เวลานั้นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ยืนอยู่ในกลางอากาศเช่นกันได้ครอบงำและควบคุมสถานการจัดการลินลี่ย์ได้อย่างง่ายดาย
มีสมาชิกของศาสนจักรเจิดจรัสอยู่ภายในวิหาร แต่พวกเขาไม่มีที่ให้หนี
เศษซากหักพังของเกาะศักดิ์สิทธิ์ถูกทะเลล้อมรอบ ถ้าพวกเขาต้องการหนี พวกเขาต้องหนีลงทะเลไม่เห็นฝั่ง แต่ไม่มีใครสามารถต่อสู้ได้ แม้ว่าหนึ่งในฝ่ายนั้นเป็นเซียนจอมเวทสายธาตุลม,แต่ฝ่ายลินลี่ย์รวมทั้งภูตผีระดับเซียนก็มีจำนวนเกินสามสิบ พวกเขาจะไวพอหลบหนีได้ยังไง?
ทั้งหมดทำได้แต่เพียงซ่อนตัวอยู่ในวิหารเจิดจรัส
วิหารเจิดจรัสเป็นเพียงที่เดียวที่พวกเขาพึ่งพาได้
“ข้าจะทำยังไงดี? ข้าจะทำอย่างไรดี?” ไฮเดนส์กระวนกระวายมาก “วิหารเจิดจรัสไม่สามารถทนอยู่ได้นานแน่นอน
แหล่งสนับสนุนสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศาสนจักรเจิดจรัสก็คือมหาพยุหะรบหกจุด วงเวทศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัสเพียงแต่อาศัยอัญมณีเวทที่เก็บไว้ในวิหารเจิดจรัสเป็นพลังสนับสนุน และไม่สามารถทนต่อพลังโจมตีต่อเนื่องซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากเซียนฝ่ายลินลี่ย์ทั้งสามสิบกว่าตนแน่นอน
“ทำไมท่านลอร์ดชิกิตายังมาไม่ถึง?” ไฮเดนส์แตกตื่น
“เร็วเข้า เจ้าจงไปใต้ดินและขอให้ลอร์ดชิกิต้าออกมา” ไฮเดนส์สั่งในใจกับโยคีข้างหลังเขา
“พะยะค่ะฝ่าบาท” โยคีผู้นี้ก็กังวลเช่นกัน
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์จ้องมองกลุ่มของลินลี่ย์บินฉวัดเฉวียนอยู่ในอากาศ ทันใดนั้นหน้าของเขาเปลี่ยนเพราะเขาสังเกตว่าลินลี่ย์และเดเลียทั้งสองลงมาเงียบๆ ไม่มีใครอื่นพูดอะไร ความสนใจของทุกคนดูเหมือนจะเพ่งอยู่ที่คนทั้งสอง
“พวกเขากำลังร่ายคาถาแน่!” ไฮเดนส์สามารถบอกได้ทันที
“พวกเขาเป็นเซียนจอมเวททั้งคู่ ถ้าพวกเขาร่ายเวทต้องห้ามพร้อมกันและจากนั้นแต่ละคนโจมตีพร้อมกัน วิหารเจิดจรัสจะไม่สามารถต้านทานได้” ไฮเดนส์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นเหมือนมดที่อยู่บนกะทะร้อน ในตอนนี้เขาแทบจะบ้าคลั่งแล้ว
เขาหันศีรษะไปอีกครั้ง “ทำไมท่านลอร์ดชิกิต้ายังไม่มาอีก? เกิดอะไรขึ้น?”
ลอร์ดชิกิตาซึ่งไฮเดนส์ตั้งความหวังทั้งมวลไว้ยังไม่ปรากฏตัว
“ซี่.......”
ดาบมิติสีฟ้าเลือนรางขนาดมหึมา อย่างน้อยยี่สิบเมตรลอยออกมาจากลินลี่ย์แฝงด้วยคลื่นทำลายล้างพุ่งเข้าหาวิหารเจิดจรัส ด้านข้างเป็นดาบมิติของเดเลี่ยมีขนาดยาวห้าหรือหกเมตรลอยออกมาด้วยเช่นกัน
เวทคมมีดมิติทั้งสอง หนึ่งใหญ่ หนึ่งเล็กโจมตีพร้อมกัน
“คมมีดมิติใหญ่ขนาดนั้นได้ยังไง?” ทุกคนที่ซ่อนอยู่หลังวิหารเจิดจรัสรวมทั้งไฮเดนส์ รู้สึกตกใจกับภาพที่เห็น
เวทคมมีดมิติโดยทั่วไปจะยาวสามหรือสี่เมตร ถ้าพวกเขาร่ายได้ดาบยาวถึงห้าหรือหกเมตรนั่นจะต้องเป็นภาพที่เซียนจอมเวททุ่มเทพลังร่ายเวท
ยี่สิบเมตร?
พวกเขาจะนึกถึงได้ยังไงว่าลินลี่ย์มีสมบัติเทพที่เก็บกักพลังได้มากมหาศาลอย่างแหวนมังกรขนดคอยช่วยสนับสนุน?
“ชี่....” คมมีดมิติตัดผ่านผนังวิหารเจิดจรัสและวิหารเจิดจรัสเปล่งประกายวูบแสงศักดิ์สิทธิ์ฉายประกายออกมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อป้องกันเวทคมมีมิติ แต่คมมีดมิติที่ลินลี่ย์ร่ายมีพลังรุนแรงมากเกินไป
“ครืนนน”
ทั่วทั้งวิหารเจิดจรัสสั่นสะเทือนทันที หลายๆคนที่อยู่ในวิหารรวมทั้งไฮเดนส์ สังเกตได้ว่าผนังของวิหารเจิดจรัสเริ่มแตกร้าว
“วิหารเจิดจรัสไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว ทุกคนลงมือทำลายพร้อมกันเถอะ”
แต่เดเลียสังเกตว่าลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
“ลินลี่ย์ เกิดอะไรขึ้น?”
ลินลี่ย์จ้องมองรอยแตกร้าวของวิหารเจิดจรัสต่อหน้าเขามีอารมณ์ความรู้สึกซับซ้อนอยู่ในหัวใจเขา เขารอวันนี้มานานเพียงไหนแล้ว วันที่ทำลายศาสนจักรเจิดจรัส?
“ข้าไม่เป็นไร” ลินลี่ย์หัวเราะ “ฮืม..ไฮเดนส์นั่นกำลังทำอะไร?”
ไฮเดนส์เมื่อเห็นยอดฝีมือหลายคนพุ่งเข้ามา เขากัดฟัน จากนั้นคุกเข่าลงคัมภีร์เจิดจรัสที่เขาถืออยู่ในมือลอยขึ้นอากาศอยู่เหนือหัวไฮเดนส์ทันที และไฮเดนส์หมอบกราบแนบศีรษะกับพื้นทันที
ตลอดทั้งตัวไฮเดนส์เริ่มเปล่งแสงดวงตาสว่างเจิดจ้า
สายเลือดเลือนรางเริ่มไหลจากร่างของไฮเดนส์ย้อมชุดขาวของเขา ไฮเดนส์เงยหน้าดวงตาเขาฉายแสงสีทองไปที่คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์โดยตรง
“ข้าแต่องค์เทพ ขอรัศมีเทพของพระองค์จงฉายลงมากำจัดเจ้าพวกก้าวร้าวเหล่านี้ด้วยเถิด
เสียงของไฮเดนส์ชราภาพไม่มีใครเทียบได้
“ปัง!” ขณะนั้นเองวิหารเจิดจรัสภายใต้การผสานพลังโจมตีของเซียนสามสิบหก วงเวทป้องกันแตกสลายไปทันทีวิหารเจิดจรัสสูงเก้าชั้นพังทลาย และสมาชิกของศาสนจักรในวิหารนั้นต่างร้องคร่ำครวญ
แต่ขณะเดียวกันคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เริ่มเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าแสบตา แสงสว่างเจิดจ้าลอยอยู่ในอากาศเหนือหัวไฮเดนส์ กลายเป็นรูปดอกไม้กลีบทอง
ดอกไม้สีทองนี้ค่อยๆ คลี่กลีบเบ่งบาน
ลินลี่ย์ บีบี ถูลี่ เดลี่ เดเลียและยอดฝีมืออื่นมองภาพข้างหน้าอย่างระมัดระวัง พวกเขาเห็นว่าจากภายในดอกไม้กลีบทองบุรุษร่างกายล่ำสันเท้าเปล่าผมสั้นสีเงินและสวมชุดปอปรากฏตัวออกมาทันที พร้อมกับกวัดแกว่งหอกในมือ
รัศมีที่น่าสะพรึงกลัวเปล่งออกมาจากบุรุษเท้าเปล่าร่างกายล่ำสันผมสั้นผู้นี้
“เป็นเจ้า... เจ้าเป็นคนเรียกข้าหรือ?” บุรุษร่างล่ำสันควงหอกก้มหน้ามองดูไฮเดนส์ “เจ้าพวกนอกรีตอยู่ที่ไหน?”
ตาของไฮเดนส์เป็นประกาย และเขาชี้ไปที่กลุ่มของลินลี่ย์ทันที “ข้าแต่เทพผู้ทรงพลัง กลุ่มเซียนที่อยู่ต่อหน้าเราเป็นเดียรถีย์นอกรีตทั้งนั้น”
บุรุษร่างกายล่ำสันควงหอกยืนอยู่ในกลางอากาศและก้าวออกมาเพียงสองก้าว เขาก็เดินออกมาอยู่ที่นอกวิหารเจิดจรัสหันหน้ามองดูกลุ่มของลินลี่ย์
รัศมีที่บุรุษร่างล่ำสันควงหอกปล่อยออกมาทำให้ลินลี่ย์และเดลี่คุ้นเคยมาก
นี่คือรัศมีเทพ!
“ลินลี่ย์,นี่คือลักษณะของเทพจากแดนแสงศักดิ์สิทธิ์ ลักษณะของเทพจะสร้างขึ้นมาจากพลังงานและไม่ใช่ประกายเทพ พลังงานของพวกเขาพอๆกับเซียนสุดยอดและยังไม่ถือว่าถึงระดับเทพชั้นต้น” เสียงของเดลี่ดังขึ้นในใจลินลี่ย์
ลินลี่ย์สงบใจทันที
“อย่างไรก็ตาม เราจะต้องระวังไว้ แม้ว่าลักษณะที่มีขอบเขตจำกัดของโลกหยาบจนใช้พลังได้ระดับเซียนสูงสุดแต่ความเข้าใจเรื่องกฎธรรมชาติของพวกเขาเต็มพิกัด ถ้าร่างจริงของพวกเขาเป็นเทพชั้นสูง อย่างนั้นลักษณะที่ปรากฏจะต้องมีความเข้าใจกฎระดับเทพชั้นสูง!” เดลี่หน้าเครียด
แม้ว่าลักษณะจะมีจำกัดแค่เซียนชั้นสุดยอด แต่ถ้าลักษณะที่ปรากฏมีความเข้าใจระดับเดียวกับเทพชั้นสูง ก็มีแนวโน้มว่าแม้แต่เทพชั้นต้นก็มีแนวโน้มถูกฆ่าได้
บุรุษที่กวัดแกว่งหอกนั้นกวาดตามองดูกลุ่มลินลี่ย์ “ข้าเบลซาสองครักษ์อันดับสามใต้บัญชาการของลอร์ดเพลย์เกอร์ จงตายได้แล้ว เจ้าเดียรถีย์นอกรีต!” บุรุษร่างกายล่ำสันแทงหอกในอากาศและมาถึงต่อหน้าลินลี่ย์ทันที