ตอนที่ 12-14 การเยี่ยมเยือนจากเยล
มิถุนายน ศักราชยูลานที่ 10034เพลิงสงครามปะทุขึ้นอีกครั้งในทวีปยูลาน
จักรวรรดิยูลาน, จักรวรรดิโอเบรียนและจักรวรรดิบาลุคก่อตั้งความเป็นพันธมิตรและเริ่มทำสงครามใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมานานเป็นพันปี สำหรับจักรวรรดิโรฮอลท์ จักรวรรดิไรน์สหภาพศักดิ์สิทธิ์ สัมพันธมิตรมืดและทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลที่อ่อนแอ
ผู้นำจิตวิญญาณของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลเซียนสงครามถูลี่ได้รับคำเตือนของเทพสงครามและมหาพรตแล้วรู้ว่าเขาไม่สามารถต่อต้านแผนการใหญ่เหล่านี้ได้
นอกจากนี้ ถูลี่ยังเป็นหนี้ลินลี่ย์และถูลี่เองไม่ต้องการให้นักรบของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไม่มีประโยชน์ภายใต้การทำลายล้างของเวทต้องห้ามของเซียนจอมเวท ดังนั้นถูลี่จึงส่งศิษย์ที่เป็นเซียนไปพูดคุยสถานการณ์กับสามราชอาณาจักรของทุ่งราบใหญ่
แม้ว่าสามอาณาจักรจะไม่เห็นด้วยกับการยอมแพ้จักรวรรดิบาลุคทันที แต่พวกเขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะยอมจำนนทันทีในตอนนี้
ขณะที่สหภาพศักดิ์สิทธิ์และสัมพันธมิตรมืดชนชั้นระดับสูงของพวกเขาถูกกำจัด และพวกเขาไม่มีเซียนผู้แข็งแกร่งเหลืออยู่ สหพันธรัฐที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองเหมือนกองทรายพูนหลวมๆ
กองทัพหน่วยหนึ่งของจักรวรรดิโอเบรียนผ่านไปเส้นทางด้านเหนือเลียบแนวเทือกเขาอสูรศักดิ์สิทธิ์และเข้าสู่สหภาพศักดิ์สิทธิ์ ราชอาณาจักรและแคว้นใหญ่น้อยของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีข่าวกรองรายงานเป็นอย่างดีได้ทราบข่าวว่าเกาะศักดิ์สิทธิ์ถูกทำลายและชนชั้นระดับสูงของศาสนจักรเจิดจรัสถูกกำจัด อาณาจักรแคว้นเหล่านี้เริ่มพบปะลับๆ กับตัวแทนของจักรวรรดิโอเบรียน
ความจริงเป็นทางจักรวรรดิโอเบรียนเองที่กระจายคำพูดเรื่องการทำลายล้างเบื้องบนของศาสนจักรเจิดจรัสออกไปต่างหาก
นอกจากนี้ นี่คือเรื่องจริง ผู้โชคดีรอดชีวิตของศาสนจักรเจิดจรัสไม่กี่คนไม่สามารถปิดบังได้ต่อให้พวกเขาต้องการทำก็ตาม เห็นได้ชัดว่า...สหภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่มีอะไรมากไปกว่าซากหักพังทางประวัติศาสตร์ไปแล้ว การเข้าพิชิตของจักรวรรดิโอเบรียนไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องของเวลา
อย่างน้อยตอนนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของเวลา
สำหรับสัมพันธมิตรมืด สถานการณ์ของพวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าสหภาพศักดิ์สิทธิ์เลย
แต่แน่นอน ศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงามีสมาชิกมากมายที่กระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน แม้ว่าสำนักงานใหญ่ของพวกเขาจะถูกทำลายไปก็ยังมีเซียนของพวกเขาเหลืออยู่สองสามคน พวกเขายังคงมีผู้จัดการระดับกลางอยู่อีกหลายคน ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดา
การปกครองมานานนับพันปีมีผลทำให้สองลัทธิศาสนานี้ยังมีอิทธิพลยิ่งใหญ่
ส่วนที่ยังเหลือของศาสนจักรเจิดจรัสและลัทธิเงาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยซีลล็อธของศาสนจักรเจิดจรัสยังไม่ยินดียอมแพ้
พลังศรัทธาของศาสนานับว่าแข็งแกร่งมากจริงๆ
การอาศัยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอ่อนโยนหรือนองเลือด ลัทธิศาสนาใหญ่ทั้งสองซึ่งอยู่รอดมาเป็นหมื่นปีจะรักษาเสถียรภาพภายในของตนได้บ้าง พวกเขาต้องการเตรียมตัวสู้รบกับจักรวรรดิยูลานและโอเบรียน จนกระทั่งห้วงเวลาสุดท้ายมาถึง พวกเขาไม่ต้องการยอมแพ้
ที่ฐานของเทือกเขาอสูรวิเศษ บนเส้นทางที่แห้งแล้งในมณฑลอาคเนย์ของจักรวรรดิโอเบรียน
ตัวประหลาดคนหนึ่งตัวคลุมด้วยชุดคลุมสีเขียวยืนอยู่ในถนนรกร้างเต็มไปด้วยหมอกกำลังจ้องมองไปโดยรอบ สิ่งเดียวที่สามารถเห็นได้จากภายในแขนเสื้อยาวเป็นคู่กรงเล็บมองดูคล้ายกับนิ้วซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนผู้นี้น่าจะแก่มาก
เพียงแต่...
ตาของเขาสีเขียวมันเหมือนกับนัยน์ตาหมาป่ายามราตรี
ด้านหลังเขา มีร่างอีกเก้าร่างอยู่ในชุดคลุมสีเงิน ชุดคลุมสีเงินขนาดใหญ่เหล่านี้คลุมร่างทั้งหมดที่ยืนอยู่ข้างหลังชายชราด้วยความเคารพเหมือนกับเป็นบ่าวทาส
“ทวีปยูลาน, งั้นนี่ก็คือทวีปยูลานสินะ...” เสียงชราดังทุ้มมาจากชายชราชุดคลุมเขียว
“แค่ก แค่ก...” เสียงไอดังจนได้ยิน ชายชราชุดคลุมเขียวดูเหมือนค่อนข้างอ่อนแอ
ทันใดนั้นชายหนุ่มรูปงามสองคนกำลังขี่ม้าปรากฏขึ้นพวกเขาควบม้าผ่านถนนเปลี่ยวร้างด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อชายหนุ่มทั้งสองเห็นบุรุษชุดเขียวและคนในชุดคลุมเงินลึกลับอีกเก้าคน พวกเขารู้สึกหนาวสะท้านถึงหัวใจ
ชายหนุ่มทั้งสองนี้ตั้งใจจะดึงม้าหลบไปด้านข้างและจากไปอีกฟากถนนด้วยความเร็วสูง
พวกเขาไม่ต้องการเข้าใกล้คนลึกลับพวกนี้มากเกินไป
“มนุษย์...” เมื่อเห็นชายหนุ่มทั้งสองคนตาของชายชราชุดยาวสีเขียวเป็นประกายวาบ เขาผอมมากจนไม่มีอะไรมากไปกว่าหนังหุ้มกระดูก และเมื่อกรงเล็บเหมือนกระดูกของเขากางออกพลังที่แปลกประหลาดมองไม่เห็นพันธนาการบุรุษหนุ่มทั้งสองไว้
“อ๊าคคค!” “อ๊าคคค”
บุรุษหนุ่มทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกับว่าไม่สามารถขยับได้อีกต่อไปและจากนั้นพวกเขาเริ่มลอยขึ้นในอากาศ ร่างของพวกเขาไม่อยู่การควบคุมของตัวเองอีกต่อไป พวกเขาพุ่งเข้าหาชายชราชุดเขียวราวกับลูกธนู จนต้องร้องออกมาอย่างหวาดผวา
“กร๊อบ!” “กร๊อบ!”
มือทั้งสองคว้ากะโหลกของบุรุษทั้งสองที่เริ่มสั่นสะท้านไม่หยุดร่างของพวกเขากระตุกเหมือนกับว่ากำลังชัก
“โอว, เทพสงคราม, มหาพรต?และนักรบเลือดมังกรนั่นน่ะหรือ?” ชายชราพึมพำกับตนเองและจากนั้นเปลี่ยนสายตามองเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่มที่กำลังชักกระตุก “เด็กที่น่าสงสาร ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปชั่วนิรันดร์”
จากนั้นร่างของบุรุษหนุ่มทั้งสองร่วงลงพื้น แต่ร่างของพวกเขาไม่มีประกายชีวิตเหลืออยู่อีกต่อไป พวกเขาตายแล้ว
“น่าเสียดาย วิญญาณสองดวงนี้อ่อนแอเกินไป การดูดกินวิญญาณสองดวงนี้ให้ประโยชน์กับข้าเล็กน้อย”เสียงชายชราถอนหายใจอย่างพอใจ
สูบกินวิญญาณ?
ถ้าใครอื่นอยู่ใกล้และได้ยินคำพูดนี้พวกเขาคงได้หวาดผวาเป็นที่สุด
แต่บุรุษชุดคลุมสีเงินด้านหลังเขายังคงเงียบรออยู่อย่างเคารพ
“ทวีปยูลานกำลังจะเริ่มเข้าสู่ยุคสงครามใหญ่นี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมของพวกเจ้าทุกคน ไปเลย เด็กๆ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง” เสียงชราภาพของบุรุษชุดเขียวดังขึ้นและร่างในชุดคลุมเงินทั้งเก้าคุกเข่าลงกันหมด “ขอรับ, ท่านผู้วิเศษ!”
และจากนั้น...
“ควั่บ” “ควั่บ”
ร่างในชุดคลุมทั้งเก้ากลายเป็นจุดสีเงินเก้าจุดหายลับขอบฟ้าไปในทันที พวกเขาไวมากขนาดถ้าลินลี่ย์และเดลี่เห็นพวกเขาก็คงจะรู้สึกประหลาดใจ
“ทวีปยูลานหมื่นปีแล้ว.. เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว” บุรุษชราชุดเขียวระบายลมหายใจเงียบๆ “ก่อนอื่น ข้าต้องฟื้นฟูพลังเสียก่อน เมื่อข้ามีโอกาส จากนั้นข้าจะไปเยี่ยมเยือนลอร์ดเบรุต” และทันใดนั้นชราชราชุดเขียวกลายเป็นภาพเลือนรางและหายไป
จักรวรรดิบาลุค ปราสาทเลือดมังกร ห้องโถงใหญ่
“พี่ใหญ่เยล, ท่านมาผิดเวลาไปหน่อย สองสามเดือนก่อนพี่ใหญ่ข้าเริ่มขังตัวฝึกฝีมือ” วอร์ตันพูดกับผู้ที่มาเยี่ยมอย่างจนใจ”
“น้องสามเข้าฝึกสมาธิอีกแล้ว?” เยลขมวดคิ้ว
“เป็นอะไรไปหรือ? มีเรื่องอะไรบางอย่างหรือเปล่า? ทำไมท่านไม่ลองบอกให้ข้าฟัง ข้าอาจจะช่วยได้” วอร์ตันกล่าวพลางหัวเราะ เขารู้ว่าเยลกับลินลี่ย์สนิทกันเพียงไหน ดังนั้นเรื่องของเยลเขาจึงอดเกี่ยวข้องด้วยไม่ได้เป็นธรรมดา
เยลลังเลเล็กน้อย จากนั้นกล่าว “วอร์ตัน, ให้น้องสามออกมพบข้าเร็วๆ ได้ไหม?”
วอร์ตันพูดขออภัย “พี่ใหญ่เยล, ข้าเสียใจจริงๆ การขังตัวฝึกฝนครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน นี่ค่อนข้างจะสำคัญ แต่ก่อนจะเริ่มเข้าฝึกฝนพี่ใหญ่พูดคุยและสั่งไว้แล้วว่าเว้นแต่เกิดเรื่องสำคัญสุดขีดเราทุกคนไม่ได้รับอนุญาตให้รบกวนเขา ความจริงต่อให้ข้าเห็นด้วยยอมปล่อยให้ท่านพบพี่ใหญ่เรายังต้องได้รับอนุญาตจากท่านซาสเลอร์และคนอื่นอยู่ดี”
ปราสาทเลือดมังกรมองว่าการฝึกของลินลี่ย์เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีสัมพันธ์สนิทกับลินลี่ย์เพียงไหนพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับลินลี่ย์แน่นอน เว้นแต่ไม่มีทางเลือกอื่นเลย
“ถ้าเป็นอย่างนั้น...” เยลหยุดเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นวอร์ตัน, ข้าจะไม่รบกวนน้องสามแล้ว, อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีงานอื่นต้องไปดูแล ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย” เยลกล่าว
เท่าที่ปราสาทเลือดมังกรสงสัยคือการมาเยี่ยมเยือนของเยลเป็นแค่เรื่องเล็ก ไม่มีใครให้ความสนใจมาก
ในวันต่อมา
ในวังหลวงจักรวรรดิบาลุค
ซีน่าเดินทอดน่องอยู่ในอุทยานดอกไม้ยิ้มให้เยลที่กำลังรอเขาอยู่ที่นั่น “ท่านประธานเยล, ขอโทษจริงๆ ที่ข้าทำให้ท่านรอนาน ท่านประธานเยล, เชิญนั่ง” ซีน่าเมื่อได้ยินว่าเยลมาเยี่ยมก็วางงานทุกอย่างและมาพบเยลทันที
ที่สำคัญ, ซีน่ารู้ว่าเยลกับลินลี่ย์สนิทกันเพียงไหน
“จักรพรรดิซีน่า ข้าไม่รีบร้อน เรื่องของท่านสำคัญมากกว่า,ฝ่าบาท” เยลพูดทักทายอย่างสุภาพ
แม้แต่ตอนที่ซีน่ายังเด็ก เยลพบเจอเขาและหยอกล้อกับเขาขณะมาพบลินลี่ย์ด้วยก็ตามแต่ตอนนี้ซีน่าเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิแล้ว ภายในวังหลวง ทัศนคติของเยลยังต้องแสดงความเคารพและมีมารยาท
“ท่านประธานเยล, ไม่ต้องพิธีรีตองนักก็ได้ ทำไมท่านจะต้องมากมารยาทกับข้าด้วยเล่า?” ซีน่าหัวเราะ “บอกมาเถอะ, มีอะไรจะให้ข้าช่วย,ถ้าทำได้ ข้าช่วยแน่นอน”
เยลกล่าว “อย่างนั้น จักรพรรดิซีน่า ข้าจะพูดให้ชัดเจน ข้ามาเยี่ยมครั้งนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากจักรพรรดิซีน่า จักรพรรดิซีน่าท่านกำลังจะเริ่มสงครามใหญ่กับจักรวรรดิโรฮอลท์ใช่หรือไม่? และท่านชนะสงครามมาอย่างต่อเนื่อง”
“ถูกแล้ว” ซีน่าพยักหน้าเล็กน้อย
เขาประหลาดใจทำไมเยลพูดเรื่องนี้
“คำขอของข้า บางทีอาจเกินเลยไปบ้าง” เยลกล่าว
“เหรอ?” ซีน่ามองดูเขา
เยลหัวเราะ จากนั้นกล่าว “นี่คือสถานการณ์ ข้ารู้ว่าพันธมิตรใหญ่สามจักรวรรดิมีเป้าหมายเอาชนะคู่ต่อสู้ของท่าน การสู้รบเหล่านี้คงจะดุเดือดรุนแรงมาก และข้าเชื่อว่าจักรวรรดิบาลุคคงจับทหารฝ่ายศัตรูไว้มากมายเป็นแน่”
“นั่นก็ถูก แล้วยังไงหรือ?” ซีน่ามองดูเขา
เป็นเรื่องธรรมดากับการจับทหารฝ่ายศัตรูในการศึก
นอกจากนี้เป้าหมายของสงครามนี้เพื่อพิชิตจักรวรรดิโรฮอลท์ทั้งหมดราชตระกูลของจักรวรรดิโรฮอลท์ทั้งหมดจะยอมรับพวกเขาได้ยังไง? พวกเขาต้องต่อสู้ตอบโต้เป็นธรรมดา
“จักรพรรดิซีน่าทหารศัตรูส่วนใหญ่ที่ท่านจับได้จะถูกใช้เป็นทาส จักรพรรดิซีน่า ข้าอยากถามท่านจะยินดีขายทหารทั้งหมดที่ท่านจับมาให้กับหอการค้าดอว์สันได้ไหม?” ในที่สุดเยลก็วนมายังเรื่องที่เขาขอร้อง
ซีน่าเริ่มขมวดคิ้ว
ขายทหารเชลยที่ถูกจับทั้งหมดให้หอการค้าดอว์สัน?
กล่าวโดยทั่วไปแล้วทหารฝ่ายข้าศึกที่ถูกจับจะถูกใช้เป็นกระสุนมนุษย์ในการสู้รบข้างหน้าหรือเอาไปทำงานก่อสร้างถนน ถางป่าพง และทำงานหนักในฐานะกรรมกรบางทีพวกทาสตำแหน่งเล็กน้อยอาจจะถูกขายออกไป
แต่... การขายทหารเชลยให้หอการค้าแห่งเดียวล่ะ?
นี่ไม่ค่อยได้พบเจอ
เหตุผลเนื่องจากการทำสงครามระดับใหญ่ระหว่างจักรวรรดิใหญ่อย่างนี้แต่ละจักรวรรดิบางอาจมีทหารประจำการถึงสองถึงสามล้าน บางทีอาจมีสำรองมากกว่านั้นการทำสงครามล้างผลาญอย่างเด็ดขาดจะทำให้จับทหารเชลยได้มาก ตัวอย่างเช่น ถ้ากองทัพขนาดใหญ่ถูกทำลาย เป็นไปได้ว่าจะมีคนเป็นแสนถูกจับเป็นเชลย
แน่นอนว่าในการพิชิตจักรวรรดิโรฮอลท์ จำนวนทหารเชลยที่ถูกจับจะต้องมีหลายแสนและอาจมากกว่านั้นแน่นอน
ทหารเชลยหลายแสนถูกคุมขังก็ยังถือว่าเป็นกองทัพที่มีความสามารถ จะให้กองกำลังใหญ่ขนาดนั้นกับองค์การการค้าน่ะหรือ
“นี่...” ซีน่าลังเลใจ
แม้ว่านี่จะเป็นเยล พี่ใหญ่ของลินลี่ย์ก็ตาม ความจริงเยลก็ขอมากไปหน่อย เขาต้องการให้จักรวรรดิบาลุคขายทหารเชลยทั้งหมดให้หอการค้าดอว์สันน่ะหรือ?
“จักรพรรดิซีน่า ท่านกังวลใจเรื่องอะไร? หอการค้าดอว์สันของเราไม่ได้มีอาณาเขตสักเท่าไหร่ ไม่มีนักสู้ระดับเซียนอย่างน้องสาม พวกเขาเป็นแค่ทหารเชลย” เยลโน้มน้าว “จักรพรรดิซีน่า ข้าหวังว่าท่านจะช่วยข้าได้”
คำพูดของเยลแฝงไว้ด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง
“ท่านประธานเยล ในอดีตหอการค้าดอว์สันของท่านไม่เคยเกี่ยวข้องกับการค้าทาส ทำไมท่านถึงซื้อทหารเชลยมากมากตอนนี้เล่า?” ซีน่าถาม
เยลหัวเราะ “นี่เป็นความลับภายในหอการค้า เรากำลังทำแผนพัฒนาพิเศษ
ซีน่านิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นมองเยล
ความจริงทหารเชลยถูกจำกัดในจักรวรรดิบาลุค ที่สำคัญเป้าหมายของพวกเขาก็คือทำลายจักรวรรดิโรฮอลท์ ดังนั้นความสงสัยถึงเหตุผลว่าจะดึงทหารกลับไปจักรวรรดิโรฮอลท์หลังจากการสู้รบก็คงไม่ได้ข้อสรุป นอกจากนี้..เท่าที่ซีน่าเห็นว่าแล้วจะเป็นยังไงถ้าขายทาสให้หอการค้าดอว์สัน?
เป็นไปได้ไหมว่าหอการค้าดอว์สันต้องการจะครองโลก?
ตลกน่ะ!
ที่สำคัญ รากฐานที่แท้จริงของจักรวรรดิใดๆ ก็ตามอยู่ที่ยอดฝีมือที่ทรงพลัง!
“ก็ได้ข้าตกลง” ซีน่ากล่าว
“จักรพรรดิซีน่า ขอบคุณท่านจริงๆ” เยลยิ้มทันที “ความจริงท่านช่วยข้าได้มากจริงๆ ขอบคุณมากจริงๆ”
ซีน่ากับเยลคุยกันอยู่นานจากนั้นจึงร่วมทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อนเยลจะกลับ
หลังจากที่เยลจากไป ซีน่าก็ยังงง เนื่องจากเขาใคร่ครวญเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง “ทำไมหอการค้าดอว์สันถึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการค้าทาสอย่างไม่มีเหตุผล? นอกจากนี้ เท่าที่ข้ารู้เยลกับลุงสนิทกันมาก แต่เยลเองเป็นคนกล้าหาญที่แทบจะไม่เคยขอร้องคนอื่น แต่คราวนี้...”