ตอนที่แล้วตอนที่ 12-10 ลอร์ดชิกิต้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 12-12 ตัวแปรใหม่

ตอนที่ 12-11 ในคืนหนึ่ง


“บึ้ม!”

ส่วนที่เหลือของเกาะศักดิ์สิทธิ์เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับว่ามีอสูรร้ายขนาดมหึมาจำนวนเป็นพันที่อยู่ภายใต้เกาะเขย่าจนสั่นสะเทือน  รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏตามมาจนทั่วเกาะ  และน้ำทะเลทะลักเข้าท่วมจนมิดทั้งเกาะศักดิ์สิทธิ์

มหาวิหารเจิดจรัสพังทลายไปแล้วไม่มีการปกป้องจากวงเวทศิริแห่งมหาเทพเจิดจรัสต่อไป  ตอนนี้ไม่มีอะไรแตกต่างจากสิ่งก่อสร้างธรรมดา แรงสั่นสะเทือนใหญ่ที่รุนแรงนี้ทำให้วิหารเจิดจรัสทลายลงมากยิ่งขึ้น  บนเกาะที่ยังเหลืออยู่มีก้อนหินมหึมามากมายร่วงลงมาจากฟ้า และผู้รอดชีวิตที่ยังเหลือไม่กี่คนของศาสนจักรเจิดจรัสหนีตายลงทะเลหวังว่าจะหลบก้อนหินมากมายได้พ้นและป้องกันไม่ให้ถูกหินหล่นกระแทกใส่

เวทระดับต้องห้าม – ฟ้าถล่มดินทลาย!

ลินลี่ย์ยืนอยู่ในกลางอากาศมีบีบีเกาะอยู่บนไหล่ขณะที่เขากุมมือเดเลีย เขามองดูเกาะศักดิ์สิทธิ์ที่พินาศล่มสลายจากที่ไกล เกาะศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดหายไปในมหาสมุทรไม่เหลือร่องรอย  ในที่ตั้งเดิมของเกาะศักดิ์สิทธิ์ก่อนนั้นไม่อะไรเหลืออยู่นอกจากระลอกคลื่นและซากศพไม่กี่ซากที่ลอยอยู่บนผิวทะเล

ลินลี่ย์มองดูฉากภาพนี้อย่างเงียบงัน

เดเลียมีท่าทีจริงจังไม่ได้ส่งเสียงแม้แต่น้อย  หลังจากนั้นเป็นเวลานาน...

“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์ระบายลมหายใจยาว

เดเลียกุมมือลินลี่ย์ไว้เองแล้วยิ้มให้  “เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”

“อดีต” ลินลี่ย์กล่าว

“พี่ใหญ่, อดีตเหรอ? ท่านยังมีความคิดลึกในเรื่องอดีตอีกหรือ?” บีบียิ้มทั้งที่ยังอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์

ลินลี่ย์หัวเราะพลางเหลือบมองบีบี  “ข้ายังจะคิดลึกเรื่องอะไรได้? พอเถอะกลับบ้านกัน!”

“ใช่แล้ว, กลับบ้าน!”

เดเลียและบีบีรู้สึกสะท้านใจทั้งคู่  ตอนนั้นทั้งสามนับว่าเฉียดตายจริงๆแต่ตอนนี้ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัย ผลที่เปลี่ยนแปลงเป็นโชคลาภกะทันหันนี้มีผลต่อจิตใจพวกเขา

ลมทะเลยังคงพัด ลินลี่ย์เดเลียและบีบีบินด้วยความเร็วสูงหายลับไปทางขอบฟ้าทิศตะวันออก

ลินลี่ย์จ้องมองท้องฟ้าตะวันออกสุดสายตารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจ้องดูทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงชีวิตที่ผ่านมา

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ศาสนจักรเจิดจรัสถูกทำลายจนได้”  รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าลินลี่ย์

“ท่านพ่อ ยังจำเรื่องที่ท่านบอกข้าในปีนั้นได้ไหม?  ความปรารถนายิ่งใหญ่สองอย่างที่ท่านฝากฝังข้าไว้นำสมบัติของบรรพบุรุษของเรา ดาบศึกประหารปรปักษ์กลับมา...และเพื่อตระกูลให้ฟื้นฟูความรุ่งเรืองครั้งเก่าก่อน”

“ดาบศึกประหารปรปักษ์เอากลับมาได้แล้ว  และจักรวรรดิบาลุคได้ก่อตั้งแล้ว ตระกูลบาลุคเราในตอนนี้เป็นตระกูลที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในทวีปยูลาน”

“ปู่เดลิน, เมื่อข้ายังเด็ก  ข้าทำทุกอย่างเพื่อท่านพ่อและเป้าหมายของตระกูล  ข้าแบกความหวังของตระกูลไว้ด้วยตัวเอง ถ้าข้าไม่ถูกบังคับให้ต้องพึ่งพาตัวเองทุกอย่าง  คงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำเรื่องเหล่านี้ให้สำเร็จได้  แต่เพราะข้ามีท่าน, ปู่เดลิน,ท่านเปลี่ยนชีวิตข้า ฝึกเวทให้.. สอนแกะสลักของสำนักเรียนสิ่วตรง.. ความช่วยเหลือของท่าน,การสั่งสอนของท่าน ช่วยให้ข้าเติบใหญ่ไปทีละก้าว เป็นเพราะท่านช่วยข้ามาตลอดเวลา”

“เมื่อท่านตายข้าสาบานว่าจะต้องทำลายศาสนจักรเจิดจรัสแบบขุดรากถอนโคน ผ่านมากี่ปีแล้ว?ข้าไม่เคยลืมคำสาบานนั้น”

“ตอนนี้... ข้าทำได้สำเร็จแล้ว”

“ปู่เดลิน, ตอนนี้ข้ารู้สึกผ่อนคลายมากแล้ว  ความจริงข้ารู้สึกสบายใจ ตอนนี้ข้ามีภรรยาสุดที่รักเคียงข้างและมีบีบีอยู่ข้างตัว เขากล้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับ  ปู่เดลิน ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะต้องรู้สึกมีความสุขต่อข้าเป็นแน่”

“ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด, ข้า, ลินลี่ย์จะจดจำคำสั่งสอนของท่านที่มีต่อข้าในวัยเยาว์ตลอดไป ปู่เดลิน... ขอบคุณ..”

ขณะลอยตัวอยู่เหนือทะเลและมุ่งหน้าสู่ทิศตะวันออก  ตาของลินลี่ย์สว่างสดใสมาก

นับตั้งแต่ยังอายุน้อยจนถึงบัดนี้  ลินลี่ย์มักจะแบกภาระไว้มากมายใจของเขามักตกอยู่ภายใต้แรงกดดันหนักหน่วงอยู่เสมอ  แต่วันนี้ลินลี่ย์สบายใจได้ในที่สุด

ในที่สุดเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระไร้กังวลและมีความสุข

จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์เลห์แมนและท่านใบไม้ร่วงตายในการรบทั้งหมด เซียนอื่นอีกสามสิบกว่าคนล่มสลายไปด้วยเช่นกัน แม้แต่เกาะศักดิ์สิทธิ์และวิหารเจิดจรัสก็พังพินาศสูญหายไปในทะเลที่กว้างขวาง  แม้ว่าสหภาพศักดิ์สิทธิ์จะมีสมาชิกศาสนจักรเจิดจรัสอยู่มากมาย แต่หากปราศจากนักสู้ระดับเซียนคอยเป็นรากฐานให้พวกเขา ศาสนจักรเจิดจรัสจะไม่มีทางรุ่งเรืองขึ้นมาอีกเลย

ที่ปราสาทเลือดมังกร

เพราะภารกิจทำลายศาสนจักรเจิดจรัสทำได้สำเร็จลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นที่หลบหนีรอดจากสภาพเฉียดตาย ขณะที่ลินลี่ย์เองสามารถปลดภาระของเขาลงได้ในที่สุด  วันนี้ลินลี่ย์รู้สึกมีความสุข เซียนทุกคนมาชุมนุมที่ปราสาทเลือดมังกรและจัดงานเลี้ยงรื่นเริง

งานเลี้ยงฉลองนี้เป็นกิจกรรมครั้งใหญ่ที่แม้แต่ซีน่าจักรพรรดิของจักรวรรดิบาลุคก็ยังต้องรีบมาร่วมด้วย

“พี่ใหญ่,ข้าเป็นห่วงมากจริงๆ... แต่โชคดีแล้ว ท่านกลับมาได้,  พี่ใหญ่ มาเถอะ พี่ใหญ่ข้าขอดื่มฉลองให้ท่าน”  อารมณ์ของวอร์ตันซับซ้อนมากในขณะนี้

“มาเถอะ,ดื่ม”  ลินลี่ย์หัวเราะและชูแก้วทันที

“วอร์ตัน, เดลี่และคนอื่นๆ อยู่ไหน?”

เนื่องจากนี้เป็นการเลี้ยงฉลองความสำเร็จ  ลินลี่ย์อดรู้สึกจนใจไม่ได้  “วอร์ตัน, บาร์เกอร์และน้องๆและยอดฝีมืออื่น..แม้ว่าพวกเขาจะหนีไประหว่างต่อสู้ที่เกาะศักดิ์สิทธิ์ตอนที่เบลซาสปรากฏตัว  แต่ข้าไม่ตำหนิพวกเขาแม้แต่น้อย”

ลินลี่ย์เข้าใจว่าวอร์ตัน บาร์เกอร์และน้องๆและยอดฝีมือที่เหลือ ตอนนี้รู้สึกยังไง

เมื่อเบลซาสปรากฏตัว ลินลี่ย์สั่งให้พวกเขาหนีไป  เดลี่ ถูลี่และคนอื่นๆรวมทั้งวอร์ตันที่เคยเป็นจักรพรรดิมาแล้วรู้ว่าการรั้งอยู่เป็นความคิดที่โง่มาก

พวกเขาหนีทันที

จริงอยู่ว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและการตัดสินใจที่เดเลียและบีบีอยู่ก็เป็นการตัดสินใจที่อาจส่งผลให้ต้องตายอย่างไร้ความหมาย

อย่างไรก็ตาม จากจุดยืนทางอารมณ์ เดลี่ วอร์ตัน และคนอื่นยังรู้สึกผิดอยู่บ้าง

ปกติระหว่างการเลี้ยงฉลองแบบนี้ พวกเขาจะฉลองรื่นเริงกันอย่างเต็มที่และสนทนาดื่มกินกับลินลี่ย์อย่างสนุกสนานต้องการให้ลินลี่ย์มีความสุข  ลินลี่ย์ไม่ได้โกรธพวกเขาแม้แต่น้อย  แต่เดลี่ วอร์ตันและยอดฝีมืออื่นรู้สึกกังวลอยู่ภายใน

“ซีน่า หลังจากงานเลี้ยงนี้  ไปห้องหนังสือมีเรื่องที่ข้าจะคุยกับเจ้า” ลินลี่ย์พูดกับซีน่า

“ขอรับ, ท่านลุง” ซีน่าพูดด้วยความเคารพ

ซีน่าเติบโตเป็นหนุ่มรูปงาม ยากจะจินตนาการได้ว่าวอร์ตันที่ร่างบึกบึนล่ำสันจะมีบุตรอย่างเขาได้  ซีน่าอายุ 24ปีแล้วและรับผิดชอบเป็นจักรพรรดิมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถส่วนตัวหรือทักษะในการปกครองจักรวรรดิก็มีพอกัน  ลินลี่ย์พอใจซีน่ามาก

หลังจากจบงานเลี้ยงก็เป็นเวลาดึก

ภายในห้องหนังสือส่วนตัวของลินลี่ย์ในปราสาทเลือดมังกร  แม้ว่าลินลี่ย์แทบจะไม่ได้ใช้ห้องหนังสือนี้ก็ยังมีคนเข้ามาทำความสะอาดในที่นี่ ห้องจึงเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นธรรมดา น้อยครั้งที่ลินลี่ย์จะเข้ามาในห้องหนังสือของเขา

“สงสัยจริงว่าท่านลุงขอให้ข้ามาพบที่นี่ด้วยเรื่องอะไร?”  ซีน่ามองดูห้องหนังสือใกล้ๆ อย่างเงียบสงบ  หัวใจของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

ห้องหนังสือสว่างด้วยไฟตะเกียงไฟตะเกียงในยามดึกมองดูสะดุดตา

ตอนนี้ซีน่าเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิบาลุค  และเขามีสถานะสูงส่ง  แต่เมื่อซีน่ามาที่ปราสาทเลือดมังกรเขาไม่กล้าวางมาดจักรพรรดิแม้แต่น้อย  เพราะยอดฝีมือหลายคนที่อยู่ในปราสาทเลือดมังกรล้วนเป็นเสาหลักสำคัญของจักรวรรดิบาลุค

โดยเฉพาะลุงของเขา!

ลินลี่ย์สำคัญต่อจักรวรรดิบาลุคก็เทียบเท่ากับเทพสงครามกับจักรวรรดิโอเบรียน หรือมหาพรตกับจักรวรรดิยูลาน

จักรวรรดิอาจขาดแคลนจักรพรรดิได้  แต่ไม่สามารถขาดแคลนยอดฝีมือทั้งสาม

“ก๊อกๆๆ” ซีน่ากระวนกระวายใจขณะเคาะประตูห้องหนังสือ  แม้ตั้งแต่เด็กซีน่าก็ได้พบกับลินลี่ย์ไม่กี่ครั้ง  สำหรับลินลี่ย์ ซีน่ามีแต่เกรงกลัวและเทิดทูน

“เข้ามา”

ซีน่าสูดหายใจลึกผลักเปิดประตู  เขาเห็นลินลี่ย์นั่งพลิกอ่านหนังสืออยู่ต่อหน้า

“โอว ซีน่า, เข้ามาสิ นั่งก่อน”  ลินลี่ย์ยิ้มให้อย่างเป็นกันเองและชี้เก้าอี้ใกล้ๆ

“ขอรับ, ท่านลุง” ซีน่าปิดประตูทันที จากนั้นเข้ามานั่ง

ลินลี่ย์มองดูซีน่า เขาอดหัวเราะไม่ได้  “ซีน่า,ตอนนี้พอข้าคิดดูแล้วค่อนข้างแปลก บิดาเจ้า เมื่อเขายังเยาว์วัย เป็นจอมซนและสร้างเรื่องยุ่งยาก  แต่เจ้าฉลาดและเรียบร้อยอยู่เสมอ  ในความเห็นของข้าเจ้าค่อนข้างคล้ายไปทางนีน่ามารดาเจ้ามากกว่า” ลินลี่ย์ค่อนข้างชอบซีน่า

“เด็กผู้ชายมักจะติดมารดาเสมอ”  ซีน่ายิ้มเช่นกัน

“ก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน เทย์เลอร์ก็ค่อนข้างซนเหมือนกันและเดเลียเองก็ค่อนข้างดุเมื่อนางยังอายุน้อย”  ลินลี่ย์ชะงักเล็กน้อยจากนั้นจึงตรงเข้าประเด็นหลัก “ซีน่า,  สาเหตุที่ข้าขอให้เจ้าเข้ามาเป็นเพราะข้าต้องการบอกอะไรบางอย่างกับเจ้า  เจ้าตั้งใจฟังให้ดี”  ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ

ซีน่าตั้งใจฟังทันที

“มหาพรตแห่งจักรวรรดิยูลานและเทพสงครามโอเบรียนได้พูดคุยกับข้า  สองจักรวรรดิของพวกเขาและจักรวรรดิบาลุคของพวกเราจะรวมพลังกันยึดทวีปยูลานทั้งหมด  สามจักรวรรดิเราจะแบ่งโลกกันปกครอง!”  ลินลี่ย์พูดอย่างเป็นงานเป็นการ

แต่ซีน่าที่กำลังฟังอยู่ถึงกับตกตะลึง

ในฐานะจักรพรรดิของจักรวรรดิหนึ่งข่าวเช่นนี้ทำให้เขาตกตะลึงเช่นกัน

“ท่านลุง, นี่..นี่คือการแบ่งโลก...”  ซีน่าไม่อยากเชื่อ  “หมายความว่าเรากำลังจะทำลายจักรวรรดิโรฮอลท์,จักรวรรดิไรน์, ทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกล, พันธมิตรมืด, สหภาพศักดิ์สิทธิ์...นี่ต้องใช้เวลาเป็นสิบๆ ปี หรือไม่ก็ร้อยปี”

ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ

“ซีน่า, ระหว่างงานเลี้ยง เจ้าควรจะได้รู้แล้ว,เราเพิ่งไปทำลายเกาะศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักรเจิดจรัส”  ลินลี่ย์กล่าว

“ถูกแล้ว” ซีน่าพยักหน้า แต่จากนั้นตาเขาเป็นประกาย “ท่านลุง, ท่านกำลังบอกว่า...” ซีน่าเข้าใจทันที

“ไม่ใช่แค่ฐานกำลังใหญ่ของศาสนจักรเจิดจรัสเท่านั้น ฐานทัพใหญ่ของลัทธิเงาก็น่าจะถูกทำลายไปในอีกวันหรือสองวันนี้แน่นอน  เมื่อสงครามเริ่มจริงๆ..คิดดูสิ..ถ้าศัตรูไม่มีเซียน แต่เราส่งเซียนออกไปรบ... สงครามจะใช้เวลานานมากไหม?”

ซีนาร์รู้สึกคอแห้งผาก และหลังชุ่มด้วยเหงื่อ  หัวใจของเขาสั่น  “ท่านลุงและยอดฝีมืออื่นน่ากลัวมากจริงๆ  พวกเขาฆ่าเซียนฝ่ายศัตรูโดยตรง ตอนนี้ไม่มีทางที่พวกเขาจะสู้ตอบโต้ในระหว่างรบได้เลย”

แม้แต่จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องตาย

นี่หมายความว่าสหภาพศักดิ์สิทธิ์ไม่มีผู้นำแล้ว  เมื่อพวกเขาเกิดสงครามก็มีแนวโน้มว่าราชอาณาจักรและแว่นแคว้นสังกัดสหภาพศักดิ์สิทธิ์จะต้องยอมแพ้โดยทันที

“ข้าแค่ต้องการให้เจ้าเป็นผู้นำ”  ลินลี่ย์ไม่สนใจการสู้รบครั้งนี้เท่าใด

ที่สำคัญ ขนาดพื้นที่และประชากรในปกครองมีความหมายน้อย ที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือเดินตามเส้นทางฝึกฝนและกลายเป็นเทพให้เร็วเท่าที่เป็นไปได้

เป็นเทพ!

การกลายเป็นเทพแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของระดับที่คงอยู่หมายถึงครอบครองประกายศักดิ์สิทธิ์ สนามพลังเทพ และสามารถดึงพลังศรัทธาเป็นระดับคงอยู่ที่เหนือมนุษย์ธรรมดาไปมาก

“ท่านลุง, ทั้งสามฝ่ายตกลงแบ่งโลกกัน  แต่ว่าอย่างไรเล่า?”  ซีน่าถาม เขาค่อนข้างใส่ใจเรื่องนี้

“โอว, ข้าเกือบลืมไป” ลินลี่ย์หัวเราะ “นี่คืองานที่เป็นไป,ดินแดนของสหภาพศักดิ์สิทธิ์และสิบแปดแคว้นอิสระเหนือจะตกเป็นของจักรวรรดิโอเบรียน  จักรวรรดิไรน์และพันธมิตรมืดจะตกเป็นของจักรวรรดิยูลาน สำหรับจักรวรรดิโรฮอลท์และทุ่งราบใหญ่ตะวันออกจะตกเป็นของจักรวรรดิบาลุคเรา”

ตาของซีน่าเป็นประกาย

ขนาดของจักรวรรดิโรฮอลท์ความจริงเทียบเท่ากับจักรวรรดิบาลุค  แต่ที่สำคัญมากกว่า.. ทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกล

อาณาเขตทุ่งราบตะวันออกไกลกว้างขวางสุดสายตาจนถึงจักรวรรดิโอเบรียนที่กว้างใหญ่ไพศาล  แต่เพราะพื้นที่ทั้งหมดเป็นทุ่งหญ้าจึงมีประชากรน้อยแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม ทำให้มีเพียงสามอาณาจักรที่คงอยู่ อย่างไรก็ตามสามอาณาจักรสามารถต่อสู้ได้กระทั่งกับจักรวรรดิโรฮอลท์และจักรวรรดิไรน์มาหลายปี  ทุกคนสามารถบอกได้จากตรงนี้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งเพียงไหน

ที่สำคัญคนเหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่บนหลังม้าและใช้การต่อสู้แบบนี้จนเป็นธรรมเนียม

“เอาล่ะซีน่า, นี่ก็ดึกแล้ว  เจ้าควรกลับไปพักได้แล้ว”  ลินลี่ย์กล่าว

“ขอรับท่านลุง” ซีน่าถอยออกมาด้วยความเคารพ

หลังจากซีน่าออกมา ลินลี่ย์หันไปมองเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆในที่นั่งที่ซีน่าเพิ่งลุกไป ในตอนนี้มีบุรุษวัยกลางคนนั่งอยู่ที่นั่น  เขาสวมชุดยาวหลวมและยิ้มเกียจคร้านเป็นยอดฝีมือระดับเทพ ราชันย์มือสังหาร...ซีซาร์

“ท่านซีซาร์,กลุ่มของท่านจะไปสุสานเทพเจ้าในวันพรุ่งนี้แล้วทำไมคืนนี้ท่านถึงมาที่นี่ได้?” ลินลี่ย์อดหัวเราะถามด้วยความสงสัยไม่ได้

เมื่อได้ยินลินลี่ย์พูดเช่นนี้  ซีซาร์อดสะดุ้งไม่ได้แต่จากนั้นเม้มริมฝีปากอย่างช่วยไม่ได้ “ใช่แล้ว, พรุ่งนี้เราจะมุ่งหน้าไปสุสานเทพเจ้า ความจริงข้าไม่ต้องการไปสุสานเทพเจ้าในเวลานี้เลย แต่พวกเขาบังคับให้ข้าไปโธ่เอ๊ย..”

“คนสามารถถูกบังคับให้เข้าสุสานเทพเจ้าได้หรือ?  นั่นเฉพาะกับคนที่ยินดีเข้าไปไม่ใช่หรือ?”  ลินลี่ย์ขมวดคิ้วสับสน

“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ข้าหงุดหงิดเมื่อคิดถึงมัน”

ซีซาร์ยืนขึ้น เดินเข้ายืนหน้าโต๊ะของลินลี่ย์จ้องมองลินลี่ย์โดยตรง  “ลินลี่ย์  วันนี้ข้ามาเพื่อฝากความไว้วางใจให้กับเจ้า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด