ตอนที่ 710 : เป็นไปได้ไหมว่านายก็เป็นพวกเดียวกัน...
ตอนที่ 710 : เป็นไปได้ไหมว่านายก็เป็นพวกเดียวกัน...
"กลโกงการขายคือใช้เงิน 500 เพื่อหาพนักงานในสำนักงานขายมาร่วมมือกับเขาและแสดงละครการขายบ้านให้คุณ ฉากทั้งหมดจะอยู่ในสำนักงานขาย ส่วนสาวๆพวกเธอจะไม่มีวันรู้เพราะการขายเป็นบ้านนอกโครงการทั้งหมดและจะหลอกว่ามันจำเป็นต้องใช้เวลาสองปีในการส่งมอบบ้านหรืออาจจะใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งปีกว่าจะได้ใบรับรองอสังหาริมทรัพย์ แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะแกล้งมอบสัญญาปลอมๆให้ ซึ่งเท่านี้นั้นก็เพียงพอสำหรับหลอกหญิงสาวที่ไม่มีประสบการณ์แล้ว หลังจากนั้นเขาก็จะสามารเชยชมสาวงามได้ตามใจและแน่นอนว่าหลังจากนั้นไม่กี่เดือน พวกเขาก็จะเบื่อที่จะเล่นกับเธอและเลิกรากันไป ซึ่งมันก็จะสายเกินไปแล้วที่จะตามหาเขา"
เจียงเฉิน: →_→!
ประมาณว่าเป็นแพ็คเกจสำหรับเสแสร้งสินะ!
ในแง่ของการเสแสร้ง ฉันยอมรับเลยว่าคุณเป็นมืออาชีพจริงๆ!
ยกนิ้วให้!
พนักงานขายดูกระตือรือร้น "โอเคครับ เชิญทางนี้เลยครับ ให้ผมพาไปดูบ้านจำลองเลยดีไหมครับ"
สำหรับผลประโยชน์ 500 หยวนนั้นก็มากเพียงพอแล้วสำหรับพนักงานขายที่จะทำตัวกระตือรือร้นอย่างมากกับการแสดงให้นายน้อยเว่ย
มีคนไม่กี่คนที่เดินเข้าไปในห้องจำลองบนอาคาร~
พี่สาวลี่จื่อตื่นเต้นมาก!
"ว้าว! สุดยอดไปเลย! บ้านหลังนี้น่าทึ่งมากเลย ฉันตื่นเต้นมาก"
เธอโผเข้าสู่อ้อมแขนของนายน้อยเว่ยและพูดคำชมออกมาก่อนจะก้าวไปหาเจียงเฉิน "สามีของฉันมีความสามารถจริงๆ ใจกว้างและหล่อเหลา นี่คือผู้ชายดีๆที่สาวๆใฝ่ฝัน!"
แคทเธอรีนรู้สึกอิจฉาเช่นกัน "พี่สาวลี่จื่อโชคดีจริงๆ ที่ได้พบกับแฟนหนุ่มที่ยอดเยี่ยมอย่างนายน้อยเว่ย ฉันรู้สึกอิจฉามากเลย"
นายน้อยดูพอใจ เขามองไปที่เจียงเฉินและพูดว่า "แม้ว่าบางคนจะมีโชคดีไม่น้อย จนได้รับอาหารดีๆและมีรถหรู แต่ความแข็งแกร่งก็คือความแข็งแกร่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต่อให้โชคดีแค่ไหน นายก็คงไม่มีวันได้บ้านที่ตกแต่งอย่างดีมูลค่าหลายหมื่นล้านหรอกถูกไหม”
เจียงเฉินยักไหล่ยิ้มและพูดว่า "แล้วคุณรู้ได้ยังไงล่ะ?"
"อะไรนะ?"
นายน้อยเว่ยตาแทบถลน "นายพูดว่าอะไรนะ? นายยังคิดว่าตัวเองจะได้บ้านของอี้ต๋าอยู่อีกงั้นหรอ"
"ฮ่าฮ่าฮ่า!"
พี่สาวลี่จื่อก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและน้ำตาก็ไหลออกมา "นายกำลังคิดอะไรอยู่ คนส่งอาหารอย่างนายที่ได้รถยนต์มาแล้วนายยังจะหวังว่าจะมีคนมาให้บ้านนายอีกหรอ?! นี่เป็นเรื่องตลกที่สนุกที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลย!"
หลิวฉีเซว่ก้าวออกมาข้างหน้าและสนับสนุนเจียงเฉิน "พวกคุณกำลังพูดถึงอะไร? การที่แฟนของคุณให้บ้านแก่คุณก็เป็นสิ่งที่ดี แล้วไม่ใช่หรอแล้วทำไมต้องดึงคนอื่นมาด้วย? ฉันคิดว่าในเมื่อผู้หญิงต้องการเป็นอิสระ ต้องการมีอิสระทางการเงินการที่ยังต้องให้ผู้ชายมาซื้อให้มันจะไปมีอิสระได้ยังไง"
ใบหน้าของพี่สาวลี่จื่อเริ่มมืดมน...
"หึ~~ ถ้าพวกเราเอาแต่แสวงหาอิสระแล้วผู้ชายจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ? ของขวัญที่ผู้ชายซื้อให้เรายิ่งแพงก็แสดงว่าผู้ชายคนนั้นไว้ใจเธอมาก”
พี่สาวลี่จื่อเริ่มขายของอีกครั้ง
เจียงเฉินยิ้มเบาๆและพูดว่า "แต่ยังไงก็ตามนายน้อยเว่ย คุณจะใช้เงินเท่าไหร่กับบ้านหลังนี้"
นายน้อยเว่ยแสร้งทำเป็นใจดีและโบกมือ "แค่ 20 ล้าน! 140 ตารางเมตร ก็นับว่าดีมากแล้ว! สำหรับฉัน มันก็แค่เศษเงินเท่านั้น
ในเวลานี้เองหวังคงบังเอิญผ่านมาตรวจสอบสำนักงานขายพอดี
หลังจากวางสายเขาก็สังเกตเห็นผู้คนมากมาย
หวังคงก็มองเห็นเจียงเฉินได้ในทันที
เขาขยี้ตาอย่างแรง
ไม่เชื่อ
นี่มันอะไรกัน?
ทำไมเจียงเฉินถึงอยู่ที่นี่?
หวังคงเช็ดตาอย่างแรงเป็นเวลานานและในที่สุดก็ยืนยันได้ว่านั่นคือเจียงเฉินจริงๆ
ไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป เขาวิ่งตรงไป
"อ๊ะ บอสเจียงเฉิน~~"
เจียงเฉินหันไปและไม่สามารถซ่อนตัวได้อีกต่อไป...
ไอออกมา!
หวังคงก็โต้ตอบอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนคำพูดทันที "โอ้ เป็นความผิดของผมเอง ว่าแต่คุณมาที่นี่ต้องการติดต่ออะไรหรอครับ"
เจียงเฉินยิ้มออกมา “ผมไม่ได้มีอะไรหรอก แต่ว่าพนักงานของคุณเพิ่งจะเซ็นสัญญาฉบับใหญ่ไป”
เขาชี้ไปที่พนักงานขายที่เพิ่งจะเซ็นสัญญากับนายน้อยเว่ย
หวังคงเข้าใจได้ทันทีว่ามีบางอย่างยุ่งยากอยู่ในนั้น จากนั้นเขาจึงเข้าไปดูและพูดด้วยใบหน้าที่เย็นชาว่า “สัญญาที่เพิ่งจะเซ็นไปเป็นสัญญาอะไร? ขอฉันดูหน่อย”
พนักงานตกตะลึงในทันที….
พรุบ!
เขาลงต่อหน้าหวังคง!
“ผม ผมคิดไปแล้ว บอสหวัง! ผมไม่ควรรับเงินจากคนอื่น ผมไม่ควรใช้สัญญาปลอมเพื่อช่วยเขาโกงคนอื่น ผมผิดไปแล้ว~~”
“อะไรนะ?”
พี่สาวลี่จื่อและแคทเธอรีนตกตะลึงในทันที!
รู้สึกราวกับว่าโลกกำลังแตกสลาย
“อะไรนะ? ทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก?”
พี่สาวลี่จื่อดูสับสน “นี่มันก็สำนักงานขายปกติชัดๆไม่ใช่หรือไง? เขาก็เป็นพนักงานขายไม่ใช่หรอ? แล้วมันจะโกหกกันได้ยังไงกัน? ฉันเซ็นสัญญากับเขาแล้วแล้วแฟนของฉันก็เป็นคนจ่ายเงินให้ไปแล้วไม่ใช่หรือยังไง?”
หวังคงมุ่ยหน้า
พนักงานบัญชีอีกคนนึงก็รีบเข้ามาตรวจดูสัญญาทันที
“ขอโทษด้วยนะคะคุณผู้หญิง ฉันได้ทำการตรวจสอบบัญชีของบริษัทแล้วและไม่พบว่ามีการจ่ายเงินเข้ามาในบัญชีของบริษัทเลย บริษัทของเรายังไม่ได้รับเงินค่าบ้านเลยสักหยวนเดียวเลยค่ะ”
หวังคงส่ายหัวแล้วพูดว่า “หรือจะให้พูดให้เข้าใจอย่างง่ายๆก็คือ คุณยังไม่ได้ซื้อบ้านของเรา!”
“อะไรนะ?”
พี่สาวลี่จื่อตกตะลึงจนหน้าซีด….
ใบหน้าของนายน้อยเว่ยก็บิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด...
ให้ตายเถอะมันน่าอายเกินไปแล้ว~~
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกเปิดโปงแบบ!
“ทำไม? ฮ่าๆๆๆ มันอาจจะมีข้อผิดพลาดอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือยังไง?”
หวังคงพูดออกมาอย่างเย็นชา “นี่เป็นคำสั่งตรวจสอบของผมเอง! คุณคิดว่ามันจะผิดพลาดได้อย่างนั้นเหรอ?”
นายน้อยเว่ยแกล้งทำเป็นโกรธแล้วลุกขึ้นมาทันที “หึ! ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องการที่ผมซื้อบ้านมากกว่า ในเมื่อเป็นแบบนั้นผมก็ไม่ต้องการซื้อบ้านหลังดีแล้วไปกันเถอะ!”
“อย่าเพิ่งไป! ฉันต้องการบ้านของที่นี่!”
พี่สาวลี่จื่อ เธอจะปล่อยโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตของเธอไปได้ยังไงกันเธอคว้าตัวของนายน้อยเว่ยเอาไว้ “มันจะต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆเราไปตรวจสอบกันดูดีกว่า ฉันต้องการบ้านที่นี่จริงๆนะ คุณให้เงินเข้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่มีบันทึกการโอนเงินหรือยังไงแล้วใบเสร็จล่ะ?”
นยน้อยเว่ยเห็นว่าเขานั้นไม่สามารถโอ้อวดได้อีกต่อไปเพราะถ้าหากว่าเขาโอ้อวดต่อไปเขาจะถูกจับได้อย่างแน่นอน
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอับอายและเปลี่ยนไปสีขาวซีดอย่างรวดเร็ว~~
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ยังจะต้องดูอะไรอีก? เขาเคยใช้เงินห้าร้อยหยวนเพื่อซื้อคนมาให้แสดงละครให้เขาก็เท่านั้น! และพนักงานคนนี้ก็เป็นคนรับเงินจากเขาไป!”
“พรูด~~”
นายน้อยเว่ยล้มลงกับพื้นใบหน้าของเขามืดมนลง “เป็นไปได้ยังไงกัน? นายรู้ได้ยังไง?!”
หวังคงหันไปถามพนักงานคนนั้นทันที “เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นก็ไปเจอกันในศาล!”
พนักงานขายที่ได้ยินแบบนั้นก็หวาดกลัว
ใครบ้างที่จะไม่สนใจคำขู่ของหวังคง?
เขาตัวสั่นแล้วพูดออกมาว่า “ครับ! มันเป็นแบบนั้นจริงๆ! สุภาพบุรุษคนนั้นพูดถูกแล้ว มันเป็นความจริงครับที่ผมรับเงินมาแล้วเล่นละครให้เขา~~”
“บูม~~~”
พี่สาวลี่จื่อรู้สึกเหมือนถูกโดนฟ้าผ่า~~
แคทเธอรีนก็อับอายเกินกว่าที่จะพูดอะไรออกมาได้~~
นี่มัน.... ตลกสิ้นดี
มันเป็นเรื่องบ้าอะไรกัน?
หลิวฉีเซว่และหวังหยูปิง “…..”
พวกเขาทุกคนพูดไม่ออก
เรื่องนี้มันน่าตกตะลึงเกินไป
ทุกอย่างมันเป็นแค่ละคร?
ร่วมมือกับพนักงานขายเพื่อหลอกสาว?
นายน้อยเว่ยรู้สึกอับอายจนต้องการที่จะหารอยแยกบนพื้นเพื่อที่จะมุดเข้าไป ในเวลานี้เองโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน~~
เขารับโทรศัพท์ขึ้นมา “ฮัลโหล?”
โทรศัพท์ก็ส่งเสียงคำรามออกมา “กั่วเว่ย! หน้ายังเชื่อใจได้อยู่อีกหรือเปล่า?! รู้ไหมว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว?! รถ Big G ที่เช่าเอาไว้มันถึงตาของฉันแล้วนะ!”
“อะไรนะ?!”
พี่สาวลี่จื่อที่ได้ยินก็แทบไม่อยากจะเชื่อ “เขาพูดว่าอะไรนะ? คุณเช่ารถเมอร์เซเดสเบนซ์คันนี้มา? นี่มัน….”
มุมปากของนายน้อยเว่ยกระตุก “ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นล่ะ ไม่ใช่ว่าเธอเองก็เป็นเหมือนกันหรอ~”
“ไม่ ไม่ ฮ่าๆๆ ฉันจะทำตัวเสแสร้งเพื่อเข้าสังคมได้ยังไงกัน? ฉันเป็นคนรวยจริงๆ! ฉันเป็นไป่ฟู่เหม่ย!”
พี่สาวลี่จื่อรีบพูดออกมา
นายน้อยเว่ยก็ยังไม่เชื่ออย่างแน่นอน “คนอย่างเธอเนี่ยนะจะมีเงินจริง?”
“มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วว่าฉันต้องมีเงิน! ฉันแค่ต้องการบางอย่างจากในเพื่อทดสอบว่านายรักฉันจริงหรือเปล่า?!”
พี่สาวลี่จื่อพยายามพูดปกป้องตัวเอง
ในเวลานี้เอง~~
เสียงโทรศัพท์ของพี่สาวลี่จื่อก็ดังขึ้น
เธอไม่อยากรับมันแต่ว่านายน้อยเว่ยกลับบังคับไปเธอรับ
“ฮัลโหล ใครคะ?”
พี่สาวลี่จื่อพูดถามออกมาอย่างกระวนกระวายใจ
ปลายสายก็มีเสียงที่เกรี้ยวกราดพูดออกมาว่า “ถูกต้อง Hermès ที่คุณใส่อยู่พร้อมหรือยัง ไหนบอกว่าจะใช้แค่สองวันไง?!”
“อะไรนะ?!”
นายน้อยเว่ยตกตะลึง เขามองไปที่ใบหน้าของพี่สาวลี่จื่อ “แม้แต่ถุงน่องที่คุณใส่อยู่บนขาของคุณก็ยังไม่ใช่ของคุณเอ๋งั้นเหรอ?! อ้วก~~~ มันน่าขยะแขยงเกินไปแล้ว!”