ตอนที่ 66 คำสาปหรือธรรมชาติคัดสรร (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 66 คำสาปหรือธรรมชาติคัดสรร
ห้องทำงานของดัมเบิลดอร์
“เกิดอะไรขึ้นครับศาสตราจารย์” แม็กนัสถาม
"เธอได้ทำหรือเปล่า?" ดัมเบิลดอร์ถามอย่างตรงไปตรงมา
แม็กนัสส่ายหัว “พ่อของลูเซียสอ่ะหรอ? เปล่าครับ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันกำลังฝึกควิดดิชอยู่ อีกอย่างห้องนิรภัยพวกนั้นถูกสร้างโดยเมอร์ลิน อาจารย์คิดว่าทุกคนจะสามารถเข้าไปได้งั้นหรอ? ขนาดก็อบลินแห่งธนาคารกริงกอตส์ก็เข้าไปไม่ได้ พวกนั้นไปที่ห้องนิรภัยด้วยตัวของพวกเขาเอง”
“แล้วการปิดผนึกธนาคารล่ะ? ที่คุณได้ยึดห้องนิรภัยทั้งหมดเป็นความจริงไหม?” ดัมเบิลดอร์ถามต่อไป
"อันนั้นผมเอง พวกเขาพยายามจะยึดห้องนิรภัยของผม ซึ่งมันอยู่ในทรัพย์สินส่วนตัวของผม ดังนั้นผมเลยเอาห้องนิรภัยของพวกเขาไป และในกรณีของผม ผมมีสิทธิ์ทุกอย่าง" แม็กนัสตอบกลับ
“ไม่ ไม่... แม็กนัส เธอไม่เข้าใจ การทำแบบนี้เธอกำลังสร้างศัตรูมากมาย ตอนนี้พวกเลือดบริสุทธิ์ทุกคนจะมองเธอเป็นศัตรู ยิ่งกว่าที่เคย โดยเฉพาะหลังการตายของแอแบรกซัส” ดัมเบิลดอร์เถียง
แม็กนัสยิ้ม “อย่างกับผมจะกลัวพวกนั้นอย่างงั้นแหละ ศาสตราจารย์ ผมแค่ปิดบัญชีของพวกตระกูลเลือดบริสุทธิ์พวกนั้นเท่านั้นที่เรามั่นใจว่าเป็นพวกเหยียดคน พวกเหยียดเลือด หรือสนับสนุนโวลเดอมอร์ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ลองจินตนาการดูสิครับศาสตราจารย์ การทำเช่นนี้ผมสามารถทำลายแหล่งเงินทุนของโวลเดอมอร์ตและกองทัพผู้เสพความตายของเขาได้”
“ไม่ พวกเขามีเงินมากพอที่จะทำให้มันดำเนินต่อไปได้ หรือไม่พวกเขาก็จะหาวิธีอื่นในการดำเนินการ แต่เธอจะกลายเป็นเป้าของพวกเขาต่อจากนี้ไป” ดัมเบิลดอร์เตือน
“ผมตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาอยู่แล้ว อย่าคิดว่าผมโง่นะศาสตราจารย์ ทันทีที่พวกกระทรวงฯ พยายามมาวุ่นวายกับห้องนิรภัยของผม ผมก็รู้ว่ากระทรวงฯ ถูกครอบงำแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ถึงดูถูกเหยียดหยามพวกนั้น คุณไว้ใจใครไม่ได้เลย อีกอย่างไม่ต้องกังวลหรอกครับ ผมจะแก้ไขปัญหาเรื่องกริงกอตส์เร็วๆ นี้แหละ ผมมั่นใจว่าท่านรัฐมนตรีก็คงจะติดต่อผมมาเช่นกัน” แม็กนัสยืนยันกับเขา
“แต่ก่อนอื่น เราต้องไปที่ธนาคารกริงกอตต์ ตอนนี้ฝูงชนรวมถึงก็อบลินกลัวที่จะไปที่ห้องนิรภัยของเธอกันหมดแล้ว พวกเขาต้องการให้เธอไปเอาร่างของแอแบรกซัสออกมา” ดัมเบิลดอร์เปิดเผย
แม็กนัสถอนหายใจทั้งที่หลับตา “ผมไม่เคยอยากให้คนตายเลยครับศาสตราจารย์ ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนั้น”
ใบหน้าของดัมเบิลดอร์ผ่อนคลายคิ้วที่ขมวดลงทันที เขาเดินเข้าไปตบไหล่ของแม็กนัส “ฉันเข้าใจ แม็กนัส มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่พวกเขาอาจจะโทษเธอ”
แม็กนัสส่ายหัว “ไม่ ถ้าผู้จัดการธนาคารก็อบลินทำตามที่ผมขอไว้ ผมก็อาจจะเปลี่ยนเรื่องนี้ได้ ไปกันเถอะ อ่า... การหายตัวนั่นอีกแล้ว ผมเกลียดมัน”
เขาคว้าแขนของดัมเบิลดอร์และทั้งสองก็ปรากฏตัวในร้านหม้อใหญ่น้ำรั่วอีกครั้ง ตอนนี้ทุกห้องเต็มหมดแล้ว มีเสียงมาจากข้างนอกประตู ดูเหมือนว่าผู้คนกำลังรอให้เขาปรากฏตัว
จากนั้นดัมเบิลดอร์ก็เปิดประตู และในไม่ช้าเสียงพูดคุยก็เริ่มดังเข้ามา พวกเขาส่วนใหญ่พูดถึงแม็กนัสและสิ่งที่เกิดขึ้นกับแอแบรกซัส
"อยู่ใกล้ๆ ฉันไว้ ถึงส่วนใหญ่เป็นมิตร แต่อาจมีเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีในต้นไม้" ดัมเบิลดอร์เตือนเขา
เมื่อพวกเขาออกจากร้านหม้อใหญ่รั่วไปเดินไปตามท้องถนน แม็กนัสกับดัมเบิลดอร์ก็ถูกนักข่าวจำนวนมากรุมล้อม
แม็กนัสถูกระดมยิงด้วยคำถาม
“คุณเพนดราก้อนครับ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเหตุการณ์ในกริงกอตส์”
"คุณเป็นเจ้าของกริงกอตส์จริงเหรอ?"
“คุณเอาเงินไปจากตระกูลพ่อมดทั้งหมดเลยหรือเปล่าคะ?”
“กระทรวงพยายามเอามรดกของคุณไปจริงไหมครับ?”
“คุณเป็นคนฆ่าลอร์ดแอแบรกซัส มัลฟอยงั้นเหรอคะ?”
นี่คือคำถามที่เขาถูกถาม แม็กนัสทำหน้าไร้เดียงสาที่สุดเท่าที่จะทำได้และพูดว่า “ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ผมแค่มาช่วย และจริงครับ ผมได้รับจดหมายจากน้ารัฐมนตรีว่าพวกเขาจะเอาห้องนิรภัยของผมไป”
ดัมเบิลดอร์ส่ายศีรษะให้กับความคิดที่เฉียบแหลมของแม็กนัส เขาเปลี่ยนหน้าได้เนียนเกินไป กลายเป็นเด็กชายอายุ 11 ขวบผู้ไร้เดียงสา
"ค่อยสัมภาษณ์กันทีหลัง ตอนนี้เรามีงานต้องทำ" ดัมเบิลดอร์รีบควบคุมฝูงชนและพาแม็กนัสไปที่ธนาคาร
มันถูกล้อมรอบด้วยก็อบลินและมือปราบมารเพื่อความปลอดภัย ทันทีที่แม็กนัสเข้ามา หัวหน้าก็อบลินก็เข้ามาทักทายเขา
“ฝ่ายค้นหากำลังรอพระองค์อยู่ ฝ่าบาท เราไม่กล้าลงไปที่นั่นเพราะแม็กม่ายังคงทำลายล้างสถานที่แห่งนั้นอยู่พะยะค่ะ” เขาแจ้งให้ทราบ
“งั้นเราไปเอาศพออกกันเถอะ ถึงผมจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น แต่ผมจะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด” แม็กนัสพูดพลางเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อสวมชุดป้องกัน
ดัมเบิลดอร์อยากจะไปกับเขาด้วย แต่แม็กนัสห้ามเขาไว้ “ไม่ต้องไปกับเราหรอครับศาสตราจารย์” ไม่ว่าเมอร์ลินจะสาปแช่งอะไรก็ตาม มันไม่ได้ผลกับผมหรือพวกก็อบลิน”
ดัมเบิลดอร์ไม่ได้ถือสาเรื่องนี้อย่างเบามือ เพราะทุกสิ่งที่เมอร์ลินทำนั้นถูกมองว่าเป็นเวทมนตร์ชั้นสูงที่อาจทำร้ายเขาได้
“ระวังตัวด้วย ฉันไม่อยากอยู่หน้าปืนของพ่อเธออีกแล้ว” ดัมเบิลดอร์พูดติดตลก
แม็กนัสหัวเราะเบาๆ "ฮ่าฮ่า ผมล่ะอยากจะถ่ายทอดความทรงจำนั้นออกอากาศจัง"
~เขาต้องไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับเพนซีฟแน่~ ดัมเบิลดอร์จดบันทึกในใจ
จากนั้นแม็กนัสก็ติดตามทีมก็อบลินไปถึงห้องนิรภัย พวกก็อบลินสวมชุดเกราะเวทมนตร์ราวกับว่าพวกเขากำลังทำสงคราม
ไม่นาน รถรางกอนโดลาก็เข้ามาใกล้ห้องนิรภัย และทุกคนก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น มีไอน้ำพวยพุ่งขึ้นจากโขดหินรอบตัว ทำให้เห็นได้ชัดว่าแม็กม่าพุ่งขึ้นสูงมาก
"ฉันหวังว่ามันจะไม่ท่วมมาถึงตรงที่เราอยู่นะ ลูกสาวของฉันเพิ่งเกิดเอง" ก็อบลินตัวหนึ่งพูดขึ้น
"ไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า ผมแน่ใจว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นเพราะมีผู้บุกรุก แค่หย่อนผมลงไปที่เกาะกลางทะเลแม็กม่าก็พอ” เขาสั่งการ เขารู้สึกดีที่ได้อยู่กับพวกก็อบลิน เขาสูงกว่าพวกนั้นเล็กน้อยและพวกนั้นก็ปฏิบัติต่อเขาในฐานะผู้ใหญ่
เมื่อได้ยินที่ฝ่าบาททรงตรัส พวกเขานำรถรางกอนโดลาลงมา แต่หยุดรถรางไว้ห่างจากพื้นเพียงไม่กี่ฟุตเนื่องจากมันร้อนเกินไป จากนั้นแม็กนัสก็กระโดดลงไป
“ศพของเขาอยู่ที่ไหนก่อนที่คุณจะออกมา” เขาถามก็อบลินสองตัวที่อยู่กับ แอแบรกซัสและพรรคพวกของเขา
"เขาติดอยู่ที่ประตูด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาไม่สามารถละมือออกจากประตูได้ และในไม่ช้าก็ถูกไฟลุกท่วม" ก็อบลินตอบ
เมื่อรู้เรื่องนี้ แม็กนัสเดาได้ว่าศพอยู่ที่ไหน เขาเดินเข้าไปใกล้ห้องนิรภัยและวางมือบนนั้น พวกก็อบลินเมื่อเห็นอย่างนั้นก็สะดุ้งโหยง แม้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
แม็กนัสหายตัวไปในกองไฟขนาดเล็กและปรากฏตัวในห้องนิรภัยในทางเดินยาว สถานที่ดูเหมือนไม่เสียหายและสะอาดสะอ้าน แต่เมื่อเขาเดินไปอีกหน่อย เขาก็พบเถ้าถ่านจำนวนมาก เขาไม่รู้ว่านี่คือซากของแอแบรกซัสหรือเปล่า แม้ว่าเขาจะรู้สึกเศร้าใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่เคยพบชายคนนี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นแม็กนัสจึงไม่รู้ว่าเขาแย่แค่ไหน ถ้าเขารู้ บางทีเขาคงไม่รู้สึกแย่ขนาดนี้
การสูญเสียครอบครัวเป็นสิ่งที่แม็กนัสเองไม่เคยจินตนาการถึงความรู้สึก และการทำให้คนอื่นรู้สึกแบบนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก
เขาหยิบขี้เถ้าทั้งหมดใส่ภาชนะทองคำมีฝาปิด เขาอุตส่าห์มาถึงห้องนิรภัยดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำอะไรเพิ่มเติมด้วย เขาไปที่ห้องนิรภัยของเมอร์ลินและหยิบไม้กายสิทธิ์ 10 อัน หนังสือภาษารูนโบราณ 5 เล่ม และหนังสือคาถาระดับสูง 1 เล่ม นอกจากนี้ยังมีเอกสารใส่กรอบบนผนังซึ่งมีลายเซ็นของคนอีก 10 คนและเป็นการประกาศการสร้างวิเซ็นกาม็อต จากนั้นเขาก็ไปที่ห้องนิรภัยของอาเธอร์และหยิบดาบวิเศษมา 20 เล่ม พวกมันไม่เหมือนโฮปและดิสเพียร์ แต่เขามีแผนที่จะใช้มัน
หลังจากนั้นก็ออกไป เขากลับไปที่รถรางกอนโดลาและแสดงขี้เถ้าให้พวกก็อบลินดู "ผมพบสิ่งนี้เท่านั้น"
ก็อบลินพยักหน้า ไม่รู้สึกอะไรกับการตายของพ่อมดผูู้หลงตัวเอง พวกเขาบังคับรถรางกอนโดลากลับสู่ผิวน้ำ
แม็กนัสทำหน้าเรียบเฉยและเดินไปหาดัมเบิลดอร์ เขายื่นภาชนะทองคำใบเล็กให้เขา “นี่ไง ผมเจอเถ้าของเขาแล้ว แต่ดูให้ชัวร์ว่ามันเป็นของเขาจริงๆ”
ดัมเบิลดอร์ถอนหายใจ เขาหวังให้ชายคนนั้นรอดออกมา แต่ทว่า...
เขาหันกลับมาแล้วเดินไปที่ลูเซียส มัลฟอยซึ่งกำลังสงบสติอารมณ์โดยอาร์คทูรัส แบล็กและนอตต์ ลูเซียสไม่มีแม่หรือพี่น้อง ดังนั้นเขาจึงอยู่คนเดียวในตอนนี้
ดัมเบิลดอร์ยื่นภาชนะขี้เถ้าอย่างใจเย็น "เราพบศพพ่อของคุณที่นั่น สถานที่นั้นปกคลุมไปด้วยแม็กม่า"
ลูเซียสเงียบ ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาถือศพของพ่อและมองดูพวกนั้น การหายใจของเขาเริ่มหนักขึ้น หน้าอกของเขายกขึ้นและลดลงทุกวินาที
~ลูกชาย พวกเราคือผู้ที่บริสุทธิ์ทางสายเลือด ไม่มีพ่อมดผู้ต่ำต้อยหรือมักเกิ้ลคนใดจะต่อต้านเราได้~
เมื่อนึกถึงคำเหล่านี้ที่สอนเขาตั้งแต่เด็ก เขามองไปที่ใบหน้าของดัมเบิลดอร์ จากนั้น เขาก็เห็นแม็กนัสอยู่เบื้องหลัง ใบหน้าของเขาเริ่มสั่นด้วยความโกรธ
~ในนามแห่งข้า แมกนัส แกรนท์ เอมรีส เพนดราก้อน ขอสาปแช่ง ลูเซียส มัลฟอย ให้เขาจะสูญเสียทุกสิ่งที่เขารัก ครอบครัว ความมั่งคั่ง และชีวิต พระเจ้าจงเป็นพยาน...~ เขาจำได้ว่าแม็กนัสสาปแช่งเขา
“แกฆ่าพ่อของฉัน!” เขาตะโกนจนสุดปอด ถึงขนาดทำให้คอของเขาเสียหายได้
“ไอ้ฆาตกร… ไอ้เลือดสีโคลน… ฆ่าพ่อฉันงั้นเหรอ!? ฉันจะฆ่าแก…” เขากรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาเป็นสีแดงก่ำและเห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขาไม่ใช่ตัวเขาเอง
อาร์กทูรัสและน็อตต์พยายามทำให้เขาสงบลง แต่เขาก็ไม่ฟังอะไรแล้ว ด้วยความโกรธถึงขีดสุด เขาขว้างภาชนะใส่ขี้เถ้าพ่อใส่แม็กนัสเต็มแรงด้วยความเกรี้ยวกราด
ขี้เถ้ากระจายออกไปทุกที่ ภาชนะดังกล่าวหล่นลงใกล้เท้าแม็กนัส และจี้ห้อยคออันเล็กๆ หล่นลงมา มีรูปของลูเซียส พ่อและแม่ของเขา มันเป็นไปได้มากว่าจะเป็นสิ่งที่มีการลงคาถาอย่างหนักหน่วง ซึ่งเป็นสาเหตุว่าทำไมมันถึงรอดจากไฟได้
แม็กนัสหยิบมันขึ้นมา แต่เขาไม่ได้เดินหน้าเอาไปคือ เพราะลูเซียสเสียสติไปแล้ว เขาเรียกก็อบลินตนหนึ่งมอบให้พวกเขาเพื่อมอบให้ลูเซียสในภายหลัง
"ฉันจะฆ่าแกกกกกก..."
ทันใดนั้น ลูเซียสก็วิ่งไปหาแม็กนัสด้วยความเร็วเต็มที่ ตอนนี้เขาไม่ได้หยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาด้วยซ้ำ เขาแค่อยากจะบีบคอแมกนัสด้วยมือของตัวเอง
แม็กนัสส่ายหัว เขาไม่รู้ว่าการตายของแอแบรกซัสเป็นเพราะคำสาปแช่งของเขาหรือเพราะกฎการคัดสรรโดยธรรมชาติไหม? พวกเขาคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ หากพวกเขาพยายามบุกเข้าไปในห้องนิรภัยของเมอร์ลิน? พวกเขาลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในสุสานอียิปต์ไปแล้วอย่างงั้นหรอ?
_____________________________
[A/N : นี่คือการเปลี่ยนแปลงจากเนื้อเรื่องหลักหรือเราเรียกว่าปรากฏการณ์ผีเสื้อขยับปีกก็ได้ แอแบรกซัส มัลฟอยควรจะเสียชีวิตในปี 1996 หากไม่มีพ่อคอยชี้แนะ สิ่งต่างๆ จะเปลี่ยนไปเล็กน้อยสำหรับลูเซียส แต่จะดีขึ้นหรือแย่ลง คงต้องรอดูกัน]