ตอนที่ 370 ความเข้าใจระหว่างปะทะฝีมือ
มันแตกต่างอย่างแท้จริง
ตันเถียนและเส้นชีพจรในร่างของเขาเปลี่ยนแปลงไปมากเกินกว่าจะยอมรับได้ทำให้ถังเทียนตกตะลึง เขาคิดถึงเรื่องนี้ จากนั้นคิดถึงเรื่องเมื่อเขากำลังจะระเบิดและเขาจำบางอย่างได้
เขาสูดลมหายใจและปล่อยหมัดออกไป
ร่องรอยของปราณแท้ในตันเถียนของเขาที่กำลังสงบนิ่งก็หายไปทันทีและในเวลาเดียวกัน มันปรากฏในเส้นชีพจรที่มือของถังเทียน
ปัง!
เสียงดังกึกก้องและชัดเจนระเบิดอยู่หน้าหมัดของถังเทียน
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ว่ารังสีหมัดพลังงานเกลียวทะลวงผ่านอากาศเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
“มา ให้ข้าทดสอบดูหน่อย” หลิงซิ่วต้องการจะทดสอบลองแทงหอกใส่ถังเทียน
ถังเทียนหันหน้าเผชิญกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหอกทันใดนันเขาปล่อยหมัดและปะทะกับปลายหอก
พลังงานแหลมคมความเร็วสูงปะทะกับปลายหอกอย่างแม่นยำทำให้หอกเต็มท้องฟ้าหายไปหมด หลิงซิ่วรู้สึกเหมือนกับว่าเผชิญหน้ากับปากของพยัคฆ์ หอกเงินแทบปลิว
หัวใจของเขาสั่นพลังมากมหาศาล
แม้ว่าเขาจะไม่ทันได้ตั้งตัวเพียงพอ แต่ท่าทีที่สบายนั่นแฝงพลังมหาศาลทำให้หลิงซิ่วประหลาดใจ
ถังเทียนมองอย่างตั้งใจโดยไม่ต้องคิดเขาก้าวเท้าออกไปและปล่อยหมัดอีกครั้ง
หลิงซิ่วอยากเอาชนะ เขาสงบใจตัวเอง ทำตัวสบายๆ และแทงหอกออกไป
หมัดและปลายหอกปะทะกันอีกครั้ง!
“เผียะ เผียะ เผียะ” หลิงซิ่วถอยไปสามก้าวขณะที่ร่างถังเทียนแค่โงนเงน ปราณแท้ของหลิงซิ่วชอนไชเข้าไปในชีพจรเขา แต่ชีพจรของเขากว้างมาก จึงไม่ได้ทำอันตรายเขามากสายปราณแท้ในร่างของเขาเหมือนกับฝูงปลารีบจู่โจมพลังปราณแปลกประหลาดอย่างรวดเร็วและทำลายได้ในพริบตา
การโจมตีของเขาถูกขัดขวางอีกครั้งทำให้เขาโกรธ ปากของเขาเปล่งเสียงและถังเทียนเผชิญกับหอกทะเลจุดอีกครั้ง
เสียงหวีดหวิวเข้มข้นพุ่งมาข้างหน้าเหมือนกับนกฮูกและเสียงที่ร้ายกาจนั้นก่อกวนจิตใจของเขา
ถังเทียนสมาธิแกว่งแต่รีบเรียกสติกลับมาอย่างรวดเร็ว นิ้วทั้งห้ากางเหมือนกรงเล็บแสงรังสีของกรงเล็บภูตพรายเพลิงฉายออก
คลื่นระเบิดเสียงนับไม่ถ้วนผสานกันกับเสียงปะทะของการโจมตีเต็มท้องฟ้าทั้งสองฝ่ายมองเห็นอย่างลำบาก
ปราณแท้ที่ไม่จำกัดของถังเทียนสามารถใช้กรงเล็บเพลิงภูตพรายได้อย่างอิสระมากกว่าเดิมและแม้แต่ประกายแสงบนปลายนิ้วของเขายังถูกเขาควบคุมไว้ได้ทั้งหมด มันส่องแสงเหมือนกับไฟ ติง ติง ติงแต่ละกรงเล็บปะทะใส่ปลายหอก
ทั้งสองฝ่ายลงมือเร็วมากขึ้นทุกที
ถังเทียนตื่นเต้นมากเขาสามารถรู้สึกได้ว่าสายปราณแท้ในร่างของเขาเชื่องเชื่อมากและสามารถใช้สายปราณแท้ได้ดั่งใจคิด ใจของเขาตื่นเต้นทันที บางทีเขาอาจสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตกระมัง?
หลิงซิ่วซึ่งตื่นเต้นเพลิดเพลินกับการต่อสู้ การสู้กันตัวต่อตัวเป็นรูปแบบการต่อสู้ที่เขาโปรดปราน เขาไม่เคยแพ้ในเรื่องความเร็วมาก่อน! เพียงชั่วครู่กรงเล็บเพลิงภูตพรายของถังเทียนมีการเปลี่ยนแปลงสภาพใหม่ทันที
บางครั้งเบาบางครั้งหนัก บางครั้งเร็ว บางครั้งช้า ความไม่แน่นอนทำให้หลิงซิ่วสับสน เนื่องจากทำให้เขาไม่สามารถป้องกันได้ถูกต้อง
ตาของถังเทียนเป็นประกายตื่นเต้น กระแสปราณแท้ในร่างกายของเขาทำให้เขารู้สึกว่าตัวเขาเต็มไปด้วยพลังงาน สิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้เท่าไหร่ก็คือแอ่งตันเถียนทุกชั้นใช้งานได้มากขึ้น เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงความแตกต่างระหว่างกระแสของปราณแท้ในทุกชั้น
ทันใดนั้นเขามีความคิดบรรเจิดทำให้เขาตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
ปราณแท้ห้าสายกลับเข้าไปยังแอ่งตันเถียนพวกมันเคลื่อนลงไปที่แอ่งตันเถียนระดับต่ำเรื่อยๆ จนถึงแอ่งตันเถียนระดับต่ำที่สุด หลังจากนั้นปราณแท้ห้าสายก็ทะลักขึ้นมาทีละชั้นๆ และทุกชั้นความเร็วของปราณแท้นั้นจะเพิ่มขึ้นมาก และเมื่อมันขึ้นมาถึงแอ่งตันเถียนระดับสูงสุดความเร็วจะเพิ่มขึ้นมากจนแม้แต่ถังเทียนเองก็ยากจะควบคุม
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาตื่นเต้นมากและการควบคุมของเขามีทักษะเพิ่มขึ้นมาก เขาคงสูญเสียการควบคุมสายพลังปราณ
ไวมาก!
ถังเทียนไม่มีเวลาเสียใจไหล่ขวาของเขากระตุก ปราณแท้ทั้งห้าสายพุ่งกระจายและยิ่งผ่านปลายนิ้วทั้งห้าของเขา
ไวมาก! ถังเทียนมีเวลาแค่เพียงยกมือของเขา
ปัง!
เสียงกดดันดังออกมาตามมาด้วยประกายทั้งห้ายิงออกมาจากนิ้วถังเทียน
หลิงซิ่วตกใจนั่นมันวิชาแปลกประหลาดอะไรอีก? เขาไม่กล้าผ่อนหอกยาวในมือของเขาเปลี่ยนแปลงทันทีจากรุกเป็นรับหอกทะเลจุดหนาแน่นป้องกันอยู่หน้าเขาทันที
ประกายแสงรวดเร็วดุจสายฟ้าปรากฏต่อหน้าของเขาในพริบตา
เผียะ!
เห็นได้ชัดว่าพลังทั้งห้าสายดังขึ้นพร้อมกัน ม่านตาของหลิงซิ่วหรี่แคบร่างของเขาสั่นรุนแรงเหมือนเครื่องร่อนตะแกรง หินใต้เท้าเขากลายเป็นผุยผง
ประกายไฟห้าสายที่ยิงออกมาหมุนภายในด้วยความเร็วสูง พลังงานที่สะสมทำลายการต้านรับของหลิงซิ่ว
ถังเทียนยังคงประหลาดใจกับการโจมตีที่เขาคิดได้เอง แต่หลังจากนั้นเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเหมือนกับได้ของเล่นใหม่ ยังมีรูปแบบต่างๆ ให้ลองมากกว่านี้ไหม? ต้องมีแน่นอน
อย่างนั้นต้องลองดู!
หลิงซิ่วที่น่าสงสารกลายเป็นหนูทดลองของถังเทียนเคล็ดวิชาแปลกประหลาดชั้นแล้วชั้นเล่าทำให้หลิงซิ่วล้ามาก
อาเฮ่อยืนมองดูอยู่ด้านข้างด้วยความสนใจและดีใจบางครั้งช่วงส่งเสียงเตือนและสัญญาณบ้าง
“เสี่ยวซิ่ว ระวังด้านซ้ายของเจ้า!”
“ข้างขวา ข้างขวาเจ้ามีช่องว่าง!”
“ท่านี้สวยมาก!”
…..
หลิงซิ่วที่กำลังมือไม้ปั่นป่วนหงุดหงิดกับการส่งสัญญาณและคำเตือนของอาเฮ่อเขาโดดออกจากเวทีและหันมาจ้องอาเฮ่อ “ตาเจ้าบ้าง!”
อาเฮ่อสังเกตการณ์อยู่ด้านอย่างตื่นเต้นอยากจะมีส่วนร่วมนานแล้วเขาไม่ปฏิเสธเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ได้เลย”
จากนั้นหลิงซิ่วออกมาพักอ้าปากหอบหายใจ ทันใดนั้นเขาชะงักค้าง เดี๋ยวก่อน ทำไมข้ากำลังอ้าปากหอบหายใจ? หลิงซิ่วปากอ้าตาค้างสีหน้ามีแววเหลือเชื่อ เขาแค่สู้กันเป็นเวลานานแต่ทำไมร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าจัดจนถึงกับอ้าปากหอบหายใจด้วยหรือ?
เขาหันศีรษะและจ้องมองถังเทียนที่กำลังส่งเสียงตะโกนและรู้สึกสะท้านใจ
ไม่ว่าใครจะขึ้นมาสู้กับเขาถังเทียนก็มีความสุขอยู่ดี ความเปลี่ยนแปลงของตันเถียนและเส้นชีพจรในร่างกายเขาทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าร่างของเขาพบฟ้าใหม่ที่กว้างขวาง และเมื่อทะยานขึ้นไปก็ได้พบสิ่งใหม่ๆ
ถังเทียนกำลังตื่นเต้นจัด สัมผัสรู้ทั้งหกของเขาเฉียบคมมาก
วิธีลึกลับในการใช้พลังงานเกลียวกำลังเผยตัวให้เขาพบช้าๆ ถ้าเขาต้องการทำลาย อย่างนั้นความเร็วของการโจมตีของสายปราณแท้และความเร็วของการหมุนตัวจะเร็วมาก แต่ไม่ควรจะเร็วเกินไป ไม่อย่างนั้นมันจะถูกยิงออกไปเหมือนครั้งก่อน
มีผลอย่างอื่นระหว่างพลังหมุนวนและนั่นก็คือพลังดูดซึม
ถ้าเขาต้องการให้ได้ผลเช่นนั้น เขาต้องใช้เส้นสายปราณแท้มากกว่ายี่สิบสายและความเร็วในการหมุนตัวต้องไม่เร็วเกินไป
วิทยายุทธรูปแบบนั้นคลับคล้ายกับวิชาวนสู้ต่อเนื่องที่ทำให้เขาปลดปล่อยพลังโจมตีได้ต่อเนื่องซึ่งทำให้ถังเทียนตื่นเต้นมากขึ้น สำหรับยอดฝีมือต่อสู้ระยะประชิด การประชิดตัวและความต่อเนื่องเป็นเคล็ดวิชาที่มีประโยชน์เพราะสามารถลดระยะห่างระหว่างคู่ต่อสู้กับเขาได้เสมอ
สำหรับยอดฝีมือสู้ระยะประชิด การย่นระยะห่างหมายถึงชัยชนะ
ถังเทียนกำลังแช่อิ่มอยู่ในความตื่นเต้นความคิดของเขาทำงานมากกว่าปกติ เขาคิดถึงภาพบันทึกที่ติงตังซื้อมาให้ ยอดฝีมือสู้ระยะประชิดสามารถยืมพลังและใช้โจมตีคู่ต่อสู้
เขาตัดสินใจใช้ทดสอบ
แรงกดดันที่ตัวอาเฮ่อเพิ่มขึ้น หมัดของถังเทียนเป็นเหมือนสว่านสองดอก และนิ้วทั้งสิบของก็เป็นเหมือนดอกสว่านเล็กอีกสิบดอก
เขาถูกถังเทียนโจมตีติดต่อกันในพริบตาเดียวเขาปล่อยรังสีกระบี่และเหมือนกับว่ารังสีกระบี่เหล่านั้นถูกโจมตีด้วยพลังหมุนวนความเร็วสูงทำให้บินกระจายไปทุกที่ เขามองดูด้วยความตกใจขณะที่รังสีกระบี่สองสามสายแฉลบเข้ามาหาเขาแทนทำให้เขาลนลานทันที
โอกาสดีอย่างนั้นหลิงซิ่วไม่ยอมปล่อยเหมือนกัน
“ข้างซ้าย ข้างซ้าย ข้างขวา ขวา”
“ระวังขาของเจ้า ท่านั้นน่ากลัว!”
“หนุ่มน้อยวิปริตกับวิธีที่วิปริตของเขา เสี่ยวเฮ่อ!ตื่นเต้นมากไหมเล่า!”
….
อาเฮ่อโดดออกมาจากเวทีและอ้าปากหอบหายใจนั่งพักฟื้นฟูพลังทันที ถังเทียนต้องการซ้อมต่อยังคงมองหลิงซิ่ว
หลิงซิ่วไอเบาๆ “พอแค่นี้เถอะ เรามีเรื่องเร่งด่วนกว่า”
ไม่รอให้ถังเทียนทักท้วง เขานั่งฟื้นฟูพลังเช่นกัน
“เฮ้, พวกเจ้า...”
ถังเทียนตะโกนอย่างไม่พอใจแต่เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนไม่ต้องการขยับตัว เขาจึงต้องหยุดอย่างช่วยไม่ได้ ใจของเขาจดจ่ออยู่ที่พลังเกลียว ความเปลี่ยนแปลงในพลังเกลียวของเขาทำให้เขาเมามัน ตัวอย่างเช่นเคล็ดเกาะติด เคล็ดยิงพลัง สร้างผลแตกต่างสองรูปแบบแต่ความแตกต่างในปราณแท้เล็กน้อยมาก หนึ่งนั้นก็คือความแตกต่างความเร็วในการหมุนตัว อีกหนึ่งก็คือปริมาณของสายพลังปราณแท้
ผลของการเจาะทะลวงเรียกว่าเคล็ดทะลวง
ทะลวง,เกาะติด, ยิง ผลทั้งสามรูปแบบแตกต่างทำให้เขามีพลังโจมตีรูปแบบต่างๆมากขึ้น
พลังของกรงเล็บเพลิงภูตพรายยังคงเพิ่มขึ้นอีกมาก
แต่สำหรับนิ้วทั้งห้าที่ยิงแสงออกมา ยังใช้ประโยชน์ได้ไม่ดีนัก แม้ว่าความเร็วและวิถีของพลังโจมตีจะเร็วมากแต่พลังจะอ่อน ทันใดนั้นถังเทียนคิดถึงหิ่งห้อยเพลิงจ้าวปีศาจทั้งสองวิชานี้มีความคล้ายคลึงกัน จะเป็นยังไงถ้าผสานทั้งสองวิชานี้เข้าด้วยกัน
เมื่อคิดเช่นนั้น ถังเทียนเริ่มทดสอบทันที
ปังปัง ปัง!
กลุ่มแสงเป็นระเบียบถูกยิงออกมาจากนิ้วถังเทียนลูกแล้วลูกเล่าเมื่อกระทบกับพื้นก็ระเบิดกลายเป็นหลุมใหญ่ตามมา
อีกสองคนที่กำลังนั่งฟื้นฟูเรี่ยวแรงที่หน้าผากหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ทั้งสองคนคิดเหมือนกันว่า“โชคดีที่เราไม่สู้กับเจ้านี่ต่อ เขายังคิดหาวิชาประหลาดๆ ได้อยู่เรื่อย...”
เจ้าคนผิดมนุษย์ก็ช่างผิดปกติคนเสียจริง
หลังจากทำลายพื้นที่อยู่ครึ่งวันในที่สุดถังเทียนก็มีความก้าวหน้า
ปลายนิ้วของเขามีประกายแสงปรากฏขณะที่มันร่วงลงพื้นสบายๆ เสียงซี่ๆ ดังหนักแน่นในพริบตา ก็เป็นรูเจาะลึกปรากฏบนพื้น
ปัง!
ประกายไฟขนาดเล็กมือเจาะเข้าไปในพื้นและระเบิดทันที
พลังของระเบิดรุนแรงมากกว่าครั้งก่อนทั้งหมด พื้นสั่นทำให้หินร่วงลงมาจากเพดานทางเดิน
ทั้งสองคนที่กำลังนั่งฟื้นฟูพลังเหมือนกับแมวถูกเหยียบหางรีบลุกขึ้นพรวดพราดพร้อมกัน
“เจ้างี่เง่าเจ้าจะฝังพวกเราทั้งเป็นหรือไง?” หลิงซิ่วด่า
“ได้โปรดหักห้ามใจตัวเองหน่อยเถอะ อย่าทำเรื่องอันตรายแบบนั้น” อาเฮ่อตำหนิ
ถังเทียนก็ตกใจกับแรงระเบิดเช่นกัน เขาเงยหน้าทำท่าตกใจ และมองดูพวกทั้งสอง
สำเร็จ!
ข้าจะตั้งชื่อว่าไงดี?หนูทะลวง? ว้า...ไม่เพราะเลย, หนูจ้าวปีศาจทะลวง? เรียกว่าหิ่งห้อยจ้าวปีศาจ...
ความคิดสุดท้ายทำให้เขาพอใจ
ทันใดนั้นร่างของเขาหมดพลังล้มลง
หลิงซิ่วกับอาเฮ่อตกใจทั้งสองวิ่งเข้ามาหาถังเทียนพร้อมกัน
ถังเทียนแม้จะอยู่ต่อหน้าทั้งสองที่วิ่งเข้ามาถึงตัวก็ยังส่งเสียงกรนได้ยินชัดเจน เขาหลับสนิท หลังจากสู้กับทั้งคน ร่างกายของเขาล้าและหมดพลังไปมากอยู่แล้ว แต่นั่นเป็นเพราะความตื่นเต้นของเขาความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าถาโถมเข้ามาเหมือนคลื่นและดึงเขาเข้าสู่อาการหลับลึก
อีกสองคนถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
เจ้างี่เง่านี่...
ปึ้กทั้งสองคนยันเท้าใส่หน้าถังเทียนพร้อมกัน
“จริงๆ เลย,เจ้ามันงี่เง่าตัวพ่อที่สุดแล้ว ข้าอยากจะเหยียบๆๆๆ เจ้าจริงๆ!”หลิงซิ่วระเบิดอารมณ์โกรธ
“ถูกต้อง, เจ้ามันขาดความรับผิดชอบแท้จริงดังนั้นต้องถูกทำโทษ” อาเฮ่อมีสีหน้าโกรธเช่นกันและเหยียบด้วยความโมโหบ้าง
“ปราณแท้ของมันยังเป็นระดับเจ็ดได้ยังไง?” หลิงซิ่วบ่นทั้งที่ยังเหยียบอยู่
“เขาคงนับจำนวนแอ่งตันเถียนผิดไปแน่ๆ” หน้าของอาเฮ่อสงบเย็น แต่เท้าของเขาไม่ผ่อนแรงลงเลย
“นั่นสิ, เจ้าบ้านี่สอบตกวิชาเลข มันไม่เคยหัดนับนิ้วเลย ใช่แล้ว, ในตอนนั้นมันไม่ได้ใช้นิ้วนับ มันใช้นิ้วฝึกวิชาอย่างอื่น”หลิงซิ่วพิจารณาอย่างจริงจัง
“...” อาเฮ่อไม่รู้จะพูดยังไง
หลังจากระบายความโกรธจนพอใจ พวกเขามองหน้ากันเองอย่างเข้าใจพวกเขาไม่ลังเลใจหันหน้าเดินไปที่เดิมของตนและนั่งฟื้นฟูพลังอีกครั้ง
ถังเทียนผู้น่าสงสารใบหน้าเขามีแต่รอยรองเท้า
เขากำลังหลับลึกจึงไม่รู้สึกอะไร