ตอนที่ 367 เขาเสร็จแน่
คฤหาสน์กุหลาบ
ม่านหน้าต่างถูกชักปิดไว้แน่นหนาทำให้ห้องมืดมาก ถังเทียนหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่ที่มุมห้องและตั้งใจไม่ไกลจากเขา แอนเดรียนานั่งเท้าคางตั้งใจมองถังเทียนอย่างงวยงง
เมื่อคิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันนี้ ใจของนางรู้สึกว่างเปล่า
นางไม่สามารถรวบรวมความกล้าทะเลาะกับเขา
วิธีการของเขาน่ากลัวมากเห็นประจักษ์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาแค่พลิกมือก็เปลี่ยนสถานการณ์ได้และพอพลิกมืออีกครั้งก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นตามมาทั่วทั้งนครเทพสตรีกลายเป็นของเล่นสนุกของเขาอย่างสิ้นเชิง
นครเทพสตรีในตอนนี้เกิดความสับสนอลหม่านและขาดคนที่มีชื่อเสียงออกมานำสถานการณ์ในวันนั้นหัวหน้าผู้อาวุโสผู้กล่าวโทษและต้องการเล่นงานทาร์ตันในฐานะเป็นผู้ร้าย ได้นำพาฝ่ายปกครองระดับสูงของนครเทพสตรีไปด้วยกันและเมื่อเกิดการระเบิดไม่มีผู้ใดรอดออกมาได้
พวกเขาวิ่งเข้าไปในวังเทพธิดาและไม่มีเวลาส่งข้อความออกมา
ทั่วทั้งนครเทพสตรีไม่มีเจ้าหน้าที่ปกครองระดับสูงของนครเทพสตรี ทุกคนถูกกวาดหายไปหมดและทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ถูกกวาดหายเช่นกัน
กฎหมายและคำสั่งในเมืองกลายเป็นความวุ่นวายคนผู้ร่ำรวยและมีอิทธิพลทุกคนต่างหวาดกลัว ขณะที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวที่สุดก็คือว่าผู้อาวุโสตระกูลของพวกเขาหายสาบสูญไปหมด ทุกๆตระกูลทำได้แต่เพียงปิดประตูของพวกเขารักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และส่งคนออกไปตามหาผู้อาวุโสของพวกเขาและผู้อาวุโสตระกูล
ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องการจะพบพวกเขา ถ้าพวกเขาตาย พวกเขาต้องการจะเห็นศพพวกเขา
ความสับสนวุ่นวายไม่เคยปรากฏมาก่อน
ความสับสนและการฝ่าฝืนกฎหมายทำให้ฉีซานและคนของเขาค้นหาได้ยากขึ้น เขามีกำลังคนจำกัดและเมื่อเผชิญกับความวุ่นวายสับสนดังกล่าว กำลังคนที่น้อยนิดนี้ดูเหมือนไม่มีอะไร
และที่แย่คือสถานการณ์ดำเนินไปถึงจุดที่พวกเขาไม่ได้คาดไว้
หน้าของฉีซานซีดขาว จูหนิงเข้ามารายงานต่อหน้าเขาอย่างระมัดระวัง
“....ตอนนี้ที่ตลาดกำลังพูดกันว่าการระเบิดเกิดขึ้นเพราะเรา พวกเขาบอกว่าพวกเขามีพยานกล่าวว่าเป็นเพราะอัสตาปฏิเสธร่วมมือกับเราจึงทำให้เราโกรธและอาย...”
จูหนิงรู้สึกได้ว่าเจ้านายของเขากำลังปล่อยรังสีอำมหิตขนาดใหญ่ และรู้ว่าเจ้านายเขาโกรธมาก แต่เรื่องนี้ร้ายแรงเกินไปและเขาไม่กล้าปกปิดไว้ ดังนั้นเขาต้องด้านหน้าดำเนินการต่อไป
“พวกเขาบอกว่า นี่ไม่ใช่ระเบิดธรรมดาอำนาจทำลายล้างของมันสูงมาก และมีแต่สมาพันธ์ชาวยุทธจึงจะสามารถทำอย่างนั้นได้สำเร็จ นอกจากนี้เวลาระเบิดก็สมบูรณ์แบบเกินไป เพิ่งจะระเบิดเมื่อเราออกไป....”
หน้าของคนที่อยู่รอบๆฉีซานเปลี่ยนไปทุกคน พวกเขาไม่สามารถหักล้างข้อกล่าวหาเหล่านั้นได้ ข่าวลือแบบนั้นมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง
ถ้าไม่ใช่พวกเขาทำเอง พวกเขาอาจไม่เชื่อข่าวลือเช่นนั้น พฤติกรรมของพวกเขาจริงจังเกินไปและพอพวกเขาออกไป วังเทพธิดาเกิดการระเบิด และไม่ใช่ระเบิดธรรมดาแต่เป็นพลังระเบิดที่น่ากลัวมาก
พวกเขามองหน้ากันเองและฝืนยิ้ม
นี่เหมือนกับโคลนเหลืองเปื้อนอยู่บนกางเกงพวกเขา ต่อให้มิได้ปัสสาวะแต่คนอื่นกลับเชื่อว่าเป็นปัสสาวะ
ฉีซานสูดหายใจลึกบังคับตนเองให้สงบใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธต่อไป เขากล่าว“เจ้าหาคนที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวลือได้หรือเปล่า?”
จูหนิงลังเลชั่วขณะจากนั้นตัดสินใจพูดความจริง “เราติดต่อกับหัวหน้าผู้อาวุโส,แคทเธอรีนและปาฟุเท่านั้น ตอนนี้เราไม่มีพันธมิตรท้องถิ่นอยู่เลย ดังนั้นเราไม่มีหูตาอยู่เลย”
ใครบางคนเสนอแนะ “อย่างนั้นเราสามารถจับพวกชาวธุรกิจท้องถิ่นข้าสังเกตว่าทัศนคติของพวกเขาที่มีต่อเราค่อนข้างดีในวันนั้น”
จูหนิงจ้องเขาและตอบ “ถึงตอนนี้ใครจะกล้าเสี่ยงกับการกล่าวโทษและติดต่อกับเรา? ไม่มีใครยอมเชื่อถือเรา และพวกผู้อาวุโสเกือบทั้งหมดของสมาคมการค้าใหญ่ในเมืองถูกระเบิดตายหมด”
“ห่วงนางฟ้าอยู่ในมือของแอนเดรียนา”ฉีซานกล่าวเคร่งเครียด
จูหนิงเข้าใจความหมายของเจ้านายและส่ายหัวขณะฝืนหัวเราะ “พวกเขากล่าวว่า เป็นเพราะแรนดี้และแคทเธอรีนถูกเจ้ากลุ่มดาวฆ่าเพื่อปกป้องแอนเดรียนาหัวหน้าผู้อาวุโสและอัสตาได้รับบาดเจ็บ นั่นหมายความว่าอัสตารู้ถึงอันตรายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้จึงมอบห่วงนางฟ้าให้แอนเดรียนาและปล่อยให้นางหนีไป มีข่าวลือหลายรูปแบบ
ฉีซานโกรธจัดจนหัวเราะออกมา“เหลวไหล!”
“พลเมืองยินดีจะเชื่อ ดังนั้นตระกูลทั้งหลายยินดีจะเชื่อด้วยเช่นกัน” จูหนิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “พวกเขาต้องการใครสักคนมาเป็นผู้นำพวกเขา และแอนเดรียนามีห่วงนางฟ้าดังนั้นเป็นเรื่องยุติธรรมที่นางจะได้เป็นผู้นำ ที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่มีใครเชื่อว่าแอนเดรียนาจะเป็นต้นเหตุให้เกิดการระเบิดใหญ่ครั้งนี้”
“มีใครบางคนอยู่เบื้องหลังแอนเดรียนา” ฉีซานใจเย็น “เขาคือมือกระบี่ลึกลับ และแอนเดรียนาจะต้องกลับไปยังคฤหาสน์กุหลาบแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีข่าวลือเช่นนั้น ดังนั้นหนทางเดียวที่เหลือให้เราเดินก็คือไปฆ่าแอนเดรียนาและชิงห่วงนางฟ้ากลับคืนมา เนื่องจากมันสร้างความวุ่นวายมากพอแล้ว เราต้องลงมือ แม้จะดูแย่ก็ตาม”
แววอำมหิตฉายผ่านดวงตาของฉีซาน
“ไปคฤหาสน์กุหลาบกัน”
“ขอรับ!” ทุกคนตอบรับเสียงเครียด
พวกเขาสืบเรื่องของแอนเดรียนามาเป็นอย่างดีและรู้จักพื้นที่ของตระกูลนางชัดเจน พวกเขามีคนไม่มาก แต่ในขณะเดียวกันเป้าหมายของพวกเขาเล็กน้อยและพอกระจายเป้าหมายให้มีขนาดเล็กลงก็ย่อมจะสำเร็จได้ง่าย พวกเขาหาทางมาคฤหาสน์กุหลาบอย่างเงียบกริบ
แนวป้องกันคฤหาสน์กุหลาบหนาแน่นมากมีจุดตรวจเวรยามทุกๆ สิบก้าวและมียามทุกๆ ห้าก้าว แม้แต่นกก็ยากจะบินผ่าน
ทุกคนตื่นตระหนกมาก
ฉากภาพดังกล่าวยืนยันถึงการคาดเดาของฉีซาน ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ มีแต่คนเข้าไปในคฤหาสน์ไม่มีใครออกมาซึ่งเป็นภาพที่ไม่ปกติ ครอบครัวอื่นๆ ก็มีการป้องกันพวกเขาอย่างหนาแน่น แต่มักจะมีคนเข้าออกหลายคน เพราะพวกเขามองหาญาติพี่น้องที่สูญหายไปจากแรงระเบิด แต่สำหรับคฤหาสน์กุหลาบไม่มีใครออกมา
บ้านอื่นทุกบ้านเปิดไฟสว่างรอคอยข่าวทั้งวันทั้งคืน มีเพียงคฤหาสน์กุหลาบที่ยังอยู่ในความมืด ยามทุกคนเดินด้อมๆ มองๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทุกอย่างผิดปกติเกินไป
ฉีซานหรี่ตาเมื่อเห็นการป้องกันที่หนาแน่นของคฤหาสน์ ไม่ต้องสงสัยแล้ว ข่าวลือทั้งหมดถูกแอนเดรียนาแพร่กระจาย และผู้บงการหลังฉากมีแนวโน้มว่าจะเป็นมือกระบี่ลึกลับผู้นั้น
แต่แผนการทุกอย่างเมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่เด็ดขาดจะพังพินาศเสมอ
บุรุษที่เขานำมาด้วยเป็นนักสู้ฝีมือดีของสมาพันธ์ชาวยุทธและการป้องกันข้างหน้าพวกเขาแค่ดีพอสำหรับนักสู้ธรรมดา แต่สำหรับพวกเขาแล้วเป็นเรื่องไร้ประโยชน์
กลุ่มนักสู้ลอบเข้าไปในคฤหาสน์อย่างเงียบกริบ
ในเวลาอันรวดเร็วพวกเขาก็หาตำแหน่งของแอนเดรียนาพบ เป็นเรือนหลังเล็กมีต้นกุหลาบล้อมรอบเป็นที่มาที่ทำให้ทุกคนเรียกชื่อคฤหาสน์ตามลักษณะเรือนกุหลาบ ความพยายามของพวกเขาไม่สูญเปล่าดอกไม้ดูงดงามมาก
ผ้าม่านในเรือนกุหลาบปิดหมด
สถานการณ์ตอนนี้ทำให้ทุกคนตื่นเต้น ไม่มีข้อสงสัยมีโอกาสสูงที่แอนเดรียนาจะซ่อนตัวอยู่ข้างใน
ฉีซานส่งสัญญาณให้จูหนิง
จูหนิงเข้าใจ เขาเตรียมการเคลื่อนไหวของเขา เมื่อนั้นฉากภาพแปลกประหลาดเกิดขึ้นทันที
แสงสีขาวบริสุทธิ์ฉายตรงมาที่หน้าของเขา
จูหนิงหรี่ตา
แสงยิงออกมาจากเรือนกุหลาบซึ่งอยู่ห่างออกไป400 เมตร ในขณะเดียวกันสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น แสงไฟสาดส่องทีละดวงๆในทุกตำแหน่ง สิ่งที่พวกเขาคาดไว้กำลังเกิดทำให้ผมบนศีรษะพวกเขาตั้งชัน
แย่แล้วเป็นกับดัก!
หัวใจของฉีซานตกวูบ แต่เขาไม่ตื่นเต้นเนื่องจากพวกเขาถูกจับแผนการได้ อย่างนั้นก็สู้กัน
เขาตะโกนลั่น“ฆ่า!”
กระบี่ในมือของเขาเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าราวกับดวงอาทิตย์ เขาฟันกระบี่ใส่เรือนกุหลาบด้วยพลังรังสีกระบี่ที่น่าทึ่ง
แสงรังสีกระบี่ทั้งหมดเล็งตรงไปที่เรือนกุหลาบ
ปัง!
เรือนกุหลาบระเบิดกลายสภาพเป็นผุยผงทันที
ฉีซานหรี่ตา ไม่มีใครเลย
“วิเศษ วิเศษ วิเศษมาก”เสียงชราภาพแฝงด้วยความโกรธดังขึ้นจากท้องฟ้าตำแหน่งเหนือเรือนมีชายชราคนหนึ่งยืนหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ “ท่านเจ้ากลุ่มดาวท่านอยู่ในสรวงสวรรค์ยังปรารถนาบอกเราว่าใครเป็นคนทำร้ายท่าน”
เขาคือผู้อาวุโสสิบผู้ที่ไม่ก้าวก่ายเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ท่านรักความสงบ ดังนั้นจึงหลีกเร้นทุกอย่าง แต่เขาเป็นผู้อาวุโสมายาวนานที่สุดและมองเห็นอัสตาเติบโตและผูกพันกับอัสตาอย่างลึกซึ้งดังนั้นหัวใจของเขาจึงเจ็บปวดโศกเศร้า
บุรุษวัยกลางคนหน้าเหลี่ยมอีกคนหนึ่งราวกับมีไฟเกลียดชังพวยพุ่งออกมาจากนัยน์ตา เขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “ฉีซาน! กลุ่มดาวอันโดรเมดาของเราเป็นปฏิปักษ์อะไรกับสมาพันธ์ชาวยุทธ?เจ้าโหดร้าย อำมหิตยิ่งนัก”
เขาคือคุณชายของสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดของนครเทพสตรี บิดาของเขาหายสาบสูญจนถึงบัดนี้และการสูญเสียบิดาของเขาเป็นเรื่องเจ็บปวดเข้ากระดูก
ขุนพลเฒ่าคนหนึ่งสวมชุดเกราะผมขาวโพลนราวหิมะเขาไม่ปล่อยให้อารมณ์โกรธครอบงำตัวเอง เขาคืออดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบ และเขากล่าว “แม้ว่ากลุ่มดาวอันโดรเมดาของข้าจะมีขนาดเล็ก แต่ก็ไม่เคยถูกย่ำยีเลย จากนี้ไปกลุ่มดาวอันโดรเมดาของข้าขอตัดสัมพันธ์กับสมาพันธ์ชาวยุทธทั้งหมด! ฆ่า”
“ฆ่า!”
จากที่ไกลเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดังก้องฟ้า เสียงตะโกนดังใกล้เข้ามา
หน้าของฉีซานซีดขาวร่างของเขาแทบทรุดลงเหมือนกับรูปปั้นน้ำแข็ง เขาติดกับเสียแล้ว!
ทุกย่างก้าวของเขาถูกศัตรูคำนวณออก ฝ่ายตรงข้ามจงใจแพร่กระจายข่าวลือและตั้งใจทิ้งร่องรอยอย่างหนึ่งไว้ทุกอย่างคือกับดักในการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ทันใดนั้นดูเหมือนฉีซานจะตื่นตัว กับดักนี้คุ้นๆ ว่าเหมือนเขาจะวางไว้ให้ทาร์ตันเข้ามาติดกับนี้
หรือว่านี่คือกรรมสนอง?
เขาเหมือนสารภาพผิดไปแล้วที่ฆ่าอัสตาและเหมือนสารภาพผิดกับการสร้างระเบิดครั้งใหญ่
ไม่ว่าเขาพยายามปฏิเสธมากเพียงไหมก็ไม่มีผู้ใดเชื่อเขา
ทันใดนั้นเขาเบิกตากว้างความเชื่อมั่นทั้งหมดในตัวหายไปในทันที ตั้งแต่บัดนั้นมากลุ่มดาวอันโดรเมดากลายเป็นศัตรูของสมาพันธ์ชาวยุทธและกลายเป็นพันธมิตรของกลุ่มดาวราชสีห์ไปโดยปริยาย
ทุกอย่างที่เขาทำไปแพร่กระจายไปทั่วสิบเก้าหมู่ดาวในฟากฟ้าเหนือเหมือนสายลมสร้างศัตรูกับกลุ่มดาวอื่นและจะถูกกลุ่มดาวราชสีห์ใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่จำกัดเพื่อย่ำยีชื่อเสียงของสมาพันธ์ชาวยุทธ
จบสิ้นกัน
ในช่วงเวลานั้นเขารู้ว่าเขาพลาดอย่างร้ายแรง เขารู้ว่าเขาจบสิ้นแล้ว
และเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์สมาพันธ์ชาวยุทธคงยอมเสียสละเขา และลงโทษเขาอย่างหนักหนาสาหัส
จบสิ้นกัน เขาจบสิ้นแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้นตาของเขาดูเหมือนเต็มไปด้วยเลือด เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังจะตาย
เสียงตะโกนลั่นใกล้เข้ามาเหมือนสายน้ำบ่า เพื่อไม่ให้เป็นการขู่ขวัญพวกเขา พวกยามรักษาระยะอยู่ห่าง 200 เมตร
ห่างจากเรือนกุหลาบ3 กิโลเมตร ในบ้านธรรมดาที่บ่าวทาสใช้พักนอนม่านหลังหน้าต่างบานหนึ่งค่อยถูกรูดออก
ถังเทียนมองดูภาพเหตุการณ์อย่างใจเย็น
“เขาจบสิ้นแล้ว”
เขาพูดโดยไม่หันกลับมา
แผนการทุกอย่างที่เขาวางเป็นขั้นเป็นตอนแอนเดรียนามองเห็นภาพประจักษ์กับตาตนเองก็ยังตกตะลึง หลังจากผ่านไปนานนางจึงเริ่มรู้สึกตัวและหน้าซีด
ความเย็นยะเยียบกระจายอยู่ในหัวใจนาง
ใบหน้าที่เลือนรางนั้นเสียงแหบทุ้มนั้น รูปร่างที่มีความมืดปกคลุมนั้นช่วงเวลานั้นช่างดูร้ายกาจหวาดหวั่นน่ากลัว