ตอนที่ 366 ปะทะฝีมือ
สายตาของหมิงเยี่ยค่อยๆ มองไล่มาที่ร่างนั้น
บุรุษผู้มีความมืดปกคลุมมีหญิงงามในอ้อมกอด เรือนร่างที่มีเสน่ห์และอ่อนโยนเต็มไปด้วยรสนิยมที่น่ากลัวและชัดเจน
เมื่อเห็นนางเขาวางสาวงามในอ้อมกอดลงโดยไม่สนใจคนอื่น จากนั้นถอดชุดบางส่วนคลุมทับตัวนางไว้
หมิงเยี่ยมองดูด้วยความสนใจ ความอายและความตกใจของเด็กสาวและบุรุษผู้ใจเย็นและมั่นคงแตกต่างชัดเจน ภาพของความเยือกเย็นกับเฉียบแหลมดำกับขาวต่อหน้านางดูมีสีสันทำให้ฉากภาพชัดเจนมาก
เบื้องหลังของทั้งสองคนเป็นนครเทพสตรีที่เพลิงกำลังลุกโหม
สายตาของหมิงเยี่ยไปหยุดที่ข้อมือของแอนเดรียนาประกายเยือกเย็นวาบผ่านในดวงตาของนาง สีหน้านางพลันเครียดทันที “พวกเจ้าทั้งสองคนฉลาดจริงๆ ที่ได้รับสมบัติชั้นเซียน แต่ฆ่าคนโดยเปิดเผยจะทำให้พวกเจ้าพังทลายอย่างช่วยไม่ได้
อาวุธระดับเซียน ห่วงนางฟ้า!
ไม่ต้องสงสัยแล้ว คนที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ก็คือคนทั้งสองข้างหน้า! ไม่ใช่สิ ต้องเป็นบุรุษ!
เมื่อคิดเรื่องข่าวลือที่แพร่สะพัดขณะที่อยู่กับฉีซานชื่อของสตรีเปลือยร่างผุดขึ้นมาในใจนาง แอนเดรียนา ผู้สืบทอดกลุ่มดาวอันโดรเมดาลำดับที่สาม
ถังเทียนไม่สนใจนางและวางแอนเดรียนาที่มีชุดคลุมไหล่นางจากด้านหลังและเอาเชือกออกมามัดนางไว้อย่างดี
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่มองหมิงเยี่ยแม้แต่น้อยและไม่ถามอะไรแอนเดรียนา
แอนเดรียนาขี่บนหลังถังเทียน ทั้งสองคนตัวเปียกหลังของถังเทียนไม่หนาไม่กว้าง แต่มัดกล้ามเนื้อของเขาแข็งเหมือนหินและเมื่อสัมผัสกับร่างของนาง หน้าของนางแดง เนื่องจากนางมีเลือดออกมาตามผิวหนังนางจึงไม่คาดว่าจะมีคนอื่นอยู่บริเวณนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่งดงามกว่านางมาก สงบเยือกเย็นกว่าน้ำแข็ง ใบหน้าขาวสะอาด ขณะที่นาง...
แอนเดรียนาอยากแทรกแผ่นดินนัก
จนเมื่อนางได้ยินเสียงหมิงเยี่ย นางสะท้านตื่นทันที นางไม่โง่เพียงแต่นางถูกตามใจและเอาแต่ใจตนเองมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อมีแรนดีอยู่ด้วยระดับการแข่งขันของผู้สืบทอดผู้มีศักยภาพจึงอยู่ในระดับต่ำเสมอมา นางรู้สึกจนปัญญาเมื่อเผชิญเหตุการณ์คาดไม่ถึงแม้ว่านางพยายามทำตนเองให้เข้มแข็งขึ้น แต่เส้นทางเติบโตไม่สั้นนัก
สายตาของแอนเดรียนาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น
สตรีนางนั้นไม่มีเจตนาที่ดี!
นางไม่เคยพบหมิงเยี่ยมาก่อน แต่ตั้งแต่แรกนางรู้สึกว่าหมิงเยี่ยแข็งแกร่งมาก แอนเดรียนาสงบจิตใจได้ หัวใจนางเต้นแรงทันที เมื่อลอบมองดูปฏิกิริยาถังเทียน ในใจนางคิดว่าเจ้านายผู้ลึกลับนี้เป็นคนที่แข็งแกร่งมากที่สุดและเยือกเย็นที่สุด
เขามีคุณสมบัติพอจะกลายเป็นแบบอย่างให้นาง
เป็นเวลานานที่บุรุษผู้ใจเยือกเย็นและแข็งแรงผู้นี้มักจะเกี่ยวพันกับชีวิตของนาง เป็นไปไม่ได้ที่นางจะเป็นอิสระจากอิทธิพลของเขาในช่วงเวลาสั้นๆ และถ้าเขาล้มเหลว สถานการณ์จะย่ำแย่เลวร้าย
แต่คงจะมีสักวันที่นางจะสามารถดิ้นรนให้เป็นอิสระจากเงื้อมมือชั่วร้ายของเขา
แอนเดรียนาสัญญากับตัวเอง
เมื่อสังเกตให้ดีนางตระหนักรู้ขึ้นอีกหลายอย่าง
เจ้านายนางไม่ได้รับอิทธิพลจากปราณของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย และเมื่อคิดว่านางตื่นตระหนกและอับอายแค่ไหนแอนเดรียนารู้สึกละอายใจ
ไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม ข้าจะไม่ยอมตื่นเต้นใจเย็น ข้าต้องใจเย็นไว้
นั่นคือสิ่งแรกที่แอนเดรียนาเรียนรู้
เจ้านายนางผูกนางไว้กับหลังจนแน่นและหลังจากผ่านไปสองวัน จึงค่อยให้แอนเดรียนาได้เรียนรู้อารมณ์ของเจ้านายผู้ลึกลับของนางและรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล เขาใช้เวลานานในการมัดนางกับหลังเขา จนนางแทบหายใจไม่ออก
เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกว่าจะเกิดการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรงดังนั้นจึงต้องมัดนางไว้แน่นหนา
แอนเดรียนารู้ว่าความรักที่เจ้านายกำลังแสดงอยู่นี้เป็นเพราะนางยังมีประโยชน์ต่อเขา ถ้านางไม่มีประโยชน์ต่อเขาเขาคงโยนนางทิ้งอย่างไม่ลังเล
ตราบใดที่นางยังใช้ประโยชน์ได้นางจะไม่ถูกทอดทิ้ง
ถูกมัดจนแน่นกับหลังที่เหมือนเหล็ก สีหน้าของแอนเดรียนาเปลี่ยนความคิดของนางไม่มีใครรู้
“เจ้ายืมยานข้าเข้าเมืองเมื่อครั้งล่าสุดและไม่ยอมพูดอะไรสักคำ วันนี้เราคงต้องสนทนากันสักครา” สายตาของหมิงเยี่ยเหมือนดวงดาว ความต้องการต่อสู้รุนแรงทำให้ชุดยาวขาวบริสุทธิ์เป็นสันคมเหมือนกับกระบี่!
ไม่มีอะไรจะงดงามเท่านางแม้แต่คิ้วของนางก็ยังงามได้สัดส่วน
เพียงชั่วขณะถังเทียนเงยหน้าขึ้น หน้าของเขาคลุมด้วยหมอกดำทำให้เขามองดูพร่าเลือน แต่นัยน์ตาของเขาที่อยู่เบื้องหลังหมอกเหมือนกับบ่อลึกสุดหยั่ง
ภาพที่ปรากฏต่อหน้านางพร่าเลือนและร่างของฝ่ายตรงข้ามมาปรากฏต่อหน้านางเหมือนปีศาจ
สีหน้าของหมิงเยี่ยเยือกเย็น กระบี่ยาวในมือนางฟันในแนวขวางฉับพลัน
ติง!
กระบี่บางเรียวยาวปะทะกับกระบี่ของหมิงเยี่ยทำให้ฝ่ามือนางร้อนลวก ขาทั้งสองจมลึกลงไปในพื้น หมิงเยี่ยประหลาดใจ เขามีพลังรุนแรง
ติง ติง ติง!
กระบี่เรียวยาวในมือของถังเทียนเป็นเหมือนพายุฝนฟ้าคะนอง ถ้าหลิงซิ่วอยู่ที่นี่ เขาคงตกตะลึงเป็นแน่เพราะพลังที่ถังเทียนปล่อยออกมาจากกระบี่น่ากลัวมากกว่าหอกทะเลจุดมาก
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือแม้ด้วยพลังโจมตีที่แตกระเบิดออก กลุ่มพลังทั้งหมดรวมตัวกันพุ่งเข้าหากระบี่บางของหมิงเยี่ย
หมิงเยี่ยสีหน้าเคร่งเครียดฝ่ามือซ้ายนางยิ่งพลังดรรชนีใส่ตัวกระบี่
แก๊ง!
เสียงดังกังวาลไพเราะ
ตัวกระบี่สั่นถี่ กระแสพายุกระบี่ที่โจมตีเข้ามาถูกกั้นไว้ได้อย่างน่าประหลาด
ทันใดนั้นกระบี่ในมือของหมิงเยี่ยถูกจำกัดพื้นที่โดยเชือกเหล็กดำซึ่งความจริงก็คือกระบี่เรียวบางของถังเทียนนั่นเอง ถังเทียนฉวยโอกาสนั้นกลายสภาพเป็นเงาดำเข้าไปใกล้หมิงเยี่ย
หมิงเยี่ยไม่ตื่นเต้น สายลมที่แฝงมากับตัวถังเทียนทำให้ผมของนางพัดพลิ้วใบหน้างดงามไร้ตำหนิของนางเปล่งปลั่งเป็นประกายราวกับว่านางกำลังถ่ายภาพ
นิ้วที่เรียบเนียนดุจหยกของนางรวบชิดกัน ฝ่ามือซ้ายของนางทำท่าราวกับกระบี่มองมาที่ถังเทียนเขม็ง ขณะเดียวกันรังสีกระบี่เยือกเย็นก็ฟันใส่เอวของถังเทียนอย่างเงียบงัน
ถังเทียนไม่สามารถหลบได้ เพราะถ้าเขาหลบแอนเดรียนาคงถูกฟัน
ถังเทียนวาดกระบี่มาทางด้านซ้ายมือโดยไม่ต้องคิด นิ้วมือขวาของเขากรีดกรายในท่วงท่าเล่นผีผา(เครื่องดนตรีจีนโบราณ) รังสีกระบี่ห้าสายยิงใส่ฝ่ามือกระบี่ของหมิงเยี่ย ขณะเดียวกันทั้งที่ร่างท่อนบนของเขาไม่ได้เคลื่อนไหว ขาซ้ายของเขาเหวี่ยงกลับหลังเหมือนลูกตุ้มและรังสีกระบี่คมกล้าพุ่งออกจากขาซ้ายของเขาโจมตีใส่รังสีกระบี่ที่ยิงออกมาจากขาของหมิงเยี่ยได้อย่างแม่นยำ
ทั้งสองโงนเงนและแยกออกจากกันเหมือนสปริง
สีหน้าของหมิงเยี่ยแสดงความประหลาดใจ นางจ้องมองถังเทียน “สิบห้ากระบี่ผีผา!”
สิบห้ากระบี่ผีผาถูกบัญญัติเมื่อสองร้อยปีมาแล้วโดยเซียนกระบี่ผีผาซ่างหวั่นถิงเดิมเป็นวิชาที่ใช้กับผีผา ซ่างหวั่นถิงสร้างขึ้นมาจากบทเพลง ด้วยแก่นแท้ของผีผาและด้วยความเชี่ยวชาญวิชากระบี่เป็นพิเศษของนางนางกลายเป็นเซียนกระบี่ตอนอายุ 47
มีเหตุผลหนึ่งที่สีหน้าของหมิงเยี่ยประหลาดใจ สิบห้ากระบี่ผีผาไม่ได้พูดถึงว่ามีสิบห้ารูปแบบ แต่เป็นเพราะซ่างหวั่นถิงเริ่มฝึกผีผาตอนอายุ15 ปี วิชากระบี่บัญญัติโดยเซียนกระบี่ย่อมทรงพลังเป็นธรรมดา แต่วิชากระบี่นี้เหมาะให้สตรีฝึกฝนมากกว่า
แม้ว่านางจะไม่สามารถเห็นหน้าถังเทียนได้ แต่นางสามารถยืนยันได้ว่าเขาเป็นบุรุษ
ถ้าไม่ใช่เพราะนางเห็นกับตาตัวเอง นางคงไม่มีทางคาดคิดว่าบุรุษคนหนึ่งจะสามารถฝึกวิชากระบี่ของสตรีได้ สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือวิชากระบี่สตรีในมือของเขาไม่มีความอ่อนโยนของสตรีแม้แต่น้อย แต่กลับเผ็ดร้อนรุนแรง
แววชื่นชมปรากฏอยู่ในสายตานาง สามารถฝึกฝนสิบห้ากระบี่ผีผาได้ถึงระดับนั้นก็หมายความว่าพรสวรรค์วิชากระบี่ของคู่ต่อสู้มีมากมาย
“อาณาจักรกระบี่ วิชากายกระบี่”
ถังเทียนพูดคำเหล่านั้นช้าๆ
ในที่สุดหน้าของหมิงเยี่ยก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเปลี่ยนไปในช่วงเวลาสั้นๆ ฝ่ายตรงข้ามสามารถเปิดเผยเบื้องหลังของนางในประโยคเดียว ใจของนางสั่นสะท้าน
เงาร่างดำจู่ๆ ถลันวูบมาด้านหน้านาง
ฉวยโอกาสที่นางกำลังหวั่นไหว ถังเทียนเปิดฉากบุกทันที
ทันใดนั้นหัวใจของหมิงเยี่ยรู้สึกถึงอันตรายเข้มข้นทันทีและขณะนั้น ดวงตาที่งามของนางเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ฝ่ามือซ้ายของนางปาดขวางหน้านาง
นิ้วมือขาวเรียวยาวของนางสามารถทำให้จิตใจผู้คนสั่นคลอน
ติง!
กระบี่เรียวยาวแหลมคมของถังเทียนแทงใส่ฝ่ามือหยก ปลดปล่อยเสียงแหลมและคมชัดแต่ไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้แม้แต่นิ้วเดียว
สำหรับถังเทียนผู้มีพลังแทงทะลุทะลวง กระบี่เรียวยาวบิดงอทันทีราวกับจะหักได้ทันที
หมิงเยี่ยสามารถรู้สึกได้เช่นนั้นภายในชั้นหมอกดำ มีดวงตาคู่หนึ่งกำลังมองนาง
ไม่ดีเลย
ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าไม่ถูกต้องกระบี่เรียวยาวที่กำลังงอพลันเด้งกลับ ถังเทียนที่วิ่งมาข้างหน้านางหายไปทันที
ช่วงเวลาต่อมาเขาปรากฏตัวอยู่เหนือทะเลสาบ
จากนั้นหมิงเยี่ยจึงได้ตระหนัก นางหลงกล
พลังโจมตีของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ลอบโจมตี แต่เป็นการยืมพลัง
นางมิได้ไล่ตาม แต่มองดูถังเทียนลงไปตามทะเลสาบอย่างเงียบดวงตานางปรากฏแววชื่นชมสรรเสริญ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้นางรู้สึกพ่ายแพ้ เบื้องหลังของเขาคู่ควรแก่การคิด อาณาจักกระบี่คือสิ่งที่ลึกลับและน้อยคนนักจะรู้จัก เมื่อศิษย์ของพวกเขาจะออกเดินทางท่องเที่ยว สถานะของพวกเขาจะไม่ถูกเปิดเผย มีแต่เพียงศิษย์จากตระกูลที่ทรงอำนาจอย่างฉีซานจึงจะรู้
แต่เขากลับเปิดเผยออกมาได้ทันที
นางยืนอยู่ริมทะเลสาบเงียบๆใจของนางนึกย้อนถึงตอนต่อสู้
ทันใดนั้นเสียงบางอย่างดังแหวกอากาศทำลายความคิดฝึกฝนของนางจริงๆ แล้วก็คือฉีซานและคนของเขาที่กลับไปแล้ว หน้าของเขาซีดขาวเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเขาหวาดกลัวและเมื่อเห็นสีหน้าของเขากับการระเบิดของวังเทพธิดา หัวใจของหมิงเยี่ยก็เข้าใจชัดขึ้น
“พี่ฉี” นางทักทายอย่างสงบ
“น้องหมิงเจ้าเพิ่งประฝีมือกับใครมาหรือ?” ฉีซานถามอย่างกังวล เขาได้ยินเสียงจากนิ้วของหมิงเยี่ย จึงวิ่งมาตามเสียงไม่มีใครในกลุ่มดาวอันโดรเมดาคู่ควรให้หมิงเยี่ยลงมือ มีแต่มือกระบี่ลึกลับเท่านั้น
“ใช่แล้วมือกระบี่ลึกลับคนหนึ่ง และแอนเดรียนาอยู่กับเขา” หมิงเยี่ยไม่ปิดบังอะไรและพูดไปตามความจริง
ฉีซานหน้าเปลี่ยนแววชั่วร้ายปรากฏอยู่ในดวงตาเขาและมีความโกรธพลุ่งขึ้นมาแต่เขาควบคุมตนเองได้ “พวกเขาหนีไปทางไหน?”
หมิงเยี่ยตอบ “ทะเลสาบเทพนางฟ้า”
เพราะเหตุผลบางประการฉีซานในปัจจุบันทำให้นางรู้สึกว่าแตกต่างออกไป
“ขอบคุณน้องหมิง” พูดจบ ฉีซานและคนของเขาทุกคน ผู้คุ้มกันของฉีซานมีดวงตาแดงทันที ตาแดงของเขามองกวาดไปทั่วทะเลสาบ เป็นวิชาพลังสายตาอย่างหนึ่งและเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่วิชาระดับต่ำ คนกลุ่มหนึ่งวนไปรอบๆ ทะเลสาบทันที แต่หาไม่พบอะไร
แม่น้ำลับของทะเลสาบนางฟ้ามีทางน้ำใต้ดินซับซ้อน
ความโกรธของฉีซานมากถึงขนาดทำให้เขาตะโกน“ผนึกประตูดวงดาวของกลุ่มดาวอันโดรเมดาไว้ หาพวกมันให้เจอ! พลิกแผ่นดินให้ลึกลงไปสามฟุต
เขายังไม่ทันออกจากกลุ่มดาวอันโดรเมดาเป็ดอบของเขาก็บินหนีหายไปเสียแล้ว
ถ้าข้าพบพวกเจ้า ข้าจะบดกระดูกพวกเจ้าให้เป็นผุยผงแน่นอน
หน้าฉีซานบิดเบี้ยว