ตอนที่ 11-38 ต้องการประกายศักดิ์สิทธิ์?
สุสานเทพเจ้าชั้นที่สิบ
“บีบี! ตอนนี้ลินลี่ย์เป็นยังไงบ้าง?” เดลี่ถามเบาๆ
“พี่ใหญ่ยังมีชีวิตและกำลังหนี” บาดแผลของบีบีเริ่มสมานตัวมากกว่าครึ่ง แต่เขายังคงเพ่งความรู้สึกไปที่ความคงอยู่ของลินลี่ย์ เขากลัวว่าลินลี่ย์อาจตาย
ขณะที่ถูลี่และโรซารี่และยอดฝีมืออื่นทุกคนกำลังรอเงียบๆอยู่อีกด้านหนึ่ง แค่มองจากบีบีพวกเขาก็รู้ได้ว่าลินลี่ย์ยังมีชีวิตอยู่
ถูลี่รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของยอดฝีมือทุกคนกดดันเพียงไหน เขาพูดเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ของทุกคน “โอลิเวอร์,พลังกระบี่โจมตีที่เจ้าแสดงที่ชั้นสิบเอ็ดช่างน่ากลัวมากจริงๆ เจ้าฆ่าปีศาจดาบอเวจีได้ถึงสี่ตัวในการฟาดฟันครั้งเดียว”
“ข้ายังจำกระบี่นั้นได้ดีเลยทีเดียว” จ้าวแมงป่องเกล็ดดำกล่าว
“ข้าไม่คิดว่าพวกเขาที่เหลือจะทำได้สำเร็จขนาดนั้น” ถูลี่กล่าว
เมื่อยอดฝีมือพยายามหนีกลับมายังชั้นที่สิบ โอลิเวอร์ในช่วงสิ้นหวังได้ใช้พลังกระบี่โจมตีที่ทรงพลังที่สุดและเมื่อกระบี่ลวงตาสีขาวดำตัดออกไป จึงสามารถฟันปีศาจดาบอเวจีตายถึงสี่ตัว
ปีศาจดาบอเวจีเหล่านี้ถูกสร้างจากโลหะที่ทนทาน ต่อให้พลังป้องกันของพวกมันไม่แข็งแกร่งเท่าพลังโจมตี แต่การฆ่าปีศาจดาบอเวจีได้ถึงสี่ตัวในการฟาดฟันเพียงครั้งเดียวเป็นเรื่องยากมาก แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังต้องใช้งานสัจธรรมแห่งธาตุดินหรือ ‘จังหวะแห่งสายลม’เพื่อฆ่าปีศาจดาบอเวจีให้ได้สักตัว ดาบธรรมดาไม่สามารถตัดฟันปีศาจนั่นให้ขาดได้
แต่แน่นอนหลังจากรู้แจ้ง ‘ดาบมิติบั่นเศียร’กระบี่ลินลี่ย์สามารถฆ่าปีศาจดาบอเวจีได้ง่ายครั้งละห้าหรือหกตัวในการโจมตีครั้งหนึ่ง
สำหรับโอลิเวอร์สามารถฆ่าปีศาจดาบอเวจีได้ถึงสี่ตัวเป็นภาพที่ทำให้ทุกคนตะลึงได้ ที่สำคัญ ถูลี่และยอดฝีมืออื่นยังทำเช่นนี้ไม่สำเร็จ
“การโจมตีนี้เป็นทางเลือกสุดท้ายของข้า หลังจากใช้ไปแล้ว พลังวิญญาณของข้าจะถูกใช้ไปหมด” โอลิเวอร์กล่าว
“ถึงอย่างนั้น ก็ยังทรงพลังอยู่ดี แม้แต่การทุ่มโจมตีสุดกำลังของข้าก็ยังไม่ทรงพลังเท่า” ถูลี่หัวเราะเย้ยหยันตัวเอง
ยอดฝีมือต่างๆทุกคนถอนหายใจด้วยความทึ่งกับความก้าวหน้าของโอลิเวอร์ เมื่อพวกเขาเพิ่งเข้ามาในสุสานเทพเจ้า โอลิเวอร์ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สอง แต่หลังจากผ่านไปสิบปี ความแข็งแกร่งของโอลิเวอร์เพิ่มขึ้นมากมายและพลังโจมตีของเขาเพิ่มขึ้นในระดับที่ยิ่งใหญ่
โอลิเวอร์ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
เหตุผลเดียวที่ระดับความสำเร็จในปัจจุบันของเขามีในตอนนี้เป็นเพราะประสบการณ์เฉียดตายที่เขาพบเจอก่อนหน้านั้น
“ในอดีต เมื่อเราเผชิญหน้ากับราชันย์เนตรมายา เรารู้ว่าเจ้ามีความแตกต่างบางอย่างเมื่อเทียบกับเรา” เดลี่ถอนหายใจเช่นกัน
ตอนที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่นี้ บรรยากาศในชั้นที่สิบค่อยดีขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตามไม่มีใครสังเกตว่าบีบีลดหัวลงและเชิดหัวขึ้นทันทีพลางจ้องมาไปที่เสาศิลาที่อยู่ไกลออกไปด้วยความประหลาดใจ
“พี่ใหญ่!” เสียงร้องประหลาดใจระคนดีใจดังขึ้น
“ควั่บ!”ร่างเงาเลือนรางพุ่งเข้าหาทันที
“ว่าไงนะ?” เดลี่โอลิเวอร์และยอดฝีมืออื่นทุกคนจ้องมองทางออกชั้นที่สิบเอ็ดด้วยความประหลาดใจ พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มในชุดยาวสีฟ้ายิ้มรับหนูเงาตัวสีดำ
ลินลี่ย์กลับมาแล้ว!
“พี่ใหญ่”
“บีบี” ตอนนี้ลินลี่ย์อุ้มบีบีไว้ในอ้อมแขน และทั้งคนและอสูรเวทหัวเราะมองหน้ากัน
“สุดยอดเลย, พี่ใหญ่ข้าคิดถึงท่านจะแย่อยู่แล้ว ข้ากลัวว่าท่านจะกลับมาไม่ได้เสียแล้วพี่ใหญ่” ดวงตาน้อยของบีบีพลันพร่ามัว สามสี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่บีบีทรมานมากเขาเกรงว่าลินลี่ย์จะตายจริงๆ
ขณะนี้เดลี่ เฟน โอลิเวอร์ โรซารี่ถูลี่และราชสีห์ทองหกตาสองพี่น้องรวมทั้งจ้าวแมงป่องเกล็ดดำรีบเข้ามาทันที พวกเขารู้สึกประหลาดใจระคนดีใจด้วยเช่นกันที่ลินลี่ย์สามารถกลับมาที่ชั้นสิบได้!
“ลินลี่ย์, เจ้าหนีมาได้หรือนี่?” เฟนพูดด้วยความประหลาดใจระคนดีใจ
“ความจริงข้าคาดไม่ถึงเลยว่าแม้จะถูกปีศาจดาบอเวจีเป็นล้านไล่ล่า เจ้าก็ยังกลับมายังชั้นสิบได้นะลินลี่ย์” หน้าของเดลี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขณะพูด “ข้าคิดว่าเจ้าพยายามถ่วงเวลาอยู่ในใต้ดินเท่าที่เจ้าจะทำได้ และรั้งปีศาจดาบอเวจีไว้จนกระทั่งครบสิบปีเสียอีก”
“คิดดูสิ พี่ใหญ่ข้าน่ากลัวแค่ไหน!” บีบีเริ่มยืดทันที เขายืนอยู่บนไหล่ของลินลี่ย์ อุ้งมือน้อยๆทาบอกด้วยความภูมิใจ
ลินลี่ย์หัวเราะ “เจ้าคิดว่าข้าไม่ต้องการพยายามถ่วงเวลาและหลอกล่อพวกมันหรอกหรือ? แต่ปีศาจดาบอเวจีพวกนั้นฉลาดมากจริงๆ พวกมันจัดกำลังจำนวนมากประจำไว้ที่ใจกลางพื้นที่ และเมื่อใดก็ตามที่ข้าถูกค้นพบ พวกมันก็จะให้สมาชิกปีศาจดาบอเวจีจำนวนมากโจมตีข้าอย่างต่อเนื่อง หลังจากทนอยู่สามชั่วโมง ข้าก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป”
“ลินลี่ย์,ถ้าอย่างนั้นเจ้ากลับมาได้ยังไง?” เฟนและยอดฝีมืออื่นมองลินลี่ย์อย่างสับสน
เฟนและยอดฝีมืออื่นจินตนาการไม่ออกว่าภายใต้การไล่ล่าของปีศาจดาบอเวจีลินลี่ย์หนีกลับมาที่ชั้นสิบได้ยังไง
“โชคดี ที่ในช่วงเวลาที่วิกฤติ ข้าบรรลุพลังใหม่ได้ทันท่วงทีและความเร็วของข้าจึงเพิ่มขึ้นมากทำให้ข้าจัดการปีศาจดาบอเวจีเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย หลังจากฆ่าปีศาจดาบอเวจีพวกนั้นไปจำนวนหนึ่งข้าจึงได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์ของชั้นที่สิบ และจากนั้นข้าจึงกลับมาได้อย่างปลอดภัย” ลินลี่ย์พูดคำเหล่านี้อย่างสงบ
แต่ทุกคนรวมทั้งบีบีตกตะลึง
“เจ้าได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือ?” เฟน เดลี โรซารี่ถูลี่และยอดฝีมืออื่นยืนจ้องมอง ตาของพวกเขากลมโตและตกใจ แม้แต่โอลิเวอร์ผู้ยืนเงียบอยู่ด้านหลังยอดฝีมืออื่นยังจ้องมองลินลี่ย์ด้วยความทึ่งอย่างมาก
ประกายศักดิ์สิทธิ์...
สมบัติที่เฟนและยอดฝีมืออื่นใฝ่ฝันจะได้ เมื่อได้ประกายศักดิ์ของเทพชั้นต้นมาแล้วพวกเขาจะกลายเป็นเทพได้
ความแตกต่างระหว่างเซียนกับเทพยิ่งใหญ่พอๆกับฟ้าและดิน
“ลินลี่ย์!ยินดีด้วย” เดลี่เป็นคนแรกที่รู้ตัว ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือพูดแสดงความยินดี
ยอดฝีมืออื่นฝืนยิ้มแสดงความยินดีกับลินลี่ย์เช่นกัน ตอนนี้ เดลี่และยอดฝีมืออื่นรู้สึกว่าต้องข่มความริษยาไว้ในใจพวกเขา! ที่สำคัญพวกเขาฝึกฝนกันมาอย่างยาวนานมากเพื่อให้ได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้พอลินลี่ย์ได้มาพวกเขาไม่มีอะไรจะพูดได้ เนื่องจากลินลี่ย์เสี่ยงชีวิตตัวเองจนได้มา
แต่ในใจพวกเขาก็ยังรู้สึกอิจฉาอยู่ดี
ความจริงความอิจฉาของพวกเขามากจนพวกเขาอดคิดเรื่องฆ่าลินลี่ย์ชิงเอาประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แต่ในไม่ช้าความคิดเหล่านั้นที่มาจากในใจ ถูกโยนทิ้งไปทันที
ที่สำคัญคือพวกเขาไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจอย่างนั้น
ในกลุ่มนี้นอกจากบีบีแล้ว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้สึกริษยาเท่าใดนัก คนผู้นั้นคือโอลิเวอร์
“ลินลี่ย์, ข้าคาดว่าเจ้าจะกลายเป็นเทพคนที่หกของทวีปยูลานของเรา” หน้าของโอลิเวอร์มีรอยยิ้ม “ลินลี่ย์มีพลังมากกว่าข้าในตอนนี้ แต่... อีกสองสามปีข้าจะต้องท้าทายเจ้าแน่นอน”
โอลิเวอร์รู้สึกมั่นใจในตนเองมาก
เขาฝีมือด้อยกว่าลินลี่ย์แต่นั่นเฉพาะแค่ตอนนี้!
“ท้าทาย?” ลินลี่ย์มองดูโอลิเวอร์ เขาพยักหน้าและหัวเราะ “ยอดเยี่ยม,ข้าจะน้อมสนอง เจ้าเลือกเวลาได้ทุกเมื่อ”
หลังจากลินลี่ย์กลับมาที่ชั้นสิบยอดฝีมือทุกคนต่างรอคอยบทสรุปของช่วงเวลาสิบปีอย่างสบายใจ และพวกเขาทุกคนต่างหาที่พักผ่อนบนผืนหญ้า ขณะที่ลินลี่ย์อยู่กับบีบี
“พี่ใหญ่, บอกข้าได้ไหม,ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ชั้นสิบเอ็ดมีอยู่เท่าใด? ข้าคิดว่าจะต้องมีมากกว่าหนึ่ง” บีบีกระซิบ
ลินลี่ย์ยิ้ม “สาม”
ดวงตาน้อยของบีบีเบิกโพลงเท่าพระจันทร์ทันทีและจากนั้นเขายิ้มกว้าง ปากน้อยๆแทบจะแยกจากกัน “ว้าว, ยอดเยี่ยม, ประกายศักดิ์สิทธิ์สามชิ้น! พี่ใหญ่,ประกายศักดิ์สิทธิ์ธาตุอะไรบ้าง?” บีบีรีบถาม “ประกายทั้งสามนั้นเข้ากันได้กับพี่ใหญ่หรือเปล่า? ข้าหวังว่าประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเหล่านั้นจะไม่ใช่ไฟสายฟ้าหรืออะไรอย่างอื่นหรอกนะ”
“มีสายธาตุดิน, ธาตุลมและสายทำลายล้าง” ลินลี่ย์เชิดหน้าอย่างมีความหมาย “ทั้งหมดนี้เข้ากันได้กับข้า”
บีบีตกใจเช่นกัน “มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ข้าจะรู้ได้ยังไง?” ลินลี่ย์หัวเราจากนั้นส่ายศีรษะถอนหายใจ “โชคไม่ดีที่ข้ายังอ่อนแอเกินไป ไม่มีพลังพอจะขึ้นไปชั้นสูงหรือหรือที่สูงมากกว่านั้น
“หือ?” บีบีจ้องมองพี่ใหญ่อย่างสับสน “พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงต้องการไปชั้นสูงเล่า? ชั้นที่สิบสองแค่เหมาะกับการท้าท้ายของพวกเทพ ถ้าเราไปก็เท่ากับเอาชีวิตไปทิ้งดีๆนี่เอง” บีบียังรู้....ว่าจากชั้นที่สิบสองขึ้นไปผู้พิทักษ์แต่ละชั้นล้วนเป็นเทพทั้งนั้น
ไม่มีพลังของเทพการเข้าสุสานมีแต่ความตายแน่นอน
“บีบี, ก่อนเราจะเข้าชั้นที่สิบๆ ข้าบอกเจ้าแล้วว่ามีบางอย่างในสุสานเทพเจ้ากำลังเรียกข้า” ลินลี่ย์ถอนหายใจ ขณะที่บีบีโคลงศีรษะเล็กน้อย
“ตั้งแต่ข้ามาถึงที่สุสานเทพเจ้าข้ามีความรู้สึกว่า... บางอย่างที่กำลังเรียกข้านั้น มาจากข้างบน เมื่อข้าเข้าไปในชั้นที่สิบ ข้ายังรู้สึกว่าบางอย่างที่เรียกข้ามาจากข้างบน เวลานั้นข้าคิดว่าบางทีมันอาจอยู่ในชั้นที่สิบเอ็ด”
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “แต่หลังจากเข้ามาในชั้นที่สิบเอ็ดแล้ว ข้าตระหนักได้ว่าข้าผิดอีก สิ่งซึ่งกำลังเรียกข้านั้นยังอยู่สูงกว่านั้นบางทีอาจจะอยู่ในชั้นที่สิบสอง หรือสิบสาม...มันอาจจะอยู่ในชั้นที่สิบแปดก็ได้ ใครจะรู้? ที่สำคัญข้าแข็งแกร่งพอไปชั้นสูง”
บีบีพยักหน้าเล็กน้อย
หลังจากลินลี่ย์อยู่ในชั้นสิบประมาณหนึ่งเดือน เดลี่เข้ามาหาลินลี่ย์ เขาลังเลเล็กน้อยไม่สามารถพูดได้
“เดลี่! มีอะไรหรือ?” ลินลี่ย์ถามอย่างสงสัย
ดูเหมือนเดลี่ค่อนข้างจะละอาย เขาหัวเราะแหะๆ สูดหายใจลึก จากนั้นกระซิบ“ลินลี่ย์, ข้าอยากรู้...ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าพบที่ชั้นสิบเอ็ดมีอยู่เท่าใด?”
หัวใจลินลี่ย์ตื่นเต้น เดลี่นี้เหมือนกับว่าปรารถนาจะได้ประกายศักดิ์สิทธิ์ของเขา อย่างไรก็ตามลินลี่ย์สามารถเข้าใจถึงเหตุผลได้
“สาม” ลินลี่ย์ไม่พยายามปิดบัง
ตาของเดลี่เป็นประกาย “ขอถามได้ไหมว่าประกายเหล่านั้นเป็นธาตุอะไร?”
“เดลี่, ทำไมเจ้าถามอย่างนั้น?” บีบีที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้นอย่างโมโห “ประกายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้พี่ใหญ่ข้าต้องเสี่ยงชีวิตจึงจะได้มา อย่าลืมสิว่าถ้าพี่ใหญ่ข้าไม่ใช้ ‘คมมีดมิติ’เบิกทางสายหนึ่งและจากนั้นแล้วช่วยกันปีศาจดาบอเวจีเอาไว้ได้ พวกท่านจะไม่มีใครรอด”
เดลี่มีท่าทีค่อนข้างอึดอัด
ลินลี่ย์มองดูบีบีจากนั้นยิ้มให้เดลี่ “ไม่มีเหตุผลใดที่ข้าจะบอกไม่ได้ ก็มีธาตุดิน ธาตุลมและสายทำลายล้าง”
“เหรอ?” เดลี่พยักหน้า
“ลินลี่ย์,มีบางเรื่องที่ข้าต้องการจะบอกเจ้า” เดลี่มองดูลินลี่ย์ “ก่อนอื่นเลยเจ้าไม่จำเป็นต้องหลอมรวมประกายศักดิ์สิทธิ์กับพลังธาตุของตัวเจ้า ตัวอย่างเช่นเจ้าสามารถหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์สายธาตุไฟได้ แต่แน่นอนว่า... ความเร็วอาจจะกลายเป็นช้า การดูดซับประกายศักดิ์สิทธิ์ จำเป็นต้องได้คนที่มีคุณสมบัติก็คือเป็นระดับเซียนซึ่งยินยอมให้วิญญาณของเขาหลอมรวมกับประกายศักดิ์สิทธิ์”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
“นอกจากนี้เซียนทุกคนสามารถหลอมรวมประกายได้เพียงหนึ่ง” เดลี่อธิบาย
“เรื่องนี้, ข้าทราบ” ลินลี่ย์พยักหน้า
เดลี่ลังเล แต่ในที่สุด เขายังฝืนยิ้มและกล่าว “ลินลี่ย์,เจ้าต้องการประกายไว้เพียงหนึ่งเพื่อตัวเอง ถ้า.. ข้าอยากจะบอกว่า.. ถ้า ถ้าเจ้าเต็มใจประกายศักดิ์สิทธิ์อื่นของเจ้า..” ถึงจุดนี้เดลี่ไม่รู้จะพูดยังไง
เขาจะพูดอะไรได้? ขอให้ลินลี่ย์ขายให้หรือ?
เขา..เดลี่จะเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับประกายศักดิ์สิทธิ์?
ขอเป็นของขวัญจากลินลี่ย์ดื้อๆ?
เดลี่ไม่สามารถฝืนพูดขอออกมา เพียงเหตุผลเดียวที่เขามาและฝืนความละอายพูดคำนี้กับลินลี่ย์เป็นเพราะเขาปรารถนาจะกลายเป็นระดับเทพ แม้ว่าธาตุประกายจะต่างกันและระดับการหลอมรวมของเขาจะช้าก็ตาม และความเข้าใจในความรู้กฎธาตุในอนาคตจะถูกขัดขวาง.. เขาก็ไม่สนใจ
“นอกจากโอลิเวอร์และราชสีห์ทองหกตาสองพี่น้องแล้ว ยอดฝีมืออื่นทั้งหมดก็ปรารถนาประกายนี้” ลินลี่ย์ลอบบอกกับตนเอง
ช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมายอดฝีมืออื่นเกือบทุกคนลอบมาพูดคุยกับลินลี่ย์
แม้ว่าตัวลินลี่ย์เองจะไม่ต้องการใช้ประกายศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้น แต่เขาก็ยังให้คุณค่ากับประกายศักดิ์สิทธิ์ไว้สูง ต้องเข้าใจว่า...ประกายศักดิ์สิทธิ์ประกายหนึ่งคือตัวแทนของเทพชั้นต้น เขาสามารถให้ประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนี้กับเกทส์ และพี่ชายของเขาหรือวอร์ตันน้องชายเขาเองทำให้พวกเขากลายเป็นเทพได้!”
“ตอนนี้ขอเวลาข้าก่อน” ลินลี่ย์ลอบบอกกับตัวเอง
ยอดฝีมือเพียงแต่แสดงความสนใจของพวกเขา ที่สำคัญชีวิตของพวกเขาได้ลินลี่ย์ช่วยไว้ได้และลินลี่ย์ได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มาได้หลังจากผ่านประสบการณ์อันตรายขีดสุด
“ครืนนน...”
ทันใดนั้นทั่วทั้งสุสานเทพเจ้าเริ่มสั่นสะเทือน
“เกิดอะไรขึ้น?” ลินลี่ย์และบีบีหันหน้าไปมองทันที
ทันใดนั้น พวกเขาเห็นในที่ไกลออกไปปรากฏทางออกปกคลุมไปด้วยรัศมีดำขึ้นอย่างไม่มีปีมีขลุ่ย จากภายในทางออกดำนั้น มีบุรุษคนหนึ่งเดินออกมา เขามีผมยาวดำ เคราดำยาว สวมชุดยาวดำ เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปยูลานเบรุตนั่นเอง
ลินลี่ย์ เดลี่ ถูลี่..และยอดฝีมือทุกคนลุกขึ้นยืนทันที
เบรุตมองดูยอดฝีมือทุกคนจากนั้นจึงพูดขึ้น “ครบกำหนดสิบปีแล้ว ทุกคนสามารถออกจากสุสานเทพเจ้าได้” และจากนั้นเขาหันมามองลินลี่ย์หน้าของเขามีรอยยิ้ม “ฮ่าฮ่า.. ลินลี่ย์..ข้าต้องแสดงความยินดีกับเจ้าด้วย”