ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 239 มาคุยกันเถอะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 241 การมาเยือนของเทพมังกร

MDB ตอนที่ 240 เสียงเคาะประตู


ภายในคุกมืดและสิ้นหวัง ผู้ที่มาที่นี่จะพบว่าตัวเองไม่สามารถออกไปได้อีกเพราะที่นี่มีแต่อาชญากรที่เลวร้ายที่สุด สถานที่นั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความโหดร้าย

นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับการสนทนาทั่วไป แต่ตอนนี้ เหอเฉียนอยู่ด้านนอกและหลู่ปิ่นอยู่ข้างในลูกกรง พวกเขากำลังเริ่มต้นพูดคุยกัน

หลู่ปิ่นไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เหอเฉียนถึงสนใจในตัวหลินจิน แต่เมื่ออีกฝ่ายอยากรู้ หลู่ปิ่นก็จะพูด

นอกจากนี้ แม้ว่าเหอเฉียนจะไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียด แต่เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงหกยังมีชีวิตอยู่ และสาเหตุอาจเป็นแค่เข็มทองคำของหลินจิน

แต่หลู่ปิ่นไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเข็มทองคำนี้ เขาไม่สามารถบอกทุกสิ่งทุกอย่างอีกฝ่ายรู้ได้

“ฮิฮิฮิ ข้าล่ะแปลกใจจริง ๆ อะไรทำให้จักรพรรดิมังกรหยกผู้ยิ่งใหญ่ถึงสนใจผู้ประเมินตัวน้อย ๆ อย่างเขา ฮึ! แล้วท่านต้องการจะฟังอะไรเกี่ยวกับเขาล่ะ?” หลู่ปิ่นถาม

เหอเฉียนไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีของลู่ปิน หลังจากครุ่นคิด เขาก็พูดว่า “เริ่มจากตอนที่เจ้าพบเขาครั้งแรกก่อน”

หลู่ปิ่นพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ เมื่อองค์หญิงหกทรงประชวร พระองค์ทรงรู้สึกหดหู่พระทัย ข้าจึงพาพระองค์เสด็จไปประพาสข้างนอก เราปลอมตัวและออกไปหาหมอที่มีชื่อเสียง”

“จากนั้นเราก็มาถึงเมืองเมเปิ้ลเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโรคจากหมอผู้มีชื่อเสียงซึ่งซ่อนตัวอยู่ในหมู่คนทั่วไป เราจบลงด้วยความผิดหวัง เมื่อเราผ่านสมาคมประเมินสัตว์วิเศษ เราก็เข้าไปดูข้างในและนั่นคือที่ที่เราได้พบกับผู้ประเมินหลิน…”

หลู่ปิ่นเริ่มอธิบายเหตุการณ์ในวันนั้น

เหอเฉียนฟังอย่างตั้งใจ

เมื่อเขาได้ยินส่วนที่หลินจินสามารถบอกได้ว่าเหอหยู่ถูกคำสาปวิญญาณสัตว์ป่ากลืนกินโดยไม่ได้รับการวินิจฉัยใด ๆ เหอเฉียนถามทันทีว่า

“แม่ทัพลู่ เจ้าแน่ใจใช่หรือไม่ว่า หลินจินไม่ได้ทำการวินิจฉัยใด ๆ เลย?”

หลู่ปิ่นส่ายหัว “จากสิ่งที่ข้าเห็น เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น ผู้ประเมินหลินเพียงแค่ประคององค์หญิงหกตอนที่พระองค์เกือบจะล้มลงเท่านั้น”

"โอ้!" เหอเฉียนคิดว่าหลินจินจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถบอกสิ่งผิดปกติได้จากรูปลักษณ์ภายนอก แต่ถ้าเป็นกรณีนี้ ผู้เชี่ยวชาญเช่นเขาจะไม่เป็นที่รู้จัก และอาศัยอยู่ในสาขาเล็ก ๆ ของสมาคมประเมินสัตว์วิเศษได้อย่างไร?

“จากนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไรและไปเยี่ยมคนที่เรียกกันว่าปรมาจารย์เหลียว แต่ก็พบว่าเขาเป็นเพียงนักต้มตุ๋น องค์หญิงหกทรงไม่พอพระทันในตอนนั้น พระองค์ก็เล่าเรื่องที่ผู้ประเมินหลินมาพบเกี่ยวกับคำสาปของพระองค์

สมมติว่าถ้าองค์หญิงได้เสด็จกลับไปหาเขา สิ่งต่าง ๆ คงจะเปลี่ยนไปจนชินดที่ข้าเองก็คาดเดาไม่ได้ แต่ช่างน่าเสียดาย เนื่องจากจู่ ๆ ท่านก็เรียกพวกเรากลับโดยด่วน พวกเราจึงรีบกลับไป”

หลู่ปิ่นดูเสียใจ

หากเขาออกตามหาหลินจินก่อนหน้านี้ สิ่งต่าง ๆ อาจได้รับการแก้ไขแล้วในตอนนี้

“และแล้วอาการขององค์หญิงหกก็แย่ลง ดังนั้นข้าจึงกลับไปเมืองเมเปิ้ลเพียงลำพังเพื่อตามหาหลินจิน และได้รับสูตรยาโบราณ เม็ดยาเมฆาเหนือวารี”

“ข้าก็รู้เรื่องนี้ แต่สูตรยานี้น่าจะสูญหายไปนานแล้ว”

“ข้าก็คิดเหมือนกัน ข้าคิดว่าเราจะลองดูซึ่งมันก็ได้ผลจริง ๆ” หลู่ปิ่นคิดว่า ถ้าหากเขาไม่ไปหาหลินจิน พวกเขาก็คงหมดหวังไปนานแล้ว

“แม้ว่าเม็ดยาเมฆาเหนือวารีจะได้ผล แต่ก็ไม่สามารถขจัดคำสาปได้ทั้งหมด มันทำได้เพียงลดทอนความทุกข์ทรมานขององค์หญิงเพียงเท่านั้น”

เมื่อมาถึงจุดนี้ เหอเฉียนพยักหน้า “ข้าต้องขอบคุณผู้ประเมินหลินสำหรับสิ่งนี้”

หลู่ปิ่นหัวเราะเยาะ “ข้ากลับคิดว่าท่านต้องการให้เขาตายเสียอีก ก่อนหน้านี้หลินจินถูกลอบโจมตีในคืนแรกที่มาถึงเมืองหลวง ข้าไม่คิดว่าท่านจะไม่รู้เรื่องนี้!”

เหอเฉียนไม่สะทกสะท้านและตอบอย่างเรียบ ๆ ว่า “เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับข้า แม่ทัพหลู่ ถ้าข้าต้องการให้หลินจินตาย เจ้าคิดว่าตอนนี้เขาจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”

หลู่ปิ่นตกตะลึง แต่เขาก็ต้องยอมรับความจริงนี้

“ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มันจะไม่เกี่ยวอะไรกับท่าน แต่ท่านก็ไม่ควรทำอะไรลับหลังอย่างนี้!”

“พักเรื่องนี้ไว้ก่อน” เหอเฉียนโบกมือ “หลินจินยังหนุ่มอยู่ ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจเพียงใด เขาก็ไม่อาจมีความรู้และประสบการณ์มากมายขนาดนี้ ข้าได้ยินว่ามียอดฝีมือลึกลับคอยสนับสนุนเขา”

“ฮึ! ท่านช่างรอบรู้และมีสายตาอยู่ทุกหนทุกแห่งเสียจริง ๆ ถูกต้อง ผู้ประเมินหลินเป็นศิษย์ของยอดฝีมือลึกลับคอยสนับสนุนเขา

ท่านจำวิกฤตการณ์จากแคว้นนาคานั่นได้หรือไม่ ความยุ่งเหยิงในครั้งนั้น มันได้รับการแก้ไขโดยยอดฝีมือผู้นี้ ดังนั้นหากท่านทราบว่าใครอยู่เบื้องหลังการพยายามฆ่าหลินจิน ท่านควรจะแนะนำให้พวกเขาหยุดเล่นกับไฟเสียเดี๋ยวนี้!”

หลู่ปิ่นหัวเราะอย่างเต็มที่ ดูเหมือนจะมีความสุขกับความโชคร้ายนี้

“ยอดฝีมือลึกลับ? เจ้ามีชื่อของเขาหรือไม่?” เหอเฉียนถามด้วยเสียงต่ำ

“ข้าไม่รู้จักชื่อจริง ๆ ของเขา ข้ารู้แค่ว่าทุกคนเรียกเขาว่า 'ภัณฑารักษ์'”

หลังจากครุ่นคิด หลู่ปิ่นก็ตัดสินใจบอกเขา

เขาต้องปกป้องหลินจินในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเปิดเผยการสนับสนุนเบื้องหลังของหลินจินเพื่อให้เหอเฉียนไม่กล้าลงมือ หลู่ปิ่นแน่ใจว่าภัณฑารักษ์ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นหากเหอเฉียนพบบางสิ่ง เขาก็จะยั้งตัวเองไม่ทำอะไรให้เกินเลยหลังจากนี้

“ภัณฑารักษ์?” เหอเฉียนทวนคำ ในบรรดายอดฝีมือทั้งหมดที่เขาเคยได้ยิน ไม่มีใครมีชื่อนี้เลย

แต่เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพียงฉายาไม่ใช่ชื่อจริงของชายคนนั้น

เหอเฉียนเริ่มครุ่นคิดในขณะที่หลู่ปิ่นยังคงนิ่งเงียบ ทุกอย่างเงียบลงในชั่วขณะ

ครู่ต่อมา เหอเฉียนก็ลุกขึ้นตั้งใจจะจากไป หลู่ปิ่นผุดลุกและรีบตะโกนออกมาว่า

“ท่านกำลังจะไปแล้วหรือ? แล้วองค์หญิงหกล่ะ? ท่านวางแผนที่จะทำอะไรต่อไป? พระองค์เป็นลูกสาวของท่าน ลูกคนเดียวของพระสนมกู่ ท่านต้องปกป้องเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”

ในระหว่างนั้น เหอเฉียนหยุดเดินและถามขึ้นว่า

“แม่ทัพหลู่ เจ้าเคยพบ 'ภัณฑารักษ์' คนนี้หรือไม่?”

หลู่ปิ่นส่ายหัว “ข้าไม่เคยพบ แต่เย่หยู่โจวแห่งเมืองเมเปิ้ลเคยพบ!”

ในขณะเดียวกัน หลู่ปิ่นก็รำพึงในใจว่า 'องค์หญิงเจ็ดเหอชิงก็เคยพบเขาด้วยเช่นกัน' แต่เขาจะไม่บอกเหอเฉียนเกี่ยวกับเรื่องนี้

เหอเฉียนพยักหน้าและพูดต่อไปในขณะที่เขาไป

“เจ้าจงอยู่ที่นี่อีกสองสามวัน อาจมีโอกาสที่อาการของหยูเอ๋อร์จะเปลี่ยนไป”

หลู่ปิ่นตกใจกับสิ่งนี้ ก่อนที่เขาจะถามต่อไป เหอเฉียนก็จากไปอย่างไร้ร่องรอย

...

กลางดึก

หลินจินกำลังรออยู่ที่บ้านเช่าของเขา

คืนนี้ ห้องโถงเยี่ยมจะเปิดทำการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มันยังไม่ถึงเวลา ตามปกติเขาควรจะต้องรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง

“เสี่ยวฮั่ว, วานรยักษ์ขาว พวกแกต้องรอฉันอยู่ในบ้าน หากศัตรูปรากฏตัว อย่าปะทะกับพวกเขาให้หลบหนีไป” หลินจินสั่ง

เขาถูกโจมตีติดต่อกันสองคืน ดังนั้นหลินจินจึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กลัวเกินไปเพราะพวกผู้ร้ายไม่ประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง อะไรจะทำให้ครั้งนี้แตกต่างออกไป?

มันเป็นค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์และแสงดาว ท้องฟ้ามืดครึ้มตั้งแต่เย็น แต่ไม่มีฝนตกลงมา เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี

นอกจากนี้หลินจินยังรู้สึกขนลุก ตอนนี้ประสาทสัมผัสของเขาเฉียบคมกว่าคนทั่วไป แม้ว่าเขาจะเลือกที่พักที่ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ก็ยังมีพลเรือนคนอื่น ๆ อาศัยอยู่ใกล้ ๆ ในช่วงเวลานั้นเป็นเรื่องปกติที่จะได้ยินเสียงคนพูดคุยหรือทำอาหาร แต่วันนี้เขาไม่ได้ยินอะไรเลย ทุกที่กับเงียบสงัด

“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”

หลินจินรู้สึกถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา

*ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก...*

ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากด้านนอก

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด