Chapter 9 : ศาสตร์การใช้หอก (ระดับ1)
แทบจะพริบตาเดียวประสบการณ์การต่อสู้มากมายมหาศาลก็ไหลบ่าเข้าสู่สมองของโจวเฉิน กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาเองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงและทรงพลังขึ้นเช่นกัน ราวกับว่าตัวเขาผ่านการตรากตรำฝึกฝนมาอย่างยาวนาน
“พอมาคิดว่าศาสตร์การต่อสู้เองก็เป็นสกิลติดตัวแล้วเราจะไปมัวเสียเวลาทำไมวะ?”
ขณะที่กำลังรู้สึกดีใจอยู่นั้นโจวเฉินก็ไม่ได้ลืมสหายร่วมอุทรที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก เขารีบวิ่งเข้าใส่ซอมบี้ถือหอกแล้วฟาดไปที่หัวของมันในทันที
เดิมทีซอมบี้ถือหอกกำลังได้เปรียบชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ภายใต้การจู่โจมต่อเนื่องของมันทำให้อีกฝ่ายตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองและอาจจะพ่ายแพ้ได้ในอีกไม่กี่กระบวนท่าแต่เมื่อโจวเฉินเข้ามาช่วยซอมบี้ถือหอกก็รีบเปลี่ยนเป้าหมายและหันไปแทงโจวเฉินแทนทำให้ชายหนุ่มมีโอกาสหลบหนีออกมาได้สำเร็จ
โจวเฉินที่ต้องเผชิญหน้ากับการจู่โจมฉับพลันของซอมบี้ถือหอกกลับไม่มีสีหน้าตื่นตระหนกเลย เขาใช้ไม้เบสบอลในมือปัดหอกของซอมบี้ออกไปขณะเดียวกันก็เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วและปล่อยหมัดเข้าไปที่หัวของมันอย่างรุนแรง
เมื่อเห็นว่าโจวเฉินเหนือกว่าในด้านการต่อสู้ระยะประชิดซอมบี้ถือหอกก็ยกหอกขึ้นและเร่งรีบล่าถอยออกไป
ยังไงก็ตามโจวเฉินที่เชี่ยวชาญในศาสตร์การต่อสู้ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาปราดเปรียวเป็นอย่างยิ่ง
คิดหรอว่าเขาจะปล่อยมันให้หนีไปได้ง่ายๆ?
เขาใช้สเต็ปเท้าก้าวออกไปและหวดขาไปที่เข่าของมันอย่างแรง จากนั้นเขาก็ใช้มือข้างหนึ่งแย่งหอกของมันมาและใช้อีกมือเหวี่ยงไม้เบสบอลส่งมันไปนรกอย่างว่องไว
[พรสวรรค์แย่งชิงสกิลติดตัวทำงาน : ท่านได้รับสกิลติดตัว [ศาสตร์การใช้หอก(ระดับ1)] ต้องการหลอมรวมหรือไม่?]
“จัดไป!”
โจวเฉินเลือกหลอมรวมอย่างไม่ลังเล พริบตาต่อมาสถานการณ์คล้ายๆกับครั้งที่หลอมรวมกับสกิลศาสตร์การต่อสู้ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ประสบการณ์การใช้หอกมากมายมหาศาลหลั่งไหลเข้าสู่สมองของเขาทำให้เขารู้สึกปวดหัวขึ้นมา
ในเวลาเดียวกันนี้เองชายหนุ่มที่ถูกซอมบี้ถือหอกกดข่มอยู่ตลอดเวลาก็เดินเข้ามาพอดี เขามองมาที่โจวเฉินด้วยสายตาตกตะลึงและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ
“ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเร้นกาย การต่อสู้ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของนายทั้งนั้นดังนั้นนายเลือกอาวุธไปก่อนได้เลย”
“ฉันเอาหอกกับขวานเล็ก(Hatchet)แล้วกัน”
โจวเฉินไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด เขาเดินไปที่ชั้นวางอาวุธและหยิบหอกกับขวานเล็กขึ้นมา หอกด้ามนี้เป็นหอกแบบเดียวกับที่ซอมบี้ถือหอกใช้ไม่ผิดแน่แต่อยู่ในสภาพดีกว่า
“ถ้างั้นฉันเลือกกระบี่กับค้อนนี่แล้วกัน”
ชายหนุ่มเดินไปหยิบกระบี่ด้ามยาวและค้อนออกมาจากชั้นวางอาวุธ ส่วนท่อนเหล็กในมือของเขานั้นเขาก็โยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
“ที่แผนการสำเร็จคราวนี้ต้องขอบคุณนายจริงๆ มาเพิ่มเพื่อนกันไว้เถอะ ถ้ามีโอกาสฉันก็อยากจะร่วมมือกับนายอีกซักหน”
หลังจากชายหนุ่มแปลงร่างเป็นชายหนุ่มถือค้อนเขาก็ขอแอดโจวเฉินเป็นเพื่อนและจากไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหมอนี่คล้ายกับหมาป่าเดียวดายจริงๆ”
โจวเฉินเดิมทีคิดว่าหมอนี่อาจจะอยากจะร่วมทีมกับเขาต่อหลังจากได้เห็นฝีมือแต่ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายกลับเลือกบอกลาทันทีหลังจากได้สิ่งที่ต้องการ เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจอยู่บ้างเล็กน้อย
“ยังมีอาวุธเหลืออยู่อีกหลายชิ้น มาดูกันดีกว่าว่าใครจะเป็นผู้โชคดีมาเจอเข้า”
เขาตรวจสอบบริเวณรอบๆและพบเข็มขัดที่ดูแข็งแรงเส้นหนึ่งจึงนำมันมาผูกกับขวานเล็กและห้อยเอาไว้ที่เอวก่อนจะออกจากโรงฝึกไปพร้อมกับกระชับหอกในมือแน่น ส่วนอาวุธชิ้นอื่นๆบนชั้นวางเขาไม่สนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อยเพราะเขาลองแล้วและพบว่าเขาไม่สามารถเก็บพวกมันเอาไว้ในช่องเก็บของได้และต้องลำบากแบกเอาเองเท่านั้น
หลังจากเดินออกมาจากโรงฝึกได้ไม่นานเขาก็พบเข้ากับซอมบี้หกตัว ซอมบี้ทั้งหกตัวนี้เป็นเพียงซอมบี้ธรรมดาๆเท่านั้น เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นโจวเฉินมันก็พุ่งเข้าใส่เขาอย่างไร้สมอง
โจวเฉินก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง หอกที่กระชับอยู่ในมือของเขาถูกแทงกรีดอากาศเข้าใส่ศรีษะของพวกมันราวกับลิ้นของอสรพิษและสังหารพวกมันทั้งหมดในพริบตา
“ด้วยหอกนี่กับสกิลติดตัวที่เกื้อหนุนกันประสิทธิภาพในการฆ่าซอมบี้ของเราก็เพิ่มขึ้นมาอีกช่วงใหญ่”
เมื่อมองร่างของซอมบี้ที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้นโจวเฉินก็รู้สึกว่าเขาพัฒนาขึ้นมาเยอะมาก ไม่นานก่อนหน้านี้ถ้าเจอซอมบี้จำนวนมากเขายังไม่อาจสู้กับพวกมันซึ่งๆหน้าได้เลย ถึงจะสู้ได้ก็ต้องใช้วิธีอ้อมไปอ้อมมาซึ่งกินเวลามหาศาลไม่รวดเร็วเหมือนในตอนนี้แน่นอน
“ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของฉันถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดโอกาสที่จะเอาตัวรอดในช่วงสามวันนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา เราน่าจะออกหาอาหารและเก็บเกี่ยวสกิลติดตัวเพิ่มอีกหน่อยแล้วค่อยไปหาที่ซุกหัวนอน”
โจวเฉินพึงพอใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันยิ่งนักและเต็มไปด้วยความมั่นใจมากว่าเขาจะสามารถผ่านดันเจี้ยนนี้ไปได้อย่างแน่นอน
เวลาที่เหลือช่างน่าเบื่อยิ่งนัก เขาออกตามหาอาหารและซอมบี้ชนิดพิเศษในหลายๆสถานที่ภายในเมือง ถ้าเขาถูกพวกซอมบี้เจอตัวเขาก็จะสังหารพวกมันทันทีด้วยหอกในมือ
หลายชั่วโมงต่อมาเขาก็พบกับขนมปังในห่อบรรจุภัณฑ์ในสภาพดีภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งเขาจึงกินมันทันทีเพื่อฟื้นฟูแรงกาย ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบขวดน้ำแร่ขวดหนึ่งขึ้นมาดื่มจนหมดขวด
เขาไม่ได้สกิลติดตัวเพิ่มเติมแต่อย่างใดเนื่องจากเขาไม่เจอซอมบี้ชนิดพิเศษเลย
...
ตกกลางคืน โจวเฉินพบห้องที่ค่อนข้างสะอาดและมีหน้าต่างกับประตูที่ยังพอใช้งานได้จึงเลือกซุกหัวนอนที่นี่ในค่ำคืนนี้
สถานที่ส่วนใหญ่ภายในเมืองไฟฟ้าถูกตัดไปนานแล้ว การมองเห็นในช่วงกลางคืนของเขาจึงค่อนข้างไม่ดีนักดังนั้นเขาจึงไม่มีแผนจะออกไปข้างนอกในช่วงเวลานี้และตั้งสมาธิไปที่การพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่
หลังจากใช้เฟอนิเจอร์ในห้องมากั้นประตูและหน้าต่างเอาไว้แล้วโจวเฉินก็เริ่มอดทนรอให้ความง่วงมาทักหา
ระหว่างที่เขากำลังรอให้ตัวเองง่วงอย่างเบื่อหน่ายอยู่นั้น เขาก็เปิดดูหน้าต่างตัวละครและตรวจสอบคำอธิบายของสกิลศาสตร์การต่อสู้และการใช้หอกไปด้วยในเวลาเดียวกัน
[ชื่อ : โจวเฉิน]
[พลังกาย : 1.1]
[ความว่องไว : 1.4]
[จิตวิญญาณ : 1.6]
[พรสวรรค์ : แย่งชิงสกิลติดตัว]
[สกิลติดตัว : พิษซากศพ (ระดับ1) , เสริมความเร็ว (ระดับ1) , เสริมจิตวิญญาณ (ระดับ1) , ศาสตร์การต่อสู้ (ระดับ1) , ศาสตร์การใช้หอก (ระดับ1)]
[ความแข็งแกร่งโดยรวม : ทองแดงขั้นต่ำ]
[ศาสตร์การต่อสู้ (ระดับ1) : ประเภท – สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำคำอธิบายสกิล : ผู้ครอบครองสกิลจะเชี่ยวชาญในด้านการต่อสู้และสามารถใช้มือเปล่ารับมือกับคนธรรมดาหลายคนได้ในเวลาเดียวกัน]
[ศาสตร์การใช้หอก (ระดับ1) : ประเภท – สกิลติดตัวระดับทองแดงขั้นต่ำ
คำอธิบายสกิล : ผู้ครอบครองสกิลจะเชี่ยวชาญในด้านการใช้หอก สามารถจัดการกับคนธรรมดาติดอาวุธหลายคนได้อย่างง่ายดาย]
...
เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่เขากลับนอนไม่หลับ จากด้านนอกเขาได้ยินเสียงย่ำเท้าอย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าดันเจี้ยนนี้ช่วงเวลากลางคืนจะมีชีวิตชีวามากกว่ายามกลางวัน
เขาเดินไปที่หน้าต่างและส่องผ่านรูเล็กๆ ด้วยแสงจันทร์ที่ส่องลงมาทำให้เขาเห็นว่าด้านนอกนั้นมีซอมบี้เดินอยู่เยอะกว่าช่วงกลางวันคนละเรื่องเลย
“ช่วงกลางคืนนี้เวลาปล่อยผีของแท้”
หลังจากสังเกตอยู่ซักพักโจวเฉินก็กลับมาที่เตียงและล้มตัวลงนอน วันนี้เขาผ่านอะไรมามากมายดังนั้นจึงอยากจะพักผ่อนให้สบายอกสบายใจซักหน่อย
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างสงบสุข
เช้าวันถัดมาเมื่อโจวเฉินขยับเฟอนิเจอร์ที่ขวางประตูออกและส่องผ่านตาแมวออกไปดูก็พบว่าบริเวณทางเดินนอกห้องมีซอมบี้ออกันอยู่มากกว่าสิบตัว
“ดูเหมือนเช้านี้จะโชคไม่ค่อยดีแฮะ...”
โจวเฉินแน่นอนว่าไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใดในใจของเขาตอนนี้มีแต่ความหงุดหงิดเพียงอย่างเดียว เขาปรับตำแหน่งของเฟอนิเจอร์ให้ขวางประตูแค่ครึ่งเดียวทำให้ประตูสามารถแง้มได้เพียงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ผลักประตูออกไปพร้อมกับกระชับขวานไว้ในมือแน่นรอให้เหยื่อตัวแรกพุ่งเข้ามา
ซอมบี้ด้านนอกเมื่อเห็นว่าประตูเปิดก็พากันวิ่งเข้ามาแต่เนื่องจากประตูถูกเฟอนิเจอร์หลายชิ้นขวางเอาไว้ทำให้เปิดไม่ได้เต็มที่ พวกซอมบี้ที่วิ่งเข้ามาตัวแรกๆจึงได้รับขวานเล็กจากโจวเฉินจามลงหัวเป็นรางวัลและกลายเป็นร่างไร้ชีวิตนอนกองเรียงรายบนพื้นก่อนจะถูกซอมบี้ตัวหลังๆเหยียบย่ำจนเละไม่มีชิ้นดี
หลังจากเสียเวลาจัดการกับซอมบี้พวกนี้โจวเฉินก็คว้าหอกและเดินออกไปจากห้อง
พอกวาดซอมบี้ที่เหลือบริเวณทางเดินและบันไดเขาก็มุ่งหน้ามาเรื่อยๆจนถึงถนนด้านนอก
“ด้านนอกมีซอมบี้มากกว่าเดิมอีกแฮะ...”
หลังจากหลบเข้ามุมไปเพื่อสังเกตุการณ์พื้นที่บริเวณรอบๆเขาก็พบว่าหลังจากผ่านเมื่อคืนมาจำนวนซอมบี้ที่เดินไปมาเดินมาบนถนนกลับเยอะขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
“นอกจากนี้ซอมบี้ประเภทต่างๆเองก็เพิ่มมากขึ้น”
สายตาของเขาถูกดึงดูดไปที่ซอมบี้ขนาดยักษ์ตัวหนี่ง
“แกนี่แหละเป้าหมายแรก...”
เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดปลายหอกและปาดมันด้วยพิษซากศพก่อนจะมุ่งตรงเข้าหาซอมบี้ร่างยักษ์