Chapter 5 : เสริมพลัง
โจวเฉินไม่ได้แสดงท่าทีออกไปทันทีแต่เลือกจะนั่งยองๆและหันไปเปิดพวกลังกระดาษที่อยู่ข้างๆแทน ภายในลังนั้นเขาพบน้ำแร่อยู่สามขวด เหตุผลที่เขามั่นใจว่าเป็นน้ำแร่ก็เพราะมันมีฉลากแปะเอาไว้บนขวดพลาสติก
เขาหยิบขวดน้ำขึ้นมาและพลิกมองแล้วมองอีกก่อนจะเปิดฝาขึ้น ที่เขาทำก็เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำพวกนี้สามารถกินได้
การกระทำของโจวเฉินทำให้เซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆนึกขึ้นมาได้ จากนั้นพวกเขาเองก็เริ่มเปิดลังกระดาษทางฝากของตัวเองเช่นเดียวกัน
ในระหว่างที่กำลังเปิดกล่องกันนั้นพวกเขายังไม่ได้ตีกันแต่อย่างใด
“ฉันเองก็ได้น้ำแร่มาสามขวด”
“ฉันด้วย”
“น่าจะดื่มได้...”
“แล้วทำไมจะดื่มไม่ได้ล่ะ? น้ำพวกนี้ก็เห็นอยู่ว่ายังไม่ได้ถูกเปิดเลยด้วยซ้ำ ฉันกำลังกระหายอยู่พอดีขอลองก่อนซักขวดเลยแล้วกัน”
ท่ามกลางการถกเถียงกันไปมาชายหนุ่มผมสีเหลืองก็เปิดฝาขวดและกระดกมันลงไปหลายอึก
หลังจากดื่มไปได้ครึ่งขวดเขาก็ส่งเสียงพึงพอใจออกมาจากลำคอ ชัดเจนแล้วว่ารสชาติของน้ำแร่พวกนี้ไม่เลวเท่าไหร่นัก
ชายวัยกลางคนที่เป็นคนออกปากพูดคนแรกเองก็แสดงสีหน้าพึงพอใจเช่นกันเมื่อเห็นว่าน้ำดื่มได้
“ทุกๆคนดูเหมือนว่ากล่องพวกนี้จะเป็นอาหารที่ระบบส่งมาให้กับพวกเรานะ ด้วยอาหารพวกนี้ความยากในการเอาตัวรอดให้ได้อีกสามวันก็จะลดน้อยลงไปมาก ตอนนี้พวกเราเพียงแค่ตั้งใจเสาะหาที่ปลอดภัยเพื่อให้ผ่านพ้นสามวันนี้ไปให้ได้ก็พอ”
คำพูดของชายวันกลางคนฟังดูมีเหตุผล ตราบใดที่พวกเขาไม่ตกไปอยู่ในดงซอมบี้พวกเขาก็น่าจะผ่านสามวันนี้ไปได้แม้จะมีแค่น้ำเพียงอย่างเดียวก็ตาม
“แทนที่จะมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่พวกเรารีบออกไปตรวจสอบสถานการณ์จะดีกว่ามั้ง? ฉันคิดว่าซอมบี้น่าจะมุ่งหน้ามาที่นี่ในอีกไม่ช้าแล้วนะ”
ชายหนุ่มร่างสูงที่เอ่ยว่าต้องการจะลุยภารกิจคนเดียวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน จากนั้นเขาก็หยิบขวดน้ำสามขวดของตัวเองขึ้นมาและเดินออกจากโกดังแห่งนี้ไป
โจวเฉินคือคนที่สองที่เดินออกจากโกดังแห่งนี้ไปเพราะเขาคิดสะระตะมาดีแล้วและตัดสินใจว่าจะลุยด้วยแผนหมาป่าเดียวดาย
เพราะตัวเขามีพรสวรรค์อย่างช่วงชิงสกิลติดตัวดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องตามล่าเป้าหมายเพื่อให้ได้สกิลติดตัวมา ถ้าเขารวมกลุ่มกับเซอร์ไวเวอร์คนอื่นๆก็มีโอกาสสูงมากที่เรื่องนี้จะถูกเปิดเผยและยิ่งดึงดูดปัญหาไม่รู้จบเข้ามา แทนที่จะเป็นแบบนั้นสู้เขาลุยคนเดียวเขาคงควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า
หลังจากยัดขวดน้ำทั้งสามเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อและกางเกงแล้วโจวเฉินก็เร่งฝีเท้าเดินไปจนถึงทางออกจากตึก
ใกล้ๆทางออกโจวเฉินสังเกตุเห็นชายหนุ่มที่เดินออกมาเป็นคนแรกกำลังถือท่อเหล็กเอาไว้ในมือแล้วค่อยๆเดินออกไปจากตัวตึกอย่างเงียบเชียบ จากนั้นเขาก็พลันได้ยินเสียงคำรามเบาๆดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงอะไรบางอย่างแตกกระจาย
โจวเฉินรีบเดินไปที่ทางออกและชะโงกหน้าออกไปดู
ด้านนอกบริเวณซากถนนเขาเห็นชายหนุ่มคนเดิมกำลังใช้ท่อเหล็กในมือฟาดหัวของซอมบี้ตัวหนึ่งจนแตกกระจาย บริเวณด้านหลังของชายหนุ่มผู้นี้ยังมีศพที่ดูไม่สมประกอบนักอีกสามศพนอนกองเรียงราย
“เจ้าหมอนี่สุดยอดไปเลยฆ่าซอมบี้ได้ตั้ง4ตัวแถมยังเร็วขนาดนี้ พรสวรรค์ของหมอนี่น่าจะเกี่ยวกับพวกความเร็วแน่นอน”
โจวเฉินคาดเดาอย่างคร่าวๆ จากนั้นเขาก็สังเกตุเห็นท่อนไม้พอดีมืออันนึงจึงดึงออกมากระชับเอาไว้ในมือ
เหตุผลอีกอย่างที่เขาไม่อยากจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ที่ที่ดูเหมือนจะปลอดภัยเพื่อซ่อนตัวก็เพราะเขาเห็นซอมบี้กระจัดกระจายอยู่รอบๆนี้ไม่น้อย ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไหร่พวกซอมบี้ก็น่าจะยิ่งมารวมตัวกันที่โกดังแห่งนี้มากเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นจะยิ่งอันตรายอย่างไม่ต้องสงสัย
ต้องขอบคุณชายหนุ่มคนเมื่อครู่ที่เคลียร์ทางเอาไว้ให้ระหว่างทางโจวเฉินจึงไม่ถูกซอมบี้เข้าโจมตีเลย ซอมบี้ที่อยู่ห่างออกไปก็ดูเหมือนจะมีระยะตรวจจับไม่ดีนักจึงไม่เห็นเขา
โจวเฉินเร่งเดินออกไปจากบริเวณนี้ที่เขาคิดว่าอีกไม่นานซอมบี้น่าจะมาชุมนุมกันและเริ่มมองหาสถานที่เหมาะๆเพื่อหลบซ่อนตัวขณะเดียวกันเขาก็กำลังมองหาเป้าหมายที่เหมาะมือไปด้วย
หลังจากเดินเตร่มาบนถนนอย่างระมัดระวังได้ซักพักเขาก็เดินมาจนถึงตึกแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากถนนมากนัก
ตอนนี้เป็นเวลากลางวันและท้องฟ้ายังคงส่องสว่างสดใส โจวเฉินตรวจสอบจนมั่นใจแล้วว่ารอบๆตัวตึกมีซอมบี้อยู่เพียงสองตัวเท่านั้นและยังอยู่ห่างกันพอสมควรอีกด้วย
“ทั้งสองตัวนี้เป็นเป้าหมายที่ดีมาก อยากรู้เร็วๆแล้วสิว่าถ้าล่าพวกมันได้แล้วเราจะได้สกิลติดตัวอะไรใหม่ๆ...”
ขณะที่คิดอยู่นั้นมือของโจวเฉินก็พลันเปลี่ยนเป็นสีดำ เขารูดมือข้างที่เป็นสีดำไปบนปลายของท่อนไม้ที่ถืออยู่ จากนั้นบนปลายของท่อนไม้ก็พลันปรากฏสสารสีดำไม่ทราบชนิดฉาบทับ
ถูกแล้ว....เขาใช้พิษซากศพเพื่อเสริมพลังให้กับท่อนไม้
เขาพัฒนาเทคนิคนี้ขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันก่อนและทดลองมันกับสัตว์ตัวเล็กๆไปบ้างแล้ว ความสามารถของมันค่อนข้างดีมาก เหล่าสัตว์ทดลองผู้โชคร้ายเมื่อสัมผัสเข้ากับพิษซากศพก็ตกตายลงอย่างรวดเร็ว
โจวเฉินค่อยๆย่องเข้าหาซอมบี้จากทางด้านหลัง เขากระชับท่อนไม้ที่เสริมพลังด้วยพิษซากศพเอาไว้แน่นในมือ เมื่อโจวเฉินเข้าระยะสามเมตรของซอมบี้มันก็พลันหันมาแยกเขี้ยวยิงฟันให้เขา
ยังไงก็ตามก่อนที่ซอมบี้จะทันได้ยกกงเล็บเน่าๆของมันขึ้นมาท่อนไม้ในมือของโจวเฉินก็ถูกเหวี่ยงเข้าใส่หัวเน่าเฟะของมันเสียก่อน โจวเฉินไม่ได้ใช้แรงไปมากนักเพราะอยากจะทดสอบดูว่าผลของพิษซากศพมีผลกับซอมบี้มากน้อยเพียงใด
โฮก!
ซอมบี้ที่ถูกฟาดเข้าที่หัวโดยท่อนไม้อาบยาพิษกลับยังไม่ตาย มันคำรามลั่นและพุ่งเข้าใส่โจวเฉินอย่างบ้าคลั่งแต่การเคลื่อนไหวของมันสะเปะสะปะไปมาและไม่อาจสัมผัสตัวของโจวเฉินที่ว่องไวกว่าได้เลยด้วยซ้ำ
“ความเสียหายจากพิษซากศพดูเหมือนจะไม่ค่อยมีผลกับซอมบี้เหมือนกันแต่ความสามารถที่ทำให้มันอ่อนแอลงนี่จัดว่าเยี่ยม”
โจวเฉินพอจะสรุปได้คร่าวๆแล้วว่าแม้ว่าพิษซากศพจะสังหารซอมบี้ตัวนี้อย่างรวดเร็วไม่ได้แต่ก็สามารถทำให้มันช้าลงได้อย่างชัดเจน ความเร็วของมันช้ากว่าซอมบี้ที่เข้าจู่โจมชายหนุ่มท่อเหล็กเป็นไหนๆ
หลังจากได้ข้อมูลที่ต้องการมาแล้วเขาก็ใช้แรงทั้งหมดระเบิดหัวของซอมบี้เพื่อสังหารมันทิ้งเพราะดูเหมือนว่าซอมบี้อีกตัวที่อยู่ไม่ไกลมากนักจะสัมผัสถึงการต่อสู้ได้และกำลังพุ่งเข้ามาหาเขาแล้ว
พิษซากศพบนท่อนไม้ยังมีเหลืออยู่ เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อหลบการโจมตีของซอมบี้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้ปลายไม้ที่อาบพิษซากศพเอาไว้แตะไปที่ร่างของมันเพื่อทำให้มันติดพิษ
พิษซากศพสีดำส่งผลในเวลาไม่ถึงครึ่งวินาทีหลังจากเข้าสู่ร่างกายทำให้ความเร็วของมันลดลงอย่างมหาศาล
โจวเฉินจึงสามารถจัดการระเบิดหัวเน่าๆของมันได้อย่างง่ายดายเหมือนเดิม
หลังจากจัดการกับซอมบี้ทั้งสองตัวสีหน้าของโจวเฉินก็เริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาเพราะเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบหรือได้สกิลติดตัวใดๆจากซอมบี้ทั้งสองตัวนี้เลย
“ซอมบี้สองตัวนี้มันอ่อนแอขนาดนี้เชียว? กระทั่งสกิลติดตัวก็ยังไม่มี? อย่าบอกนะว่าซอมบี้ทั้งหมดเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดอ่ะ...”
โจวเฉินคิดว่าสถานการณ์เริ่มไม่สู้ดีแล้ว ถ้าซอมบี้ทั้งหมดเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดถ้างั้นถึงแม้ว่าเขาจะเอาตัวรอดผ่านสามวันนี้ไปได้อย่างง่ายดายแต่ผลประโยชน์ที่เขาควรได้รับก็จะลดลงอย่างมหาศาลเป็นแน่