ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 2 : สิ้นสุดการทดสอบ

Chapter 1 : ช่วงชิงสกิล


“โจวเฉิน! เมื่อไหร่แกจะจ่ายค่าเช่าซักที?”

หญิงสาวร่างท้วมเจ้าของห้องเช่ายืนเท้าสะเอวและขมวดคิ้วกล่าวกับชายหนุ่มอยู่บริเวณประตูหน้าห้องขนาดเล็กที่มีเตียงหลังเล็กเพียงเตียงเดียวภายในห้อง

“ขอเวลาผมซักสองวันนะครับพี่สาวหวัง อีกสองวันก็พอ เงินเดือนผมจะออกในสองวันนี้แล้วพอถึงตอนนั้นผมจะจ่ายให้เลย”

ชายหนุ่มนามโจวเฉินที่ยืนอยู่ในห้องเช่าแคบๆยิ้มแล้วกล่าวกับหญิงสาวร่างท้วม

“ก็ได้! ฉันไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอยู่แล้ว คราวนี้ฉันจะเชื่อนายซักหนแต่ถ้าอีกสองวันไม่จ่ายก็เตรียมตัวไสหัวออกไปได้เลย!”

หญิงสาวเจ้าของห้องเช่าดูเหมือนจะถูกอกถูกใจที่ถูกเรียกว่าพี่สาว หลังจากกล่าวขู่ชายหนุ่มอีกหนหนึ่งเจ้าหล่อนก็หมุนก้นอวบอ้วนสะบัดตูดเดินจากไป

โจวเฉินถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ยากจนจริงนะหมอนี่...กระทั่งค่าเช่าก็ยังไม่มีจ่าย...”

เหตุผลที่เขากล่าวเช่นนี้ก็เพราะว่าตัวเขาในปัจจุบันไม่ใช่เจ้าของเดิมของร่างนี้ เจ้าของเดิมของร่างนี้เนื่องจากสิ้นหวังจึงฆ่าตัวตายไปได้ซักพักแล้ว ดวงวิญญาณที่เข้ามาเสียบอยู่ในร่างนี้ก็คือชายหนุ่มจากโลกที่มีชื่อเดียวกับเจ้าของร่างคนเดิม ชายหนุ่มชาวจีนที่เสียชีวิตเพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

เนื่องจากเขาได้ความทรงจำของเจ้าของร่างคนเก่ามาด้วยโจวเฉินจึงทราบข้อมูลส่วนใหญ่และสถานการณ์ในปัจจุบันของโลกใบนี้ค่อนข้างละเอียด

ตัวเขาในปัจจุบันอาศัยอยู่ในจักรวรรดิมังกรแห่งดาวสีน้ำเงินซึ่งเป็นประเทศประเทศหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายๆกับยุคราชวงค์ในโลกเดิมของเขาในหลายๆด้าน ตัวเขาเป็นเด็กกำพร้าอายุ18ปีที่เติบโตขึ้นมาภายในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเมืองหยางแห่งจักรวรรดิมังกร

[ท่านได้ถูกเลือกโดยระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดในฐานะของหนึ่งในผู้เอาชีวิตรอด บททดสอบสำหรับมือใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า]

ทันใดนั้นเองจู่ๆเสียงจักรกลไร้อารมณ์สายหนึ่งก็พลันดังขึ้นมาในหัวของโจวเฉิน

“เชี่ยไรวะเนี่ย?! ร่างนี้มีโรคประสาทหลอนติดมาด้วยรึไง?”

โจวเฉินคิดได้อย่างเดียวเลยว่าอาการที่เขาประสบอยู่ก็คืออาการจากโรคประสาทหลอน

[ทำการสุ่มพรสวรรค์...เริ่มการสุ่ม...ท่านได้รับพรสวรรค์เพียงหนึ่งเดียวในโลก : ช่วงชิงความสามารถติดตัว]

[ช่วงชิงความสามารถติดตัว : สกิลติดตัวของเป้าหมายที่ท่านสังหารจะถูกท่านช่วงชิง ท่านสามารถเลือกดูดซับ เปิดใช้งาน ปิดใช้งานหรือละทิ้งสกิลติดตัวเหล่านั้นได้]

เมื่อเสียงที่เกิดจากอาการที่เขาบอกกับตัวเองว่าเป็นอาการประสาทหลอนดังขึ้นอีกครั้งโจวเฉินก็ทราบแล้วว่ามันไม่ได้ง่ายดายเช่นที่เขาคิด

[เริ่มบททดสอบ...]

ก่อนที่เขาจะทันได้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเขาก็พลันรู้สึกว่าสมองเบลอไปชั่วขณะ พื้นที่รอบๆกายของเขาพลันเปลี่ยนไป ร่างของเขาถูกย้ายจากห้องเดี่ยวขนาดเล็กมาอยู่ในพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง

พื้นที่รกร้างแห่งนี้ดูแล้วไม่มีอะไรเลยเป็นเพียงดินแดนเวิ้งว้างกว้างใหญ่ที่มีเพียงวัชพืชและกองดิน ท้องฟ้าด้านบนเองก็เต็มไปด้วยหมู่เมฆจนทำให้มืดสลัวราวกับว่าฝนกำลังจะตก

โจวเฉินยืนอยู่ในสถานที่อันแปลกประหลาดแห่งนี้เพียงลำพัง เขาพยายามบังคับตัวเองให้ตั้งสมาธิและฟังคำแนะนำจากเจ้าสิ่งที่เรียกว่าระบบเอาชีวิตรอดไร้ขีดจำกัดอย่างตั้งอกตั้งใจ

[บททดสอบสำหรับมือใหม่]

[ความยาก : ทองแดงขั้นต่ำ]

[ภารกิจ : เอาชีวิตรอดจากฝูงผีดิบเป็นเวลาสามนาที]

[คำเตือน : หากล้มเหลวจะเสียชีวิตทันทีโปรดรับมือด้วยความระมัดระวัง]

“เอาชีวิตรอดจากฝูงผีดิบให้ได้สามนาที...ผีดิบ? อยู่ไหนอ่ะ? อย่าบอกนะว่ากองดินพวกนั้น...”

โจวเฉินที่ปรับตัวกับสถานการณ์ในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วพลันกวาดสายตามองไปยังกองดินบนพื้นจากนั้นเขาก็เริ่มออกตัววิ่งทันที

ความคิดของเขาถูกต้องแล้วเพราะไม่นานนักร่างของบางสิ่งบางอย่างคล้ายมนุษย์แต่มีร่างกายเน่าเปื่อยสีดำสนิทก็พากันคืบคลานออกมาจากกองดินเหล่านั้น

เมื่อพวกตัวน่าขยะแขยงเหล่านี้คลานออกมาได้พวกมันก็เงยหน้าอันน่ารังเกียจขึ้นมองไปทางทิศทางที่โจวเฉินวิ่งหนีไป จากนั้นแขนขาของพวกมันก็พลันตะเกียดตะกายคืบคลานเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่ง

เคราะห์ดีที่โจวเฉินเลือกจะเว้นระยะห่างออกมาจากกองดินตั้งแต่เนิ่นๆพวกผีดิบพวกนี้จึงไม่สามารถคว้าร่างของเขาเอาไว้ได้ทัน

เพื่อเอาชีวิตรอดโจวเฉินไม่ลังเลแม้แต่น้อยและใช้กำลังทั้งหมดที่มีออกวิ่งสับตีนแตกในทันที

“สามนาที...ทนให้ได้แค่สามนาทีก็พอ...”

โจวเฉินกล่าให้กำลังใจตัวเองไปพลางหนีไปพลาง

ยังไงก็ตามภารกิจมือใหม่อะไรนี่กลับไม่ได้ง่ายดายปานนั้น หลังจากวิ่งมาได้ซักพักเขาก็พบว่าผีดิบพวกนั้นไม่ได้โผล่มาจากกองดินเพียงอย่างเดียว พวกมันปรากฏตัวออกมาจากทิศทางอื่นเช่นเดียวกัน ตัวน่าขยะแขยงพวกนี้ต่างก็คืบคลานเข้ามาโอบล้อมเขาเอาไว้

“ไม่ดีแล้ว...แบบนี้หลบไม่ได้แน่ๆ...”

แม้เขาจะเว้นระยะห่างจากกลุ่มผีดิบแล้วแต่เมื่อเห็นว่าผีดิบพวกนั้นไม่ได้มาจากทิศทางเดียวแถมความเร็วของพวกมันยังไม่ช้าอีกด้วยเขาก็ทราบแล้วว่าเขาไม่มีทางเลี่ยงพวกมันทุกตัวได้อย่างแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานเขาก็คงต้องประจันหน้ากับพวกมันแน่นอน

"ช่วยไม่ได้...คงต้องเสี่ยงเอาแล้ว!”

โจวเฉินหยุดวิ่งทันที จากนั้นเขาก็พยายามข่มความกลัวที่มีต่อสัตว์ประหลาดน่าขยะแขยงพวกนี้และพุ่งเข้าใส่จุดที่มีพวกมันน้อยที่สุด เมื่อเข้าถึงระยะของผีดิบที่อยู่เพียงตัวเดียวเขาก็เตะเข้าไปที่หัวของมันอย่างแรง

แคร่ก!

ท่ามกลางเสียงกระดูกแตกหักโจวเฉินก็พบว่าหัวของผีดิบตนนั้นถูกเตะลอยออกไปราวกับลูกบอลยางและกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้น จากนั้นร่างไร้ชีวิตของมันเองก็พลันหยุดนิ่งไม่ไหวติงไป

[สกิลช่วงชิงความสามารถติดตัวทำงาน : ท่านได้ช่วงชิงความสามารถติดตัวของผีดิบ – [พิษซากศพ!] ทำการดูดซับหรือไม่?]

“ดูดก็ดูด!”

โจวเฉินตะโกนขึ้นมาในใจ

แม้ว่าเขาจะสังหารผีดิบไปได้ตัวหนึ่งแต่บนพื้นดินก็ยังมีผีดิบอีกหลายตัวกำลังคืบคลานเข้ามา จำนวนของพวกมันมีมากเกินไปจริงๆและเขาก็ไม่แน่ใจด้วยว่าตัวเองจะทนอยู่ได้จนหมดเวลา ดังนั้นในสถานการณ์แบบนี้ไม่ว่าจะวิธีอะไรก็ตามแต่ถ้ามันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาได้เขาก็ย่อมต้องใช้มันอย่างไม่ลังเล

ไม่นานนักโจวเฉินก็รู้สึกได้ถึงพลังงานเย็นเยียบสายหนึ่งแล่นผ่านไปทั่วร่างและผิวหนังของเขาก็ดูซีดลงอย่างเห็นได้ชัด

ยังไงก็ตามตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องพวกนี้ เขายังต้องรีดเค้นพลังกายออกมาวิ่งหนีเอาชีวิตรอดต่อ ในเวลาเดียวกันถ้าเข้าตาจนเขาก็จะโจมตีผีดิบที่ขวางทางอย่างไม่ลังเล

ฟิ้ว!

ทันใดนั้นเองผีดิบที่คลานอยู่ด้านหน้าของเขาตัวหนึ่งก็พลันดีดตัวขึ้นกระโจนเข้าใส่เขา

ตัวของโจวเฉินที่กำลังวิ่งอยู่ด้วยความเร็วเต็มพิกัดเช่นนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะหลบการโจมตีของอีกฝ่าย เขาจึงทำได้เพียงต่อยไปที่หัวของผีดิบที่กระโจนเข้ามา

หมัดของเขามาพร้อมกับแรงส่งจากการวิ่งอย่างสุดแรงเกิดมันจึงไม่ได้เบาเลย ร่างของผีดิบที่ถูกหมัดของเขาต่อยปลิวออกไปกองอยู่บนพื้น

ยังไงก็ตามตัวเขาเองก็ได้รับผลจากแรงปะทะกับผีดิบตัวเมื่อครู่เช่นกัน แม้ว่าเขาจะโชคดีไม่โดนโจมตีแต่ร่างของเขาที่ถูกกระแทกก็ยังคงทำทีว่าจะเสียหลักและล้มลงบนพื้นอยู่ดี

“ล้มไม่ได้เด็ดขาด!”

โจวเฉินพยายามประคองตัวเอาไว้เพราะเขารู้ดีว่าในสถานการณ์นี้ถ้าเขาล้มลงเขาจะตายอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสงสัย

เมื่อเขาประคองตัวได้แล้วโจวเฉินก็สังเกตุเห็นว่าผีดิบที่ถูกเขาต่อยลงไปกองกับพื้นเมื่อครู่ยังไม่ตายแต่หัวของมันถูกอะไรบางอย่างกรัดกร่อนไปเล็กน้อย ความเร็วของมันเองก็ลดลงและไม่สามารถไล่กวดเขาทันอีกต่อไป

“พิษซากศพดูเหมือนจะมีผลกับผีดิบพวกนี้เล็กน้อย...พลังของพิษซากศพนี้ไม่ต่ำตมเลย แบบนี้ยิ่งห้ามโดนพวกมันโจมตีเป็นอันขาด...”

โจวเฉินเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีดพลังกายออกมาจนหมดตัวและวิ่งหนีต่อไปด้วยใจตั้งมั่นว่าจะต้องเอาชีวิตรอดจากเวลาที่เหลืออยู่อีกเพียงเล็กน้อยให้จงได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด