ตอนที่ 357 ตัดสินใจเคลื่อนไหว
ถังเทียนยืนอยู่ที่เดิมเหมือนกับว่าไม่ได้ยินอะไร
บุคคลผู้อยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอดคนที่สามนั้นน่าสนใจ นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนตัดสินใจเคลื่อนไหว
เจ้าปกครองกลุ่มดาวเกือบทั้งหมดจะแต่งตั้งผู้สืบทอดไว้สองสามคน การต่อสู้อย่างเปิดเผยและลับๆจึงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทุกกลุ่มดาวความเชื่อมั่นในการรับสืบทอดกลุ่มดาวเป็นเรื่องสำคัญที่สุดตลอดไป
เพราะผู้สืบทอดที่ได้รับเลือกไม่กี่คนนี้ปกติจะเป็นผู้เยาว์ อนาคตของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเจ้าปกครองผู้ฉลาดก็ยังไม่อาจรับรองได้ว่าความเห็นของพวกเขาจะไม่ลำเอียง พวกเขาจึงเลือกทายาทสืบทอดไว้สองสามคนแล้วค่อยเลือกผู้มีคุณสมบัติที่ดีที่สุดจากสองสามคนนั้น ซึ่งเป็นวิธีที่หลายกลุ่มดาวใช้ได้ผล การต่อสู้แข่งขันระหว่างผู้มีสิทธิ์สืบทอดพวกจ้าวปกครองจะคอยสังเกตดูอย่างมีความสุข ถ้าพวกเขาชอบคนใดคนหนึ่ง พวกเขาจะไม่สนใจคนที่เหลือ แต่ขณะเดียวกัน ภายใต้การดูแลใส่ใจ ทายาทผู้มีสิทธิ์สืบทอดไม่สู้กับคนที่เหลือ อย่างนั้นจะหมดสิทธิ์เป็นทายาทไปโดยปริยาย
นอกจากต้องได้รับความยินยอมจากตระกูลที่ทรงพลังและมีอำนาจในกลุ่มดาวแล้ว พวกเขาจะต้องได้รับการยอมรับจากสมบัติชั้นเซียน ขอเพียงได้รับการยอมรับจากสมบัติชั้นเซียนก็สามารถรับสืบทอดอำนาจปกครองกลุ่มดาวได้
นอกจากเงื่อนไขทั้งสองแล้วเงื่อนไขที่สำคัญจริงๆ ก็คือเงื่อนไขต่อมา
ตำแหน่งลำดับที่สามก็คือตำแหน่งที่สูงอยู่แล้ว ซึ่งก็หมายความว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับสองคนแรกหรือการเติบใหญ่ของพวกเขาในอนาคตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อำนาจอาจถูกมอบให้สตรีผมทองที่อยู่ต่อหน้าถังเทียนก็ได้
โดยปกติคนเหล่านี้จะมีตำแหน่งที่สูงอยู่ในกลุ่มดาวของตนเอง ผู้สืบทอดลำดับสามก็หมายความว่าพลังและพรสวรรค์ของนางค่อนข้างโดดเด่นซึ่งมีเพียงสองคนที่ดีกว่านาง สำหรับกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งเช่นกลุ่มดาวในสิบสองตำหนักระนาบสุริยุปราคาทายาทสืบทอดสิบอันดับแรกจะได้รับการปกป้องเป็นปกติ กลุ่มดาวที่เล็กกว่า ผู้สืบทอดห้าอันดับแรกจะถือว่าเป็นคนสำคัญและได้รับการคุ้มครองปกป้อง
โลกเต็มไปด้วยอุบัติเหตุ และผู้สืบทอดห้าอันดับก็เพียงป้องกันไว้ว่ามรดกจะสามารถส่งต่อได้ แต่ความแตกต่างระหว่างสถานะของผู้สืบทอดแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก ความแข็งแกร่งของเจ้าปกครองกลุ่มดาวเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าพลังของเจ้าปกครองคนใหม่ตกต่ำลง พลังของกลุ่มดาวก็จะตกลงด้วยเช่นกัน
นั่นคือเรื่องที่ไม่มีเจ้าปกครองกลุ่มดาวคนไหนต้องการเห็น
ผู้สืบทอดลำดับที่สามต้องแต่งงานกับบริวารของฉีซาน? เว้นแต่เขาเห็นด้วยตาตนเอง ถังเทียนจะไม่มีทางเชื่อ ฉีซานเป็นผู้เยาว์โดดเด่นลำดับสามของสมาพันธ์ชาวยุทธ ศักยภาพของเขามากมาย แต่ในสมาพันธ์ชาวยุทธ ฉีซานยากจะเป็นบุคคลสำคัญได้
ในความเป็นจริง สถานะของเขาก็เหมือนแอนเดรียนาคนที่มีคุณสมบัติสืบทอด
ถ้าผู้สืบทอดคนหนึ่งสามารถกวาดตำแหน่งในการเคลื่อนไหวครั้งเดียว อย่างนั้นเขาย่อมถืออำนาจของฟ้าและดินได้เป็นปกติ แต่บัลลังก์มีเพียงหนึ่งเดียว และผู้สืบทอดที่เหลืออยู่จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับจุดจบอย่างสิ้นหวัง ตำแหน่งของผู้สืบทอดจะได้รับการนับถือและปกป้อง แต่มักจะไม่มีพลังและอำนาจ
เพราะเหตุผลของตระกูลฉีซานจึงถูกยกให้เป็นอิสระ ความแตกต่างระหว่างเขากับผู้อาวุโสของสมาพันธ์ชาวยุทธที่มีตำแหน่งสูงอย่างแท้จริงและเป็นความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง ความเกี่ยวข้อง ประสบการณ์และพลังของพวกเขาไม่อาจเทียบกันได้ ในช่วงเวลาสงบสุข สำหรับคนรุ่นใหม่ผู้ฉลาดต้องการจะได้อำนาจที่แท้จริง พวกเขาจำเป็นต้องอดทนไปทีละขั้น
กลุ่มดาวอันโดรเมดาแห่งขอบฟ้าเหนือ เทียบกับกลุ่มดาวในสวรรค์วิถี ก็เป็นกลุ่มดาวที่ปกครองด้วยระบบศักดินาห่างไกลและป่าเถื่อน
ไม่ว่าจะเป็นรัฐศักดินาขนาดใดก็ตาม ก็ยังนับว่าเป็นรัฐศักดินา
กองกำลังสมาพันธ์ชาวยุทธสามารถปะทะโจมตีกลุ่มดาวอันโดรเมดาก็ได้ แต่กลับไม่ทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐประเทศเล็กเพียงไหน พวกเขาจะถูกพวกนั้นชักจูงได้ เรื่องน่าอับอายขายหน้าอย่างนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อสมาพันธ์ชาวยุทธ และมีแต่จะสร้างความโกรธแค้นให้กับรัฐศักดินาเล็กๆ นั้น
ถ้าสถานการณ์เป็นปกติ อย่างนั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไร
แต่เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาเป็นสถานการณ์ไม่ปกติแน่นอน
แม้ว่าคนเหล่านี้ทุกคนฟังคำสั่งของเจ้าปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดา แต่ถังเทียนไม่เชื่อแม้แต่น้อย เจ้าปกครองกลุ่มดาวมีเกียรติและมีสถานะ เว้นแต่ถึงจุดที่คุกคามชีวิตของกลุ่มดาว เขาคงไม่ใช้ผู้สืบทอดของเขาเป็นเครื่องต่อรองแน่นอน
เหตุผิดปกติย่อมเปิดเผยข้อมูลออกมาจำนวนมาก
กลุ่มดาวอันโดรเมดาก็คงอยู่ในขอบสถานการณ์ที่สิ้นหวังถ้าไม่อย่างนั้นคนพวกนี้ก็คงไม่ฟังคำสั่งของเจ้าปกครองดวงดาว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องมีเรื่องที่ไม่ชอบมาพากลแน่นอน
สมาพันธ์ชาวยุทธในขณะนี้กำลังประจันหน้าอยู่กับกลุ่มดาวราชสีห์ไม่ใช่หรือ? ทำไมพวกเขายังคงเหลือคนมาก่อกวนที่นี่....
ในตอนนี้ถังเทียนแยกแยะข้อมูลทั้งหมดจากที่เขาได้รวบรวมมา และมองเห็นเค้าลางความวุ่นวาย
ปัญหาประการเดียวก็คือกลุ่มดาวอันโดรเมดาคู่ควรให้เขาเคลื่อนไหวหรือไม่? มีความรู้สึกกวนใจเขาเล็กน้อย เขายังดูสงบมาก หลังจากวางแผนและชั่งใจผลได้ผลเสียจากนั้นเขาจึงได้ตระหนักถึงความพิเศษเกี่ยวกับกลุ่มดาวอันโดรเมดา
กลุ่มดาวอันโดรเมดาเป็นหนึ่งในกลุ่มดั้งเดิมที่ทรงพลังของสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ สมบัติชั้นเซียนของกลุ่มดาวอันโดรเมดายอมรับแต่เพียงสตรี ดังนั้นเจ้าปกครองดวงดาวจึงเป็นสตรีสมบัติชั้นเซียนของกลุ่มดาวอันโดรเมดาเรียกว่าห่วงนางฟ้าพลังของมันยังไม่นับว่าแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับสมบัติชั้นเซียนอื่นๆ แต่เพราะการสืบทอดนั้นมีเสถียรภาพมากเจ้าปกครองดวงดาวทุกรุ่น จึงค่อนข้างมั่นคงสะสมจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบฟ้าเหนือ
กฎและคำสั่งของกลุ่มดาวอันโดรเมดาดีที่สุดในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ และพลเมืองทุกคนมีความเป็นอยู่ที่มั่นคง และเจ้าปกครองดวงดาวทุกรุ่นจะได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองของนางอย่างมาก
กลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่ใช่กลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบฟ้าเหนือ แต่ก็เป็นกลุ่มดาวที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด สำหรับการดำเนินการและสะสมของคนทุกรุ่นทำให้พวกเขามีการเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในขอบฟ้าเหนือ และกลุ่มดาวอันโดรเมดาไม่เคยบุกโจมตีกลุ่มดาวอื่นมาก่อนในประวัติศาสตร์เลย และในเจ้าปกครองกลุ่มดาวอันโดรเมดาทุกรุ่นจะวางตัวเป็นกลางและได้รับการยกย่องมากที่สุดในสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ
ดังนั้นในขอบฟ้าเหนือจึงมีกลุ่มดาวเล็กที่ทำตามอย่างกลุ่มดาวอันโดรเมดา
นั่นคือโอกาส
ถังเทียนไม่มีความลังเลใจและตระหนักรู้เรื่องนั้นและลงมือทันที
แต่กระบี่ที่แทงใส่ฝ่ามือของปาฟุทำให้เขาตกใจสิ่งที่ทำให้ผู้คนชะงักก็คือ ถังเทียนไม่ได้ฉวยโอกาสรุกโจมตีต่อ แต่ยังคงยืนอยู่ต่อหน้าแอนเดรียนา
แอนเดรียนาตกใจหวาดกลัว กระบี่เป็นเหมือนอสรพิษทำให้นางสูญเสียความกล้าหาญทั้งหมด ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดลำดับสามของกลุ่มดาวอันโดรเมดา นางไม่ใช่สตรีที่เอาแต่ใจตนเองที่เอาแต่เก็บตัวปลอดภัย นางคือคนที่มีประสบการณ์ต่อสู้ และฆ่าศัตรูมาหลายคน แม้แต่ยามเผชิญหน้ากับปาฟุนางก็ไม่ถอยแม้แต่น้อย
แต่นางไม่เคยเห็นวิชากระบี่ที่เต็มไปด้วยปราณสีดำอย่างนั้น
มันไม่ควรอยู่ใต้แสงสว่างและควรจะตัดคอหอยของศัตรูจากเงามืดอย่างเงียบเชียบ
นางไม่ใช่คนอ่อนแอและพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมความกลัวในจิตใจไม่ปล่อยให้แพร่กระจายไป
ใจเย็น...ใจเย็นๆ .... แอนเดรียนา เจ้าทำได้
นางยังคงปลอบใจตัวเองอยู่ในใจ และในที่สุดปราณที่ปั่นป่วนของนางก็สงบ ความกลัวในใจนางเริ่มอยู่ห่างไกล นางรวบรวมความกล้าและจับตาดูบุรุษข้างหน้านาง
ราตรีมืดมิด
ในใจของแอนเดรียนามีแต่คำนี้ผุดขึ้นมาขณะที่มองดูบุรุษที่อยู่ต่อหน้านางซึ่งมีเปลวเพลิงดำปกคลุมทั้งตัว เขาตัวสูงแต่ไม่กำยำ มีสัดส่วนที่ดียืนตัวตรงดุจคันทวน
นี่ทำให้แอนเดรียนารู้สึกแปลก ในภาพความรู้สึกของนางมือกระบี่ทุกคนที่เดินอยู่ในความมืด เหมือนว่าจะหลังโค้งงอและอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมระมัดระวัง พวกเขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อป้องกันคนไม่ให้ค้นหาเรื่องเขา แต่บุรุษที่อยู่ต่อหน้านางนี้ ไม่ใช่
เขายืนตัวตรงพร้อมกับกระบี่ ไม่พูดอะไรสักคำ ไม่พยายามปกปิดซ่อนตัว
ด้านหลังของเขาแอนเดรียนารู้สึกได้ชัดถึงความสงบเย็นไหลออกมาจากตัวเขาเป็นความมั่นใจตัวเองแน่หรือ
หัวใจของนางเต็มไปด้วยความหวัง แต่นางยังนิ่งเงียบด้วยความฉลาด นางไม่รู้จักเขา ดังนั้นนางจึงได้แต่เงียบ พูดน้อยย่อมดีกว่าการพูดออกไปแล้วทำให้ฝ่ายตรงข้ามโกรธจะทำให้นางตกอยู่ในสถานการณ์ที่แย่แทน
“ขอถามได้ไหมว่าท่านเป็นใคร?” สีหน้าของจูหนิงยังสงบ แต่ตาของเขาไม่เชื่อฟัง
“หัวใจที่ทะเยอทะยานของฉีซานนั้นมากเกินไป” เสียงแหบแห้งดังออกมาจากเปลวเพลิงดำเสียงของเขาเย็นชามาก
จูหนิงรู้สึกได้ถึงอันตราย ร่างของเขางอเล็กน้อย หรี่ตามองถังเทียนเขาพูดอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร?”
คำพูดของฝ่ายตรงข้ามมีความหมายบ่งถึงบางสิ่งแน่นอน แต่จูหนิงเป็นคนมากระแวงและระมัดระวังตัว
“ข้าจะฆ่าเจ้า”
เสียงดุร้ายของปาฟุ เขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ฝ่ามือขวาของเขามีเลือดไหลไม่หยุด กระบี่ของถังเทียนแทงมือเขาเป็นแผลลึก สิ่งที่ทำให้เขากลัวมากขึ้นก็คือสายพลังปราณแท้ที่อ่อนหยุ่นเข้ามาในฝ่ามือของเขา ไม่ว่าเขาพยายามกระตุ้นปราณแท้อย่างไรก็ไม่สามารถขับปราณแท้ออกไปจากร่างเขาได้
นั่นเป็นเพราะปราณแท้ที่แปลกประหลาดทำบางอย่างกับเขาและทำให้เลือดของเขาไหลไม่หยุด
“ปาฟุ เจ้าปกครองดวงดาวผิดหวังเจ้านัก” ทันใดนั้นเสียงเยือกเย็นดังออกมาจากเปลวเพลิงสีดำ
ท่านเจ้า...
ร่างของปาฟุแข็งค้างตาของเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ
อย่าบอกข้านะว่า....
“ขุนพลปา! อย่าถูกหลอก!” จูหนิงตะโกนอย่างกระวนกระวาย
ใบหน้าที่สงบข้างหลังหน้ากากเพลิงดำยิ้มเล็กน้อย สีหน้าของปาฟุทำให้ถังเทียนได้คำตอบที่ต้องการแล้ว
เหตุผลที่เขายืนอยู่กับที่เป็นเวลานานก็เพื่อหาข้อมูลจากคู่ต่อสู้
และเขาได้มาแล้ว
“ฆ่ามัน!” ปาฟุรู้ตัวทันที และสั่งอย่างดุร้าย
ทหารที่รายล้อมดูเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน ทุกคนโห่ร้องและกระโจนเข้าหาถังเทียนพร้อมกัน จากนั้นเกิดเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิดขึ้น มือกระบี่และแอนเดรียนาที่ถูกล้อมอยู่หายไป
“อย่าคิดว่าจะหนีพ้น!”
จูหนิงคำรามก้อง หลังจากถังเทียนหายไปเขาเพิ่งรู้ตัว รังสีเงินสายหนึ่งเหมือนกับงูสีเงินพุ่งวาบออกมาจากถ้ำ
ติง!
กระบี่คมบางแทงใส่แส้เงินของเขา
คลื่นปราณแท้แปลกประหลาดชำแรกเข้ามาตามแส้เงินเข้าสู่ตัวเขาเป็นเหตุให้จูหนิงสีหน้าเปลี่ยน เขาส่งเสียงแปลกประหลาดปล่อยด้ามแส้และคนของเขารีบถอยทันที
ปัง!
แส้ดาวคนเลี้ยงสัตว์ อาวุธของกลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ถูกกระบี่ของคู่ต่อสู้กระแทกเป็นผุยผง
นักสู้ทุกคนที่รายล้อมและเห็นประจักษ์ถึงกับแตกตื่นตกใจ ทุกคนที่ตอนแรกตั้งใจจะไล่ตามพากันถอยหมด ปาฟุเตรียมวิ่งตามจูหนิงรู้สึกเหมือนขาถูกตรึงกับพื้น สีหน้าเขาตกใจ
เขาเคยเห็นแส้ดาวคนเลี้ยงสัตว์เมื่อสองสามวันก่อน กลุ่มดาวคนเลี้ยงสัตว์ก็มีอาวุธระดับมาตรฐานฟ้าเหนือ แต่แส้ดาวคนเลี้ยงสัตว์คืออาวุธดวงดาวที่เห็นได้ยาก จูหนิงใช้เวลานับไม่ถ้วนฝึกฝนจนช่ำชอง และใช้เคล็ดลับของสมาพันธ์ชาวยุทธฝึกฝนต่อเนื่อง หลังใช้เวลานานวัน ในที่สุดแส้ก็เริ่มมีประกายทองให้เห็น
ขอเพียงอีกไม่กี่ปีมันจะกลายรูปเป็นสมบัติดวงดาวชั้นทอง
สมบัติดวงดาวที่ทรงพลังขนาดนั้นกลับเป็นผุยผงด้วยกระบี่เดียว
กระบี่นั่นมีพลังมากมายขนาดไหนกันแน่?
ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว ขณะที่พวกเขาได้แต่จ้องดูคนผู้นั้นพาแอนแดรียนาไป เขาเดินออกไปอย่างสบายๆจนกระทั่งลับสายตา