ตอนที่แล้วตอนที่ 355 ระดับเจ็ดขั้นสูงสุด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 357 ตัดสินใจเคลื่อนไหว

ตอนที่ 356 แอนเดรียนา


ถังเทียนเดินผ่านรอบๆโถงพื้นที่หลังจากฆ่าอสูรดวงดาวนับไม่ถ้วนและทำลายกับดักโดยไม่เสียเลือดแม้แต่หยดเดียว

เมื่อออกมาเผชิญกับแสงอาทิตย์  ถังเทียนหรี่ตาขมวดคิ้ว  เขาไม่ชอบแสงอาทิตย์นัก

เมื่อมองดูดวงดาวบนท้องฟ้า  ถังเทียนกำหนดตำแหน่งปัจจุบันของเขาได้ทันที

กลุ่มดาวอันโดรเมดา

เขาไตร่ตรองอยู่ว่าเขามีเวลามากพอกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้และสามารถทำอะไรได้อีกหลายอย่าง ถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไม่สามารถทนกับ “เจ้านั่น” ซึ่งมีพลังต่ำต้อยจนน่าหงุดหงิด

แต่เขาไม่ได้วางแผนจะเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อเขาไปถึงกลุ่มดาวกางเขนใต้ นั่นคงจะได้เวลาต่อสู้  ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเขา  หรือ “เขาอีกคน” ยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ

แม้ว่า“เขา” อีกคนหนึ่งจะดูโง่เง่าก็ตาม  แต่เขาเองต้องยอมรับว่าระดับการเติบโตก้าวหน้า “ของเขา” ผู้นั้น แข็งแกร่งกว่าเขา  เขายังคงสงบนิ่งอยู่เสมอ ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพจำศีลและรอคอย  และสำหรับเขา นั่นไม่ต่างกับการต่อสู้  เขาตัดสินใจเรื่องตัวเองได้ถูกต้องที่ใช้ชีวิตอยู่ในความืดมิด

สำหรับ“เขา” อีกคนหนึ่งบุกตะลุยอย่างห้าวหาญ ขณะที่เขาเองซ่อนตัวอยู่ในความมืด และเมื่อเผยจุดอ่อนอย่างหนึ่งทำให้เขามีโอกาสจู่โจมอย่างรุนแรง  นั่นคือจุดที่เขาสามารถทำได้ดีที่สุด แผนการนี้เหมาะกับเขาทั้งสองที่จะทำให้คุณภาพของแต่ละคนพัฒนาขึ้นได้  ดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้นเขาไม่เคยหาวิธีควบคุมร่างนี้เลย

แต่เขาไม่ต้องการเสียโอกาสที่เขาได้รับหลังจากลำบากมามาก  เขาถือโอกาสออกมาสูดหายใจอากาศที่บริสุทธิ์

ตอนนี้พลังเพลิงดำมิติว่างกล้าแข็งเกินไปสำหรับถังเทียนและ“เขา” ที่ได้รับผลกระทบที่รุนแรงอยู่ในเวลานี้ ถ้าจะกลับคืนสู่สภาพปกติ  “เขา”จะต้องหมดสติไปราวๆ 15 วัน แต่สภาพเขาในปัจจุบันนี้ นี่ถือว่าเป็นโอกาสมาถึงที่หาได้ยาก

เวลาสิบห้าวัน  ข้าตั้งใจจะใช้มันให้ดี

ถังเทียนแบมือซ้ายและลูบทั้งใบหน้า เพลิงดำมิติว่างเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหน้ากากเพลิงดำซึ่งติดอยู่บนใบหน้าของเขา  ร่างของถังเทียนปลดปล่อยเปลวเพลิงสีดำกลายเป็นเปลวเพลิงยอดแหลมคลุมร่าง เปลวเพลิงดำนั้นดูเหมือนเปลวเพลิงธรรมดา ไม่มีร่องรอยของปราณจากเพลิงดำมิติว่าง กระบี่เซียนกักสมุทรในมือขวาของเขาที่ปลดปล่อยเปลวเพลิงอยู่รั้งเปลวเพลิงกลับคืนกลายเป็นกระบี่เรียวยาวสีดำ

กระบี่เซียนกักสมุทรเห็นได้ชัดว่าไม่มีตัวกั้นด้ามกระบี่ทำให้ดูเหมือนกระบี่อ่อน กระบี่ไม่มีที่กั้นด้ามมองดูเหมือนแท่งเหล็กคมบางซึ่งดูธรรมดามาก

ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงเคลื่อนไหว

ร่างของถังเทียนหายวับ

ถังเทียนยืนอยู่บนปลายยอดไม้อย่างเงียบกริบ  เหมือนนกเค้าแมวซ่อนตัวในยามราตรี  ใบไม้หนาแน่นช่วยปกปิดร่างของเขา  มีคนหลายคนกำลังต่อสู้กัน  ไม่มีใครรู้สึกว่าระยะห่างพวกเขาออกไปยี่สิบเมตรมีคนซ่อนตัวอยู่

แอนเดรียนานั่งอยู่ด้านข้างมือกุมคางผมสีทองยาวประบ่าที่งดงามของนาง  นางมีจมูกเป็นสันโด่งตาสีฟ้าเหมือนน้ำทะเลชุดยาวเน้นให้เห็นถึงเรือนร่างที่มีเสน่ห์ของนาง

หัวใจของนางตกวูบ

ผู้คุ้มกันของนางล้มลงทีละคนๆ  สถานการณ์ของนางย่ำแย่ลงทีละน้อยศัตรูโอบล้อมนางจนไม่มีที่ให้หนี

“ท่านหญิงโปรดหยุดดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์เถอะ นี่ไม่อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้” ที่ด้านนอกวงล้อม บุรุษหนุ่มรูปงามพูดอย่างสบายใจใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้มน้อยๆ ซึ่งดูมีเสน่ห์

แต่ในสายตาของแอนเดรียนาเห็นว่าน่ารังเกียจ

แต่นางรู้ว่าโกรธไปก็ไร้ประโยชน์  ดวงตาของนางกลัวและแตกตื่น  พลางพูดอย่างน่าเวทนา  “จอร์จ, เราเติบโตมาด้วยกัน  เจ้าจะทำร้ายข้าจริงๆ หรือ?”

จอร์จเองก็เศร้าใจเช่นกัน  “แอนเดรียนา นี่คือคำสั่งฝ่าบาท  ยอมแพ้เถอะข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า”

แอนเดรียนาลำบากใจ  “จอร์จข้าไม่ต้องการแต่งงานกับจูหนิงแห่งสมาพันธ์ชาวยุทธ  ถ้าข้ากลับไปข้าจะต้องถูกบังคับให้แต่งกับเขาแน่นอน จูหนิงเป็นสุนัขรับใช้ของฉีซาน ข้าจะไม่แต่งกับเขาแน่นอน”

จอร์จเองก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก  เขารู้ว่าจูหนิงมีชื่อเสียงอื้อฉาว  เขาพูดอ่อนโยน “แอนเดรียนา, พอเถอะ, ข้าจะช่วยเจ้าด้วยพลังทั้งหมดที่ข้ามีไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น แต่ภายใต้บัญชาของฝ่าบาท เราไม่อาจขัดขืนได้”

“มีเวลาเหลือไม่มากแล้วนะ จอร์จ”  แอนเดรียนาเริ่มหลั่งน้ำตา  “คนของสมาพันธ์ชาวยุทธจะมาถึงพรุ่งนี้ถ้าข้ายังอยู่ที่วังในวันพรุ่งนี้ พวกเขาจะต้องให้ข้าแต่งงานกับจูหนิง แม้แต่จ้าวปกครองดวงดาวก็ห้ามไม่ได้ ข้าเป็นเพียงผู้สืบทอดลำดับที่สาม”

“หึหึ, จอร์จ มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่เคยได้รับการสนับสนุนเลย!” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังของจอร์จ “ควั่บ” มีกลุ่มคนเข้ามารายล้อมพวกเขาไว้

บุรุษร่างใหญ่ท่าทางดุร้ายค่อยๆเดินออกมา  หน้าของเขามีท่าทีเยาะเย้ย  “ใจอ่อนเสียจริง!  ก็ได้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้  ต่อจากนี้ข้าจะจัดการเอง”

แอนเดรียนาหยุดร้องให้  ดวงตานางมีแววท้อแท้สิ้นหวัง  จอร์จและนางเติบโตมาด้วยกัน  ดังนั้นนางสนิทกับเขาเป็นการส่วนตัว  ความจริงเขาเป็นคนใจดี  ถ้านางอ้อนวอนต่อไป  เขาอาจปล่อยนางไปจริงๆ

แต่ปาฟุมีจิตใจแข็งกระด้างและเป็นฆาตกรเลือดเย็น

การอ้อนวอนมีแต่ทำให้เขาตื่นเต้นและยินดี

ทหารที่หนุนเสริมเข้ามาคือบริวารฝีมือดีของปาฟุทุกคนแข็งแกร่งและคนของจอร์จไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

หน้าของจอร์จเขียวคล้ำ  ปาฟุด่าเขาว่าใจอ่อน ทำให้เขาพูดไม่ออกปาฟุมีอำนาจมากในกลุ่มดาวอันโดรเมดา เขาคือหัวหน้าราชองครักษ์ของเจ้าปกครองดวงดาว  และพลังของเขามิอาจหยั่งถึง  ถ้าเขาแสดงความลังเลใจแม้แต่น้อย  ปาฟุจะฆ่าเขาโดยไม่ลังเลใจทันที แม้ว่าเขาจะเป็นผู้สืบทอดอันดับสองของตระกูลเมเปิลลีฟ (ฟงเย่)

ตาของเขากระตุกและพูดอย่างรังเกียจ  “ไปกันเถอะ!”

ทหารของจอร์จทุกคนถอนหายใจโล่งอก  ทุกคนรู้จักชื่อเสียงอื้อฉาวของปาฟุ  นั่นคือชื่อในกลุ่มดาวอันโดรเมดาที่ทำให้เด็กกำลังร้องไห้ต้องหยุดร้อง

กองทัพของจอร์จจากไปอย่างเร่งด่วน

ปาฟุยิ้มขณะที่เขามองดูแอนเดรียนา นัยน์ตาของเขาลุ่มหลง เขาเลียริมฝีปาก  “แอนเดรียนา,ในที่สุดเจ้าก็ตกมาอยู่ในเงื้อมมือข้า ข้ารอวันนี้มานานแล้ว”

แอนเดรียนาสีหน้าเปลี่ยน  นางรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจกำลังถูกบีบเค้นและเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก นางไม่รู้ว่าหน้าของนางซีดขาวราวกระดาษ ขณะที่นางกล่าว  “เจ้ากล้าหรือ!  ปาฟุ!  ข้ากำลังจะแต่งงานกับจูหนิง  และเขาจะไม่ยอมทนแน่ถ้าเจ้าล่วงเกินข้า”

เหมือนกับว่าปาฟุได้ยินเรื่องตลกเขาเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่จึงค่อยหยุด จากนั้นเขาค่อยพูดทันที “พี่จู, ข้าขอเล่นกับนางสักสองวันได้ไหม?”

บุรุษที่ท่าทางชั่วร้ายเดินออกมายืนอยู่ด้านข้างของปาฟุและหัวเราะคิกคัก  “เป็นเพราะพี่ปาฟุชอบนาง นับได้ว่านางโชคดีจริง   สตรีที่ทำให้ท่านเล่นด้วย จะต้องน่าสนใจจริงๆถ้านางสร้างความเพลิดเพลินใจได้ ข้ายังมีสาวบริสุทธิ์อีกสองสามคน และจะส่งพวกนางไปให้ในที่พักของพี่ปาก็ได้ ทุกนางมาจากตระกูลที่ท่านรู้จักเบื้องหลังดีเป็นสำนักที่มีชื่อเสี่ยงทั้งนั้น ข้าอยากให้พี่ปาประเมินพวกนางให้ที”

มือและขาของแอนเดรียนาเริ่มเย็นเฉียบเหมือนกับว่านางเพิ่งถูกแช่น้ำแข็ง

นางจ้องมองบุรุษท่าทางชั่วร้ายอย่างว่างเปล่าร่างของนางหมิ่นเหม่จวนจะล้มลง

“แอนเดรียนา ปรนนิบัติขุนพลปาให้ดีล่ะ”  จูหนิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย

ปาฟุดีใจแทบคลั่งและเดินตรงมาหาแอนเดรียนาพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย

แอนเดรียนายิ่งรู้สึกสิ้นหวัง แต่นางรู้ว่าการร้องไห้อ้อนวอนมีแต่จะทำให้ศัตรูมีความสุข  นางยืดอกนิ้วมือขาวเรียวงามสัมผัสอยู่บนใบหน้านาง และนางเริ่มพูด

“ปาฟุ เจ้าสมคบคิดกับสมาพันธ์ชาวยุทธ  สักวันเจ้าจะพบจุดจบอย่างน่าอนาถ”

นางมองดูบุรุษทั้งสอง  นัยน์ตาของนางมีแววเหยียดหยาม

“และเจ้า, จูหนิง คนอย่างเจ้าสมควรเป็นแค่สุนัข”

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อใดนิ้วของนางมีเข็มเป็นประกายสีฟ้าจ่ออยู่ที่ผิวของนาง

ตาของปาฟุหรี่แคบและเขาหยุดเดินทันที

สตรีนางนี้มีแผนอย่างแท้จริง  นางพ่ายแพ้และผิดหวังเมื่อครู่ที่ผ่านมาและนางเตรียมตัวจบชีวิตของตนเองทันที

“หึหึ สิ่งที่สุนัขชอบทำก็คือการล่า”  จูหนิงยิ้มชั่วร้ายและพูดอย่างภาคภูมิใจ  “แม่นางแอนเดรียนา  ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำเรื่องเช่นนั้นต่อหน้าข้าได้  เจ้าก็อ่อนประสบการณ์เกินไปแล้ว”

หัวใจของแอนเดรียนาเต้นแรงและทันใดนั้นนางตระหนักได้ว่า นางไม่สามารถขยับร่างได้เหมือนกับว่าร่างกายไม่เชื่อฟังนาง

“ขุนพลปา, เชิญเพลิดเพลินได้เลย”  จูหนิงหัวเราะชั่วร้าย

ปาฟุหัวเราะลั่น การสูญเสียบางอย่างไปแล้วได้กลับคืนมาเป็นความรู้สึกที่สุขสันต์ที่สุด  ท่าทางที่หมดหวังทำให้เขาตื่นเต้นสั่นสะท้านถึงกระดูก  เขาเดินหน้าอย่างสบายและยื่นมือออกมาหมายจะคว้าอกที่งดงามของแอนเดรียนา

หัวใจของแอนเดรียนาตายด้าน

ทันใดนั้นชิ้นโลหะยาวบางเย็นยะเยือกเฉียดผ่านคอนาง แทงออกมาเงียบๆ

ผมขนทุกเส้นบนตัวของแอนเดรียนาลุกชันเพราะความเย็นยะเยียบ

เหมือนกับว่ามือของปาฟุถูกอสรพิษฉกกัดความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาร้องคราง และถอยหลังพลางตวาด  “ใครกัน”

เหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้ทุกคนสั่นทันที

กระบี่เรียวยาวที่คอของแอนเดรียนายืดขยายออกทันที

จากนั้นทุกคนจึงได้ตระหนักว่ามีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหลังแอนเดรียนา

เขากำลังถือกระบี่เรียวยาวสีดำขณะที่เดินช้าๆ ออกมาจากด้านหลังของแอนเดรียนา

หน้ากากเพลิงดำสวมปิดบังเขาทั้งหน้าดวงตาสีเทาเยือกเย็นไม่มีร่องรอยของอารมณ์เปลวเพลิงดำลุกโหมท่วมร่างกายเขาทุกตารางนิ้ว

กระบี่เรียวยาวในมือของเขาทำให้ทุกคนต้องหรี่ตา

กระบี่เรียวยาวไม่มีตัวกั้นด้ามกระบี่มองดูเหมือนกับแท่งเหล็กตีเป็นแผ่นยาวเรียวบางไม่มีความสง่างดงามแข็งทื่อแต่มีรังสีอันตรายรุนแรงแฝงไว้ ทุกคนเป็นนักสู้ที่ผ่านศึกมาเกินร้อยครั้งและเข้าใจการใช้อาวุธทุกประเภท

กระบี่ที่ไม่มีตัวกั้นด้ามนี้คืออาวุธดั้งเดิมที่ใช้ในการรุกอย่างเดียวไม่มีตั้งรับขณะที่ตัวกั้นด้ามกระบี่จะใช้ป้องกันได้น้อยที่สุด  เมื่อไม่มีก็หมายความว่ายอดฝีมือนี้ชำนาญในการรุกเป็นที่สุด ละเว้นการตั้งรับโดยสิ้นเชิง

มือกระบี่แบบไหนกันที่กล้าใช้กระบี่ที่อันตรายมากขนาดนั้น?

ใครที่รุกสุ่มสี่สุ่มห้าก็เท่ากับไม่รักชีวิตตนเอง

ต่อให้สำหรับนักรบที่ฆ่าตัวตาย พวกเขาก็ต้องมีความมั่นใจในความสามารถรุกสู้,  เกี่ยวกับคนแบบนี้ ทำให้จูหนิงมีความรู้สึกไม่ดี

กระบี่ของถังเทียนรั้งกลับมาที่ข้างตัวเขาร่างของเขาตรงเหมือนคันทวน เพลิงดำที่ลามเลียอยู่รอบตัวเขา ทำให้เหมือนกับว่าร่างของเขาถูกความมืดปกคลุม

ทั่วทั้งพื้นที่เงียบกริบ

(บางท่านอาจจะงง  ถังเทียนเป็นคนมีสองบุคลิกขณะที่ถังเทียนเดิมหมดสติ ตอนนี้อูหวังไห่ถือโอกาสครอบครองร่างออกมายืดเส้นยืดสายชั่วคราวจนกว่าเจ้าของร่างจะได้สติในอีก 15 วัน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด