ตอนที่ 351 แผนปลุกสายเลือดล้านคน
จิ่งหาวมองถังเทียนเป็นเชิงขอโทษ “ข้าจะฟื้นฟูหายดีก็ราวๆ อีกสามเดือนไม่สามารถติดตามพวกเจ้าไปทางน้ำจี้ชิวได้ พวกเจ้าทุกคนต้องระวังตัวให้ดี ไม่ต้องห่วงกลุ่มดาวหมาป่ามากเกินไปตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ ข้าจะไม่ยอมให้ตกไปในเงื้อมมือของคนอื่นแน่นอน”
ประโยคต่อมาเขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถังเทียนรู้ พี่จิ่งหาวเป็นคนจริงที่รักษาสัญญาเสมอ เมื่อเขาพูดคำนี้ออกมา ก็หมายความว่าเขาจะไม่มีทางคืนคำ
“อย่างนั้นข้าจะปล่อยให้ท่านดูแลนะ พี่จิ่งหาว!” ถังเทียนยิ้มจนเห็นฟันขาว แม้ว่าหน้าของจิ่งหาวยังคงซีดอยู่ แต่ราศีและปราณของเขาไม่ได้ตกลงแม้แต่น้อยการพ่ายแพ้มิได้ทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจและนั่นคือสิ่งที่ทำให้ถังเทียนมีความสุข
เขาห่วงใยจิ่งหาวจากใจจริง
จิ่งหาวดูขณะที่ถังเทียนกับกลุ่มจากไปอย่างเงียบงัน ความจริงเขารู้ว่าพวกผู้อาวุโสคิดอย่างไร แต่เขารู้ตัวเอง พรสวรรค์ในวิทยายุทธของเขา ยังห่างจากพรสวรรค์ในกลุ่มนำของเขามาก
อาจารย์คงต้องผิดหวังแน่นอน
หัวใจของจิ่งหาวรู้สึกเหมือนสูญเสีย แต่สายตาของเขากลับคืนสู่ความมุ่งมั่นอย่างรวดเร็ว บรรลุขอบเขตใหม่ทำให้สภาพจิตใจของเขาอดทนแข็งแกร่งขึ้น
ข้าไม่ฉลาดยืดหยุ่น หัวแข็งหรือดื้อรั้น นั่นคงเป็นเพราะความสามารถของข้ายังไม่พอ แต่นี่คือข้า และนี่คือคุณธรรมของข้าไม่ว่าจะโง่เพียงไหนก็ตาม
เขาเงยหน้ามองความรู้สึกสูญเสียจางหายไปจากตา เขาเม้มริมฝีปากแสดงความมุ่งมั่น
จิ่งหาวไม่พูดอะไรและกลับเข้าไปในห้องของเขา เมื่อคิดถึงเรื่องที่ต่อสู้กับเย่เฉาเกอ ใจของเขาเร่าร้อน ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของนักสู้
ใจของเขาเต็มไปด้วยรายละเอียดในการต่อสู้
เขาเปิดประตูนั่นแล้วและกำลังเข้าไปสู่โลกกว้างใหญ่มาก
การเดินทางสู่ทางน้ำไม่ได้มีคนมากมายเข้าร่วมปฏิบัติการ มีเพียงถังเทียน หลิงซิ่ว อาเฮ่อหยาหยาและสหายของมัน งานหลักก็คือหาเงื่อนไขของทางน้ำโบราณและดูว่ามันยังเปิดใช้ได้หรือเปล่า
ภายใต้คำแนะนำของปิง ทางเข้าทางน้ำมีขนาดใหญ่กว่าฐานบรอนซ์ แน่นอนว่ามันไม่อาจเทียบได้กับฐานบรอนซ์ในเมืองสามวิญญาณ แต่เป็นที่ตั้งค่ายสำหรับกองทัพหมาป่าก็เพียงพอแล้ว ความยากจนของกลุ่มดาวหมาป่าสามารถเห็นได้ชัด และการรวบรวมบรอนซ์ก็ต้องใช้ความพยายามมาก
มีจิ่งหาวช่วยดูแลที่นั้นเพิ่มอาโมรี่, หานปิงหนิงและพวก ถังอี้และกองกำลังหมาป่า กลุ่มดาวหมาป่าจะปลอดภัยแน่นอน ดังนั้นถังเทียนและกลุ่มของเขาไม่มีความกังวล
กลุ่มดาวหมาป่าถูกกักกัน แต่นั่นไม่มีผลต่อพลเมืองมากนัก เนื่องจากกลุ่มดาวหมาป่ามีการสังคมกับโลกภายนอกน้อยมาก และมีเพียงไม่กี่ที่ซึ่งกลุ่มขบวนสินค้าหรือและพ่อค้าจะเข้ามาถึง คนท้องถิ่นคุ้นเคยกับชีวิตเช่นนั้นแล้วและการพึ่งพาโลกภายนอกมีน้อยมาก
ทั้งหมดนี้ไม่มีอิทธิพลต่อถังเทียนมากนัก เนื่องจากเขามีความเด็ดขาดมาก หลังจากเพิ่มความสนิทระหว่างพวกเขากับตระกูลม่อ ผลกำไรของพวกเขาก็เพิ่มพูนมากขึ้น
ความสิ้นเปลืองของทรัพยากรสำหรับทำสงครามกับเย่เฉาเกอน้อยมากกว่าที่ถังเทียนวางแผนไว้ ปัจจุบันนี้ถังเทียนถือทรัพย์สินรวมสิบพันล้านเหรียญดาว
ถังเทียนร่ำรวยและเอาแต่ใจและเพียงอึดใจเดียว เขามอบคำสั่งใหญ่ให้กับผู้เฒ่าเฟ่ย ใช้สองพันล้านเป็นค่ายาปลุกพลังสายเลือดหมาป่าโบราณ ผู้เฒ่าเฟ่ยดีใจ เมื่อเร็วๆ นี้เขาเพิ่งพาสหายเก่ามาสองสามคนและคาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถหางานให้พวกเขาทำได้ในไม่ช้า
ปัจจุบันนี้กลุ่มดาวหมาป่าตกอยู่ในเงื้อมมือถังเทียนอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเขาไม่ได้สำรองยากระตุ้นพลังสายเลือดไว้เป็นธรรมดาด้วยน้ำพุปลุกพลังสายเลือด ทำให้ค่าใช้จ่ายในการผลิตยากระตุ้นพลังสายเลือดแค่เพียง2000 เหรียญดาว ซึ่งเดิมทีผู้เฒ่าเฟ่ยได้ตั้งราคาไว้ที่ 5000เหรียญดาวสำหรับราคาขาย
สองพันเหรียญดาวต่อหนึ่งคน สองพันล้านเหรียญดาวก็ได้หนึ่งล้านชุดและผู้เชี่ยวชาญพลังสายเลือดที่ผู้เฒ่าเฟ่ยจ้างมาก็ตื่นตะลึงกับการสั่งจ่ายครั้งมโหฬารของถังเทียน
พวกเขาไม่ได้คาดคิดแม้แต่น้อย เรื่องทั้งหมดนี้เริ่มมาจากถังเทียน เมื่อเขาได้ยินจากปิงว่าถังอี้หวังว่าเขาจะสามารถได้นำทัพหมาป่า ถังเทียนปลื้มใจมาก ถังอี้ไม่ยินดีจะปล่อยกองทัพหมาป่าไป นั่นคือความซื่อสัตย์ที่แท้จริง! ถังอี้ทุ่มชีวิตเพื่อถังเทียนมาสองสามครั้งแล้ว และเขาจำได้
เนื่องจากถังอี้มีความปรารถนาเช่นนั้น ดังนั้นข้าจะช่วยเขา!
ถังเทียนไม่ชอบความเห็นแก่ตัวของปิง
ประชาชนชาวหมาป่าเดือดร้อนมามาก พวกเขามีนิสัยอดทนและปฏิบัติตามคำสั่งได้ดี ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นโจร และเป็นทหารได้ดีเหมือนกัน แต่ปิงไม่เห็นเช่นนั้น เหตุผลง่ายๆก็คือ ชาวเผ่าหมาป่าอ่อนแอเกินไป
ท่านเกลียดคนอ่อนแอและเห็นพวกเขาเป็นทหารเลวที่ใช้เป็นหน่วยทะลวงฟันไม่ใช่หรือ?
ยาหนึ่งล้านชุดเพื่อปลุกพลังสายเลือดนั่นหมายความหนึ่งล้านคน ก็ย่อมมีคนผู้เป็นอัจฉริยะโดดเด่นอยู่บ้าง ถ้าได้สัก 500คนจากหนึ่งล้าน นั่นคือ 5 คนจาก 10000 และ 5 คนจาก 10000 จะต้องเป็นนักรบชั้นยอด! ผู้เฒ่าเฟ่ยและสหายฝีมือดีพออยู่แล้ว สำหรับพวกเขายาปลุกพลังสายเลือดเป็นงานที่ง่ายมาก
ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาทำยาสำเร็จได้แสนชุด
เมื่อถังเทียนส่งมอบยาปลุกพลังสายเลือดแสนชุดให้ถังอี้ ถังบอกถังอี้ว่าอีกเก้าแสนชุดจะตามมาภายหลัง ถังอี้ไม่ได้คำนับซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดยากมากเพราะเขาไม่รู้จะพูดอะไร ถังเทียนเริ่มเข้ามาแตะตัวถังอี้บอกเขาให้ทำสุดฝีมืออย่าทำให้หนุ่มชาวฟ้าเสียหน้า จากนั้นถังเทียนสะบัดแขนเสื้อเดินจากมา
เมื่อถังเทียนจากไป จากนั้นปิงก็เข้ามาถึง
ปิงบอกถังอี้ว่าทุกคนต้องให้ตัวอย่างเลือดแล้วค่อยใช้ยาปลุกพลังสายเลือด และขอให้หัวหม่าเอ๋อช่วยถังอี้ ปิงรู้มากกว่าถังเทียน ประสิทธิภาพของการรับทหารใหม่แสนหนึ่งของถังอี้ช้ากว่าให้เขาพาทหารไปฆ่าคนแสนหนึ่งแน่นอน
สำหรับตัวอย่างเลือด ปิงมักจะกังวลเกี่ยวกับสายเลือดของมนุษย์หมาป่าฟ้า ผู้เฒ่าเฟ่ยเคยพูดไว้ก่อน ตัวอย่างเลือดสามหมื่นมีโอกาสได้สายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าสำเร็จ80% ตัวอย่างเลือดแสนคนโอกาสจะได้รับพลังสายเลือดของมนุษย์หมาป่าฟ้าบริสุทธิ์ถึง 90%
ปิงยังคงถามผู้เฒ่าเฟ่ยว่า สำหรับสายเลือดมนุษย์หมาป่าฟ้าบริสุทธิ์ 80% ก็ต้องใช้มูลค่าไป 300 ถึง 500 ล้าน และถ้าบริสุทธิ์ถึง 90% ห้าพันล้านเป็นราคาอย่างต่ำ
นั่นไม่เพียงแต่ไม่สูญเปล่าเท่านั้น แต่ยังทำในปริมาณมหาศาลอีกด้วย นี่ทำให้ปิงมีความสุขมาก
หัวหม่าเอ๋อตะลึงกับจำนวนเงินสนับสนุนมหาศาลของถังเทียน แต่ที่ตื่นเต้นมากกว่าก็คือ นางเข้าใจชัดเจน ยาปลุกสายเลือดแสนชุดนั่นหมายความว่าทำเพื่อเผ่าพันธุ์ดาวหมาป่า!
เมื่อหัวหม่าเอ๋อประกาศแผนใช้ยาปลุกพลังสายเลือดแสนชุด ทั่วทั้งกลุ่มดาวหมาป่าเกิดโกลาหลทันที
ในทั่วทั้งสวรรค์วิถี ไม่มีใครสนใจกลุ่มดาวหมาป่าที่ถูกปิดล้อม และแม้แต่การกระทำของเย่จิ่วทุกคนก็ไม่สนใจ ขณะนั้นทั่วทั้งสวรรค์วิถีมีเรื่องอื่นดึงดูดความสนใจ
เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงในการพบปะระหว่างหอการค้าของกลุ่มดาวราชสีห์และผู้อาวุโสของสมาพันธ์ชาวยุทธ ไม่มีใครคิดเลยว่าผู้อาวุโสคนหนึ่งได้ลอบเข้าไปในกลุ่มดาวราชสีห์และฆ่าล้างตระกูลคนหักหลัง
เรื่องเลวร้ายนี้ก่อให้เกิดโกลาหลในกลุ่มดาวราชสีห์ และราชสีห์เลโอนถึงกับโกรธกริ้วและคุกคามสมาพันธ์ชาวยุทธให้ส่งตัวการนั้นภายในสามวัน
สมาพันธ์ชาวยุทธยังคงนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา
ราชสีห์เลโอมีนิสัยไม่ยอมแพ้และชอบทำสงคราม เขาไม่ลังเลใจเริ่มระดมพลขนาดใหญ่และภายในคืนเดียวสถานการณ์เริ่มตึงเครียดมาก
หนึ่งนั้นคือองค์กรที่มีอำนาจใหญ่สุดของสวรรค์วิถี อีกหนึ่งนั้นคือกลุ่มดาวที่แข็งแกร่งที่สุด การเผชิญหน้าระหว่างผู้นำทั้งสองก่อให้เกิดเงาทมึนไปทั่วสวรรค์วิถี
ทุกคนรู้ว่าสงครามไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ความขัดแย้งระหว่างผู้นำทั้งสอง ราชสีห์พิโรธและในช่วงเวลาที่เขายังแข็งแรงอยู่นี้ เขาเริ่มทนไม่ไหวกับการแทรกแซงอย่างต่อเนื่องของสมาพันธ์ชาวยุทธ, และพวกสมาพันธ์ชาวยุทธก็เกลียดท่าทีที่แข็งกร้าวของราชสีห์ สิ่งที่น่ารังเกียจก็คือราชสีห์ยังคงแผ่อิทธิพลต่อกลุ่มดาวโดยรอบอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขาปฏิเสธสมาพันธ์ชาวยุทธ และนั่นได้ลามขยายมาถึงสมาพันธ์แล้ว
สงครามระหว่างมหาอำนาจทั้งสองเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่มีใครคิดว่าการต่อสู้จะมาถึงเร็วนัก เมื่อคิดถึงสถานการณ์อีกครั้ง ก็ควรจะคาดได้
ทุกคนกังวล เมื่อการต่อสู้ระเบิดขึ้น บางทีอาจจะส่งผลต่อทั่วทั้งสวรรค์วิถี ในเวลานั้นจะไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้
สิ่งที่น่าห่วงยิ่งกว่าสำหรับทุกคนก็คือสวรรค์วิถีสงบสุขมานานเกินไป
*******************
ทางน้ำจี้ชิว
ถังเทียนกับพวกมาถึงสถานที่ซึ่งหยาหยาได้มาถึงครั้งล่าสุด เมื่อเห็นว่าในพื้นที่เต็มไปด้วยซากหักพังของอสูรจักรกล หน้าของทุกคนเคร่งเครียด หยาหยาทำอสูรจักรกลสูญเสียไปถึงสองในสามเมื่อครั้งที่ผ่านมา
ต่อหน้าพวกเขามีไฟสว่างหลายดวงลอยอยู่ภายในทางเดินที่กว้างขวางดูเหมือนทะเลสีฟ้ากว้างใหญ่
ไฟสว่างทั้งหมดก็คือขุมพลังงานบริสุทธิ์ มันดูเหมือนลูกบอลวิญญาณลอยอยู่ในอากาศบางครั้งก็มารวมกัน บางครั้งก็แยกกัน
“เป็นไปตามที่คาด นี่รับการยกย่องว่าเป็นธารไหลผ่านแห่งพลังงาน” อาเฮ่อชื่นชม “ข้าไม่เคยเห็นพลังงานที่หนาแน่นแบบนั้นมาก่อน บอลพลังงานทั้งหมดนี้เมื่อรวมเข้าด้วยกันจะเป็นสิ่งที่อันตรายมาก”
“มันให้ความรู้สึกเหมือนกับรอยแยกพลังอยู่บ้าง”ถังเทียนยืดคอพยายามมองให้ไกล
“อย่าเสียเวลา, รีบๆ บอกมาได้แล้วเราจะเข้าไปยังไง?” หลิงซิ่วเหลืออด
อาเฮ่อเตือน “เราจำเป็นต้องแยกบอลพลังงาน ระวังอย่าใช้ปราณแท้ ให้ใช้แต่เพียงพลังบริสุทธิ์เท่านั้น”
ถังเทียนอ้าปากค้าง ทำสีหน้าตกใจพลางชี้นิ้ว “จะต้องทุบเจ้าพวกนี้ทั้งหมดหรือ?”
จำนวนบอลที่อยู่ต่อหน้าพวกเขามีไม่สิ้นสุด เหมือนแม่น้ำขนาดใหญ่
“ใช่แล้ว” อาเฮ่ออธิบาย “ถ้าพวกมันระเบิด กระดูกของเราก็อาจจะไม่เหลือ แต่หลังจากกระแทกใส่พวกมันให้แตกก็จะไม่มีอันตราย และอาจเป็นประโยชน์ต่อพวกเราด้วย
“เป็นประโยชน์?” ถังเทียนตาเป็นประกาย
“เจ้าจะรู้ในไม่ช้านี้” อาเฮ่อตัดสินใจไม่บอกใบ้ต่อ และชักกระบี่เหล็กธรรมดาออกมา
หลิงซิ่วเห็นเช่นนั้นก็ใช้หอกเหล็กธรรมดาด้วยเช่นกัน
ถังเทียนใช้หมัดเปล่าๆ
“มาเริ่มกันเถอะ” ก่อนจะพูดจบ ร่างอาเฮ่อก็หายไปแล้ว
“ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องทำแบบนี้” หลิงซิ่วคำราม เขากับอาเฮ่อยังคงก้าวเข้าไป
“เฮ่ยๆๆ ข้าก่อน”
ถังเทียนเบียดผ่านพวกเขาและเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไป เผียะ เผียะเผียะ เสียงแตกดังขึ้นติดต่อกัน และบอลสีฟ้ารอบๆ ตัวเขาแตกออกทั้งหมดกลายเป็นหมอกสีฟ้า
ความเคลื่อนไหวของเขาไวมากจนพวกเขาตามดูไม่ทัน
หลิงซิ่วคำรามหอกเหล็กในมือของเขาสั่น และบอลแสงที่อยู่หน้าเขาแตกสลายไปเหมือนปะทะกำแพง เขาปลดปล่อยพลังได้วินาทีละสองร้อยหอก เมื่อไม่ต้องใช้ปราณแท้ เขาสามารถปล่อยได้วินาทีละร้อยหอก บอลร้อยลูกแตกสลายพร้อมกัน ซึ่งน่าตื่นเต้นมาก
ทุกย่างก้าวของเขา ฝนหอกจะพุ่งออกไปครั้งหนึ่ง และกำแพงแสงก็จะพังสลายก้าวใหญ่
นั่นคือก้าวย่างแทงหอก
อาเฮ่อเป็นเหมือนกระเรียนยักษ์ร่างของเขาคล่องแคล่วว่องไวมาก กระบี่เหล็กในมือของเขาเป็นเหมือนไม้ไผ่ที่แข็งและทนทานด้วยพลังวิชากระบี่ที่แข็งแกร่ง พลังปลดปล่อยมาจากข้อมือของเขากระบี่เหล็กเปลี่ยนเป็นคล่องแคล่วในพื้นที่เล็กแคบ ว่องไวดุจสายฟ้า
กระบี่จะเคลื่อนไหวตามร่างเหมือนกระเรียนฟ้อนระบำคล่องแคล่วเหลือประมาณ ถึงไม่ต้องใช้พลังปราณแท้ แต่หลักวิชากระบี่กระเรียนฟ้ายังแฝงอยู่ในวิชากระบี่ของเขาและมีความสมบูรณ์มากขึ้น
แต่บรรดาทั้งสามคนนั้นถังเทียนจะรวดเร็วที่สุด และรูปแบบการต่อสู้ของเขายังพิเศษมากยิ่งกว่า
