ตอนที่ 11-31 ชั้นที่สิบเอ็ด
เหนือทุ่งหญ้ายอดฝีมือทุกคนเห็นรอยฉีกในมิติปรากฏขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินมาว่าเวทคมมีดมิติทรงพลังน่าทึ่งเพียงไหนก็ตาม แต่เมื่อมาเห็นด้วยตัวเองรอยฉีกในมิติที่สร้างขึ้นโดยคมมีดมิติก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกกลัว
“เวทคมมีดมิติสมชื่อของมันจริงๆเวทต้องห้ามเป้าหมายเดี่ยวที่ทรงพลังที่สุด” เฟนถอนหายใจตกใจ “แม้แต่ข้า..ถ้าเซียนจอมเวทลอบทำร้ายข้าด้วยเวทนี้ ถ้าเราไม่อยู่ห่างเกินไปบางทีข้าคงหลบไม่ทันเวลา”
เวทคมมีดมิติอาจนับได้ว่าเป็นสุดยอดเวทโจมตีเป้าหมายเดียวในสายธาตุลม
ความเร็วของมันถึงขีดจำกัดของความเร็วและพลังโจมตีของมันก็ถึงขีดจำกัดด้วยเช่นกัน
“นี่คือสาเหตุที่ข้ามักจะระมัดระวังให้ความสนใจเซียนจอมเวทธาตุลม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพวกเขามีความแค้นกับข้า” เดลี่หัวเราะ “กล่าวโดยทั่วไป เมื่อใดก็ตามที่ข้ารู้สึกว่ามีปริมาณแก่นธาตุลมมหาศาลรวมตัวอยู่ใกล้ข้า ข้าจะเผ่นไปซ่อนตัวให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้”
“ฮ่าฮ่า...” ยอดฝีมือทุกคนเริ่มหัวเราะลั่น
“เดลี่, เจ้าก็กลัวด้วยหรือ?” เฟนหัวเราะลั่นขณะกล่าว
สำหรับลินลี่ย์สามารถกลายเป็นเซียนจอมเวทได้คือเรื่องที่ทำให้เดลี่เฟน และยอดฝีมืออื่นรู้สึกประหลาดใจแกมดีใจ พลังของลินลี่ย์จะเพิ่มขึ้นอีกมากซึ่งทำให้กลุ่มมีโอกาสสูงจะได้รับประกายศักดิ์สิทธิ์บนชั้นที่สิบเอ็ด
“พอเถอะมีเวลาอีกสองเดือนกว่าจากนี้ไปก็จะครบกำหนดปีครึ่งที่เราตกลงกันไว้ ทุกคนพักผ่อนในช่วงสองเดือนสุดท้ายนี้ดีกว่า” เดลี่พูดชัดเจน
ยอดฝีมือทุกคนพยักหน้า จากนั้นแยกย้ายกันอีกครั้ง
ตอนนี้บีบีอยู่กับลินลี่ย์
“พี่ใหญ่,ในที่สุดท่านก็ถึงระดับเซียนจอมเวทแล้ว นี่สุดยอดจริงๆ” บีบีมีความสุขมากขณะกระโดดโลดเต้นไปมาและโบกกรงเล็บน้อยอย่างมีความสุข ดวงตาน้อยของเขาหรี่เป็นประกาย
“แม้ว่าข้าจะกลายเป็นเซียนจอมเวทนั่นก็แค่หมายความว่าโอกาสรอดในชั้นที่สิบเอ็ดของข้าสูงขึ้นมาอีกเล็กน้อย” ลินลี่ย์ถอนหายใจ “ดูเถอะ ระดับความยากเพิ่มขึ้นมาจากห้าชั้นแรกกับห้าชั้นที่สองสูงขึ้นมากเพียงไหน ชั้นที่สิบเอ็ดนี้...”
บีบีผงกหัวเช่นกัน
ชั้นที่สิบเอ็ดบางทีอันตรายกว่าชั้นหกที่มีอสูรจ้าวอัคคีเป็นสิบเท่าหรืออาจร้อยเท่าก็ได้
พวกเขาจะทำได้สำเร็จไหม?
ความจริงทั้งลินลี่ย์ เดลี่หรือยอดฝีมือคนไหนๆ ก็ไม่มั่นใจทั้งนั้น แต่กลุ่มของเดลี่พยายามต่อเป้าหมายกลายเป็นเทพมาหลายพันปีแล้ว และตอนนี้พวกเขาใกล้จะถึงเป้าหมายของพวกเขาจึงไม่ยอมแพ้เป็นธรรมดา
“ในช่วงสองเดือนสุดท้ายเราจะต้องเตรียมตัวให้ดี”
เข้าถึงเซียนจอมเวทและโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิญญาณของเขาเปลี่ยนไป ลินลี่ย์รู้สึกว่าตัวตนของเขาเปลี่ยนไปในระดับใหม่ ความจริงบีบีสามารถรู้สึกได้..ตอนนี้ลินลี่ย์ที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาเหมือนดาบที่คมที่เล็งขึ้นไปบนท้องฟ้าไม่มีอะไรจะตรึงไว้ได้
…………
สองเดือนต่อมา
ภายใต้เสาโบราณด้านนอกทางออกชั้นที่สิบเอ็ด ยอดฝีมือรวมตัวกันอยู่
ลินลี่ย์อยู่ในร่างมังกรมีเกล็ดมังกรสีฟ้าเข้มคลุมทั้งตัว ขณะเดียวกันประกายเกราะเหมือนกับเพชรคลุมอยู่ทั่วตัวลินลี่ย์รวมทั้งหางมังกรของเขาด้วย นี่คือเวทปกป้องสายธาตุดินระดับเซียน... เกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์
รอบๆเกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์ ยังมีชั้นปราณน้ำเงินคลุมอยู่รอบตัวลินลี่ย์
พลังป้องกันของนักรบเลือดมังกรเกราะผู้พิทักษ์ดินศักดิ์สิทธิ์คอยเสริมกันและกัน พลังป้องกันทั้งหมดของลินลี่ย์มีแนวโน้มว่ายิ่งใหญ่ที่สุดแม้แต่บีบีก็ยังเทียบไม่ได้กับเขา
เดลี่และโรซารี่คลุมไปด้วยเกราะธาตุระดับเซียนเช่นกัน ขณะที่เฟน, โอลิเวอร์,ถูลี่และคนอื่นคลุมไปด้วยชั้นปราณยุทธ ทุกคนเตรียมตนเองพร้อมเต็มที่ แม้แต่ร่างบีบียังมีแสงสีดำจางรายล้อม
“เป้าหมายที่เราแสวงหามาเกินกว่าห้าพันปี...จะมาถึงที่สุดในวันนี้” ตาของเดลี่เป็นประกาย
ตาของเฟนถูลี่ โรซารี่ ราชสีห์ทองหกตาและจ้าวแมงป่องเกล็ดดำมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมาก
“ในชั้นที่สิบเอ็ด อันตรายที่เราจะต้องเผชิญจะมากกว่าชั้นล่างเป็นสิบเท่าร้อยเท่าพวกเราอาจจะมีการตายสักคน สองคนหรือมากกว่านั้น!” เดลี่กวาดตามองทุกคน เขาพูดเสียงจริงจัง“แต่คนที่รอดได้และประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรืออสูรวิเศษจะต้องช่วยผู้ตายของคลี่คลายบุญคุณความแค้นพวกเขาในโลกปกติ”
ยอดฝีมือทุกคนพยักหน้าอย่างเงียบงัน
ในชั้นที่สิบเอ็ดไม่มีใครสามารถแยกตัวทำตัวเป็นวีรบุรุษตามลำพังได้ พวกเขาทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อให้มีความหวังประสบความสำเร็จ
เฟนกวาดตามองพวกเขาแต่ละคนเขาพูดด้วยเสียงทุ้มเบา “ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าหวังว่าอย่างน้อยหนึ่งในพวกเราจะกลายเป็นเทพได้” สิ่งที่เฟนกลัวที่สุดก็คือ...ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดพากันพินาศอยู่ในชั้นที่สิบเอ็ดกันหมด
“ไม่ใช่ความหวัง แต่เป็นความเชื่อมั่น เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าเราจะประสบความสำเร็จ” ตาของถูลี่เป็นประกายดุร้าย
“ไปกันเถอะ” เดลี่หันไปมองที่ทางออก และจ้องมองดู
“ไปกันเถอะ!”
สายตาของยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดมุ่งมั่นมากพวกเขาร่วมกันเข้าไปในทางออกที่มีรัศมีดำ ขึ้นสู่ชั้นที่สิบเอ็ด
ชั้นที่สิบเอ็ดสุสานเทพเจ้า!
แสงอาทิตย์อุทัยสาดส่องไปทั่วโลกนี้นี่คือโลกแห่งโลหะ และพื้นโลกที่กว้างขวางคลุมไปด้วยโครงสร้างโลหะทั้งหมด ภูเขาโลหะขนาดมหึมาและหุบเขาโลหะสามารถมองเห็นได้ทั่วทุกที่และสายลมหวีดหวิวที่นี่เหมือนกับคมมีด
ทันใดนั้น...
ยอดฝีมือสิบเอ็ดคนของทวีปยูลานปรากฏขึ้นในชั้นที่สิบเอ็ด
“รกร้างน่าประหลาด” โรซารี่มองดูพื้นที่โดยรอบขณะที่นางพูดทางใจกับพวกเขา ตามข้อตกลง หลังจากเข้ามาในชั้นที่สิบเอ็ดเว้นแต่จำเป็นจริงๆ จะไม่มีใครพูด ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่นี่ ความสามารถพูดทางใจด้วยวิญญาณเป็นสิ่งที่ลินลี่ย์สามารถทำได้ดีในตอนนี้เช่นกัน
หลังจากมีพลังวิญญาณเพียงพอแล้วทั้งหมดจึงเรียนรู้เคล็ดนี้ไปด้วย
“ทุกคน, ระวังไว้ เมื่อเราเผชิญกับ ‘ราชันย์เนตรมายา’ ที่ชั้นแปดที่นั่นยังเงียบมากในตอนแรก ไม่มีใครทำอะไรที่ไร้มารยาท ตอนนี้เราตามหาประกายศักดิ์สิทธิ์กันเถอะ” ลินลี่ย์ซึ่งในตอนนี้ได้รับการยอมรับว่ามีพลังมากที่สุดในยอดฝีมือทั้งสิบนำทางไปข้างหน้า
ยอดฝีมืออื่นตามหลังลินลี่ย์ เดลี่ โรซารี่และโอลิเวอร์อยู่ในใจกลางเนื่องจากพลังป้องกันอ่อนที่สุด
ลินลี่ย์มีพลังป้องกันถึงสามชั้น ขณะที่ร่างของเขายังมีมุกชีวิต
พลังวิญญาณของเขามีพลังสูงขึ้นและมีเวทระดับเซียนจอมเวท ลินลี่ย์ในตอนนี้เป็นผู้ทรงพลังที่สุดในตอนนี้
“ทุกอย่างที่นี่เป็นโลหะ ข้าไม่รู้สึกถึงชีวิตแม้แต่น้อย” หลังจากบินมานานลินลี่ย์เริ่มหงุดหงิด
แต่ลินลี่ย์ไม่กล้าประมาท เขาให้ความสนใจกับการระมัดระวังตัว ตรวจสอบพื้นที่อย่างระมัดระวังเผื่อว่าจะมีศพเทพตนใดตนหนึ่งอยู่ที่นี่ หรือประกายศักดิ์สิทธิ์ ขณะเดียวกันเขาต้องระมัดระวังอย่างมากถ้ามีสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งปรากฏตัวหรือว่าซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่หาพบได้ยาก
สิ่งมีชีวิตที่นี่อาจใหญ่เท่าภูเขาหรือเล็กเท่ากำปั้นก็ได้
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดระมัดระวังพอเผื่อแผ่กัน
“มีหุบเขาอยู่ข้างหน้าดูเหมือนจะมีรัศมีพิเศษอยู่ที่นั่น” เสียงของเดลี่ดังก้องในใจทุกคน
ลินลี่ย์ยังสังเกตเห็นหุบเขาไกลโพ้นซึ่งดูเหมือนจะมีรัศมีที่เป็นเอกลักษณ์บางอย่างแผ่ออกมาจากภายใน นอกจากนี้รัศมีนี้ยังทำให้หัวใจสั่นและรู้สึกกดดัน
“หรือว่านั่นจะเป็นรัศมีประกายศักดิ์สิทธิ์?” เสียงของลินลี่ย์ขึ้นในใจพวกเขา
ดวงตาทุกคนทอประกายวูบ บางอย่างสามารถสั่นสะท้านหัวใจพวกเขาได้ทำให้พวกเขารู้สึกกดดัน...นั่นอาจเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ก็ได้ ที่สำคัญ ไม่มีใครในที่นี้เคยเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์มาก่อน แต่พวกเขารู้สึกถึงการแผ่ประกายศักดิ์สิทธิ์ของชั้นเทพมาก่อน
“อาจเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ แต่อาจเป็นอสูรที่พิทักษ์รักษาชั้นสิบเอ็ดนี้ไว้ก็ได้” หน้าของโรซารี่เคร่งเครียด และเสียงของนางดังขึ้นในใจของทุกคน
“อสูรเฝ้าพิทักษ์?”
ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นรู้สึกหัวใจสั่นไหว พูดตามความเป็นจริงระดับความยากของชั้นที่สิบเอ็ดนี้น่าจะมากกว่าชั้นหกและชั้นที่เจ็ดสิบเท่าหรือร้อยเท่า อสูรจ้าวอัคคีและนางพญาพฤกษามีพลังมากอยู่แล้ว... อย่างนั้นสัตว์ประหลาดในชั้นที่สิบเอ็ดจะทรงพลังมากขนาดไหน?
“ทุกคนตัดสินใจเอง เราจะเข้าไปในหุบเขาหรือไม่?” ลินลี่ย์ถามยอดฝีมือ
“เข้าไปเถอะ” ราชสีห์ทองหกตากล่าว “ถ้าแค่นี้เรายังกลัว อย่างนั้นต่อให้พบประกายศักดิ์สิทธิ์จริง ก็อาจไม่มีใครกล้าพอนำเอาไปได้”
ยอดฝีต่างมองกันเอง
ถูกแล้ว ถ้าพวกเขาขลาดกลัวจนต้องหลบเลี่ยงรัศมีเฉพาะอย่างที่พวกเขารู้สึก แล้วพวกเขาจะหาประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?
“เข้าไปกันเถอะ” เฟนพูดทางใจ และยอดฝีมือทุกคนหันไปมองหุบเขา
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคนมีลินลี่ย์เดินนำหน้าพุ่งไปที่หุบเขาโลหะที่อยู่ห่างออกไป หุบเขาโลหะมีความกว้างเกินกว่าหนึ่งร้อยเมตร ขณะที่ลินลี่ย์และพวกพ้องรวมสิบเอ็ดบินขึ้นไปในอากาศเหนือหุบเขาโลหะ พวกเขารู้สึกได้ถึงรัศมีสั่นสะท้านใจ
“หุบเขานี้ปกคลุมไปด้วยหมอกแดงจางๆ” ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว
มองลึกลงไปในหุบเขาหมอกสีแดงจาง เขาเห็นว่าหมอกม้วนตัวไปเรื่อย มันให้ความรู้สึกลินลี่ย์เหมือนกับว่าอสูรขนาดใหญ่อยู่ภายใต้หมอกและหมอกนั้นก็คือลมหายใจของมัน
ลินลี่ย์สบตากับทุกคนและพูดทางใจกับพวกเขา “ลงไปกันเถอะ”
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดบินลงไปข้างล่างอย่างไม่กลัวเลยสักคน ยิ่งพวกเขาลึกเข้าไปในหุบเขา ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นก็รู้สึกได้ว่าใจพวกเขาเต้นแรง ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาเข้าไปในพื้นที่หมอกแดงและยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดบินไปต้นแหล่งของรัศมีนั้น
“ควั่บ”
ความเร็วในการบินของพวกเขาไวมาก ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากอากาศก็ลงมาอยู่ข้างล่างของหุบเขาแล้ว แต่เพียงไม่กี่วินาทีนั้นสำหรับยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดกลับยากจะทนทาน
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดลงมาอยู่ที่พื้นหุบเขา หมอกค่อนข้างจาง ไม่หนามากและยังสามารถมองเห็นได้ในรัศมีร้อยเมตร
“นั่นอะไร?” ลินลี่ย์เห็นได้อย่างคลุมเครือว่ามีร่างหนึ่งนอนอยู่บนหินราบแผ่นหินขนาดใหญ่ห่างออกไป
“ศพเทพ?” เดลี่ถ่ายทอดความรู้สึกให้พวกเขาอย่างตื่นเต้น
ลินลี่ย์รู้สึกในใจตึงเครียดอย่างหนัก แม้แต่เฟนและถูลี่ยังหายใจหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อยยอดฝีมือทุกคนไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยย่องไปที่หินราบยักษ์นั้น
“ฮ่าฮ่า...” ทันใดนั้นเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งดังสนั่นไปทั่วหุบเขา และดูเหมือนว่าเสียงหัวเราะคลุ้มคลั่งนั้นดังมาจากแผ่นหินราบซึ่งมีก้อนหินอยู่บนนั้น
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดรวมทั้งลินลี่ย์รู้สึกหัวใจหดลีบรุนแรง
“แย่แล้ว” ลินลี่ย์รู้ว่าสถานการณ์แปรผันเป็นน่ากลัว และเขาส่งข้อความในใจทันที “ถอย,ถอยเร็วเข้า!”
ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์เท่านั้น นี่เป็นปฏิกิริยาของยอดฝีมืออีกสิบเช่นกัน พวกเขาบินขึ้นไปในท้องฟ้ารวดเร็วราวกับประกายไฟ ความเร็วของพวกเขาไวอย่างที่สุด และในพริบตาพวกเขาบินออกจากหมอกเลือนรางแต่แล้วลินลี่ย์และยอดฝีมืออีกสิบก็หยุดอยู่กับที่
พวกเขาหยุดอยู่กับที่ในหุบเขาไม่ก้าวบินออกไป
เพราะเหนือพวกเขา....
ร่างที่ทำจากโลหะ แขนขาและหน้าผากทำด้วยดาบ สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ปรากฏออกมา พวกมันเป็นสิ่งที่มีชีวิตระดับต่ำเกิดขึ้นมาจากอเวจี เกิดมาเพื่อฆ่า...ปีศาจดาบอเวจี!
มันคือปีศาจดาบอเวจี!
ลินลี่ย์และคนอื่นเผชิญหน้ากับปีศาจดาบอเวจีที่ชั้นสิบมาแล้ว แม้ว่าพวกมันจะไว แต่พลังป้องกันของพวกมันระดับทั่วไป ... ทุกคนในกลุ่มของลินลี่ย์เมื่อทุ่มพลังสู้ก็สามารถฆ่า
แต่ตอนนี้ลินลี่ย์ เฟน เดลี่และยอดฝีมือทุกคนที่เหลือรู้สึกสิ้นหวังในใจ
พวกมันรวมเป็นกลุ่มหนาแน่นเหมือนมด อย่างน้อยมีปีศาจดาบอเวจีเป็นหมื่นบินฉวัดเฉวียนเหนือท้องฟ้าของหุบเขาขัดขวางจนแม้แต่แสงยังส่องไม่ผ่าน เมื่อปีศาจดาบอเวจีของชั้นที่สิบฟันใส่เฟน แม้จะใช้อาวุธสะกัดกั้นก็ยังทำให้กระอักโลหิต
ในแง่พลังโจมตีล้วนๆ พวกมันเทียบได้กับถูลี่
“ฮ่าฮ่า...เป็นเวลานานแล้วที่เราไม่เจอกับผู้บุกรุก เด็กๆ ฆ่าพวกมันให้ข้า” ในทะเลปีศาจดาบอเวจีที่ไม่มีที่สุดนี้ปีศาจดาบอเวจีร่างผอมเล็กสีแดงตวาดลั่น
“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!”
เสียงหวีดหวิวแหวกอากาศดังขึ้นปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วนบุกโจมตีลงมาจากท้องฟ้า แต่ละตัวกวัดแกว่งมือดดาบทั้งสอง ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นรู้ว่าดาบนั้นคมกล้าขนาดไหน อาวุธเหล่านั้นเทียบเท่ากับสมบัติเทพระดับต่ำ
“ลงไป” เดลี่หายใจแรง
ลินลี่ย์กับยอดฝีมืออื่นไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อยบุกโจมตีลงมาทันที
“ควั่บ...” หมอกแดงเลือนรางจู่ๆ ถูกดูดไปยังส่วนต่างๆ ของหุบเขาอย่างรวดเร็ว ในพริบตาลินลี่ย์และยอดฝีมือคนอื่นก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หมอกแดงจางถูกดึงไปโดยปีศาจดาบอเวจีสีแดงดูดเข้าไปในอกของมัน
มีปีศาจดาบอเวจีสีแดงอยู่เหนือพวกเขา และมีปีศาจดาบอเวจีอีกตนหนึ่งอยู่ในหุบเขาเช่นกัน
“มีปีศาจดาบอเวจีจำนวนมหาศาลอยู่ข้างล่างเราเช่นกัน” เสียงของโรซารี่ดังขึ้นในใจของทุกคน
หุบเขามีอุโมงค์อยู่ในนั้นและสองอุโมงค์เต็มไปด้วยปีศาจดาบอเวจีสุดหูสุดตาซึ่งกำลังพรั่งพรูออกมา อากาศเหนือพวกเขาเต็มไปด้วยปีศาจดาบอเวจีนับไม่ถ้วน แต่ด้านใต้เขามีอุโมงค์ที่เต็มไปด้วยพวกมันเช่นกัน