ตอนที่ 11-27 เจ้าภาพผู้ใจดี
หางแมงป่องที่โจมตีโดยจ้าวแมงป่องเกล็ดดำมีการล่อหลอกอยู่มาก แม้แต่คนที่ทนทานอย่างราชันย์เนตรมายาก็ยังรู้สึกสะท้านวิญญาณ มันส่งเสียงร้องโหยหวน “อ๊าคคคคคค!” และโจมตีใส่รอบตัว ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใกล้ระเบิด สะเก็ดปลิวกระเด็นไปทั่วทุกที่
ขณะเดียวกันโลหิตก็ไหลออกมาจากตาสีทองนั้น
“เราได้โอกาสแล้ว” จ้าวแมงป่องเกล็ดดำดีใจ
“เร็วเข้า ไปกันได้แล้ว” ราชสีห์ทองหกตาทั้งสามพี่น้อง รู้จักราชันย์เนตรมายาที่ตะโกนด้วยความโกรธดี
“ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด!” ราชันย์เนตรมายากู่ร้องด้วยความโกรธ และตาสีทองที่อาบเลือดยิงแสงสีแดงมากกว่าสิบสายทันที
ขณะที่หนีไปที่ทางออก หนึ่งในสามพี่น้องราชสีห์ทองหกตาคว้าตัวจ้าวแมงป่องเกล็ดดำได้ก็ลากเขามาที่ทางออก อสูรเวททั้งสี่เข้าไปในทางออกเป็นชุดสุดท้าย หลังจากพวกเขาผ่านเข้าชั้นเก้าแล้ว พวกเขาสามารถได้ยินเสียงเหมือนฟ้าคำรามอยู่ที่ชั้นแปด
“ในที่สุดเราก็เข้าสู่ชั้นที่เก้าจนได้”
ลินลี่ย์ เดลี่เฟนและยอดฝีมืออื่นมาถึงในชั้นเก้าก่อนพวกเขาแล้ว และกำลังรอราชสีห์ทองหกตาสามพี่น้องและจ้าวแมงป่องเกล็ดดำให้เข้ามา ยอดฝีมือทั้งสิบกลับมารวมตัวอีกครั้ง ทั้งหมดมองหน้ากันและอดยิ้มให้กันไม่ได้
“แม้ว่าเราจะไม่ได้สมบัติเทพเจ้า แต่พวกเราทุกคนก็ผ่านมาที่ชั้นเก้าได้อย่างปลอดภัย นี่นับเป็นเรื่องที่โชคดีแล้ว” เฟนหัวเราะ
“เฮ้อ.. เจ้านั่นน่ากลัวจริงๆ” โรซารี่แสดงความคิดที่แท้จริงของนาง
“ถูกแล้วราชันย์เนตรมายาไม่ได้เริ่มใช้พลังที่แท้จริงของเขาแม้แต่น้อย ‘แช่แข็งวิญญาณ’ เป็นเพียงหนึ่งในพลังโจมตีพื้นฐานที่สุดของเขา คนที่จะกลายเป็น ‘ราชันย์’ ในหมู่ชาวเนตรมายาได้ย่อมต้องมีพลังยิ่งใหญ่แน่นอน เรานับว่าโชคดีกันทุกคน” ราชสีห์ทองหกตาถอนใจเช่นกัน
แม้ว่าการโจมตีสุดท้ายของจ้าวแมงป่องเกล็ดดำจะทรงพลัง แต่อย่างมากก็ทำให้ราชันย์เนตรมายาบาดเจ็บ ไม่สามารถฆ่าเขาได้
“เราโชคดี โชคดีที่มีโอลิเวอร์” เดลี่ยิ้มขณะมองดูโอลิเวอร์
ทุกคนอดมองดูโอลิเวอร์ไม่ได้เช่นกัน
โอลิเวอร์ยังเงียบสงวนท่าที ในบรรดายอดฝีมือ โอลิเวอร์พูดไม่บ่อยนัก
“โอลิเวอร์ เจ้าปลอดภัยเอาตัวรอดได้ยังไง หลังจากถูกพลังโจมตีแช่แข็งวิญญาณ?” ราชสีห์ทองหกตาถามด้วยความสงสัย
โอลิเวอร์ลังเลเล็กน้อย จากนั้นพูดไม่กี่คำ “ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”
พวกเขาไม่ถามเขาต่อ ไม่ว่าเขาจะพูดความจริงหรือไม่ คงเป็นเรื่องไม่สุภาพถ้าจะกดดันเขา
“ทุกคน! ระวังให้ดี ระดับความอันตรายในชั้นเก้านี้เป็นไปได้ว่าจะไม่มีทางต่ำกว่าชั้นที่แปด” เดลี่พูด “เราไม่อาจหวังให้ตัวเราโชคดีอีกเป็นแน่”
กลุ่มลินลี่ย์พยักหน้า
ไม่มีใครใส่ใจความจริงที่ว่าพวกเขาไม่สามารถรับสมบัติเทพเจ้าของชั้นที่แปด
ความจริงเทียบกับสมบัติเทพเจ้าแล้วเป้าหมายที่แท้จริงของคนที่นี่ก็คือประกายเทพ แต่ประกายเทพปรากฎอยู่ที่ชั้นสิบเอ็ด ขณะที่ชั้นที่สิบสอง ลินลี่ย์ไม่กล้าที่จะคิดถึง ตามที่เบรุตพูดไว้มีแต่คนที่ถึงระดับเทพเท่านั้นจึงจะสามารถป้องกันตัวเองในชั้นสิบสองได้
เป้าหมายที่แท้จริงของทุกคนก็คือไปให้ถึงชั้นที่สิบเอ็ดให้เร็วเท่าที่ทำได้โดยไม่บาดเจ็บล้มตายต่อไป
“ชั้นที่เก้านี้ดูเหมือนค่อนข้างลึกลับ” ลินลี่ย์มองดูสภาพแวดล้อมของชั้นที่เก้าของสุสานเทพเจ้า
ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นเห็นทะเลสีฟ้าขุ่นอยู่ใต้พวกเขาเกลียวคลื่นสีฟ้าม้วนตัวยาวเหยียดจนสุดขอบฟ้า ที่นี่ชั้นที่เก้าของสุสานเทพเจ้า นอกจากทะเลไร้ขอบเขตแล้ว มีเกาะเขียวเล็กที่สงบอยู่ไม่ห่างไกลเกินไป
“ทุกคน, ระวังตัวด้วย หลังจากผ่านชั้นนี้ไปเราจะได้พักและเตรียมตัวเข้าชั้นที่สิบเอ็ด ชั้นนี้คืออุปสรรคที่ยากที่สุดก่อนเข้าถึงชั้นที่สิบเอ็ด” ถูลี่กล่าวอย่างจริงจัง
ทุกคนจ้องมองดูพื้นที่รอบๆ อย่างระมัดระวัง
แม้ว่ามีเพียงชั้นที่เก้าและชั้นที่สิบหลังจากนี้ แต่กลุ่มของลินลี่ย์รู้ว่าระดับของทุกห้าชั้นจะมีระดับที่ยากทั้งนั้น และชั้นที่สิบจะอันตรายน้อยกว่าชั้นที่หกจนถึงเก้า
ไม่มีใครพิจารณาว่าชั้นที่สิบจะยากที่จะผ่าน พวกเขาทำเหมือนกับว่าเป็นสถานที่พักและเตรียมตัว
ก็น่าจะเหมือนกับที่ชั้นห้าเป็นไม่ใช่สถานที่ผ่านยากแต่อย่างใด
“ไม่มีอะไร มีแต่ทะเลไร้ขอบเขตรอบตัวเรา” โรซารี่ขมวดคิ้ว “ไม่มีสิ่งก่อสร้างสูง ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้ประการเดียวตำแหน่งที่ตั้งทางออกไปชั้นที่สิบจะอยู่ที่นั่น” โรซารี่ชี้ไปที่เกาะห่างไกล
“อุโมงค์เข้าชั้นที่สิบควรจะอยู่บนเกาะ” ลินลี่ย์ลอบพยักหน้าเห็นด้วย
ที่สำคัญนอกจากเกาะแล้ว ยังไม่มีอะไรที่นี่นอกจากทะเล ถ้าทางออกอยู่ในทะเลลึกไร้ขอบเขา พวกเขาจะต้องใช้เวลาหานานเพียงไหน? ลินลี่ย์เชื่อว่ามหาเทพผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ออกแบบสุสานเทพเจ้ามาคงไม่ทำอย่างนั้น
“เราไปกันเถอะ” เดลี่กล่าว
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดบินตรงไปเกาะที่ไกลอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทุกคนสงสัยกันมาก ถ้าพวกเขาสามารถผ่านชั้นที่เก้านี้ไปได้ อย่านั้น..การเข้าชั้นที่สิบเอ็ดก็คงมีแต่จะได้รับประกายเทพเจ้าเป็นเหมือนการขว้างหินทิ้ง ไม่มีใครต้องการล้มเหลวในชั้นนี้
เกาะเงียบสงบมาก ลินลี่ย์และยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดลงมาที่ชายหาด
“ซ่า... ซ่า....”
คลื่นทะเลม้วนตัวเข้าหาชายหาดบางครั้งคลื่นก็ปกคลุมชายหาด บางครั้งก็ถอยกลับไปที่ทะเล ลมทะเลนุ่มนวลแผ่วเบา กวาดผ่านต้นไม้สูง ดอกไม้และต้นหญ้าบนเกาะ
“เป็นที่สงบดีเหลือเกิน” โรซารี่มีรอยยิ้ม
“เป็นที่สวยมาก” กลุ่มของลินลี่ย์ไม่รู้สึกถึงอันตรายในชั้นเก้านี้แม้แต่น้อย
“ไปหาทางออกกันเถอะ” เฟนหัวเราะ
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดเดินเข้าไปภายในเกาะเริ่มค้นหาทางออกไปชั้นที่สิบในที่นี้อย่างระมัดระวัง เกาะแห่งนี้สวยงามมาก และมีภูเขาขนาดเล็กอยู่ใจกลางเกาะหลังจากผ่านไปนาน ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดก็ขึ้นไปบนภูเขา
“เราเที่ยวตรวจดูตรงอื่นในเกาะหมดแล้ว ทางออกน่าจะอยู่ในภูเขา” ลินลี่ย์เงยหน้ามองดูเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยว
เส้นทางบนภูเขาดูคดเคี้ยว แต่กลุ่มของลินลี่ย์เคลื่อนที่ได้เร็วผ่านภูเขาและต้นไม้เหมือนลมพายุ ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงยอดภูเขา แต่ขณะที่ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดลงมายืนบนยอดเขา ทุกคนตกตะลึง
บนยอดเขาใจกลางเกาะแห่งนี้ถัดจากต้นไม้แคระมีบ้านไม้หลังหนึ่ง
ต่อหน้าบ้านไม้ มีโต๊ะและเก้าอี้หินตั้งอยู่
เด็กหนุ่มร่างขาวบอบบางผิวซีดหน้าตาดีสวมชุดที่ทำจากใบไม้และสวมหมวกฟางนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน เขากำลังเพลินกับการดื่มชา ฉากภาพเช่นนี้ดูสงบสุขมาก แต่กลุ่มของลินลี่ย์ทุกคนรู้สึกถึงอันตรายอยู่ในใจ จู่ๆ มีคนปรากฏอยู่ที่นี่ ที่ชั้นเก้า
ไม่ต้องสงสัยกันแล้ว!
เด็กหนุ่มผิวซีดสวมหมวกฟางเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขัดขวางเขาอยู่ในชั้นเก้าที่นี่
“มนุษย์, อสูรเวท..และมนุษย์มังกร?” ตาสีฟ้าของเด็กหนุ่มมองดูยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคน และริมฝีปากเขายิ้มเล็กน้อยเป็นยิ้มที่สง่างาม “ข้าขอแนะนำตัวเองก่อนข้าชื่อหลุยส์ ไม่ต้องกังวลมากเกินไปเลยทุกท่าน ข้าไม่มีเจตนาร้ายต่อพวกเจ้า เชิญนั่งสนทนากับข้าก่อน มีเก้าอี้หินอยู่ตรงนั้น”
ไม่ห่างนัก มีเก้าอี้หินอยู่แถวหนึ่ง แต่เก้าอี้หินมีแต่ฝุ่นคลุมไปหมด
“เด็กหนุ่มนี้เป็นใครกัน?” ลินลี่ย์รู้สึกสงสัย
“ที่นั่งสกปรกเกินไปใช่ไหม?” เด็กหนุ่มโบกมือ สายลมกระโชกเก้าอี้หินจนลอยขึ้นจากนั้นส่งเก้าอี้หินเหล่านั้นไปที่หน้าของกลุ่มลินลี่ย์ ฝุ่นละอองทั้งหมดบนเก้าอี้ถูกเป่าหายไปเด็กหนุ่มยิ้มสดใส “ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนนั่งได้แล้ว”
“เด็กหนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนกันแน่?” ลินลี่ย์และคนอื่นๆ สับสน
ตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในสุสานเทพเจ้าลินลี่ย์และกลุ่มของเขาไม่เคยเจออะไรแปลกๆ อย่างนี้เลย
กลุ่มของลินลี่ย์ได้แต่มองหน้ากันเอง
“มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับที่นั่งหรือเปล่า?” ลินลี่ย์ใช้พลังจิตตรวจสอบดูเก้าอี้ แต่เก้าอี้ศิลาดูเหมือนไม่มีอะไรที่ผิดปกติไปกว่าเก้าอี้หินธรรมดา
“นั่ง” ราชสีห์ทองหกตากระโจนขึ้นไปหมอบบนเก้าอี้ศิลาทันที
ลินลี่ย์ เดลี่ย์และคนอื่นๆ นั่งลงเช่นกัน
“ทุกคน, คล้อยตามสถานการณ์ไปก่อน ถ้าเด็กหนุ่มประหลาดผู้นี้ใช้ลูกไม้อะไรกับเราเราคงไม่อดทนตอบโต้เขาได้แน่” เดลี่พูดทางใจกับยอดฝีมืออื่น
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคนคล้อยตามกันหมด
เด็กหนุ่มหมวกฟาง หลุยส์ดูเหมือนจะมีความสุขมาก หลุยส์กวาดตามองไปที่กลุ่มของลินลี่ย์แววคลุมเครือปรากฏในดวงตาของเขา “ตั้งแต่ข้าถูกจับมาและให้อยู่ในสุสานเทพเจ้า นับเป็นเวลานานมากๆ ทีเดียวที่ข้าเพิ่งได้มีโอกาสพูดกับสิ่งมีชีวิตอื่น”
“สถานที่นี้เงียบมาก อาจจะพอๆ กับป่าช้า!”
ตาของหลุยส์มีแววเกลียดอยู่ในนี้ “ไม่มีใครอื่นที่นี่ ไม่มีคนสนทนาด้วย แม้แต่ทะเล.. ก็ไม่มีปลาสักตัว ทะเลมรณะ! ไร้ชีวิตชีวา ทะเลมรณะชัดๆ! ไม่มีนกบนเกาะ และไม่มีสัตว์อื่น!ไม่มีชีวิตใดๆ เลย! เหมือนกับป่าช้า!”
“โชคดีที่ในที่สุดพวกเจ้ามากัน” หน้าของหลุยส์มีรอยยิ้ม
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคนรู้สึกค่อนข้างตกใจ
“เด็กหนุ่มคนนี้ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่?”
หลุยส์หัวเราะดังลั่น “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนมาที่สุสานเทพเจ้า อย่าก้าวล้ำเกินไปนัก ข้าสามารถบอกพวกเจ้าได้เดี๋ยวนี้ว่าข้าคือผู้ขัดขวางที่พวกเจ้าจะต้องก้าวข้ามผ่านไปในชั้นที่เก้า แต่ข้าต่างจากผู้พิทักษ์คนอื่นๆข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า”
ลินลี่ย์และยอดฝีมืออีกสิบคนรู้สึกงง
ไม่ฆ่า?
“แต่สิ่งที่จำเป็นต้องขอกันก็คือพวกเจ้าอย่าพยายามเข้าไปที่ชั้นสิบ” หลุยส์เพิ่มเติม
หลุยส์ยิ้มขณะที่เขาพูด “ข้าหวังว่าพวกเจ้าสามารถพักอยู่ที่นี่และสนทนากับข้าโดยที่พวกเจ้าจะไม่เข้าไปที่ชั้นสิบ ข้าจะไม่โจมตีพวกเจ้า ยอดเยี่ยมเลยใช่ไหมเล่า? เมื่อถึงเวลาพวกเจ้าจะได้รับอนุญาตให้ไปจากสุสานเทพเจ้าได้”
อยู่พูดคุยกับเขา?
และลินลี่ย์และยอดฝีมือคนอื่นพอเข้าใจได้ บุรุษหนุ่มผู้นี้มีแผนเช่นนี้
กลุ่มของลินลี่ย์ยังคงมีความสุขที่ได้พบกับผู้ขัดขวางประเภทนี้ในชั้นที่เก้า อย่างน้อยคู่ต่อสู้ก็ไม่เหมือนกับอสูรจ้าวอัคคีที่ไล่ล่าตามฆ่าพวกเขาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจะให้พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่กับเด็กหนุ่มหมวกฟางรอเวลาให้หมดสิบปี...
นี่คือเงื่อนไขที่กลุ่มของลินลี่ย์ยอมรับไม่ได้เช่นกัน
“เอาอย่างนี้เป็นไง ข้าจะอยู่ที่นี่เพื่อสนทนากับเด็กหนุ่มนี่ ขณะที่พวกเจ้าที่เหลือเข้าไปในชั้นที่สิบ บางทีเด็กหนุ่มนี้จะเห็นด้วย” ทันใดนั้นเดลี่ส่งข้อความในใจให้กับยอดฝีมืออีกสิบ เห็นได้ชัดว่าเดลี่ตัดสินใจยอมเสียสละประโยชน์ของตนเอง ที่สำคัญ สำหรับบุรุษหนุ่มนี้เมื่ออยู่ที่ชั้นเก้าได้ก็หมายความว่าพลังของเขาคงไม่ดูเหมือนอย่างที่เห็นแน่
ลินลี่ย์ เฟน และบีบี ทุกคนมองดูเดลี่
“หลุยส์” จ้าวแมงป่องเกล็ดดำที่เงียบมาตลอดเวลา พูดขึ้นทันที “ถ้าข้ายินดีจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเจ้าจนถึงเวลาสิบปี เจ้าจะยอมให้สหายทั้งสิบคนเข้าชั้นสิบได้ไหม?”
คำพูดที่โพล่งออกมาของจ้าวแมงป่องเกล็ดดำทำให้กลุ่มของลินลี่ย์ประหลาดใจ
“ไม่ได้” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไม่บังคับข้าให้ทำอย่างนั้น พวกเจ้าจะเข้าไปชั้นที่สิบไม่ได้ และข้าจะไม่ฆ่าพวกเจ้า แต่ถ้าพวกเจ้าพยายามจะเข้าไปให้ได้ อย่างนั้นข้าจำเป็นต้องฆ่าพวกเจ้าทั้งหมด”
“หืม?” ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นขมวดคิ้ว
“ข้าพบบันไดทางออกแล้ว” โรซารี่ประหลาดใจ น้ำเสียงตื่นเต้นดังขึ้นในใจของลินลี่ย์ เฟนและยอดฝีมืออื่น “บันไดทางออกเข้าสู่ชั้นที่สุดอยู่ด้านหลังกระท่อมไม้ ข้าเห็นบันไดสามขั้นและรัศมีดำเรืองรอง”
“บันไดทางออก?” ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นรู้สึกประหลาดใจแกมยินดีในใจ
เมื่อได้ยินว่าตำแหน่งบันไดถูกค้นพบแล้ว พวกเขาอดที่จะมองไปทางตำแหน่งนั้นไม่ได้เช่นกัน
“โอวในที่สุดพวกเจ้าก็สังเกตเห็นทางออกแล้ว?” บุรุษหนุ่มยิ้ม “พวกเจ้าตัดสินใจยังไง? จะสู้กับข้า หรือจะใช้เวลาสงบสุขอยู่กับข้าที่นี่สักสองสามวัน?”
“ควั่บ”
ลินลี่ย์ เฟนและยอดฝีมืออื่นทุกคนลุกขึ้นพร้อมกัน
เดลี่ย์ยิ้มและกล่าว “หลุยส์ เราไม่ต้องการสู้กับเจ้า เราหวังว่าเจ้าจะยอมให้เราผ่าน”
บุรุษหนุ่มหมวกฟางยังคงยิ้ม
แต่ความโกรธที่สงบนิ่งอยู่ในใจเขามาหลายพันปีเริ่มลุกโชน เขาลอบสบถด่าตนเองที่โกรธ “มนุษย์ชั้นต่ำเหล่านี้ไม่รู้ดีรู้ชั่วเลยจริงๆ ข้าต้องการล่อหลอกพวกมันให้อยู่ที่นี่ จากนั้นลอบขโมยวิญญาณ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่า....”
ลินลี่ย์และพวกทั้งสิบเอ็ดคนไม่ประมาทเตรียมพร้อมลงมือทุกเมื่อ
“ปัง!” ร่างของหลุยส์ระเบิดทันทีทำให้หญ้าและฟางกระจายไปทั่ว
แสงสีเงินกระจายออกจากร่างของหลุยส์ทันทีและพุ่งเข้าหาคนที่ใกล้ที่สุดก็คือ ถูลี่