ตอนที่ 11-25 เข้าสู่ชั้นแปด
แม้ว่าหลังจากร่างจะถูกฟันเป็นเจ็ดเสี่ยงแปดเสี่ยง แต่ก็ยังฟื้นสภาพได้ในหนึ่งหรือสองวินาที
ความสามารถในการฟื้นตัวเช่นนั้นทำให้ตาของยอดฝีมือเป็นประกายกันทุกคน สำหรับเซียนแล้ว สมบัติเช่นนี้นับว่าล้ำค่ามาก
“แต่ใช้ได้แต่เฉพาะกับเซียน สำหรับเทพของเล่นแบบนี้ไม่มีค่าอะไรเลย” ราชสีห์ทองหกตาหัวเราะ
เดลี่พยักหน้าเช่นกัน “เทพมีประกายศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว และร่างเทพก็สร้างขึ้นมาจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้พวกเขาบาดเจ็บหนักแต่ตราบใดที่วิญญาณของพวกเขาไม่ถูกทำลาย ร่างพวกเขาสามารถเกิดใหม่ได้แม้จะไม่เหลืออะไรเลย” ความแตกต่างระหว่างเซียนและเทพมากมายเหลือเกิน
ลินลี่ย์และเซียนอื่นๆอดถอนหายใจอยู่ในใจไม่ได้
ระดับเทพ!
ต่อให้คนทรงพลังอย่างลินลี่ย์อยู่ต่อหน้านักสู้ระดับเทพก็คงไม่สามารถตอบโต้ได้แม้แต่น้อย แค่เพียงอีกก้าวเดียว...แต่ก็เป็นหนึ่งก้าวที่ขัดขวางเซียนไว้นับไม่ถ้วน
“พี่ใหญ่” ราชสีห์ทองหกตาอีกตนหนึ่งกล่าว “ต่อให้มีคนได้มุกชีวิตนี้ไว้ในร่างกายและวิญญาณไม่ได้รับความเสียหาย พวกเขาก็ยังจะถูกฆ่าได้อยู่ดี ลืมไปแล้วหรือว่าท่านพ่อสอนว่าไง”
หัวหน้าของราชสีห์ทองหกตาพยักหน้าเห็นด้วย “โอว,เจ้ากำลังพูดถึงร่างที่ถูกทำลายถาวรใช่ไหม?”
ลินลี่ย์,เดลี่, เฟนและยอดฝีมืออื่นมองดูราชสีห์ทองหกตาด้วยความสับสน ราชสีห์ทองหกตาที่เป็นผู้นำอธิบายให้ลินลี่ย์และคนอื่นฟัง “พลังของมุกชีวิตสามารถฟื้นคืนร่างกายได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งท่านจะต้องเหลือร่างกายบางส่วนไว้ เพียงแค่นั้นร่างกายที่เหลือก็จะฟื้นคืนใหม่ได้ แต่ถ้าร่างทั้งหมดของพวกเจ้าถูกทำลายอย่างนั้นพวกเจ้าจะตายแน่นอน”
“โอว.. อย่างนี้นี่เอง” ลินลี่ย์และยอดฝีมือคนอื่นๆ เข้าใจมากขึ้น
“แต่ลินลี่ย์...” ราชสีห์ทองหกตามองดูลินลี่ย์ “พอมีมุกชีวิตแล้ว อย่าได้หยิ่งเกินไปในพิภพนับไม่ถ้วนต่างมีดีอยู่หลายวิชาที่สามารถใช้ทำลายร่างคู่ต่อสู้ได้เด็ดขาด อย่างคู่ต่อสู้ที่ฝึกฝนมาทางกฎธาตุไฟและกฎธาตุน้ำก็ทำเรื่องเช่นนี้ได้”
“ข้ารู้”
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “กฎธาตุกว้างใหญ่ไพศาลดังท้องมหาสมุทรความรู้ของข้าเทียบแค่น้ำในมหาสมุทรหยดหนึ่ง หรือสองหยดเท่านั้น”
“ร่างของเจ้าแข็งแรงทนทานอยู่แล้ว และเจ้ายังมีมุกชีวิตสิ่งที่เจ้าจำเป็นต้องทำคือเน้นให้เวลากับการพัฒนาการโจมตีด้วยพลังวิญญาณและป้องกันพลังวิญญาณ” ราชสีห์ทองหกตาดูเหมือนจะให้ความสนใจกับความเป็นอยู่ของลินลี่ย์เป็นพิเศษ “การโจมตีด้วยพลังจิตมีอยู่หลายประเภทนับไม่ถ้วน ถ้าเจ้าไม่ระมัดระวังแค่เพียงครั้งเดียว อย่างนั้นเจ้าก็จบเห่”
ลินลี่ย์พยักหน้า
วิญญาณเป็นสิ่งลึกซึ้งยากหยั่ง
ตัวอย่างเช่นพ่อมดจอมเวท ซาสเลอร์สามารถสั่งภูตผีได้และถามวิญญาณคนอื่นได้
ตัวอย่างเช่นเบรุตที่มีระดับที่แม้แต่เซียนอย่างรูดี้และดิลลอนยังถูกตรวจความทรงจำได้โดยไม่ต้องรู้จักกัน วิชาแบบนี้..น่าทึ่งและไม่เคยได้ยินมาก่อน ตัวอย่างเช่นเขานั้นควบคุมเซียนได้โดยตรงและทำได้ง่ายมาก
“ในอดีตเมื่อจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไฮเดนส์ใช้ ‘มหาเวทศักดิ์สิทธิ์’ โจมตีข้า พลังปกป้องวิญญาณข้าแทบจะพังทลาย ในอนาคตข้าจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องนี้” ลินลี่ย์บอกกับตัวเอง
ไฮเดนส์ ถ้าอยู่ในหมู่เซียนนับไม่ถ้วนในพิภพอื่นมากมายไม่มีอะไรมากไปกว่าคนระดับทั่วไป มีเซียนมากมายหลายคนเช่นกันที่มีพรสวรรค์มากกว่าเขาในเรื่องพลังโจมตีวิญญาณ พลังจิตป้องกันของลินลี่ย์ยังด้อยมากกว่าเซียนอย่างโรซารี่และเดลี่
อย่างน้อยที่สุดยอดฝีมืออย่างเดลี่เมื่อเผชิญหน้ากับไฮเดนส์จะไม่ถูกเล่นงานอย่างง่ายดาย
“การโจมตีทางวิญญาณรวมทั้งเสน่ห์ สะกดจิตพลังอัมพาต ทำลายและวิชาอื่นๆ อีกหลายอย่าง มีทั้งพลังที่กล้าแข็ง และมีทั้งพลังที่อ่อนหยุ่น” เดลี่ถอนหายใจ “ยิ่งเรียนเรื่องนี้มาก ก็ยิ่งตระหนักได้ว่ามันลึกซึ้งไร้ขอบเขตเพียงไหน ในอดีต เทพสงครามบอกไว้ว่ามหาพรตแค่ชำเลืองมองก็ทำให้เราจมอยู่ในภาพลวงตาได้ และถ้าในภาพลวงตา เราคิดว่าเราตาย ในชีวิตจริงเราจะตายจริงๆ และวิญญาณของเราจะสลายหายไปด้วย”
“โอว?” ลินลี่ย์ตกใจหนัก
มหาพรตน่ากลัวขนาดนี้?
โรซารี่หยอกล้อ “เจ้าจะทำยังไง หลังจากกลายเป็นเทพ,คนมีด้านที่อ่อนแอที่สุดก็คือจิตวิญญาณ เทพชั้นต้น เทพชั้นกลาง เทพชั้นสูง..ทั้งหมดนี้จะต้องใช้ความสามารถเรียนรู้ความลึกซึ้งลึกลับที่แฝงอยู่ในวิญญาณ ที่สำคัญพวกเขาไม่ต้องการตาย”
เฟนหัวเราะ “ลินลี่ย์เจ้าทำสัญญากับมุกชีวิตไว้เป็นดีที่สุด มิฉะนั้นเราเห็นแล้วคงอดโลภไม่ได้”
ลินลี่ย์หัวเราะและทำสัญญาโลหิตทันที
ทันใดนั้นมุกชีวิตที่โปร่งใสนี้พลันเปล่งแสงเขียวเลือนราง และเข้าไปในร่างของลินลี่ย์ ลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดว่าหัวใจกล้ามเนื้อและกระดูกของเขาเต็มไปด้วยพลังชีวิตไร้ขีดจำกัด แม้แต่ส่วนของร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มของลินลี่ย์ไม่เร่งเข้าชั้นแปด ตอนแรกพวกเขาพักและเตรียมตัวอยู่ที่ชั้นเจ็ดก่อน ที่สำคัญ เมื่อพวกเขาเข้าสู่ชั้นที่แปด ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะต้องพบกับสิ่งมีชีวิตน่ากลัวแบบไหนอยู่ที่นั่น?
ห่างออกไปนั้นถูลี่ฝึกฝนใช้ดาบโค้งของเขาอย่างต่อเนื่อง
เขาได้ดาบเงาโลหิตนี้มายังไม่นานดังนั้นตอนนี้เขาจึงทดสอบวิธีใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โอลิเวอร์ เดลี่และคนอื่นๆนั่งทำสมาธิอยู่อีกด้านห่างๆอย่างเงียบๆ
“ข้าเป็นจอมเวทระดับเก้ามาเป็นเวลานานแล้วแต่ยังไม่ได้บรรลุระดับใหม่เลย” ลินลี่ย์นั่งสมาธิบนพื้นทรายถอนหายใจกับตัวเอง แต่เขาเข้าใจว่าเรื่องอย่างนี้เร่งรัดกันไม่ได้ ยิ่งท่านพยายามเร่งรัด ก็ยิ่งยากจะบรรลุได้
บีบีขดตัวนอนอยู่บนตักของลินลี่ย์หลับอย่างสบายใจ
“บีบี” ลินลี่ย์กล่าว วอร์ตันคือน้องชายของเขา และบีบี...ก็เป็นน้องของเขาเช่นกัน สำหรับครอบครัวเขาลินลี่ย์มักมีสัญชาตญาณปกป้องอยู่เสมอ
“หือ..พี่ใหญ่?” บีบีเงยหน้ามองลินลี่ย์
ลินลี่ย์พูดเบาๆ “บีบี, สุสานเทพเจ้าแต่ละชั้นจะยิ่งเพิ่มอันตรายมากขึ้น ข้านึกไม่ออกอีกต่อไปว่าเราจะเจออะไรหรือเกิดอะไรขึ้นอีกเมื่อเราเข้าไปยังชั้นที่แปด! แต่บีบี, ถ้าจะดีที่สุดเจ้าไม่ควรไปที่ชั้นแปดด้วยเลย”
“พี่ใหญ่?” ตาของบีบีกลมโตทันที
“บีบี, พลังป้องกันของเจ้าแข็งแกร่งมากกว่าอสูรจ้าวอัคคีไหม? พลังโจมตีของเจ้าเหนือกว่าเขาไหม? บีบี.. เจ้ายังต้องเติบโตขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นเลยที่เจ้าจะต้องเสี่ยงชีวิตอย่างนี้” ลินลี่ย์เองไม่กลัว แต่เขาค่อนข้างห่วงใยบีบี
“พี่ใหญ่, ถ้าท่านไป ข้าก็จะไป” บีบียืนกราน
ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าได้มุกชีวิตไปแล้ว มันปลอดภัยพอสำหรับข้า ที่สำคัญมากกว่า ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างในสุสานเทพเจ้านี้ซึ่งกำลังรอข้าอยู่มันกำลังเรียกหาข้า” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเข้ามาในสุสานเทพเจ้าแล้ว ลินลี่ย์รู้สึกได้ชัดเจนว่ามีความรู้สึกเรียกหา
เป็นเสียงเรียกซึ่งอยู่ในวิญญาณเขาที่ไม่ปะติดปะต่อ
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความปรารถนาของเขาที่จะฝึกฝนตนเองหรือเป็นเพราะต้องค้นหาความลับที่ลึกซึ้งของสี่สุดยอดตระกูลนักรบ หรือเป็นเพราะเสียงเพรียกหาวิญญาณเขาลินลี่ย์ไม่ต้องการถอย
“พี่ใหญ่, ข้าจะไปกับท่าน” บีบีใช้ดวงตาน้อยๆจ้องมองลินลี่ย์“ก็แค่อันตรายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ท่านกลัวอะไร พี่ใหญ่, ในอดีตเมื่อเราอยู่ในเทือกเขาอสูรวิเศษ เราอ่อนแอมากกว่านี้ด้วยซ้ำแต่เราก็ยังรอดจากการโจมตีของมังกรเกราะหนามได้ เมื่อศาสนจักรเจิดจรัสไล่ล่าตามฆ่าเรา เรายังผ่านมาได้ ตอนนั้นเรายังอ่อนแอมาก แต่เราก็ยังไม่กลัว ตอนนี้เราแข็งแกร่งขึ้นแล้ว เราจะมาเริ่มกลัวในตอนนี้หรือ?”
“ท่านเข้าใจว่าข้าบีบีเป็นตัวแย่ตัวถ่วงตอนนี้หรือ” บีบียืนตรงตั้งใจยืดอกน้อยๆ ของมัน
ลินลี่ย์หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันเขารู้สึกปลาบปลื้ม
นอกจากนี้ลินลี่ย์อดนึกย้อนความทรงจำในสมัยเขายังเด็กไม่ได้ เมื่อเขากับบีบีร่วมผจญภัยกันในหุบเขาสายหมอก
“ฮ่าอ่า ก็ได้ ไม่ว่าเราจะเป็นหรือตายเราก็จะอยู่ด้วยกัน” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่กอดบีบีไว้ ขณะที่บีบีก็หัวเราะเช่นกัน
พวกเขาพักอยู่ที่ชั้นเจ็ดประมาณเจ็ดวัน กลุ่มของลินลี่ย์ก็มาที่ทางออกเข้าชั้นแปด เซียนจอมเวทเดลี่และโรซารี่เตรียมร่ายเวทป้องกันพวกเขาไว้แล้ว ขณะที่ลินลี่ย์แปลงกายเป็นนักรบเลือดมังกร ตอนนี้ทุกคนเตรียมพร้อมแล้ว
“ทุกท่าน ระวังตัวให้ดี.. เราจะไปกันเดี๋ยวนี้!” เดลี่กล่าว
ทันใดนั้นยอดฝีมือสิบเอ็ดคนเข้าไปในอุโมงค์ในปิรามิดดำทีละคน อุโมงค์นี้มีสีรัศมีดำครอบคลุม หลังจากเดินเข้าไปในระยะสั้นๆแล้วกลุ่มของลินลี่ย์ก็มาถึงชั้นที่แปด
“นี่คล้ายกับชั้นที่สามมาก” ลินลี่ย์จ้องมองดูรอบๆ
สุสานเทพเจ้าชั้นที่แปดมีชั้นน้ำแข็งหนาอยู่บนพื้น นี่คือโลกน้ำแข็ง จากระยะไกลมีธารน้ำแข็งขนาดมหึมาส่องประกายแพรวพราวสายลมที่หนาวเย็นแห้งแล้งพัดหวีดหวิวเลียดผ่านพื้นที่ชิ้นน้ำแข็งเป็นหย่อมๆ
เดลี่ลินลี่ย์ เฟน บีบี และราชสีห์ทองหกตาสามพี่น้องและยอดฝีมืออื่นต่างตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างรอบคอบ
“ค้นหาทางออก” เดลี่พูดแผ่วเบาขณะที่บิน
ยอดฝีมือทั้งสิบเอ็ดคนเริ่มบินด้วยกันและเริ่มลอบคุ้นหาทางออกไปชั้นที่เก้า แต่แน่นอนว่า เมื่อพวกเขาบินก็บินด้วยความระมัดระวัง กลัวจะพบสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในชั้นแปดนี้ แต่หลังจากบินไปเป็นเวลานาน
“นี่.. ชั้นแปดนี้แปลกอยู่นะ” โรซารี่ยังคงงง “เราค้นหามานานแล้วทำไมไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่อย่างเดียว?”
จริงด้วย
ในชั้นที่หกและที่เจ็ดทั้งสองชั้นทันทีที่ก้าวเข้ามา พวกเขาจะพบกับสิ่งมีชีวิตอย่างเช่นปีศาจแม็กมาของชั้นที่หก และต้นไม้อสูรต้นลูกของชั้นที่เจ็ด พวกมันถูกค้นพบได้อย่างง่ายดาย
แต่ชั้นแปดที่นี่แปลกมาก ลินลี่ย์และคนอื่นขมวดคิ้ว ผ่านไปอย่างน้อยพันกิโลเมตร แต่ยังไม่เห็นสิ่งมีชีวิตสักอย่าง
“ชั้นที่แปดนี้แปลกมาก” เฟนกำลังจ้องมองดูรอบตัวเช่นกัน
ราชสีห์ทองหกตาสามพี่น้องยังคงไม่ประมาท พยายามกวาดมองพื้นที่ด้วยหวังจะพบร่องรอยแม้เล็กน้อย
ลินลี่ย์จ้องมองไปรอบๆบริเวณและพูดเสียงกระซิบ “ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตของชั้นที่แปดนี้จะเป็นชนิดใดดีที่สุดก็คือเราสามารถเข้าไปในชั้นที่เก้าได้โดยไม่ต้องรบกวนมันยิ่งดี ลองค้นหาทางออกให้พบก่อน” ยอดฝีมืออื่นทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
หากพวกเขาหลีกเลี่ยงการสู้รบได้จะดีที่สุด
ทุกคนค้นหาอุโมงค์อย่างระมัดระวัง
ลินลี่ย์และคนอื่นอื่นยังคงกังวลว่าอาจเผชิญกับสัตว์ประหลาดของชั้นที่แปดในต่อมา แต่...
“วิ้วววว” ในชั้นที่แปดลินลี่ย์และกลุ่มได้ยินแต่เสียงลมหวีดหวิว ไม่พบสิ่งมีชีวิตแต่อย่างใด หลังจากบินเป็นเวลาเกือบชั่วโมง พวกเขาจึงค้นพบบันไดที่เต็มไปด้วยแสงดำได้ในที่สุด นี่คือทางออกไปชั้นที่เก้า
ลินลี่ย์เดลี่ โอลิเวอร์ เฟนและยอดฝีมืออื่นทุกคนต่างมองหน้ากันเองสายตาของพวกเขาดีใจแกมประหลาดใจ
“ครั้งนี้เราโชคดีจริงๆ เราไม่ต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดแม้แต่ตัวเดียวก่อนจะพบทางออก” โรซารี่หัวเราะเบาๆ
คนอื่นพลอยหัวเราะและพยักหน้าด้วยเช่นกัน
“ไปกันเถอะ เราจะขึ้นไปที่ชั้นเก้า” เฟนกล่าวค่อนข้างตื่นเต้น เขาเดินต่อไปข้างหน้าทันที
แต่ไม่มีใครในยอดฝีมือสิบเอ็ดคนสังเกตว่าบนพื้นผิวที่เรียบมันของผิวภูเขาน้ำแข็งใกล้ๆบันได มีลวดลายสีดำ ...ทันใดนั้นลวดลายสีดำหลุดออกมาแสดงให้เห็นดวงตาข้างเดียวที่มีขนาดสูงอย่างน้อยสามหรือสี่เมตร!
ตาสีทอง
“ปัง!” ภูเขาน้ำแข็งแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยการระเบิดเพียงครั้งเดียว และมันปรากฏออกมาจากภายในเป็นยักษ์ที่เกิดจากน้ำแข็ง มีเพียงส่วนเดียวของยักษ์ที่ไม่ได้เกิดจากน้ำแข็ง นั่นคือตาสีทองเรืองแสงของมัน “มนุษย์, เจ้าฆ่าแลชเพิลได้หรือ?นั่นช่างยอดเยี่ยมจริงๆ”
เสียงของมนุษย์น้ำแข็งยักษ์นี้ดูเหมือนจะสั่นสะเทือนไปทั้งชั้นที่แปดเหมือนฟ้าผ่า
ขณะเดียวกัน...
เฟนที่เพิ่งเดินตรงไปที่ทางออกพบทันทีว่าอุโมงค์เข้าสู่ชั้นเก้ามีน้ำแข็งปิดผนึกไว้ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ชั้นน้ำแข็งนั้นหนาหลายเมตร
ลินลี่ย์เฟน เดลี่และยอดฝีมือคนอื่นพอพบว่ามนุษย์ยักษ์น้ำแข็งนี้ปรากฏตัวขึ้นกะทันหัน พวกเขาบินถอยหลังทันที
“นี่เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่?” ลินลี่ย์มองดูที่หน้าของมนุษย์น้ำแข็งยักษ์ตรงจุดที่ควรจะเป็นตา แต่ต่างจากมนุษย์ผู้มีสองตา สิ่งมีชีวิตนี้มีเพียงตาสีทองเรืองแสงข้างเดียว ลินลี่ย์ชำเลืองมองตาสีทองเพียงนิดเดียว แต่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขาทนทุกข์ทรมานเหมือนถูกโจมตีอย่างเต็มกำลัง และเขารู้สึกเวียนหัว
“เจ้าฆ่าแลชเพิล ข้ามีความสุขกับเรื่องนั้นจริงๆ เนื่องจากรางวัลของเจ้า...ข้าจะฆ่าพวกเจ้าเพียงหกคนจากสิบเอ็ด อีกห้าจะได้รับอนุญาตให้กลับไปที่ชั้นเจ็ดพร้อมกับชีวิตเจ้า” เสียงของมนุษย์น้ำแข็งนุ่มนวลมากเหมือนกับว่าเขาเป็นชายชราที่ใจดี
ลินลี่ย์เฟน เดลี และคนอื่นรู้สึกใจสั่นสะท้าน
“เนตรมายา? ระวังนะอย่ามองตาของมัน” ราชสีห์ทองหกตาโพล่ง
ตอนนี้ลินลี่ย์ฟื้นคืนสภาพใจเป็นปกติแล้ว
“เนตรมายา?” มนุษย์น้ำแข็งยักษ์หัวเราะ “ไม่ เจ้าไม่ควรอ้างว่าข้าเป็นพวกเนตรมายาเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย... ข้าคือผู้ปกครองเผ่าพันธุ์เนตรมายาจากพิภพบินเทลัน พวกเจ้าจะเรียกข้าเป็นราชาเนตรมายาก็ได้” มนุษย์น้ำแข็งยักษ์พูดเสียงแจ่มชัด
และจากนั้นตาทองเรืองแสงของมันจ้องลงมาที่กลุ่มคนข้างล่าง “ดังนั้น ข้าจะฆ่าพวกเจ้าหกคน อืม..เริ่มจากมนุษย์สองคนก่อน”
ขณะที่เขาพูดตาสีทองปล่อยแสงสองสายสีเทาโปร่งใสทันที แสงสองสายรวดเร็วมาก ที่แย่ที่สุดก็คือ ไม่ว่าจะเป็นลินลี่ย์ ไม่ว่าโอลิเวอร์ล้วนไม่กล้ามองตาทองของมัน เพียงเขาเพียงรู้ได้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อแสงสีเทาเกือบถึงตัวเขา
สายเกินไปแล้ว
“พิ้ว!” “พิ้ว!”
รังสีเทาสองสายจมหายเข้าไปในร่างของลินลี่ย์และโอลิเวอร์