Ep.528 - ยึดสันเขามังกร
5/6
Ep.528 - ยึดสันเขามังกร
เอฟเฟกต์จากสกิลพิธีกรรมอมตะของฮังอวี่กำลังจะหมดลง
เพื่อหลีกเลี่ยงการตายหลังจบพิธีกรรม ฮังอวี่กุมอาวุธในมือเขา กระโจนเข้ากลางวงกองทัพมังกรที่อยู่ใกล้ๆ เก็บเกี่ยวชีวิตสมุนทหาร ดูดซับพลังชีวิตของพวกมันอย่างบ้าคลั่ง
จนในที่สุดทดแทนเลือดที่สูญเสียได้ก่อนเอฟเฟกต์จะหายไป
ฮังอวี่รอดชีวิตมาได้
เมืองมังกรสูญเสียเฮสการ์ไป
ซึ่งหมายความว่าผลลัพธ์ของสงครามเป็นที่ประจักษ์แล้ว
ชัดเจนว่ายอดฝีมือเมืองมังกรไม่คาดคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้
ราชามังกร ราชาผู้ปกครองอาณาจักรมังกรโลกามาหลายร้อยปี สุดท้ายล้มลงแทบเท้ากองกำลังใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาได้เพียงหนึ่งปี
ข้อเท็จจริงดังกล่าว ยากที่จะยอมรับ!
แม้เมืองมังกรยังคงเหลือกองทัพทหารอีกกลุ่มใหญ่
แม้ฝ่ายกบฏจะดุร้าย แต่อำนาจโจมตีไม่ได้รุนแรงอีกต่อไป
หน่วยพิเศษต่างๆอย่างหน่วยหุ่นรบหรือหน่วยโพชั่นมนตราหมดฤทธิ์แล้ว
แต่ด้วยการล่วงลับของราชามังกร ทำให้กองทหารเมืองมังกรไม่อาจสำแดงพลังได้เช่นก่อนหน้านี้
หากยังปล่อยให้สู้จนถึงที่สุด ทั้งสองฝ่ายอาจมอดม้วยไปด้วยกัน จบลงที่ชัยชนะอันน่าเศร้า
กระนั้น
เมื่อถึงจุดนี้ การต่อสู้ไม่จำเป็นอีกต่อไป
หมดยุคของราชามังกรคลั่งแล้ว!
ทุกภาคส่วนของกองทัพเมืองมังกรตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ไม่ว่าผลการต่อสู้จะเป็นอย่างไร
สิ่งหนึ่งที่แน่นอน คือเฮสการ์ไม่อาจฟื้นคืนชีพได้ในเร็ววัน
พลังรบของเฮสการ์สูงเกินไป ตามกฏของโลกวิญญาณ ยิ่งทรงพลังยิ่งใช้เวลาคืนชีพนาน
ต่อให้วิญญาณของเฮสการ์จะไม่ถูกทำลายหรือจองจำ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 3 ปีในการฟื้นคืนชีพ
และเป็นไปไม่ได้ที่เมืองมังกรจะรอนานขนาดนั้น!
ต่อให้รักษาเมืองมังกรเอาไว้ได้ในศึกนี้ มันก็ไร้ความหมายอยู่ดี
กองทัพสันมังกรประสบความสูญเสียอย่างหนัก
เมื่อไร้ซึ่งเฮสการ์ สิ่งที่ตามมาคือผู้คนมากมายเข้าช่วงชิงบัลลังก์มังกร
นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม ไม่ว่าผลการรบจะเป็นอย่างไร ยุคของราชามังกรคลั่งได้ผ่านพ้นไปแล้ว
สิ่งที่กองทัพเมืองมังกรต้องตั้งคำถามในขณะนี้คือ : จะหาทางออกจากสถานการณ์วุ่นวายได้อย่างไร?
ฮังอวี่ประกาศเสียงดัง “ราชามังกรคลั่งตายแล้ว! เมืองมังกรถูกพิชิต พวกที่ต่อต้าน ทั้งหมดจะถูกฆ่าและทำลายวิญญาณ! พวกเราจะไม่เมตตา! ทางเลือกเดียวคือยอมจำนนซะ! และถ้าเลือกยอมจำนน ไม่ว่าราชามังกรเคยมอบผลประโยชน์แบบไหนให้พวกคุณ ผมจะยังคงให้เช่นเดิม และอาจมอบให้มากกว่าด้วย!”
ฮังอวี่โยนตัวเลือกให้แก่เหล่าทหารเมืองมังกรในเวลาที่เหมาะสม ว่าจะดื้อรั้นจนพินาศสิ้น หรือภักดีต่อเจ้านายใหม่และเอาชีวิตรอด
ทั้งสองไม่ใช่ทางเลือกที่ซับซ้อนมาก
แต่ล้วนเป็นทางเลือกที่ยาก
แม้พวกมันจะหวั่นไหว แต่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อในคำสัญญาของฮังอวี่
อย่างไรก็ตาม พวกมันทราบดีว่าหากเลือกขับไล่กองทัพกบฏอย่างสุดความสามารถ สุดท้ายที่รออยู่คือเมืองมังกรที่พินาศ และกว่าจะซ่อมแซมเสร็จ คงโดนกองทัพอื่นบุกเข้าตี สูญเสียทุกอย่างไปอยู่ดี
แทนที่จะเป็นอย่างนั้น จะดีกว่าไหมหากยอมภักดีต่อผู้ที่แข็งแกร่ง ก้มหัวให้ราชาองค์ใหม่ที่มีศักยภาพมากกว่า
ใช้เวลาไม่นาน
ยอดฝีมือเมืองมังกรบางตนก็ตัดสินใจ ตัวมันและสมุนทหารใต้บังคับบัญชาหยุดโจมตี
และเมื่อมีคนนำ ไม่นานคนอื่นๆก็ทำตาม
ในที่สุดสมาชิกส่วนใหญ่ของเมืองมังกรและสันเขามังกรก็เลือกยอมจำนน
ส่วนพวกที่ยังไงก็ไม่ยอมจนวินาทีสุดท้าย ตัดสินใจพากันหลบหนีไป แต่ก็ไม่วายถูกไล่ตามและกวาดล้างอยู่ดี
สงครามครั้งนี้มากพอแล้วที่จะกำหนดรูปแบบในอนาคตของอาณาจักรมังกรโลกา
ตั้งแต่ต้นจนจบ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวันเท่านั้น
ก่อนออกจากเมืองธารทะเลทราย ฮังอวี่ได้มอบตำแหน่งขุนนางใหญ่แก่ซูหยุนปิงไว้แล้ว ทุกอย่างเตรียมการไว้ก็เพื่อตอนนี้
ช่วงเวลานี้ ยอดฝีมือจากกองทัพมังกรนับร้อยตนคุกเข่าเป็นสองแถวซ้ายและขวา รอบนอกเต็มไปด้วยเผ่ามนุษย์และพันธมิตรชาวพื้นเมืองนับพัน
ฮังอวี่เดินทีละก้าวไปยังอนุสาวรีย์ขุนนาง
หลังเสร็จสิ้นพิธียึดครองเมือง ประติมากรรมราชามังกรคลั่งที่เดิมตั้งตระหง่านใจกลางเมืองมังกรพลันแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
และสิ่งที่เกิดขึ้นแทนที่ คือประติมากรรมเผ่ามนุษย์
นับแต่นี้เป็นต้นไป เมืองมังกรที่ใหญ่โตที่สุดในอาณาจักรมังกรโลกา ได้ถูกยึดครองโดยเผ่ามนุษย์อย่างเป็นทางการ!
สถานะของฮังอวี่เฉกเช่นเดียวกับราชาผู้ปกครองสูงสุด!
สามารถกล่าวได้เลยว่า
อาณาจักรมังกรโลกาได้ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แล้ว
เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้เข้าสู่ยุคใหม่เช่นกัน
ฮังอวี่หันกลับมา กวาดสายตาไปทั่วเมืองมังกร
แม้ตัวเมืองจะถูกทำลายกว่า 7 8 ส่วนจากสงคราม แต่เฮสการ์ทิ้งทรัพย์สินจำนวนมากไว้เบื้องหลัง พวกมันเรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์อันน่าทึ่ง
หากใช้ทรัพยากรพวกนี้ ก็เกินพอแล้วที่จะฟื้นฟูเมืองมังกร
และความมั่งคั่งยังไม่หมดเพียงเท่านี้
ห้ามลืมนะว่ายังเหลือสินสงครามอยู่ และมูลค่าของมัน มากกว่าผลรวมของทุกสงครามที่เคยมีมา!
กระทั่งราชามังกรก็ยังถูกสังหารลงในสงครามครั้งนี้!
หลังจากยึดเมืองเสร็จแล้ว ซูหยุนปิง จ้าวหมิง หวังเอ๋อ ก็แยกย้ายกันเก็บรวบรวมสินสงครามทันที รวมไปถึงการนับยอดผู้เสียชีวิต ทำสถิติความเสียหายในสนามรบ และสุดท้ายนับยอดผู้ที่ยอมจำนน
หลังจากนั้นไม่นาน ซูหยุนปิงก็นำผลมารายงานแก่ฮังอวี่
“ครั้งนี้พวกเราทำให้ทหารเมืองมังกรกว่า 35,000 นาย และชาวสันเขามังกรที่มีสติปัญญาอีกกว่า 200 ตนยอมศิโรราบ เป็นขุมกำลังที่ทรงพลังมาก!”
เห็นได้ชัดว่าซูหยุนปิงตื่นเต้นมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่เธอมีความสุขขนาดนี้
ทหารจากสันเขามังกรกว่า 35,000 นาย!
นี่นับเป็นจำนวนอันน่าทึ่ง!
จากการนับยอด กองทัพกบฏสูญเสียทหารไปราวๆ 30,000 - 40,000 นาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้กองทัพที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามาทดแทนจำนวนที่เสียไป!
นับเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า!
หลังจบสงครามครั้งนี้ กองทัพของฮังอวี่แทนที่จะอ่อนแอลง กลับกลายเป็นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!
แม้แต่ฮังอวี่ก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้
“ยังไงก็ตาม การต่อสู้ของพวกเรายังไม่จบ เท่าที่ผมรู้ ผู้ครองแคว้นทั้งหกและขุนนางใหญ่อีกหลายสิบตนกำลังรวมพลมุ่งหน้าไปยังแคว้นเดียวดาย”
ดวงตาของซูหยุนปิงฉายแววเย็นชา เธอเอ่ยตอบว่า “ศัตรูพวกนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเรา ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ พวกมันไปรวมตัวกันก็เป็นเรื่องที่ดี จะได้กวาดล้างทีเดียว และยึดดินแดนของพวกมัน เปลี่ยนเป็นรางวัลแก่ผู้กล้าในสงครามครั้งนี้!”
ฮังอวี่กล่าวว่า “เป็นความคิดที่ไม่เลว งั้นอย่าเสียเวลากันอยู่เลย ตีเหล็กขณะที่ยังร้อน! รวบรวมกองทัพสันเขามังกรให้ได้ภายในสามวัน ใช้ประโยชน์จากชัยชนะนี้ พลิกโฉมอาณาจักรมังกรโลกา ไม่ปล่อยให้ตัวตนที่อาจก่อเหตุไม่คาดฝันเหลือรอดไปได้อีก!”
“รับทราบ!”
ซูหยุนปิง จ้าวหมิง หวังเอ๋อและลูกน้องคนอื่นๆรับคำสั่ง!
อีกด้านหนึ่ง ผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของสงครามในสันเขามังกรแพร่กระจายออกไปในโลกจริง
แม้จะมีผู้คนนับไม่ถ้วนตั้งความหวังกับฮังอวี่ไว้สูง แต่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเขานับว่าเหนือความคาดหมาย และสร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งยวด
สงครามในอาณาจักรมังกรโลกาถือได้ว่าเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์
และมันได้ฝังรากลึกที่เรียกว่าเผ่ามนุษย์ลงในอาณาจักรมังกรโลกาอย่างสมบูรณ์
ประกาศศักดาว่าเผ่ามนุษย์สามารถมีที่อยู่ในโลกวิญญาณได้เช่นกัน
นับเป็นครั้งแรกที่เผ่าพันธุ์มนุษย์มีฐานที่มั่นคงในโลกวิญญาณอย่างแท้จริง!
นับเป็นครั้งแรกที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รวมเข้ากับโลกวิญญาณอันกว้างใหญ่อย่างแท้จริง!
นับจากนี้ไป ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ตราบใดที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังไม่สูญพันธุ์
ตราบใดที่อารยธรรมมนุษย์ยังคงอยู่
สงครามครั้งนี้จะกลายเป็นตำนานเล่าขานส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง
และทุกคนในที่นี้
ล้วนเป็นสักขีพยานครั้งประวัติศาสตร์!