905 - สัตว์ประหลาดในลูกแก้วมังกร
905 - สัตว์ประหลาดในลูกแก้วมังกร
“ก็แค่อาณาจักรแปดต้องห้าม ก่อนที่เขาจะเติบโตเขาก็เป็นแค่ผู้ปกครองธรรมดาเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่สามารถก้าวเข้าสู่อาณาจักรผู้สูงสุดได้เจ้าก็ต้องตายไม่ช้าก็เร็ว” โอวหยางเย่กล่าว
นี่คือการปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นเพื่อฆ่าเย่ฟ่านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะชิงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเขามา
นอกจากนี้ในหมู่พวกเขายังมีปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์สองคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของขอบเขตผู้สูงสุดแล้ว
ในขณะนั้นชายชราคนหนึ่งได้ยื่นนิ้วที่มีขนาดใหญ่โตกว่าสิบวาพุ่งเข้าหาเย่ฟ่านโดยต้องการกดศีรษะของเขาให้แตกกระจายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“เด็กน้อย แม้ว่าเจ้าจะบรรลุอาณาจักรแปดต้องห้ามแล้ว แต่อย่างไรล่ะ ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยขอบเขตพลังที่สูงกว่าเจ้าถึงสิบขั้น!”
อีกคนก็มีดวงตาที่เฉยชาก็พ่นเจดีย์ทองเหลืองออกมาจากปาก นั่นเป็นอาวุธที่แปลกประหลาดและทำให้สายตาของเย่ฟ่านต้องเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
“ถ้าเจ้ายังไม่ประสบความสำเร็จ เจ้าก็แค่มดตัวหนึ่ง ในอนาคตเจ้าอาจจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะไปไม่ถึงจุดนั้นอย่างแน่นอน!”
เพื่อที่จะเอาชนะเย่ฟาน เขาได้ตัดสินใจที่จะลงมืออย่างเด็ดขาด
“บูม”
ทันใดนั้น พลังชีวิตของเย่ฟ่านก็ปั่นป่วน ทะเลแห่งความทุกข์สีทองเดือดพล่าน และแสงสายหนึ่งก็พุ่งเข้าไปในบ่อน้ำเซียน
เย่ฟ่านคว้าเจดีย์ทองเหลืองที่สูงกว่าสิบจั้งแล้วทุบมันลงเหมือนทุบเศษแก้ว
“อะไร?!” ยอดฝีมือระดับครึ่งเซียนรู้สึกประหลาดใจและก้าวถอยหลังออกมา
แต่มันสายเกินไป เย่ฟ่านเป็นเหมือนเทพผู้ยิ่งใหญ่ เจดีย์ทองเหลืองในมือของเขาเปื่อยยุ่ยกลายเป็นดินโคลนและทำให้ชายชราครึ่งเซียนคนนั้นหวาดกลัวถึงขีดสุด
“บูม”
เย่ฟ่านหมุนเจดีย์ทองเหลือง และกระแทกชายร่างให้ปลิวกระเด็นกลับไปทางด้านหลัง ในขณะที่กำปั้นสีทองของเขาก็ทุบศีรษะของชายชราอีกคนให้กลายเป็นเนื้อบด
ในชั่วพริบตา ยอดฝีมือครึ่งเซียนทั้งสองถูกฆ่าตาย และทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นก็ถอยกลับไปอย่างเงียบงัน
เย่ฟ่านสามารถยืมพลังในบ่อน้ำเซียนเพื่อทำให้ตัวเขามีความแข็งแกร่งไม่เป็นรองประมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทุกคน และทำให้ใบหน้าของยอดฝีมือมากมายบิดเบี้ยวด้วยความกลัว
“คัมภีร์ต้นกำเนิดสวรค์นั้นพิเศษจริงๆ …”
โอหยางเย่รู้สึกตกใจมาก เขาไม่สามารถแม้แต่จะเรียกพลังของสถานที่นี้มาใช้ แต่เย่ฟ่านกลับสามารถค้นหาต้นกำเนิดพลังที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าและเปลี่ยนให้มันเป็นสมบัติของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
“ปัง”
ในขณะนั้นดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่สี่ดวงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า และคลื่นพลังของมันได้ปิดผนึกร่างกายของเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา
“ผนึกต้นกำเนิดสวรรค์”
นี่เป็นผนึกโบราณที่จำเป็นต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์จากต้นกำเนิดสวรรค์ แล้วตอนนี้ดวงอาทิตย์ที่สว่างสดใสนั้นก็คือต้นกำเนิดสวรรค์ก้อนใหญ่ที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าล้านจิน
“โอหยางเย่ เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ !” หัวใจของเย่ฟ่านเย็นเยียบเหมือนตกลงไปในหลุ่มน้ำแข็ง
ต้นกำเนิดสวรรค์แต่ละชิ้นมีมูลค่ามากมายมหาศาลและอัดแน่นไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เกินจะพรรณนา
การที่ฝ่ายตรงข้ามใช้ต้นกำเนิดสวรรค์มาปิดผนึกเขาแบบนี้เมื่อมันเกิดระเบิดขึ้นพื้นที่ในรัศมีกว่าสิบลี้จะถูกบดขยี้กลายเป็นเพียงฝุ่นผงเท่านั้น
“อย่ากังวล นี่คือค่ายกลต้นกำเนิดทั้งสี่ มันจะผนึกเพียงเจ้าเท่านั้นและจะไม่ทำร้ายคนอื่น ข้าจะส่งเจ้าไปพบกับปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ในอดีต!” โอวหยางเย่หัวเราะเบาๆ
ผนึกต้นกำเนิดสวรรค์ขนาดใหญ่สี่อันที่มีขนาดเท่าศีรษะมนุษย์ถูกจัดเรียงในสี่ทิศทางโดยดักเย่ฟ่านไว้ตรงกลาง และกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวก็ไหลออกมา แสงศักดิ์สิทธิ์สีทองลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า แขวนอยู่ที่นั่นเหมือนดวงอาทิตย์สี่ดวง
ผนึกต้นกำเนิดสวรรค์ทั้งสี่นั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุดและแรงกดดันที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เย่ฟ่านไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องนั่งสมาธิลงบนพื้นเพื่อดึงพลังจากปราณมังกรในบ่อน้ำขึ้นมาต่อต้าน
ในขณะนั้นเย่ฟ่านเริ่มสลักอักษรลงไปในความว่างเปล่าและทำให้บ่อน้ำส่งเสียงคำรามเหมือนมีมังกรขนาดใหญ่อาศัยอยู่ที่นี่
ตัวอักษรแต่ละคำของเขาส่องแสงแวววาวเหมือนโลหะ ตราตรึงอยู่ในความว่างเปล่า ส่งเสียงดังและกระทบกัน ราวกับกระบี่สวรรค์ที่หลุดออกจากฝัก
“หกผนึกเซียนต้องห้าม!?”
โอวหยางเย่ผงะ ความก้าวหน้าของเย่ฟานในทักษะต้นกำเนิดนั้นน่าเหลือเชื่อมากเกินไป ทักษะต้นกำเนิดต้องห้ามชนิดนี้เขาใช้เวลาชั่วชีวิตและสามารถฝึกฝนได้เพียงสามผนึกเท่านั้น!
สถานะของหกผนึกเซียนต้องห้ามในทักษะต้นกำเนิดนั้นเหมือนกับทักษะลับที่ไม่มีใครเทียบได้ซึ่งอนุมานโดยจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
“ขนาดนี้แล้วข้าก็ยังไม่สามารถปิดผนึกเจ้าได้” ใบหน้าของโอหยางเย่ซีดลงและก้าวถอยหลังด้วยความกลัว
เย่ฟ่านมีสีหน้าเรียบเฉยและอักขระโบราณของเขาก็เริ่มกดทับเข้าหาค่ายกลต้นกำเนิดสวรรค์สี่ทิศอย่างรวดเร็ว
“แย่แล้ว!” ชายชราคนหนึ่งอุทานด้วยความตกใจ
“ถอยเร็ว!”
ครึ่งเซียนของตระกูลเซียวในจงโจวกรีดร้อง เช่นเดียวกับยอดฝีมือจากนิกายหยินหยาง
พวกเขามีความแค้นในอดีตกับเย่ฟ่าน ดังนั้นเมื่อถูกโอหยางเย่มาที่นี่พวกเขาจึงไม่ลังเลแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเปรียบอะไรเลย และมีโอกาสสูงที่เด็กน้อยคนนี้จะสร้างความแค้นให้พวกเขามากยิ่งกว่าเดิม
“อย่าผลีผลาม เราต้องยึดมั่นเข้าไว้!”
โอหยางเย่ตะโกน แต่มันก็สายเกินไป เย่ฟ่านระดมจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อบดขยี้ค่ายกลที่โอหยางเย่สร้างขึ้น
“เคร้ง” “เคร้ง”
อักขระโบราณที่เย่ฟานสลักไว้นั้นเปล่งประกายในความว่างเปล่าราวกับเสียงกระบี่เขย่าสวรรค์และต้นกำเนิดสวรรค์ทั้งสี่ชิ้นก็ถูกบดขยี้ในครั้งเดียว
โดยทั่วไปแล้วเมื่อค่ายกลต้นกำเนิดสวรรค์ระเบิดขึ้นมันจะสร้างภัยคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ให้กับสิ่งมีชีวิตทุกคนที่อยู่ที่นี่
อย่างไรก็ตามเย่ฟ่านได้ดึงหม้อปราณปฐพีต้นกำเนิดของเขาออกมาและรวบรวมเศษเสี้ยวของต้นกำเนิดสวรรค์ทั้งหมดเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย
“นี่เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เพื่อเป็นการขอบคุณ ข้าจะส่งเจ้าขึ้นสู่สวรรค์ด้วยมือของข้าเอง”
สิ้นเสียงเย่ฟ่านก็ยกมือขึ้นเหนือศีรษะเพื่อเรียกอักขระโบราณทั้งหกตัวให้ตกลงมาอีกครั้ง!
“อย่าได้ฝันไป!” ตระกูลเซียวเย้ยหยัน
นอกจากนี้ ยังมีผู้อาวุโสสองคนที่เป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์จากนิกายหยินหยาง พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าโดยต้องการจะบดขยี้ศีรษะเย่ฟ่านในครั้งเดียว
ชายผู้ทรงพลังทั้งสามได้เคลื่อนไหวพร้อมกันเพื่อสังหารเย่ฟ่านและทำให้ใบหน้าของโอหยางเย่สงบลงเล็กน้อย เขาถอยหลังออกไปหลายเก้าและจ้องมองดูสนามรบด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
“สองคนที่ตายไปก่อนหน้านี้ก็เป็นตัวอย่างดีอยู่แล้ว พวกเจ้ายังร้อนหาที่อยู่อีก!” เย่ฟ่านยืนหยัดและเดินไปข้างหน้า
“พรึ่บ”
น้ำในบ่อน้ำเซียนถูกดึงขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นกำแพงน้ำที่ไม่สิ้นสุด เย่ฟ่านมองดูคู่ต่อสู้ทั้งสามก่อนจะกระแทกกำปั้นสีทองของเขาออกไปอย่างรวดเร็ว!
“บูม!”
แสงศักดิ์สิทธิ์ที่พร่างพราวพุ่งขึ้น และทุกสิ่งในพื้นที่แคบๆ ก็หายไป สวรรค์และพิภพสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่ทุกอย่างจะกลับสู่ความสงบในเวลาเพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้น
“อา...” ครึ่งเซียนทั้งสามต่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด
เย่ฟ่านลากปราณมังกรขึ้นมาจากพื้นพิภพและผสานให้เป็นพลังการโจมตีของ การโจมตีครั้งนี้เหมือนกับการระเบิดของดวงอาทิตย์ และทำให้ร่างกายของสามชายแหลกละเอียดกลายเป็นหมอกเลือดทันที
“นี่มันเรื่องอะไรกัน!” โอวหยางเย่ตะโกนด้วยความกลัว
เมื่อทุกอย่างสงบลง อักขระที่ตราตรึงอยู่ในความว่างเปล่าก็จางลง และแสงแห่งเซียนก็กลับคืนสู่บ่อน้ำอีกครั้ง อำนาจที่เย่ฟ่านแสดงออกมาทำให้ทุกคนสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บ
อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้น ดูเหมือนว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของยอดฝีมือรุ่นอาวุโสทั้งสามจะยังคงมีชีวิตอยู่ และพวกเขากำลังหลบหนีออกจากบ่อน้ำด้วยความกลัว
“ปัง”
เย่ฟ่านฟาดฝ่ามือออกไปและทุบวิญญาณของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามคนให้แหลกสลายกลายเป็นเถ้าถ่านในการโจมตีเพียงครั้งเดียว