90
บทที่ 90
“สกิลอยู่ไหน !?ภารกิจอะไร !?”
[ภารกิจถูกสร้างขึ้น ]
[ผู้สืบทอดศาสตร์มืดปีศาจสวรรค์ ]
[ค้นหาร่องรอยของปรมาจารย์ของศาสตร์มืดปีศาจสวรรค์ ผู้ข้ามผ่านท้องฟ้าและภูเขาบาลเดอร์ในอดีต ]
[ระดับ : A+]
[เงื่อนไข : บันทึกปี XXXX 0/1]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ , ของที่ระลึกของ XXXX]
ฮยอนอู รู้สึกสับสนกับหน้าต่างภารกิจที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน จากนั้นเขาก็สงบสติลงอย่างรวดเร็ว และเริ่มอ่านข้อมูลภารกิจ
“ความยากระดับ A+ … มันคงเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ ฉันยังไม่มีข้อมูลอะไรเลย นี่ไม่ใช่ภารกิจที่จะทำได้เมื่อทวีปตะวันออกเปิดตัวหรอกเหรอ !?”
ไม่ว่า ฮยอนอู จะครุ่นคิดมากแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับคำถามได้
‘ฉันจะตรวจสอบสกิลก่อน’
“หน้าต่างสกิล” ในที่สุด ฮยอนอู ก็เปิดหน้าต่างสกิลเพื่อยืนยันข้อมูลของศาสตร์มืดปีศาจสวรรค์
[ศาสตร์มืดปีศาจสวรรค์ ]
[เคล็ดวิชาศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงในทวีปตะวันออก ]
[เมื่อความชำนาญถึงระดับ 3 , 5 , 7 และ 9 ดาว จะได้รับสกิลใหม่ ]
[ประเภท : ศิลปะการต่อสู้ ]
[ระดับ : ยูนีค ]
[ความสามารถ : 1 ดาว (ความสามารถของสกิลประเภทศิลปะการต่อสู้จะถูกระบุเป็นหน่วยดาว) ]
[คุณสมบัติถูกเปลี่ยนเป็น ความมืด ]
[พลังเวทมนตร์เพิ่มขึ้น 50%]
[ย่างก้าวสวรรค์ทมิฬ ]
[ใช้พลังเวทมนตร์เพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ ]
[ระยะเวลา : 10 วินาที ]
[คูลดาวน์ : 3 นาที ]
“อะเมซิ่งงงงงง !!” เสียงร้องของ ฮยอนอู ดังก้องไปทั่วทั้งพระราชวัง เขาตื่นเต้นอย่างมากจนไม่สามารถเก็บความปีติไว้คนเดียวได้
‘น่าเสียดายนิดหน่อยตรงต้องเสียคุณสมบัติธาตุลมไป แต่มันก็คุ้มค่าล่ะนะ’
ได้รับคุณสมบัติความมืด , พลังเวทมนตร์เพิ่มขึ้น , สกิบย่างก้าวสวรรค์ทมิฬ นอกจากนี้ยังจะได้รับสกิลเพิ่มอีกสี่สกิลเมื่อค่าความชำนาญเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนด
‘ฉันนี่มันโชคดีมากจริง ๆ!!’
หลังจากความตื่นเต้นครั้งใหญ่ ฮยอนอู ก็สงบสติอารมณ์ลงได้ในที่สุด ทุกอย่างเริ่มต้นจากการยอมรับของ เลอบรอน ที่มีทั้งหมดสิบคน นั่นหมายความว่ามีอีกเก้าคนที่มีโอกาสแบบนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถคว้ามันไว้ได้ ผิดจาก ฮยอนอู ที่สามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้
‘ถึงอย่างนั้นก็เป็นเรื่องดี อย่างน้อยฉันก็ได้รับสกิลที่ยังขาดไปล่ะนะ’
“ฉันคงต้องไปคุยกับ เลอบรอน ก่อนกลับไปที่เทือกเขา”
ฮยอนอู เห็นทหารยามเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เขารีบผละออกไปจากหน้าห้องสมุดหลวงอย่างรวดเร็ว
‘ฉันไม่ได้หนีหรอกนะ แค่ต้องไปพบกับ เลอบรอน’
.....
“เจ้ามาแล้วเหรอ” เลอบรอน ทักทาย ฮยอนอู ตามปกติ โดยปกติแล้ว เลอบรอน จะอยู่ในลานฝึกของเขา แต่ในครั้งเขามาพบกับ ฮยอนอู ที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขา
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ผมได้เห็นห้องนี้ นี่คือห้องทำงานของคุณเหรอ !?”
“อย่ามัวแต่พูดอะไรไร้สาระอยู่เลย เจ้าหนู ... เจ้ามีกิลด์ไหม !?ภารกิจที่ข้าจะมอบหมายให้เจ้าทำจากนี้ไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำคนเดียวได้ แต่เจ้าเป็นคนที่ข้าไว้ใจมากที่สุด”
“ผมไม่มีกิลด์หรอก แต่ผมรู้จักคนจากกิลด์โลกใหม่ , กิลด์ไพโอเนีย ... แล้วผมก็ยังพอมีเพื่อนอยู่บ้าง”
‘เจ้าหนูนี่มีเพื่อนด้วยเหรอ !?’ เลอบรอน ไม่ค่อยเชื่อคำพูดนี้ของ ฮยอนอู มากนัก
เลอบรอน รู้จักคนที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเป็นอย่างดี โดยปกติแล้วคนประเภทนี้มักจะทำอะไรด้วยตัวคนเดียว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ค่อยเชื่อว่า ฮยอนอู จะมีเพื่อน “เจ้าไม่จำเป็นต้องโกหกข้าหรอก ข้าจะไม่ล้อเลียนเจ้าเพียงเพราะเรื่องแค่นี้หรอก”
เมื่อ ฮยอนอู เห็นท่าทีของ เลอบรอน มันก็ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าอาจารย์ของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ‘ฉันดูเหมือนคนไม่มีเพื่อนเหรอ !?’
เมื่อคิดได้แบบนั้นมันก็ทำให้ ฮยอนอู รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ !? “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร ผมมีเพื่อนตั้งเยอะตั้งแยะ อาจจะเยอะกว่าคุณด้วยซ้ำ ท่านอาจารย์”
‘ยองชาน , คิม ซอกจอง , คัง จุนอู , เคล , เคท , เมสัน , ยูริ , ยองจุน ...’
มีไม่ถึงสิบคนที่ ฮยอนอู สามารถเรียกว่าเพื่อนได้
ฮยอนอู ตระหนักได้แล้วว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ได้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเพียงเล็กน้อยขนาดนี้
‘ไม่ !!แปดคนก็พอแล้ว ถึงยังไงนี่ก็เป็นแค่เกม ...’
“งั้นเหรอ !?ข้าเชื่อใจเจ้าได้ใช่ไหม !?” สีหน้าของ เลอบรอน กลับมาเป็นปกติเมื่อเขาเริ่มพูดอีกครั้ง “เมื่อเจ้ากลับไปที่เทือกเขาเฮจิน จงช่วยเหลือเหล่าทหารของจักรวรรดิจัดการมอนสเตอร์ประหลาดพวกนั้น ไม่ว่าเจ้าจะมีเพื่อนคอยช่วยเหลือหรือไม่ก็ตาม”
[ภารกิจถูกสร้างขึ้น ]
[ความจริงเบื้องหลังคลื่นมอนสเตอร์ ]
[เป็นเวลาหลายสิบปีแล้วที่คลื่นมอนสเตอร์ปะทุจากเทือกเขาเฮจิน ]
[เข้าร่วมกองกำลังทหารของจักรวรรดิเพื่อเปิดเผยความจริงเบื้องหลังของคลื่นมอนสเตอร์ ]
[ระดับ : MS]
[เงื่อนไข : ค้นหาความจริงของคลื่นมอนสเตอร์ 0/1]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ , แต้มจักรวรรดิ ]
‘ภารกิจหลัก !!’
ภารกิจหลักของอารีน่าปรากฏขึ้นอีกครั้งในเวลาหนึ่งเดือน มันมีความพิเศษอย่างมากสำหรับ ฮยอนอู ก่อนหน้านี้เขาเติบโตขึ้นอย่างมากจากการทำภารกิจหลักของอารีน่า และครั้งนี้เขาก็มีโอกาสได้เติบโตแบบก้าวกระโดดอีกครั้งจากการได้รับภารกิจหลักครั้งนี้
‘มันคงยากเกินไปที่จะทำภารกิจนี้คนเดียว’
เขาไม่สามารถเก็บผลไม้ที่สุกงอนเหล่านี้ทั้งหมดคนเดียวได้ อย่างน้อยคนสำคัญ ๆ สำหรับเขาก็ควรได้รับส่วนแบ่งจากมันด้วยเช่นกัน
‘ฉันจะส่งต่อไปให้กับกิลด์โลกใหม่’
เขาเลือกที่จะแบ่งปันกับคนที่เขาไว้ใจเท่านั้น
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับท่านอาจารย์ ผมจะกลับมาอีกครั้งในจุดที่สูงกว่าอัศวินแห่งคิออน” ฮยอนอู กล่าวลา เลอบรอน
“ลูกพี่ คุณอยากทำภารกิจหลักร่วมกันกับผมไหม !?” ฮยอนอู ติดต่อหาเพื่อนหนึ่งในแปดคนของเขาทันที
.....
“ลูกพี่ กำลังติดต่อกับใครอยู่เหรอ ทำไมถึงได้ทำหน้าแบบนั้น !?” คัง จุนอู มองไปยัง คิม ซอกจอง ที่ดูเหมือนจะกำลังยิ้มอยู่คนเดียวด้วยความประหลาดใจ เป็นเรื่องยากมากที่ คิม ซอกจอง จะแสดงสีหน้าแบบนี้ออกมาได้ นอกจากจะมีคนรู้จักบางคนให้ของขวัญกับเขา นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะแสดงสีหน้าแบบนี้ได้
‘สงสัยจะมีใครให้อะไรดี ๆ กับเขาล่ะมั้ง !?’
การคาดเดาของ คัง จุนอู ถูกต้อง
“เป็นเจ้าน้องชายน่ะ”
“ฮยอนอู !?” คัง จุนอู นึกถึง ฮยอนอู ทันทีที่ได้รับคำตอบจาก คิม ซอกจอง
‘เขาบอกว่าเขาจะเข้าร่วมกิลด์โลกใหม่เหรอ !?แต่ฉันว่าแค่นั้นคงไม่พอที่จะเป็นของขวัญได้หรอก”
“ฮยอนอู ส่งของขวัญมาให้ลูกพี่เหรอ !?” ในที่สุด คัง จุนอู ก็ถูกบังคับให้ถามจาก คิม ซอกจอง โดยตรงแทนที่จะคาดเดาอย่างไร้จุดหมาย
“ของขวัญ ... ใช่ มันเป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ นั่นแหละ”
“อะไรเหรอ !?”
“เขาเชิญเราไปร่วมงานเลี้ยง”
“งานเลี้ยง !?” คัง จุนอู รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทีของ คิม ซอกจอง แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่สามารถบังคับเอาคำตอบจาก คิม ซอกจอง ได้ด้วยการใช้กำลัง ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงพูดอ้อม ๆ เพื่อรับคำตอบที่ต้องการเท่านั้น
“ฮยอนอู จัดงานเลี้ยงเหรอ !?ที่ไหนล่ะ !?เกาหลีใต้ !?สหรัฐอเมริกา !?เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ !?ฮ่องกง !?”
“อารีน่า งานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอารีน่า”
“.... ภารกิจหลัก !!!!”
“ใช่ !!เขาเชิญเราไปร่วมภารกิจหลัก แบบนี้แล้วเราไม่ควรไปพบกับเขาเหรอ !?” คิม ซอกจอง พูดด้วยรอยยิ้มที่กว้างขึ้นกว่าเดิม นี่เป็นช่วงเวลาที่กิลด์โลกใหม่จะได้เข้าร่วมภารกิจหลักครั้งที่ห้า
.....
หลังจากติดต่อหา คิม ซอกจาอง , ฮยอนอู ก็กวาดตามองไปบนรายชื่อเพื่อนของเขาอีกครั้ง
“ยังมีใครอีกไหมที่ฉันสามารถไว้ใจพวกเขาได้ !?”
แม้ว่า ยองชาน จะเป็นหัวหน้ากิลด์เหมือนกันก็ตาม แต่กิลด์ของเขายังอ่อนแอเกินกว่าที่จะมีส่วนร่วมในภารกิจหลักของอารีน่าได้ พวกเขาจะสามารถเข้าร่วมภารกิจหลักได้ก็ต่อเมื่อมันเป็นสงครามครั้งใหญ่ ไม่เช่นนั้นมันอาจทำให้กิลด์ของเขาได้รับความเสียหายอยากหนักมากกว่า
“เคท ... เคท น่าจะได้”
เคท หัวหน้ากิลด์ไพโอเนีย ทั้งตัวเขาเองและเพื่อนของเขาต่างก็เป็นผู้เล่นแนวหน้าของอารีน่า นอกจากนี้ เคท ยังเป็นคนที่น่าเชื่อถือสำหรับ ฮยอนอู และเป็นคนที่เขาไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหลอีกด้วย
“เคท ยุ่งอยู่หรือเปล่า !?”
-อัลเลย์บอส !?มีอะไรเหรอ !?
“ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน !?นายสามารถมาที่เทือกเขาเฮจินได้หรือเปล่า !?”
ฮยอนอู พูดอย่างตรงไปตรงมา เคท เป็นคนที่มีบุคลิกเรียบง่าย เขาคือคนที่มีความสนใจต่อโลกอารีน่ามากกว่าผู้เล่นคนไหน ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
-ตอนนี้ผมอยู่ที่เทือกเขาเฮจินอยู่แล้วครับ มีข่าวลือว่ามีมอนสเตอร์แปลก ๆ ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ผมเลยมาลองดูหน่อยน่ะ
‘เยี่ยม !!นี่มันเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะจริง ๆ’
ฮยอนอู มีความสุขอย่างมากเมื่อรู้ว่าตอนนี้ เคท ก็อยู่ในเทือกเขาเฮจินเหมือนกัน
“มาเจอกันหน่อยสิ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับนายหน่อย”
ฮยอนอู มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเฮจินอย่างรวดเร็ว
.....
หลังจากติดต่อกับ ฮยอนอู ได้ไม่นาน เคท ก็ไปรวมตัวกับเพื่อน ๆ ของเขาในกิลด์ไพโอเนีย
“มีอะไรเหรอ !?”
“เขาอยากเจอพวกเราเหรอ !?”
“มีเรื่องอะไร !?”
“มีข่าวดีอะไรหรือเปล่า !?”
ทุกคนต่างพร้อมใจกันยิงคำถามไปที่ เคท อย่างไรก็ตาม เคท ไม่ได้ตอบคำถามของพวกเขา เพียงแต่บอกสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น “เขาบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุย ตอนนี้เขาน่าจะกำลังมาที่นี่แล้ว”
เมื่อ เคท พูดจบทุกคนก็พากันอุทานออกมาอีกครั้ง
“ฉันว่าแล้ว ว่าฉันจะต้องเจอกับเขาอีก”
“เขากลายเป็นข่าวใหญ่หลังจากแยกกับพวกเรา”
“ตอนนี้เขากลายเป็นคนดังไปแล้ว”
“ตอนนั้นเขายังดูเหมือนกับคนบ้าอยู่เลย”
“ตอนนี้เขาคือซูเปอร์สตาร์ ...”
ทุกคนเอาแต่พูดพล่ามไม่หยุด และ เคท ก็ติดอยู่ท่ามกลางเสียเจื้อยแจ้วจากเพื่อนของเขาอย่างสมบูรณ์
“พอก่อนเถอะ รอจนกว่า อัลเลย์บอส จะมาถึงแล้วค่อยคุยกันอีกทีดีกว่า” หลังจากพูดจบ เคท ก็ออกจากระบบ เช่นเดียวกับสมาชิกกิลด์คนอื่น ๆ ของเขาที่หายตัวไปเช่นกัน
ตอนนี้เหลือเพียง อาสึ จอมเวทแห่งกิลด์ไพโอเนียนที่ถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง
“คราวนี้ฉันต้องเพิ่มชื่อเขาเป็นเพื่อนให้ได้” อาสึ พึมพำก่อนจะออกจากระบบ
.....
“ทำไมถึงเอาเรื่องนี้มาบอกกับผมเหรอ !?ไม่ใช่เพราะผมเป็นสปอนเซอร์ให้คุณใช่ไหม !?” เคท เผชิญหน้ากับชายที่สวมหน้ากากเด็ก เขากำลังถามคำถามเหล่านี้กับ ฮยอนอู “ไม่ใช่ว่าปกติคุณมักจะผูกขาดกับเรื่องต่าง ๆ ไว้คนเดียวไม่ใช่เหรอครับ !?”
“นายคิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นเหรอ !?ฉันแค่อยากแบ่งปัน ถ้าฉันกินมันคนเดียวกลัวว่าจะท้องแตกตายซะก่อนน่ะสิ” ฮยอนอู ส่ายศีรษะเบา ๆ เขาไม่ได้รู้สึกแย่กับคำถามของ เคท และเขาก็รู้ดีว่าทำไม เคท ถึงถามคำถามแบบนี้ออกมา “กิลด์ไพโอเนียเป็นกิลด์ที่สอง และเป็นกิลด์สุดท้ายที่ได้รับข้อเสนอจากฉัน นายอยากรับข้อเสนอของฉันไหม !?”
เคท ลังเลในใจ ขณะเดียวกันสมาชิกคนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่เขาด้วยความคาดหวัง
‘ภารกิจหลักจะต้องสนุกแน่’
‘จะลังเลทำไม !?’
‘หรือเขายังโกรธเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเราพยายามไปจักรวรรดิซอง !?แต่ตอนนี้มันถึงเวลาที่จะมูฟออนได้แล้วหรือเปล่า !?’
อย่างไรก็ตาม มีหนึ่งในสมาชิกที่ไม่ได้พูดกับตัวเองในใจ “ไอ้โง่เคท !!แกเลิกคิดอะไรที่มันยุ่งยากได้แล้ว !!เราเคยไปมาหมดแล้วทั้งภูเขาน้ำแข็ง , ภูเขาไฟ , หนองน้ำ แต่ฉันบอกเลยว่าฉันไม่อยากไปอยู่ในสถานที่พวกนั้นอีก!!”
ผู้เล่นที่โพล่งออกมาตอนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก จีเวล พาลาดินประจำทีมของ เคท เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สวมชุดเกราะโลหะหนัก ด้วยคลาสอาชีพพาลาดิน และชุดเกราะหนักมันทำให้เขามีพลังป้องกันที่สูงมาก แต่มันกลับกลายเป็นจุดอ่อนสำหรับเมื่อต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย
“ใช่ !!พวกเราจะไม่ทำตามความคิดเผด็จการของนายอีกต่อไป !!”
“เคท หัวหน้ากิลด์โฉดชั่ว !!นายช่วยฟังความคิดเห็นของสมาชิกกิลด์บ้างเถอะ !!”
“ผมคิดว่าผมคงต้องยอมรับข้อเสนอของคุณ อัลเลย์บอส” เคท ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับ ฮยอนอู เมื่อเห็นการตอบสนองจากสมาชิกกิลด์คนอื่น ๆ
มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ยินดีต้อนรับสู่การเข้าร่วมภารกิจหลักที่ห้า” ฮยอนอู พูดพร้อมกับจับมือกับ เคท
“ว่าแต่ ... คุณบอกว่าเราเป็นกิลด์ที่สอง แล้วใครเป็นกิลด์แรกเหรอครับ !?” เคท ถาม
ขณะเดียวกันนั้น ฮยอนอู ก็มองออกไปยังทิศทางหนึ่ง นั่นทำให้ เคท มองตามสายตาของเขาออกไปเช่นกัน
“กิลด์โลกใหม่ พวกเขาคือกิลด์แรกที่ฉันเชิญน่ะ”
สีหน้าของ เคท แสดงถึงความตกใจอย่างชัดเจน