88
บทที่ 88
ฮยอนอู เดินทางผ่านเทือกเขาเฮจินอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้เทือกเขาเฮจินเต็มไปด้วยผู้เล่นจำนวนมากที่มาล่ามอนสเตอร์ที่นี่ นั่นเป็นเพราะมีข่าวลือว่ามี NPC แปลก ๆ ที่มอบภารกิจใหม่ให้กับผู้เล่นหลังจากการประกาศอัพเดตแพทช์ฉลองครบรอบสามปีของอารีน่า
ฮยอนอู ตั้งใจที่จะทำภารกิจที่ได้รับมาให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด เพื่อหวังว่าจะได้รับค่าประสบการณ์จำนวนมหาศาลเพิ่มระดับเลเวลของตัวเองได้
“ฉันยังไม่ว่าง !!ยังไม่ว่าง !!”
[คลื่นมอนสเตอร์ ]
[ค้นหาต้นตอของการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีป้อมปราการลาทัสในแต่ละปี ]
[ระดับ : B]
[เงื่อนไข : ค้นหาสาเหตุการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ 0/1 ]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ , แต้มจักรวรรดิ และ ของขวัญจากจักรพรรดิ ]
รางวัลจากภารกิจนี้ประกอบไปด้วย ค่าประสบการณ์ , แต้มจักรวรรดิ และของขวัญจากจักรพรรดิ นี่ไม่ต่างไปจากการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวสำหรับการต้อนรับแพทช์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือ ....
“ฉันจะต้องทำยังไง !?”
ฮยอนอู ไม่รู้ว่าเขาจะต้องอย่างไรเพื่อเคลียร์ภารกิจนี้ ในป้อมปราการลาทัสนอกจาก เฮอราร์ด แล้วก็มีเพียง NPC พ่อค้าทั่ว ๆ ไปที่ไม่สามารถให้ข้อมูล หรือเบาะแสใด ๆ กับเขาได้ ฮยอนอู ไม่รู้ว่าเขาควรจะต้องทำอะไร และไม่มีรายชื่อเพื่อนคนไหนที่เขาสามารถสอบถามข้อมูลได้
“ถ้าฉันไปถามจาก ลูกพี่จุนอู ...”
ฮยอนอู รู้สึกว่ากิลด์โลกใหม่ถูกก่อตั้งขึ้นมาจากความสามารถของ คัง จุนอู มากกว่าที่จะเป็น คิม ซอกจอง ที่เป็นหัวหน้ากิลด์ และในความเป็นจริงแล้วความรู้สึกของ ฮยอนอู ก็แม่นยำมาก คิม ซอกจอง เป็นคนโผงผางทำให้เขาไม่เหมาะกับการบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ ผิดจาก คัง จุนอู ที่มีความสามารถในการจัดการที่ยอดเยี่ยม
“ฉันคิดว่าเขาจะต้องมีข้อมูลบางอย่างแน่ แต่ว่า ...”
อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดถึงเรื่องนี้มันก็ทำให้ ฮยอนอู ต้องถอนหายใจยาวออกมาเล็กน้อย เพราะหากเขาไปพบกับกิลด์โลกใหม่ในตอนนี้ คิม ซอกจอง จะต้องถามเขาถึงเรื่องการเข้ากิลด์โลกใหม่แน่นอน
‘ตอนนี้ฉันยังไม่อยากเข้ากิลด์ ... ฉันต้องรอดูก่อนว่าฉันจะได้เป็นเจ้าของปราสาทหรือเปล่า’
ขณะที่ ฮยอนอู กำลังครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ นั้น มอนสเตอร์บางตัวก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขา
“หือ !?มีมอนสเตอร์แบบนี้ด้วยเหรอ !?”
ฮยอนอู มั่นใจว่าตัวเองเดินทางเข้ามาในเทือกเขาลึกกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ ในระดับเลเวลเดียวกัน นอกจากนี้กิลด์ใหญ่ต่างก็ไม่ได้รังเกียจตัวตนของ อัลเลย์บอส แม้ว่า อัลเลย์บอส จะเป็นเหมือนปัญหาสำหรับพวกเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการผูกมิตรกับ อัลเลย์บอส จะส่งผลดีกับพวกเขามากกว่าผลเสีย ดังนั้น กิลด์ใหญ่ต่าง ๆ จึงไม่ได้ปฏิเสธการบุกรุกพื้นที่ล่าของ ฮยอนอู นอกจากนี้ ฮยอนอู ยังเป็นโซโลเพลเยอร์ จำนวนมอนสเตอร์ที่เขาสามารถล่าได้จึงค่อนข้างจำกัด มันจึงไม่ส่งผลกระทบต่อกิลด์ของพวกเขามากนัก
ด้วยเหตุนี้ ฮยอนอู จึงสามารถเดินทางไปรอบ ๆ เทือกเขาเฮจินได้โดยไม่มีปัญหาใด ๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเห็นมอนสเตอร์แบบนี้มาก่อน ลักษณะภายนอกของมันดูคล้ายกับโอเกอร์ ร่างกายของมันสูงกว่าหกเมตร และอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ นอกจากนี้บนผิวหนังของมันยังมีรอยสักสีดำที่โดดเด่นอีกด้วย
“จากภายนอกแล้วดูเหมือนเจ้าตัวนี้จะแข็งแกร่งมาก ...”
ฮยอนอู ไม่ได้คิดมากเกินไป เขาเรียก ทังอี ออกมา และเตรียมพร้อมต่อสู้ทันที
“ทังอี เราจะจัดการเจ้าตัวนั้น !!ดูมันสิ ดูเหมือนมันจะแข็งแกร่งมาก นายต้องระวังตัวให้มากเข้าใจไหม !?”
แม้ว่าจะกำลังเตือน ทังอี แต่ ฮยอนอู ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย เพราะเขากำลังคิดว่าจะอัดวีดีโอเอาไว้อัพโหลดดีหรือไม่
‘ตอนนี้ยอดวิวขั้นต่ำคลิปบนช่องฉันก็อยู่ที่ 50 ล้านวิวแล้ว’
อัลเลย์บอส คือโซโลเพลเยอร์ แต่ถึงกระนั้นความสามารถของเขาก็เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ และมันยังคงเป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด ฮยอนอู พุ่งเข้าหาโอเกอร์ด้วยความคิดนี้
.....
[คุณได้รับบัพ จิตวิญญาณแห่งหมี ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ความอึดเพิ่มขึ้น ]
[คุณได้รับบัพ คำอวยพรแห่งป่า ]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]
[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]
สกิลบัพของ ทังอี เชื่อใจได้เสมอ ทันทีนั้น ฮยอนอู ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่กำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างกายของเขา
[ปรมาจารย์การต่อสู้ทำงาน ]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]
[ค่าสถานะ จิตวิญญาณต่อสู้ ทำให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]
[คู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าคุณ ]
[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]
[ความคิดของฆาตกรทำงาน ]
[ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 15%]
‘พร้อมแล้ว’
ฮยอนอู เข้าหาโอเกอร์ที่มีรอยสักอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นไปได้เขาก็การสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วงที่สุดด้วยการโจมตีครั้งแรก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความปรารถนาของ ฮยอนอู เท่านั้น ดูเหมือนว่าโอเกอร์ที่มีรอยสักตัวนี้จะมีความแข็งแกร่งไม่ต่างไปจากบอสมอนสเตอร์ด้วยซ้ำ มันสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของ ฮยอนอู ก่อนที่การโจมตีจะปะทุ และตอบโต้กลับมาด้วยการเหวี่ยงกระบองขนาดใหญ่ในมือเข้าใส่ ฮยอนอู อย่างกะทันหัน
แม้ว่าการตอบสนองของมันจะรวดเร็ว แต่ทว่า ฮยอนอู ก็ยังเร็วยิ่งกว่า เขาสามารถหลบกระบองได้ทัน แต่ทว่าพลังทำลายจากกระบองได้ทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้น
‘การโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้ฉันติดสถานะมึนงงได้ !!และการโจมตีสองครั้งอาจทำให้ฉันตายได้’ ฮยอนอู ประเมินพลังทำลายจากการโจมตีนี้
เขาจะตายทันทีหากรับการโจมตีจากโอเกอร์โดยตรงหากไม่มีสกิลบัพช่วยเหลือ ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างกะทันหัน มันเป็นเหมือนการกระตุ้นอดรีนาลีนในร่างกาย นี่คือความตื่นเต้นที่เขาโหยหา มันเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ริมหน้าผาสูงเมื่อเขาเผชิญหน้ากับโอเกอร์ร่างยักษ์เบื้องหน้า
อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู ไม่ได้ตื่นตระหนกแม้แต่นิดเดียว เขาใช้สกิลบลิงค์เพื่ออ้อมไปด้านหลังของโอเกอร์ จากนั้นในมือของเขาก็ปรากฏหอกสีดำขึ้นมา มันคือหอกคำสาปที่สามารถลดพลังชีวิตของเป้าหมายได้วินาทีละ 1%
ฮยอนอู ไม่ลังเลที่จะขว้างหอกคำสาปใส่โอเกอร์ ทว่าหน้าต่างแจ้งเตือนที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขากลับแตกต่างไปจากทุกครั้งที่ผ่านมา
[เวพอนโอเกอร์ มีภูมิต้านทานคำสาป หอกคำสาปแสดงผลเพียงครึ่งหนึ่ง ]
[ความเสียหายที่ทำได้ต่อวินาทีลดลงครึ่งหนึ่ง ]
“นี่มันอะไร !?” ฮยอนอู โพล่งออกมาอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเห็นว่าสกิลได้ผลเพียงครึ่งเดียว
‘แรร์มอนสเตอร์เหรอ !?’
อย่างไรก็ตาม ไม่มีเวลาให้ ฮยอนอู ได้ตื่นตระหนก เวพอนโอเกอร์ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ มันเหวี่ยงกระบองยักษ์ในมือออกไปรอบ ๆ อย่างบ้าคลั่ง
“ถึงยังไงฉันก็จัดการกับแกได้ถึงจะไม่ใช้หอกคำสาปก็เถอะ”
ฮยอนอู รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังร้อนขึ้น ตอนนี้ผลของหอกคำสาปลดลงไปครึ่งหนึ่ง สิ่งเดียวที่เขาสามารถพึ่งพาได้คือความสามารถของตัวเอง ฮยอนอู ใช้สกิลบลิงค์อีกครั้งเพื่อส่งตัวเองลอยสูงขึ้นไปในอากาศ
ออร่าดาบถูกสร้างขึ้นขณะที่เขาแทงดาบลงมายังตำแหน่งที่หอกคำสาปโจมตีไปก่อนหน้านี้
[เวพอนโอเกอร์ ติดสถานะผิดปกติ เลือดไหล ]
เลือดทะลักออกจากบาดแผลบนร่างของโอเกอร์ราวกับน้ำพุ
“กรรร …!!” โอเกอร์ส่งเสียงคำรามทำให้พื้นดินโดยรอบสั่นสะเทือน
‘แม้แต่เสียงกรีดร้องของมันก็สร้างความหวาดกลัวได้ !?’
ฮยอนอู ประหลาดใจอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นหน้าต่างแจ้งเตือนปรากฏขึ้นเบื้องหน้า หากไม่ใช่เพราะค่าสถานะจิตวิญญาณต่อสู้ เขาคงติดสถานะผิดปกติ หวาดกลัว จากเสียงคำรามของโอเกอร์ไปแล้ว
“ดูเหมือนต้องจัดการกับอาวุธของมันก่อน !?” ฮยอนอู พึมพำพร้อมกับเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพราะหากเขาหยุดนิ่งนานกว่านี้เขาอาจกลายเป็นเศษเนื้อบดภายใต้กระบองยักษ์ของโอเกอร์ก็เป็นได้
“ทังอี !!” ฮยอนอู ตะโกนไปทาง ทังอี
ทันใดนั้น สายฟ้าขนาดใหญ่ , ก้อนน้ำแข็งที่แหลมคม และเปลวเพลิงที่ร้อนแรง ก็กระหน่ำลงไปบนร่างของโอเกอร์อย่างกะทันหัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะรับสกิลเวทมนตร์ของ ทังอี โดยตรง แต่ดูเหมือนโอเกอร์จะไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
‘เจ้าตัวนี้มีความต้านทานต่อเวทมนตร์ด้วยเหรอ !?ง
แม้ว่าจะตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ แต่ ฮยอนอู ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะน่าสนใจกว่าการต่อสู้กับ แมงมุมยักษ์แคสเซิลห้าธาตุ ที่ผ่านมา
.....
หากมีใครผ่านมาเห็นการต่อสู้ของ ฮยอนอู ในตอนนี้พวกเขาคงอุทานออกมาว่า
“บ้าไปแล้ว !!”
“ไม่อยากจะเชื่อ !!”
“นั่นเป็นการเคลื่อนไหวของมนุษย์จริงดิ !?”
อารีน่าคือเกมเสมือนจริง แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะสามารถเคลื่อนไหวได้เช่นเดียวกับ ฮยอนอู แม้ว่าพวกเขาจะมีความเร็วมากกว่าในโลกความเป็นจริง แต่คู่ต่อสู้ของพวกเขาก็มีความเร็วที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน มอนสเตอร์แต่ละชนิดมีวิธีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างไปจากโลกความเป็นจริง ดังนั้น ต่อให้มีอุปกรณ์สวมใส่ดีแค่ไหนก็ใช่ว่าจะสามารถต่อสู้กับมอนสเตอร์ทุกตัวได้
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือทักษะส่วนตัวของผู้เล่น ในแง่นี้ ฮยอนอู ถือเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งในอารีน่า เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์แบบ การโจมตีด้วยกระบองยักษ์ของโอเกอร์ไม่สามารถสัมผัสร่างกายของเขาได้ แต่ในขณะเดียวกัน ร่างกายของมันก็เต็มไปด้วยบาดแผลจากออร่าดาบของ ฮยอนอู ทว่าในความเป็นจริงแล้วดูเหมือนมันจะยังไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
“โฮกกกก !!” เวพอนโอเกอร์ ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธแค้น
หลังจากโจมตีพลาดเป้า และได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง มันไม่แปลกเลยที่ เวพอนโอเกอร์ จะเดือดดาล
‘ถึงเวลาที่สิ่งนั้นจะต้องออกมาแล้ว ...’
ฮยอนอู กำลังรอให้ความโกรธของโอเกอร์เปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เวพอนโอเกอร์ ตัวนี้คือมอนเสเตอร์ระดับบอสอย่างไต้องสงสัย หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดก็คือมันสามารถใช้ หวาดกลัว ได้ ดังนั้น เป็นไปได้ว่ามันจะมีสกิล คลุ้มคลั่ง ด้วยเช่นกัน นี่คือหนึ่งในสกิลพื้นฐานของบอสมอนสเตอร์ในอารีน่า หากบอสมอนสเตอร์อยู่ในสถานะ คลุ้มคลั่ง มันจะกลายเป็นหายนะสำหรับผู้เล่น แต่ทว่า ฮยอนอู กลับต่างออกไป เขากลับชื่นชอบการต่อสู้กับบอสมอนสเตอร์ที่ตกอยู่ในสถานะ คลุ้มคลั่ง
‘ไม่ว่ามันจะคลั่งหรือไม่คลั่ง การโจมตีของมันครั้งเดียวก็ทำให้ฉันตายได้อยู่ดี แล้วแบบนั้นมันจะต่างไปจากเดิมตรงไหน !?’
“ฉันก็แค่ไม่โดนการโจมตีของมันก็จบ”
ขณะเดียวกันนั้น พลังงานสีดำก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากรอยสักบนร่างกายของ เวพอนโอเกอร์ มันเป็นพลังเวทมนตร์ที่พวยพุ่งออกมา นี่คือสถานะคลุ้มคลั่งอย่างไม่ต้องสงสัย
‘ฉันจะสู้กับแกด้วยทุกอย่างเหมือนกัน’
เมื่อเห็นว่า เวพอนโอเกอร์ ใช้สถานะคลุ้มคลั่ง ฮยอนอู ก็ใช้สกิลยักษ์ทั้งสองของตัวเองทันที
[พลังแห่งยักษ์ทำงาน ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ธรรมชาติแห่งยักษ์ทำงาน ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
ฮยอนอู วิ่งตรงเข้าหา เวพอนโอเกอร์ พร้อมกับตะโกนไปทาง ทังอี “ทังอี !!คำราม !!”
สกิลคำรามของ ทังอี สามารถลดพลังโจมตี และพลังป้องกันของเป้าหมายในระยะลงได้ 12% ในขณะเดียวกัน ความเสียหายที่ ทังอี สามารถทำได้ต่อเป้าหมายเหล่านั้นยังเพิ่มขึ้นอีก 24% แม้ว่าในสถานะคลุ้มคลั่งแบบนี้สกิลเวทมนตร์ของ ทังอี จะไม่สามารถฆ่าโอเกอร์ได้ก็ตาม แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะยับยั้งการเคลื่อนไหวของมันลงได้บ้าง
“โฮกกกก !!” ทังอี ส่งเสียงคำรามลั่น
ช่วงเวลาที่สกิลยักษ์ของ ฮยอนอู ซ้อนทับกับสกิลคำรามของ ทังอี นั้น ความเสียหายที่ ฮยอนอู สามารถทำได้ก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับทันที
หากก่อนหน้านี้การโจมตีของเขาเปรียบเหมือนกับเข็ม การโจมตีในตอนนี้ของเขาก็เปรียบเหมือนหอกขนาดใหญ่ก็ว่าได้ ฮยอนอู เล็งออร่าดาบตรงไปที่ เวพอนโอเกอร์ ก่อนหน้านี้การโจมตีส่วนใหญ่ของเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อมันได้มากนัก แต่ทว่าในเวลานี้แม้ว่า เวพอนโอเกอร์ จะอยู่ในสถานะคลุ้มคลั่ง แต่มันกลับถูกอัดจนกระเด็นกลับไปด้วยออร่าดาบของ ฮยอนอู
‘ฉันสามารถใช้บลิงค์ได้อีกสองครั้ง ตอนนี้คูลดาวน์สกิลหอกคำสาปหมดลงแล้ว’
“พลังชีวิตของมันน่าจะเหลืออยู่ราว 40%”
บอสมอนสเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้สถานะคลั่งเมื่อพลังชีวิตลดเหลือ 40%
“ห้านาทีก็เพียงพอแล้ว”
เวพอนโอเกอร์ เหวี่ยงกระบองยักษ์ลงกับพื้น เมื่อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวนี้ ฮยอนอู ก็รีบกระโดดขึ้นในอากาศทันที พริบตานั้นพื้นดินก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ก้อนกรวดนับไม่ถ้วนกระเด็นขึ้นมาบนอากาศ หาก ฮยอนอู ยังอยู่บนพื้นเขาคงติดสถานะมึนงง และถูกฆ่าในพริบตาอย่างไม่ต้องสงสัย
ฮยอนอู หายตัวไปจากตำแหน่งเดิมในอากาศ และปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งบนไหล่ของ เวพอนโอเกอร์ เขาไม่ลังเลที่จะใช้สกิลบลิงค์ที่เหลืออีกเพียงสองครั้งออกมา ในเวลาเดียวกัน ฮยอนอู แทงดาบที่ปกคลุมไปด้วยออร่าดาบเข้าไปที่หัวไหล่ของโอเกอร์ จากนั้นก็ใช้น้ำหนักจากร่างกายเหนี่ยวด้ามดาบลงมาพร้อมกับการทิ้งตัว
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วอากาศเมื่อแขนข้างหนึ่งของ เวพอนโอเกอร์ ถูกตัดขาด
[เวพอนโอเกอร์ ติดสถานะผิดปกติ เลือดไหล ]
ผลจาก คำสาปของแคสเซิล ทำให้ เวพอนโอเกอร์ ติดสถานะผิดปกติเลือดไหล
“โฮกกกกก !!”
ทันใดนั้น หอกสีดำขลับก็แทงเข้าไปในร่างของ เวพอนโอเกอร์ อีกครั้งจนมันทรุดตัวลงกับพื้นกับเสียงครวญครางจากความเจ็บปวด
“ถึงเวลาปิดฉากแล้ว!!” ฮยอนอู โจมตีอีกครั้ง