80
บทที่ 80
“เฮ้อ ...” ฮยอนอู อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวออกมา มีสมบัติตั้งอยู่ตรงหน้าของเขา แต่เขาไม่สามารถคว้ามันมาได้
[คลืนมอนสเตอร์ ]
[ค้นหาสาเหตุการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ที่เข้าโจมตีป้อมปราการลาทัสในทุก ๆ ปี ]
[ระดับ : B]
[เงื่อนไข : ค้นหาสาเหตุการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ 0/1 ]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ , แต้มจักรวรรดิ , ของขวัญจากจักรพรรดิ ]
ไม่ว่าจะเดินทางไปทั่วเทือกเขาเฮจิน หรือล่ามอนสเตอร์ไปมากแค่ไหน ฮยอนอู ก็ยังไม่พบเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับสาเหตุของคลื่นมอนสเตอร์
“มันไม่ใช่การล่าด้วยซ้ำ นี่มันเป็นการทรมานสังขารฉันชัด ๆ”
หากเป็นเพียงการล่า ฮยอนอู จะพอใจกับการได้รับค่าประสบการณ์ที่ได้รับ และระดับเลเวลที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับ ฮยอนอู การได้รับสมบัติจากภารกิจ หรือสิ่งอื่น ๆ ไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับเขามากนัก ในเวลานั้นเขาก็ได้รับข้อความบางอย่าง
“อ๊ะ !!ลูกพี่ !?” ฮยอนอู ผงกศีรษะเล็กน้อยขณะที่ตรวจสอบข้อความจาก คิม ซอกจอง
‘เกิดอะไรขึ้น !?’
-จาก คิม ซอกจอง : น้องชาย ฉันจะให้เหรียญทองกับนาย ตอนนี้นายว่างอยู่ไหม !?
“ตอนนี้ผมไม่ได้ติดธุระอะไร มีอะไรเหรอครับ !?”
-จาก คิม ซอกจอง : ตอนนี้นายมาที่หุบเขาปีศาจได้ไหม !?มันมีดันเจี้ยนอยู่ที่นี่
“ดันเจี้ยน !?ว่าแต่ลูกพี่ตามผมทำไม !?”
ฮยอนอู อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำว่า ดันเจี้ยน แต่แล้วเขาก็ต้องระงับความตื่นเต้นลงอย่างรวดเร็ว
‘มีดันเจี้ยนที่กิลด์โลกใหม่ไม่สามารถเคลียร์ได้ด้วยเหรอ !?ถ้าเป็นดันเจี้ยนในหุบเขาปีศาจ แค่มองค์ลิรูก็น่าจะเคลียร์ได้ไม่ใช่เหรอ ...’
“ไม่ใช่ว่ากิลด์โลกใหม่มีคนเก่ง ๆ อยู่เยอะเลยไม่ใช่เหรอครับ !?”
-จาก คิม ซอกจอง : ถ้ามันเป็นดันเจี้ยนทั่ว ๆ ไป มันคงไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่ว่าดันเจี้ยนนี้มันกำหนดให้สามารถเข้าไปได้แค่สามคน นายเป็นคนเดียวที่มีฝีมือ และฉันก็ไว้ใจนาย
ฮยอนอู พยักหน้าเบา ๆ ให้กับข้อความจาก คิม ซอกจอง เพราะมันสมเหตุสมผล คิม ซอกจอง รู้ดีว่า ทังอี มีสกิลบัพ และยังมีบัพที่ช่วยฟื้นฟูอีกด้วย สำหรับ ฮยอนอู !?แน่นอนว่าในการต่อสู้ ฮยอนอู ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับการต่อสู้ในดันเจี้ยนที่ไม่มีข้อมูลแล้ว ฮยอนอู คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
“หุบเขาปีศาจใช่ไหม !?ผมจะรีบไปทันที”
-จาก คิม ซอกจอง : โอเค ฉันจะรออยู่ที่ทางเข้าหุบเขา
ไม่นานหลังจากนั้น ฮยอนอู ก็รีบมุ่งหน้าไปยังหุบเขาปีศาจโดยใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
.....
“มาแล้วเหรอ”
คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู รอ ฮยอนอู อยู่ที่หน้าทางเข้าหุบเขาปีศาจอยู่ก่อนแล้ว
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับลูกพี่ , ลูกพี่จุนอู ด้วย” ฮยอนอู ทักทายทั้งสองคน
ฮยอนอู ค่อนข้างอารมณ์ดีดังนั้นเขาจึงเรียก คัง จุนอู ว่าลูกพี่แบบเดียวกับที่เขาเรียก คิม ซอกจอง หลังจากทั้งหมดแล้ว ฮยอนอู ก็เคยพบกับ คัง จุนอู มาแล้วสองครั้ง
“อะไรนะ !?นี่พวกนายมีความสัมพันธ์แบบนี้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ !?จุนอู ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่านายก็มีน้องชายด้วย !?”
“ลูกพี่ ... มันไม่ใช่แบบนั้น ...” เมื่อได้ยินคำพูดของ คิม ซอกจอง , คัง จุนอู ก็ตอบกลับด้วยความประหม่าทันที
“เหรอ !?น้องชาย ไม่ใช่ว่านายกำลังล้อฉันเล่นอยู่หรอกใช่ไหม !?” คิม ซอกจอง พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเพียงแค่หยอกล้อกับ คัง จุนอู เท่านั้น ทว่ามีเพียง คัง จุนอู เท่านั้นที่ไม่เข้าใจความตั้งใจของเขา
“ผมจะไปล้อเล่นกับลูกพี่ได้ยังไง !?บางที ลูกพี่จุนอู อาจกำลังเล่นตลกอยู่ก็ได้” ฮยอนอู ตอบกลับพลางยักไหล่เบา ๆ ราวกับเขาไม่ได้ทำอะไรผิด
“จุนอู เดี๋ยวนี้นายกล้าทำกับฉันแบบนี้ ...” สีหน้าของ คิม ซอกจอง เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ ฮยอนอู ก็ยังเกือบถูกหลอก ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึง คัง จุนอู ที่ฝ่ามือของเขาเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ลูกพี่ มันเป็นแค่การเรื่องตลกเล็ก ๆ น่า เราเคยพบกันเมื่อไม่กี่วันก่อน และตัดสินใจว่าฉันจะเป็นพี่ใหญ่ ส่วนเขาจะเป็นน้องเล็ก จริงไหมน้องชาย” คัง จุนอู พูดพลางขยิบตาอย่างสิ้นหวังไปทาง ฮยอนอู
มันคือสัญญาณขอความช่วยเหลือ ฮยอนอู ขยิบตาตอบกลับ แต่เป้าหมายของเขาคือ คิม ซอกจอง ที่อยู่ข้างหลัง คัง จุนอู “ใช่แล้ว ลูกพี่จุนอู เมื่อไม่กี่วันก่อนเราตกลงกันว่าฉันจะเป็นน้องเล็กของคุณ”
“ฮ่า ๆ...”
ทั้งสามรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าเหลือเชื่อระหว่างเดินทางเข้าไปในดันเจี้ยน
.....
หลังจากการหยอกล้อเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้น คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ก็ได้พา ฮยอนอู เดินทางลึกเข้าไปในหุบเขาปีศาจจนมาพบกับบันไดที่ทอดยาวลงไปใต้ดิน มันดูเหมือนทางลงไปยังรถไฟใต้ดินก็ว่าได้
“ลูกพี่ พวกคุณเพิ่งพบดันเจี้ยนนี้เมื่อวานนี้เหรอครับ !?” ฮยอนอู ถาม
“สมาชิกกิลด์ของเราพบมันโดยบังเอิญระหว่างล่าก็อบลินปีศาจอยู่น่ะ” คัง จุนอู ตอบ
ฮยอนอู พยักหน้าเบา ๆ มันค่อนข้างสมเหตุสมผล หลังจากทั้งหมดแล้วกิลด์โลกใหม่ก็ยึดครองพื้นที่ของหุบเขาปีศาจมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว มันคงไม่แปลกที่พวกเขาเพิ่งจะมาพบทางเข้าดันเจี้ยนแห่งนี้เมื่อไม่นานมานี้ เพราะโดยปกติแล้วพวกเขามันจะล่าแต่ก็อบลินปีศาจที่พบได้ทั่วไปในหุบเขาปีศาจเท่านั้น
“เข้าไปกันเถอะ” ฮยอนอู เดินนำทุกคนเข้าไปด้วยความมั่นใจ
[คุณต้องการเข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอนนี้หรือไม่ ]
[จำกัดผู้เข้าสู่ดันเจี้ยนเพียงสามคน ]
‘เป็นจำนวนที่ค่อนข้างแปลก’
ข้อจำกัดสามคนค่อนข้างแปลกอย่างแท้จริง มันไม่ใช่ดันเจี้ยนที่สามารถเข้าได้เพียงลำพัง และไม่ใช่ดันเจี้ยนที่สามารถเข้าได้หกคนซึ่งเป็นขนาดทีมตามปกติ
‘มันเป็นไปได้สองกรณี หนึ่งคือมันเป็นดันเจี้ยนที่มีความยากไม่สูงมากจนสามคนก็สามารถเคลียร์ได้ หรือสองก็คือ มันเป็นดันเจี้ยนที่ยากมหาโหด’
“เราไปลุยกันเลย” ขณะที่ ฮยอนอู กำลังครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ อยู่นั้น คิม ซอกจอง ก็ตอบรับอย่างกะทันหัน
ทั้งสามคนหายตัวไปจากทางลงบันไดในพริบตา
.....
[คุณได้เข้าสู่ดันเจี้ยนโรตอน ]
“อืม ... จอมเวทดำ !?” ฮยอนอู กวาดสายตารอบ ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ ดันเจี้ยนแห่งนี้ดูคล้ายกับดันเจี้ยนของจอมเวทดำที่เขาเคยเข้าไปมาก่อน
“จอมเวทดำ !?นายรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เหรอ !?” คิม ซอกจอง ถามเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของ ฮยอนอู
“ผมเคยเข้าไปในดันเจี้ยนคล้าย ๆ แบบนี้มาก่อน ที่นั่นมีจอมเวทดำเป็นบอสมอนสเตอร์”
“จริงเหรอ !?คงจะดีถ้าเป็นแค่จอมเวทดำ” คิม ซอกจอง พูด
ทั้ง คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ต่างก็มีคลาสอาชีพเป็นมองค์ลิรู มันไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากจะบอกว่าพวกเขาสามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้มากที่สุดเมื่อต่อสู้กับจอมเวทดำ พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาคือของแสลงสำหรับจอมเวทดำ หรือผีดิบ
“ลูกพี่ ตอนนี้หมัดของฉันกำลังคันยิบ ๆ เรารีบไปลุยอัดมอนสเตอร์ในนี้ให้ยับกันดีกว่า” คัง จุนอู พูดพร้อมกับกระแทกกำปั้นทั้งสองข้างเข้าหากัน ท้ายที่สุดแล้วเขาต้องล่าก็อบลินปีศาจติดต่อกันมาหลายสัปดาห์แล้ว มันจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเมื่อจะได้พบกับคู่ต่อสู้ใหม่ ๆ
ไม่นานหลังจากนั้น มอนสเตอร์ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเขา มันคือออร์ค มอนสเตอร์ที่ผู้เล่นอารีน่าทุกคนเคยเผชิญหน้ามาก่อน อย่างไรก็ตาม มันมีข้อแตกต่างจากออร์คทั่ว ๆ ไปอยู่เล็กน้อย ผิวของมันค่อนข้างซีด และเหี่ยวเฉาคล้ายกับลูกโป่งแตก ผิดจากออร์คทั่วไปที่ร่างกายอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ
“ฝากด้วยน้องชาย” คิม ซอกจอง พูดพร้อมกับวิ่งตรงเข้าไปหามอนสเตอร์
“ทังอี ฝากบัพให้พวกเขาหน่อย” ฮยอนอู หัวเราะเบา ๆ ให้กับท่าทีของ คิม ซอกจอง ก่อนจะเรียก ทังอี ออกมา
ทังอี ใช้สกิลบัพให้กับ คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนไหล่ของ ฮยอนอู
“นายท่าน ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน !?พวกนั้นมัน .. มอนสเตอร์ติดเชื้อ ...” ทังอี พูด
“นายหมายถึงอะไร ที่บอกว่าพวกนั้นคือมอนสเตอร์ติดเชื้อ !?นายรู้จักเจ้าพวกนี้เหรอ !?” ฮยอนอู หันไปทาง ทังอี พร้อมกับถามออกมา
“ข้าไม่รู้จักเจ้าพวกนี้หรอก แต่ข้าเคยเห็นเจ้าตัวน่าเกลียดไปไหนมาไหนกับเจ้าพวกนี้มาก่อน แต่ตอนนั้นเจ้านั่นก็ถูกพ่อของข้าอัดจนเละกลับไป”
“เจ้าตัวน่าเกลียด !?”
“ข้าไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่มันมีร่างกายเหมือนมนุษย์ มีผิวซีด แต่เขาคงจะเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดที่ถูกพ่อข้าอันจนหมอไม่รับเย็บ นอกจากนี้ข้ายังรู้อีกว่าเจ้าพวกนี้อ่อนแอต่อพลังศักดิ์สิทธิ์ และไฟ” ดูเหมือน ทังอี จะไม่ค่อยชอบมอนสเตอร์เหล่านี้อย่างมาก ระหว่างที่เขาพูดออกมาสีหน้าของเขาแสดงถึงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
‘เขามีประโยชน์มากกว่าที่ฉันคิด’
จุดอ่อนของมอนสเตอร์พวกนี้คือพลังศักดิ์สิทธิ์ และไฟ จากลักษณะนี้มันคล้ายกับดันเจี้ยนจอมเวทดำมากจริง ๆ แม้ว่าตอนนี้ ฮยอนอู จะยังไม่รู้ว่า โรตอน คือใครก็ตาม แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้บ้างแล้ว
‘ตอนนี้ยังไม่ถึงคิวของฉัน ปล่อยให้ ทังอี เล่นไปก่อนก็แล้วกัน’
ฮยอนอู ตัดสินใจที่จะให้ ทังอี ออกไปต่อสู้ เพราะนี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้เพิ่มระดับความชำนาญสกิลไฟของเขา
“ทังอี ใช้สกิลไฟยิงไปตรงนั้น” ฮยอนอู ชี้ตรงไปที่ออร์คที่อยู่ระหว่าง คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู
.....
[คุณได้รับบัพ จิตวิญญาณแห่งหมี ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ความอึดเพิ่มขึ้น ]
[คุณได้รับบัพ คำอวยพรแห่งป่า ]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]
[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]
แม้แต่ คิม ซอกจอง ที่เคยออกล่ามอนสเตอร์พร้อมกับ ฮยอนอู มาก่อนก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ดูเหมือนว่าบัพจาก ทังอี จะดีขึ้นอย่างมาก นั่นทำให้ คิม ซอกจอง รู้สึกเหมือนเขากำลังออกล่าพร้อมกับนักบวชในกิลด์โลกใหม่ของเขาด้วยซ้ำ
‘สกิลของเขาเทียบได้กับนักบวชระดับสูงเลย’
สกิลบัพของคลาสอาชีพมองค์ลิรูของ คิม ซอกจอง ไม่มีทางเทียบได้กับสกิลบัพของ ทังอี ได้ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ความชำนาญอยู่ในระดับ C+ แล้ว
[จิตวิญญาณแห่งหมี ]
[เพิ่มความแข็งแรง และความอึดของหมี ]
[ประเภท : บัพ ]
[ระดับ : แรร์ ]
[ความชำนาญ : C+]
[เพิ่มความแข็งแรง และความอึดของเป้าหมาย 55% เป็นเวลา 15 นาที ]
[คูลดาวน์ : 1 นาที ]
...
[คำอวยพรแห่งป่า ]
[เพิ่มพลังป้องกัน และอัตราการฟื้นฟู ]
[ประเภท : บัพ ]
[ระดับ : แรร์ ]
[ความชำนาญ : C+]
[เพิ่มพลังป้องกันให้กับเป้าหมาย 55% , เพิ่มอัตราฟื้นฟูพลังชีวิต 0.6% ต่อวินาที เป็นเวลา 15 นาที ]
[คูลดาวน์ : 1 นาที ]
ค่าความแข็งแรง และค่าความอุดเพิ่มขึ้น 55% เป็นเวลา 15 นาที แน่นอนว่ายิ่งค่าสถานะของตัวละครยิ่งสูง อัตราการเพิ่มขึ้นหลังจากได้รับบัพก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้สำหรับคลาสอาชีพมองค์ลิรูของ คิม ซอกจอง ที่เป็นคลาสอาชีพต่อสู้ระยะประชิดแล้วนั้น ค่าสถานะทั้งสองของเขาย่อมสูงมากอย่างไม่ต้องสงสัย
หนึ่งนาทีต่อมา สีหน้าของ คัง จุนอู เปลี่ยนไปอย่างมากหลังจากได้รับบัพ
[คุณได้รับบัพ จิตวิญญาณแห่งหมี ]
[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]
[ความอึดเพิ่มขึ้น ]
[คุณได้รับบัพ คำอวยพรแห่งป่า ]
[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]
[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]
‘นี่ !?’
คัง จุนอู เหลือบมองกลับไปที่ ฮยอนอู ที่กำลังเล่นอยู่กับตุ๊กตาหมี
“นี่คือเหตุผลที่ลูกพี่ชวนเขามาใช่ไหม !?”
ความสามารถในการต่อสู้ของ คัง จุนอู ก่อนและหลังได้รับบัพแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้เขาต้องหลบการโจมตีจากออร์คก่อนแล้วโต้กลับ แต่ตอนนี้เขาสามารถเผชิญหน้ากับออร์คได้โดยตรง และสามารถป้องกันการโจมตีจากออร์คด้วยสนับมือได้
[ออร์คทาสของโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
‘มันแตกต่างจากการล่าก็อบลินปีศาจ’ คัง จุนอู ยิ้มให้กับการล่าที่ง่ายดาย ทว่ารอยยิ้มยินดีของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความประหลาดในเวลาอันสั้น มันเป็นเพราะตอนนี้ออร์คทาสที่อยู่ด้านหน้าของเขากำลังลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ อีกทั้งมันยังเป็นเปลวไฟที่รุนแรงมาก
“ชวิก ร้อน !!ชวิก ๆ!!” นี่คือคำสั่งเสียของออร์คทาส
[ออร์คทาสของโรตอนถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
คิม ซอกจอง และ คัง จุนอู อาจถูกโจมตีจากความพยายามครั้งสุดท้ายของออร์คทาสได้ ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่เกิดขึ้นเนื่องจากมันถูกเผาด้วยเปลวไฟอย่างกะทันหัน คัง จุนอู รู้ถึงความแข็งแกร่งของออร์คในหุบเขาปีศาจดีกว่าใคร ดังนั้น เขาจึงอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองเจ้าของพลังเวทมนตร์ไฟที่ถูกยิงออกมาวินาทีสุดท้าย
เจ้าของเปลวไฟกำลังยิ้มบางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันคือตุ๊กตาหมีสุดน่ารัก !!คัง จุนอู เคยได้ยินมาก่อนว่าตุ๊กตาหมีของ ฮยอนอู สามารถใช้เวทมนตร์สายฟ้าได้ แต่ตอนนี้กลับสามารถใช้เวทมนตร์เปลวไฟออกมาได้อีก
‘นี่มันจะโกงเกินไปแล้ว !!’
เสียงกรีดร้องนี้ดังก้องอยู่ในใจของ คัง จุนอู ขณะที่เขามองไปยัง ทังอี