79
บทที่ 79
เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงแล้วนับตั้งแต่ ฮยอนอู เริ่มสตรีมมา
‘ฉันจะต้องจบสตรีมแล้ว’
ฮยอนอู ใช้เวลากว่าสามชั่วโมงในการตอบคำถามมากมายจากผู้ชม มันแทบไม่ต่างไปจากการถูกตำรวจสอบปากคำสำหรับเขาก็ว่าได้
‘ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงได้ถามแบบนั้น’
ผู้ชมถามถึงสเปคผู้หญิงของเขา , แฟนของเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และทุก ๆ เรื่อง ผลลัพธ์ก็คือ ....
-อัลเลย์บอส คืออาร์คเมจแหงแซะ
-แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็นจอมเวท
-นั่นแหละคือความลับที่ทำให้เขามีพลังเวทมนตร์ที่แข็งแกร่ง
-เขาอายุ 23 แล้ว แต่ยังโสด ...
-ฉันสาบานเลยว่าต่อไปจะไม่ดูถูกนายอีก ... ชีวิตนายช่างน่าอับเฉาเกินไป
เขาตกเป็นเหยื่อในการล้อเล่น และความเห็นอกเห็นใจจากผู้ชมในท้ายที่สุด
“ทุกคน ผมจะตอบคำถามข้อสุดท้าย ตอนนี้ก็ผ่านมานานมากแล้ว”
-จะปิดสตรีมแล้วเหรอ !?
-ไม่เอาน่า !!ฉันจะโดเนทให้อีก
-มีบริการโดเนทแลกเพลงไหม !?หรือบอสแสดงเพลงดาบมือเดียวให้เราดูได้ไหม !?
-สตรีมแค่สามชั่วโมงเอง !?นี่มันสั้นเกินไปแล้ว
“ทุกคนครับ สามชั่วโมงมันก็ไม่สั้นหรอกจริงไหม !?นอกจากใบหน้าของผมแล้วทุกคนก็รู้เกือบทุกอย่างเกี่ยวกับผมไปจนหมดแล้ว”
แม้ว่าใบหน้าของ ฮยอนอู จะยังคงซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก แต่เหล่าผู้ชมกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก ราวกับมันเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระสำหรับพวกเขา
‘ไม่ดีแน่ถ้าพวกเขาไม่พอใจ ...’
ฮยอนอู ตัดสินใจที่จะใช้ไพ่ตายของเขาออกมา “ถ้างั้นผมจะเรียก ทังอี ออกมาก่อนจะตอบคำถามสุดท้าย”
-ใช่แล้ว เรียก ทังอี ออกมาเลย
-ให้ ทังอี ออกมา
-อะไรนะ !?เพิ่งจะยอมให้ ทังอี ออกมาตอนนี้เนี่ยนะ !?
-ฉันรอมาตั้งสามชั่วโมงแล้ว TT^TT
การตอบสนองของผู้ชมเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อพูดถึง ทังอี การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับ ฮยอนอู ค่อย ๆ หายไปจากช่องแชท และถูกแทนที่ด้วยคำชื่นชมถึง ทังอี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแผนการของ ฮยอนอู ได้ผลดีกว่าที่คาดไว้
“ทังอี ออกมา”
หลังจากการวิวัฒนาการครั้งแรกของ ทังอี วงแหวนเวทมนตร์สำหรับอัญเชิญเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นอกจากลวดลายของวงแหวนเวทมนตร์ที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังมีแสงสว่างสามสีที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ด้วย
“นายท่าน !!” ขณะที่ ทังอี กระโดดเข้าหา ฮยอนอู มันทำให้เขาดูเหมือนลูกสุนัขที่ขนปุกปุย
-อ๊า ... หัวใจของฉัน
-ฉันต้องไปหาสัตว์เลี้ยงบ้างแล้ว
-ตอนนี้ดูเหมือนราคาไข่สัตว์เลี้ยงจะแพงกว่าเดิมมากทีเดียว ดูเหมือนจะมีคนหลงเสน่ห์ ทังอี มากเกินไปทำให้ไข่สัตว์ราคาขึ้นขนาดนี้
-ฉันต้องไปซื้อเหมือนกัน ฉันอยากฟักไข่ของฉันบ้าง
“ทังอี ทักทายทุกคนสิ”
“ท่านบ้าไปแล้วเหรอนายท่าน !?อยู่ ๆ จะมาให้ข้าพูดกับอากาศแบบนี้ ... ถ้าอยากทักทายท่านก็ทำก่อนสิ” ทังอี โพล่งใส่ ฮยอนอู
ขณะที่ ทังอี พูดออกมานั้น เขาก็เตรียมใช้สกิลสายฟ้าฟาดไปที่ใบหน้าของ ฮยอนอู ไปด้วย
“อ๊ะ !!” ทันใดนั้น ฮยอนอู ก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสวมหน้ากากอยู่ และตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
“อืม ... ทุกคน ผมต้องทำแบบนี้เพราะ ทังอี ชอบ ทุกคนชอบการแสดงของผมหรือเปล่า !?”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ชมคนไหนถูกหลอก และทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะกลั่นแกล้ง ฮยอนอู
-เขาบลัฟอีกแล้ว
-สมแล้วที่เป็นราชาจอมอวดดี
-ไหวพริบของเขาคือของจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้เขากำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ฮยอนอู ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับข้อความในช่องแชท มันเป็นการตอบสนองที่เป็นปกติมากเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทมนตร์ของ ทังอี อย่างไรก็ตาม ผู้ชมยังไม่รู้ถึงเรื่องนี้ เพราะวีดีโอการต่อสู้ในถ้ำแมงมุมเหมืองยังไม่ถูกอัพโหลด เห็นได้ชัดว่าเหล่าผู้ชมค่อนข้างประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็น
‘พลังโจมตีของเขาคงพอ ๆ กับจอมเวทระดับสูงหลาย ๆ คน’
“เอาล่ะ มาทักทายทุกคนกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะทำก่อนก็แล้วกัน”
ฮยอนอู แตะหลังของ ทังอี เพื่อบังคับให้เขาโค้งคำนับ
“อึก ไอ้เจ้านายงี่เง่า”
-ว้าว ...
-มันไม่ใช่เรื่องตลกเลย
-ฉันอยากได้สัตว์เลี้ยงแบบเขาจริง ๆ
-ทังอี น่ารักจัง
-ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเป็นแฟนของ ทังอี บริจาค 2,222 ทอง
-ทังอี ผู้น่ารัก บริจาค 1,004 ทอง
“ขอบคุณสำหรับการโดเนทนะครับ ทุกคนลองสังเกตที่ ทังอี กันสักหน่อยสิ” ฮยอนอู พูดพร้อมกับกอด ทังอี ไว้ในอ้อมแขน “ไม่ใช่ว่าขนของ ทังอี เปลี่ยนไปนิดหน่อยใช่ไหม !?”
-ฉันกำลังจะตายเพราะความน่ารักของ ทังอี
-ตุ๊กตาหมี ทังอี
หลังจากนั้นไม่นาน ฮยอนอู ก็รู้สึกว่าถึงเวลาที่จะต้องจบการสตรีมครั้งนี้แล้ว และเขาไม่มีมุกใหม่ให้เล่นอีกต่อไป
‘ฉันจะต้องจบเรื่องนี้แล้ว’
“จากนี้ไปจะเป็นคำถามสุดท้ายแล้วนะครับ”
ข้อความจำนวนมากปรากฏขึ้นในช่องแชทอย่างรวดเร็ว เมื่อ ฮยอนอู ประกาศออกมา
‘ฉันควรเลือกคำถามไหนดีที่จะเหมาะเป็นคำถามสุดท้าย !?’
ไม่รู้ว่า ฮยอนอู ต้องพยายามมากแค่ไหนในการสตรีม เขาคัดเลือกคำถามตามระดับความน่าประทับใจมาโดยตลอด แต่หากเขาไม่สามารถมองหาคำถามสุดท้ายที่สามารถปิดการสตรีมได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้วนั้น มันคงเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดอย่างยิ่งแน่นอน
-ไม่เป็นมืออาชีพ บริจาค 9,999 ทอง
“ขอบคุณ คุณไม่เป็นมืออาชีพ สำหรับการโดเนท 9,999 ทอง”
เมื่อเห็นการบริจาคทองก้อนใหญ่ และชื่อมืออาชีพ มันก็ทำให้ ฮยอนอู นึกถึงคำพูดของทีม JT Telecom เมื่อคืนที่ผ่านมา “ถ้างั้นผมจะถือว่านี่เป็นคำถามสุดท้ายนะครับ เขาถามผมว่าผมจะผู้เล่นมืออาชีพไหม !?มันเป็นคำถามที่ผมเคยถามตัวเองมาก่อน ดังนั้น ...”
-คุณกำลังพยายามทำมันอยู่ใช่ไหม !?
-ไม่มีทาง แล้วการสตรีมล่ะ !?
-ฉันก็ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเพิ่งได้ข่าวจากพี่ชายของฉันว่า อัลเลย์บอส เพิ่งได้รับสปอนเซอร์รายใหญ่จำนวนมากเมื่อเร็ว ๆ นี้
-แค่ NIKE อย่างเดียวไม่พอเหรอ !?
ฮยอนอู หยุดพูดครู่หนึ่งเพื่อเป็นการสร้างความตึงเครียดให้กับผู้ชม จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เปิดปากพูดขึ้นอีกครั้ง “ผมจะเป็นผู้เล่นมืออาชีพเมื่อไหร่ก็ได้ที่ผมอยากทำ แน่นอนว่ามันเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ แต่ ...”
ฮยอนอู หยุดพูดอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เพื่อเป็นการแก้แค้นคำพูดไร้สาระที่เขาได้ยินมาเมื่อคืนนี้
“ผมอยากจะบอกว่า การเป็นผู้เล่นมืออาชีพไม่ได้หมายความว่าคุณจะเก่งเป็นพิเศษ แน่นอนว่าพวกเขาเป็นผู้เล่นที่มีฝีมือ และส่วนใหญ่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทว่าอันดับหนึ่งในอารีน่าไม่ใช่ผู้เล่นมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนในท็อป 100 ที่ไม่ได้เปิดตัว จากการคาดเดาของผม ผมคิดว่าน่าจะมีอัตราส่วนอยู่ที่ 6:4”
ระเบิดลูกใหญ่ที่ ฮยอนอู เพิ่งขว้างออกมาทำให้เกิดสงครามย่อม ๆ ขึ้นกลางห้องสตรีมของเขา การโต้เถียงระหว่างผู้เล่นมืออาชีพ และผู้เล่นปกติ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานแล้ว
-นี่ใช่ อัลเลย์บอส จริงเหรอ !?
-เขากล้าบอกว่าผู้เล่นมืออาชีพไม่ได้เก่งขนาดนั้น นี่มันเป็นการวางกับดักชัด ๆ
-ฉันก็อยากจะคิดว่ามันเป็นกับดักเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาคือ เทพบอส
-ฉันเห็นด้วย ผู้เล่นมืออาชีพส่วนใหญ่อีโก้สูงกันทั้งนั้น การต่อสู้ในลีกน่าเบื่อกว่าการต่อสู้ในแรงค์สูง ๆ ของโคลอสเซียมซะอีก
ฮยอนอู พยักหน้าเบา ๆ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้เล่นปกติกับผู้เล่นมืออาชีพสำหรับเกม RTS (กลยุทธ์เรียลไทม์) , เกม FPS (เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง) และเกม AOS อย่างไรก็ตาม เกมเสมือนจริงในปัจจุบันไม่มีช่องว่างเหล่านั้นอีกต่อไป และคนที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารขนาดใหญ่ที่ถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น กลับไม่เคยเป็นผู้เล่นมืออาชีพมาก่อน
ทำไมน่ะเหรอ !?มันเป็นเพราะในอดีตการเป็นผู้เล่นมืออาชีพแทบจะเป็นหนทางเดียวในการสร้างรายได้จากการเล่นเกม ส่วนคนที่สามารถสร้างรายได้จากการสตรีมนั้น ส่วนใหญ่พวกเขาเป็นคนที่มีความสามารถในการสตรีมมากกว่าการเล่นเกม
แต่ในปัจจุบันมันแตกต่างออกไป ผู้เล่นมืออาชีพเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งในการกอบโกยรายได้ และชื่อเสียง แต่หากสนใจเพียงแค่รายได้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เล่นมืออาชีพ แม้ว่าจะไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แต่หากมีฝีมือมากพอก็สามารถสร้างรายได้ได้เช่นกัน
สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้บน A-World
“ทำไมผมถึงพูดแบบนี้รู้ไหม !?เมื่อคืนระหว่างที่ผมกำลังพักจากการทำงาน ผมบังเอิญไปได้ยินอะไรบางอย่างจากสตรีมของบางช่องกำลังพูดถึงรายการศึกราชันหน้ากาก พวกเขาบอกว่าผู้เล่นมืออาชีพจะไม่เอาจริงกับผู้เล่นทั่ว ๆ ไป ถ้าร็อคเอาจริงไม่มีทางที่ อัลเลย์บอส จะเอาชนะเขาได้ ... บลา ๆ....”
-โว้ว !!ใครมันเป็นคนพูด
-ฉันเห็นเมื่อคืนเหมือนกัน ดูเหมือนมันจะเป็นสตรีมของทีม JT Telecom
-JT Telecom อวดดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ !?ไม่ใช่ว่าพวกเขาทำผลงานได้ห่วยมากในลีกปีที่แล้วไม่ใช่เหรอ !?
-เกาหลีไม่ใช่ต้นกำเนิดผู้เล่นมืออาชีพอยู่แล้ว พูดตามตรงพวกเขาก็แค่มือโปรในนามแค่นั้นแหละ
-พวกเขากล้าเดิมพันลบตัวละครกับ เทพบอส รึเปล่า !?ฉันรับรองได้เลยว่า เทพบอส จะต้องไปไล่ลบตัวละครของพวกเขาเรียงตัวแน่นอน
“แน่นอน ผมรู้ว่าถ้าว่าการเป็นผู้เล่นมืออาชีพหมายถึงอะไร ดังนั้น เราจะไม่ตัดสินจากระดับเลเวล”
-ถ้ากลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพแล้วจะทำให้เวลาในการเล่นอารีน่าลดลง พวกเขาจะต้องใช้เวลาไปกับการฝึกซ้อม PVP ด้วยตัวละครที่ผู้พัฒนาเกมกำหนด
-นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นมืออาชีพส่วนใหญ่มีระดับเลเวลไม่สูงมากนัก
-สุดยอดไปเลยควินซี่ ลีกมืออาชีพเป็นความบันเทิงของสาธารณชน และมันทำให้เนื้อหาการสตรีมที่แปลกใหม่ลดลงไปเรื่อย ๆ นี่คือวิธีการแก้ปัญหาที่ยอดเยี่ยมแล้วใช่ไหม !?
-ว่าก็ว่าเถอะ ถ้า เทพบอส เป็นผู้เล่นมืออาชีพจริง ๆ เขาคงไม่ต้องฝึกซ้อมแบบเอาเป็นเอาตายหรอกมั้ง
อย่างที่เหล่าผู้ชมได้พูดออกมา ทันทีที่กลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพ พวกเขาจะมีเวลาเล่นอารีน่าน้อยลง เหตุผลหลัก ๆ ก็คือ การแข่งขันระดับโปรลีกประกอบไปด้วยสามอย่างก็คือ PVP , เรด และสงครามตีเมือง ในกรณีของการเรด และสงครามตีเมือง ผู้เล่นมืออาชีพจะต้องใช้ตัวละครของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับการ PVP แล้วจะไม่อนุญาตให้ผู้เล่นที่มีคลาสอาชีพระดับแรร์ขึ้นไปเข้าร่วมได้ ผู้เล่นจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันด้วยคลาสอาชีพพื้นฐานอย่างเช่น นักรบ , นักธนู , จอมเวท และอื่น ๆ ได้เท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ความนิยมในการแข่งขัน PVP สูงมาก และผู้เล่นมืออาชีพส่วนใหญ่จึงหมั่นฝึกฝนการ PVP เป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ตัวละครที่ถูกนำมาใช้ในการ PVP จะไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับอารีน่า พวกเขาจะไม่ได้รับค่าประสบการณ์แม้แต่หน่วยเดียว ด้วยเหตุนี้ควินซี่จึงเสนอรางวัลให้กับผู้เล่น PVP ชั้นนำในอารีน่า อย่างไรก็ตาม ปัญหายังคงมีอยู่ รางวัลที่ควินซี่มอบให้เป็นสิ่งที่ดี แต่เนื่องจากระดับเลเวลตัวละครของผู้เล่นมืออาชีพไม่ได้สูงมากนัก พวกเขาจึงไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพที่เหมาะสมในการเรด และสงครามตีเมืองออกมาได้
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เล่นมืออาชีพหันมาใช้น้ำยาเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ ฮยอนอู คือขาย พวกเขาจะเก็บสูตรการผลิตน้ำยาชนิดนี้ไว้เป็นความลับ ระดับเลเวลในปัจจุบันของพวกเขาเกิดจากการใช้น้ำยาเพิ่มค่าประสบการณ์ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงไม่มีทางเพิ่มระดับเลเวลให้สูงกว่า 100 ได้แน่นอน
“ผมจะพูดให้ชัดเจนตรงนี้ อย่างที่ทุกคนรู้ ผมเป็นคนรักษาสัญญา ทีมนั้น .. ผมจะเป็นคนบดขยี้พวกเขาเองเมื่อผมได้กลายเป็นผู้เล่นมืออาชีพแล้ว ล้างคอรอไว้ได้เลย”
“ถ้าไม่ความสามารถจริง ๆ ก็แค่เงียบปากไว้มันจะไม่ง่ายกว่าเหรอ !?” ดวงตาของ ฮยอนอู ดูเหมือนจะลุกโชนขึ้นด้วยเปลวไฟ
.....
การสตรีมของ ฮยอนอู จบลงแล้ว แต่ทว่าคำพูดที่เขาได้ทิ้งท้ายเอาไว้ก็ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ในกระทู้ของอารีน่าอีกครั้ง จากสิ่งที่ อัลเลย์บอส ได้พูดไว้ในสตรีมมันทำให้ผู้คนติดตามเบาะแสจนพบว่ามันคือคำพูดจากสตรีมของ JT Telecom
[JT Telecom บ้าไปแล้วเหรอ !?]
-พวกเขาแทบจะอยู่ในอันดับสุดท้ายในลีกของปีที่แล้ว แต่ตอนนี้พวกเขากลับกล้าพูดแบบนั้นกับ เทพบอส !?พวกเขาไม่มีความละอายใจบ้างเหรอ !?ในฐานะของผู้เล่นมืออาชีพงั้นเหรอ น่าขำ !!แล้วทำไม เรน่า ถึงได้แพ้ให้กับ เทพบอส ถึงสองครั้ง !?หรือจะมีคนบอกว่า เรน่า ยอมแพ้ให้เขา !?
-ยูลแจดื่มนม : ออมมือคือข้อเท็จจริง
-Power Muscle King : ไม่ใช่การออมมืออะไรหรอก ก็แค่ลูกเจี๊ยบของ JT Telecom อ่อนเกินไปมากกว่า
-สัมผัสแห่งความตาย : ก็นั่นแหละนะ ไม่มีทั้งฝีมือ แล้วก็ไม่มีทั้งความรับผิดชอบ นี่ยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอีกด้วย
กระแสของเรื่องนี้ทำให้ JT Telecom ถูกผลักขึ้นเขียงต่อหน้าสาธารณชน พวกเขาถูกยำจนเละต่อหน้าทุก ๆ คนราวกับเหยื่ออันโอชะที่ไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อย ๆ
“ฉันพอใจกับมันมากทีเดียว” ฮยอนอู ยิ้มอย่างพึงพอใจ “พวกนั้นกล้าเยาะเย้ยฉันแบบนี้ พวกเขาก็สมควรชดใช้ใช่ไหม !?”
.....
ขณะที่ ฮยอนอู กำลังยิ้มอย่างผู้มีชัยอยู่นั้น NIKE ก็กำลังยิ้มอยู่เช่นกัน แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มในทิศทางเดียวกัน มันคือการยิ้มอย่างขมขื่น เพียงกี่ชั่วโมงหลังจาก อัลเลย์บอส ขว้างระเบิดผ่านทางอีเมลล์มานั้น ระเบิดอีกลูกก็ถูกขว้างออกมาติด ๆ กันผ่านการสตรีมของเขา
คราวนี้ไม่ใช่แค่คนที่มีชื่อเสียง แม้แต่คนรู้จักก็ยังติดต่อเข้ามา ...
-เจมี่ สบายดีไหม !?
พายุไต้ฝุ่นแห่งฮอลลีวูด เจ้าของเสียงที่ร่าเริงนี้ก็คือ ดเวย์น อีแวนส์
ขณะเดียวกัน น้ำเสียงของ เจมี่ กลับไม่ค่อยสู้ดีนัก “เอ่อ .. ดเวย์น ก็สักพักแล้วนะ ว่าแต่คุณติดต่อมาเรื่องอะไรเหรอ !?”
-จะเรื่องอะไรล่ะ !?ผมอยากสมัครเป็นนักเรียนของ อัลเลย์บอส ผมถึงได้โทรมาหาคุณ
“แม้แค่คุณก็ด้วยเหรอ !?วันนี้ผมได้ยินประโยคนี้มาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ว่าแต่คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง !?”
-คุณไม่รู้เหรอ !?อัลเลย์บอส ประกาศในสตรีมของเขา ฉันโดเนทให้กับเขาเพราะอยากเรียนกับเขา !!การได้เป็นนักเรียนของเขามันคุ้มค่ากับเหรียญทองที่เสียไปพวกนั้น
‘พระเจ้า !!’ เจมี่ ตกใจกับคำพูดของ ดเวย์น อีแวนส์ ข่าวพวกนี้แพร่งพรายออกมาจากไหน !?มันเป็นเพราะ อัลเลย์บอส ประกาศออกไปด้วยตัวเอง
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะใส่ชื่อของคุณในการจับฉลากก็แล้วกัน”
-ขอบคุณมาก เจมี่ !!ว่าแต่ตอนนี้มีคนสมัครเข้ามากี่คนเหรอ !?มีกี่คนที่มีชื่อเสียงมากกว่าผม ผมอยากเรียนรู้จาก อัลเลย์บอส จริง ๆ นะ
เจมี่ นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อนับรายชื่อบนหน้าจอ
“เจ็ด คุณเป็นคนที่แปด ตอนนี้มีอยู่แปดคน”