77
บทที่ 77
อะไรที่ทำให้ ฮยอนอู หัวเสียได้ขนาดนี้ !?มันเป็นคำพูดจากใครบางคนของทีม JT Telecom ที่ตอบคำถามของผู้ชม
จอง ฮันแบค จากทีม JT Telecom ได้เข้าร่วมรายการศึกราชันหน้ากาก เขาพ่ายแพ้ให้กับ อัลเลย์บอส ถึงสองครั้ง และถูกบังคับให้ถอดหน้ากากเพื่อเปิดเผยตัวตนหลังจากพ่ายแพ้ครบสามครั้งเป็นคนแรก แต่ทว่าปัญหามันเกิดขึ้นระหว่างที่เขาตอบคำถามของผู้ชมที่กำลังดูสตรีมของทีม
-ร็อค ในรายการคุณไม่อ่อนแอเกินไปเหรอ !?คุณมีระดับเลเวลสูงเป็นอันดับสองในหมู่ผู้เข้าแข่งขันรอบนั้น แต่คุณกลับเป็นคนแรกที่ตกรอบ แบบนี้มันจะไม่ทำให้ JT Telecom เสียหน้าเหรอ !?
คำถามจากผู้ชมค่อนข้างรุนแรง แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่การอคติ มันเป็นเพียงการหยิบยกความจริงขึ้นมาพูด
“ไม่หรอกครับ ศึกราชันหน้ากากเป็นรายการเพื่อสร้างความบันเทิง สำหรับเราที่เป็นผู้เล่นมืออาชีพแล้ว เราก็ไม่ควรเอาจริงกับมือสมัครเล่นจริงไหม !?ฮันแบค ก็แค่สร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมเท่านั้น นั่นไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของเขาหรอก”
จนถึงตอนนี้ ฮยอนอู ยังพอทำความเข้าใจได้ ว่าในฐานะผู้เล่นมืออาชีพแล้ว พวกเขามีเกียรติที่ต้องรักษาเอาไว้
-ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วทำไมคุณถึงแพ้ให้กับ อัลเลย์บอส ถึงสองครั้ง !?ทั้ง ๆ ที่ระยะเลเวลต่างกันมากกว่า 70 ระดับ !?นี่มันเป็นสิ่งที่ขัดจากการเป็นมืออาชีพด้วยหรือเปล่า !?
“ตอนแรกมันดูจะเป็นแบบนั้น แต่ผมรู้ดีว่าเขาคือ อัลเลย์บอส และผมจะบอกอีกครั้ง สำหรับผู้เล่นมืออาชีพอย่างเราแล้ว เราไม่มีทางเอาจริงกับมือสมัครเล่นแน่นอน”
นี่คือสิ่งที่ทำให้ ฮยอนอู โกรธ พวกเขาใช้คำพูดที่ชาญฉลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา และปฏิเสธว่าตัวเองยังขาดความสามารถไปในตัว
“พูดตามตรงแล้วเขาเป็นเหมือนลูกปลาตัวเล็ก ๆ ด้วยความต่างเกินกว่า 70 เลเวล ถ้าผมเอาจริง ผมเอาชนะเขาได้ใน 30 วิ ด้วยซ้ำ แต่เพราะมันเป็นรายการเพื่อความบันเทิง เลยไม่มีเหตุผลอะไรให้ผมต้องจริงจังกับการต่อสู้แบบนั้น”
นี่คือสิ่งสุดท้ายที่ ฮยอนอู ได้เห็น และได้ยินก่อนออกจากแคปซูลเพื่อยับยั้งความโกรธของตัวเอง
.....
หลังจากดูสตรีมเป็นเวลาสั้น ๆ ฮยอนอู ก็ใช้เวลาอีกกว่าสองชั่วโมงหน้าโน้ตบุ๊ก และในที่สุดเขาก็ตอบกลับอีเมลล์ของ เคล ได้ในที่สุด
-Hermes , Rolex และ Armani
นี่คือคำตอบของ ฮยอนอู หลังจากอ่านข้อเสนอทั้งหมดที่มีมากกว่า 500 หน้า
“อา ... ง่วงชะมัด”
ฮยอนอู ส่งอีเมลล์ก่อนจะผล็อยหลับไปบนเตียง
.....
“ฮันแบค ครั้งนี้พวกเราช่วยนายแล้วนะ แต่มันจะไม่มีครั้งต่อไปอีก ... ฉันไปก่อนนะ” คิม จินยอง หัวหน้าทีม JT Telecom พูดอย่างเด็ดขาดกับ จอง ฮันแบค
ความจริงแล้ว คิม จินยอง ไม่เห็นด้วยกับการตอบคำถามในวันนี้นัก แต่เป็นเพราะเห็นแก่ จอง ฮันแบค และศักดิ์ศรีของทีม เขาจึงต้องยอมยื่นมือเข้าไปช่วยในครั้งนี้
“ขอบคุณครับพี่” จอง ฮันแบค โค้งคำนับเพื่อแสดงความขอบคุณ อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขากลับไม่ได้บ่งบอกถึงการขอบคุณแต่อย่างใด
‘ครั้งเดียวงั้นเหรอ !?สุนัขอย่างแกต้องทำทุกอย่างตามที่ฉันขอนั่นแหละ’
สีหน้าของ จอง ฮันแบค กลับมาบึ้งตึงอีกครั้งเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ตอนนี้สมาชิกทีมคนอื่น ๆ ต่างย้ายไปอีกห้องแล้ว เพราะในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องกลับเข้าไปในอารีน่าอีกครั้ง
จอง ฮันแบค ตัดสินใจที่จะเข้าไปในอารีน่าเช่นกัน ขณะเดียวกันนั้น ยูบิน เพื่อร่วมห้องพักของ จอง ฮันแบค ก็เดินไปยังห้องนั่งเล่นอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้ จอง ฮันแบค ได้ยิน ทุกคนในทีมต่างมารวมตัวอยู่ที่นี่ โดยที่ทุกคนต่างก็มองไปยังหน้าจอโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง
“นั่นมันสกิลคำอวยพรแห่งภูติไม่ใช่เหรอ !?”
“ผมก็คิดแบบนั้น มีเพียงสกิลนี้สกิลเดียวในหมู่สกิล หรือไอเทมทั้งหมดของ ฮันแบค ที่มีเอฟเฟกต์แบบนี้ แต่ว่าโค้ชไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้เขาใช้มันหรอกเหรอครับ !?” ยูบิน ตอบคำถามของ คิม จินยอง
“นั่นแหละปัญหา แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือ เขาใช้มันออกไปแล้ว แบบนี้ข้อมูลจะไม่แพร่กระจายไปในกระทู้ของอารีน่าหมดแล้วเหรอ !?”
“มันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ เป็นความจริงที่เขาพ่ายแพ้ ไม่ว่าเขาจะพยายามปกปิดมันแค่ไหน แต่ข้อเท็จจริงนี่ก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก”
คิม จินยอง ยิ้มอย่างขมขื่นให้กับคำพูดของ ยูบิน
‘ฉันควรปรามเขาบ้างหลังจากนี้’
“เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งหลังจากเริ่มลีก ตอนนี้เราต้องสามัคคีกันเอาไว้ก่อน”
คำพูดของ คิม จินยอง ทำให้สีหน้าของ ยูบิน และคนอื่น ๆ ในทีมหม่นหมองลงอย่างช่วยไม่ได้
.....
กว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมานับจากพื้นที่เทือกเขาเฮจินเปิดเผยต่อโลกอารีน่า อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือไม่มีใครสามารถก้าวเท้าเข้าไปในเทือกเขาเฮจินได้ ยกเว้นเพียงแรงค์เกอร์อันดับต้น ๆ มีหลายคนที่ไม่สามารถผ่านพื้นที่ด้านหน้าของเทือกเขาได้ด้วยซ้ำ
ในเวลานี้มีชายคนหนึ่งกำลังนอนเล่นอย่างสบายใจในเทือกเขาเฮจิน เขาสวมชุดหนังสีดำที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษ
“เฮ้อ ... วันนี้ฉันจะทำอะไรดี !?”
ตัวตนของชายที่กำลังถอนหายใจออกมาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ฮยอนอู เขาค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับการสตรีมที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
“ฉันลืมคิดถึงมันไปเลย ไม่งั้นฉันคงเก็บการลุยดันเจี้ยนถ้ำแมงมุมเอาไว้ตอนสตรีมก็ได้หรอก”
ฮยอนอู กำลังปวดหัวกับการมองหาเนื้อหาในการสตรีมของเขา เวลาเพิ่งผ่านมาได้หนึ่งเดือนเท่านั้น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่มีเนื้อหาอะไรเลยสำหรับการสตรีม
“ให้ ยองชาน มารับหน้าที่พิธีกรของรายการศึกราชันหน้ากาก แล้วปล่อยให้ NIKE จัดการส่วนที่เหลือทั้งหมด ...”
ฮยอนอู ไม่มีเนื้อหาอีกต่อไป โคลอสเซียม , การล่ามอนสเตอร์ , เรดบอส , การเล่นตลก .... เนื้อหาทั้งสี่คือตัวตนของ อัลเลย์บอส โดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม มันคงไม่สามารถใช้ได้อีกเมื่อมูลค่าในชื่อเสียงของเขาเพิ่มสูงขึ้นจนแตะเพดานแบบนี้
‘ฉันต้องพยายามให้มากขึ้นหากอยากรักษาสถานะในตอนนี้เอาไว้’
ฮยอนอู อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น เมื่อเขาคิดถึงอนาคตที่ตัวเองต้องทำตัวเหมือนสตรีมเมอร์คนอื่น ๆ เพื่อให้ได้รับความสนใจจากผู้ชม สตรีมเมอร์ของอารีน่าคืออาชีพที่สามารถสร้างรายได้มหาศาล นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับรู้ ดังนั้น การแข่งขันระหว่างสตรีมเมอร์ด้วยกันจึงรุนแรงมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถแสดงทักษะที่เหนือกว่าเหมือนอย่าง ฮยอนอู ได้ พวกเขาสามารถนำเสนอตัวเองได้ในการต่อสู้ภายใต้ชุดบ้า ๆ, การสำรวจพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีผู้เล่นแวะเวียนไป หรือแม้แต่การเพลิดเพลินไปกับอาหารเลิศรสในอารีน่า แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถกลายเป็นสตรีมเมอร์ที่ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างได้
ตลาดแบบนั้นคือตลาดเฉพาะ และมันเป็นการแข่งขันสำหรับสตรีมเมอร์ที่ไม่สามารถกลายเป็นกระแสหลักของอารีน่าได้ หากต้องการเป็นกระแสหลักที่ถูกพูดถึง พวกเขาจำเป็นต้องผู้เล่นที่เก่งที่สุด หรือมีความสามารถในการต่อสู้ที่เก่งที่สุด หากขาดสิ่งเหล่านี้จะไม่มีทางกลายเป็นกระแสหลักได้
“ให้ฉันไปทำแบบนั้น ... ไม่ไหวล่ะมั้ง !?”
ฮยอนอู ลุกขึ้นนั่ง ทันใดนั้นความคิดบางอย่างก็จุดประกายในใจของเขา มันคือรายการที่เขาสามารถทำหน้าที่พิธีกรได้ด้วยตัวเอง และไม่จำเป็นต้องใช้ต้นทุนสูงแบบรายการศึกราชันหน้ากาก
“ฉันจะเชิญคนดังที่ยังไม่ติดอันดับในโคลอสเซียมมาสอนการต่อสู้ ถ้าพวกเขาขาดทักษะ ฉันจะสอนสองสามอย่างให้กับพวกเขาเพื่อให้สามารถไต่อันดับในโคลอสเซียมได้”
ฮยอนอู พยักหน้ากับตัวเองหลายครั้งก่อนจะหายตัวไปจากเทือกเขาเฮจิน
เขาตัดสินใจที่ตีเหล็กขณะที่มันยังร้อนอยู่ทันที
.....
“ฉันต้องขอความคิดเห็นจาก เคล ก่อน”
สิ่งแรกที่ ฮยอนอู ทำหลังออกมาจากแคปซูลก็คือส่งอีเมลล์ถึง เคล
[ถึง เคล ]
[ผมเสียใจที่ต้องบอกเรื่องสำคัญกับคุณผ่านทางอีเมล ]
[ผมคิดว่ารายการศึกราชันหน้ากากใหญ่เกินไปที่จะเป็นเนื้อหาสตรีมของผม นอกจากนี้ผมยังมีเป้าหมายอื่นอยู่ และเป้าหมายของผมไม่ใช่การเป็น MC ของรายการศึกราชันหน้ากาก สำหรับคนที่จะมาทำหน้าที่แทนผม ผมคิดว่าคุณลองถามเพื่อนของผม อาร์กอน เขาน่าจะเหมาะสมกับหน้าที่นี้ที่สุด]
[ผมอยากจะเริ่มเนื้อหาใหม่สำหรับการสตรีมของผม ]
[เนื้อหาใหม่ในการสตรีมของผมมีชื่อว่า บรอนซ์ไม่ได้ยากเกินไปใช่ไหม !?ผมตั้งใจที่จะเชิญคนดังมาร่วมรายการ และมันจะดีมากหากพวกเขาเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นเกี่ยวกับอารีน่า และยิ่งพวกเขาเป็นที่จับตามองของสาธารณชนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ผมไม่เกี่ยงเรื่องเพศ แต่ขอให้พวกเขาเป็นคนอัธยาศัยดีก็พอ ]
[กำหนดเวลาคือวันศุกร์ หากสตรีมสั้นเกินไปผมจะแบ่งเป็นสองอีพี แต่หากยาวเกินไปผมจะแบ่งออกไปสามอีพีแทน ]
[ปล. ขอโทษนะครับ คุณเคล ]
“เท่านี้ เคล คงจะเข้าใจแล้ว”
รายการศึกราชันหน้ากากใช้เวลาในการถ่ายทำมากเกินไป มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกชั่วโมงในการถ่ายทำแต่ละครั้ง แม้ว่าระยะเวลาในการถ่ายทำยิ่งนานยิ่งทำให้รายได้มากขึ้นตามไปด้วยก็ตาม แต่ด้วยระยะเวลาขนาดนี้ ฮยอนอู สามารถใช้เวลาไปกับการล่าเพื่อเพิ่มระดับ หรือทำภารกิจต่าง ๆ ได้อีกมาก นอกจากนี้ ความมั่นคงที่เขาจะใช้การชำระหนี้ก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว แม้ว่าจะไม่ต้องพึ่งพารายการศึกราชันหน้ากากก็ตาม
สิ่งที่เหลืออยู่ของเขาคือการแก้แค้น จอง ฮันแบค เขาบดขยี้ จอง ฮันแบค ไปแล้วในศึกราชันหน้ากาก แต่นั่นยังไม่เพียงพอ อัลเลย์บอส ได้เอาชนะ ร็อค ดาบอินทรี ได้ แต่ไม่ใช่ ฮยอนอู เอาชนะ จอง ฮันแบค ได้ เป้าหมายสูงสุด ฮยอนอู คือการเป็นมืออาชีพ และเอาชนะ จอง ฮันแบค ในลีกของมืออาชีพต่อหน้าทุกคน เมื่อถึงเวลานั้น จอง ฮันแบค จะไม่สามารถพูดได้อีกว่าตัวเองคือมืออาชีพของอารีน่าอีกต่อไป
“ตอนนี้ฉันต้องคุยกับ ยองชาน”
ฮยอนอู หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหา ยองชาน เนื่องจากตอนนี้ ยองชาน ออกไปข้างนอกโดยทิ้งโน้ตไว้ว่าเขาจะกลับไปเยี่ยมครอบครัว อย่างไรก็ตาม ฮยอนอู รู้จักเพื่อนคนนี้ของเขาเป็นอย่างดี ความจริงแล้ว ยองชาน ไปออกเดทกับสาวมากกว่า
“ไม่งั้นเขาจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้าไปทำไม ทั้ง ๆ ที่มันเป็นวันจันทร์แบบนี้ !?”
แน่นอนว่าวันจันทร์คือวันทำงาน แต่นั่นไม่ได้หมายรวมถึงสตรีมเมอร์ ยองชาน สตรีมสี่ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งเขาจะสตรีมในวันอังคาร , วันพุธ , วันศุกร์ และวันอาทิตย์ มีหรือที่เขาจะไปหาญาติ ๆ ของเขาในวันทำงานสำหรับคนปกติ !?
สำหรับ ควอน ยองชาน แล้ว ข้ออ้างในการไปเยี่ยมครอบครัว .... มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ในที่สุด ยองชาน ก็รับสาย
“ยองชาน !!” ฮยอนอู พูดด้วยน้ำเสียงสดใส
-นายโทรมาทำไม !?เพิ่งตื่นเหรอ !?แล้วนายโทรมาหาฉันทำไม ไม่ใช่ว่านายต้องเตรียมตัวสตรีมหรอกเหรอ !?เสียงของ ยองชาน ดูสับสนเล็กน้อยเมื่อเขารับสาย
“ฉันกำลังจะไปที่บ้านนาย ฉันยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควรก่อนจะเริ่มสตรีม ฉันอยากเจอน้อง ๆ กับพ่อแม่ของนายสักหน่อย ตอนนี้นายอยู่ที่บ้านใช่ไหม !?” ฮยอนอู พูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
-นายจะมาบ้านฉันทำไม ค่อยมาครั้งหน้าก็แล้วกัน !!ยองชาน ตอบกลับด้วยเสียงลุกลี้ลุกลน
แม้แต่คนที่ไม่รู้จัก ยองชาน ยังสามารถบอกได้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องจริง นอกจากนี้เขายังพูดติด ๆ ขัด ๆ ราวกับคนติดอ่าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน และกำลังอยู่ระหว่างนัดบอร์ดกับสาวมากกว่า
‘เขาคงต้องฝันไปแล้วแน่ ๆ ที่คิดจะหนีจากกองทัพชายโสดไปคนเดียวแบบนี้’
ฮยอนอู เตรียมระเบิดลูกใหญ่สำหรับ ยองชาน เอาไว้ก่อนแล้ว ด้วยบุคลิกของ ยองชาน ไม่มีทางเลยที่เขาจะทำตัวเป็นปกติต่อหน้าคู่นัดบอร์ดของเขาได้ในตอนนี้
“จริงเหรอ !?ก็ได้ ไว้ฉันค่อยไปครั้งหน้าก็แล้วกัน แต่ว่าฉันมีบางอย่างอยากจะคุยกับนาย”
-อะไร !?รีบบอกมาเลย ตอนนี้ ยูริ กำลังเรียกหาฉันอยู่
ฮยอนอู ไม่สนในน้ำเสียงเร่งรีบของ ยองชาน เขาพูดสิ่งที่อยากจะพูดออกมาด้วยความผ่อนคลาย “นายมาเป็นพิธีกรรายการศึกราชันหน้ากากแทนฉัน ฉันได้บอกกับ NIKE เรื่องนี้แล้ว พวกเขาน่าจะติดต่อหานายในไม่ช้า นายเข้าใจไหม !?เอ้อ นอกจากเรื่องนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าเราควรไปนัดบอร์ดพร้อมกันไม่ใช่เหรอ นายไม่ควรไปคนเดียวหรอกจริงไหม !?”
จากนั้น ฮยอนอู ก็วางสายทันที แต่ก่อนที่เขาจะทันได้กดวางสายไปนั้น เหมือนกับเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องของ ยองชาน แวบหนึ่ง
“ฉันพูดทุกอย่างที่จำเป็นต้องพูแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับนายล่ะนะ”
ฮยอนอู จัดการปัญหาเรียบร้อยแล้ว เขากลับไปที่แคปซูลอีกครั้ง มันถึงเวลาที่เขาต้องสวมบทบาทเป็น อัลเลย์บอส อีกครั้งแล้ว
[ไขข้อสงสัยกับ อัลเลย์บอส ]
นี่เป็นชื่อสตรีมชั่วคราวของ ฮยอนอู เนื่องจากการเตรียมเนื้อหาสตรีมไม่ทัน