72
บทที่ 72
บรรยากาศภายในห้องสตรีมพลุ่งพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากผลลัพธ์ที่ปรากฏตรงหน้าในเวลานี้คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ขณะเดียวกัน ยองชาน ก็เริ่มถอดหน้ากากของเขาเช่นกัน
“สวัสดีครับทุกคน ผมสตรีมเมอร์ อาร์กอน วันนี้ผมมารับบทเป็น อัลเลย์บอส เพื่อทำหน้าที่พิธีกรแทนเขาครับ”
-ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนี้ถึงได้ดำเนินรายการได้อย่างราบรื่นขนาดนี้
-ดูเหมือนครั้งนี้จะไม่ใช่การหลอกลวงจริง ๆ สินะ
-ฉันเข้าใจแล้ว !!
-ว้าว ... ฉันไม่คิดมาก่อนเลยจริง ๆ
-ฉันคิดว่าฉันเห็นผีซะแล้ว
-นี่สิถึงจะเป็นพิธีกรมืออาชีพ
เหล่าผู้ชมเริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น และตกใจ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังหลีกหนีความสับสนไปไม่ได้ เนื่องจากระดับเลเวลในปัจจุบันของ อัลเลย์บอส นั้นอยู่ประมาณ 100 แต่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ ในรายการต่างก็มีระดับเลเวลสูงกว่า 180 ทั้งหมด
เขาเอาชนะความแตกต่างของระดับเลเวลที่มากเกือบเท่าตัวแบบนี้ได้ยังไง !?โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาต่อสู้กับ เรน่า ที่ถือว่าเป็นผู้เล่นหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในอารีน่า เธอไม่ได้ขาดทักษะหรือความสามารถไปแม้แต่ด้านเดียว แต่เธอกลับพ่ายแพ้ให้กับ โรแมนติคแอสซาซิน ถึงสองครัง
บางคนถึงกับบอกว่า วันนี้เป็น เรน่า ช่วยผลักดัน อัลเลย์บอส ให้ขึ้นสู่เวทีระดับโลกด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม สถิติการแข่งขันทั้งหมดของ อัลเลย์บอส ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง เขาเอาชนะทั้งหมดสามครั้ง และแพ้เพียงสองครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น การพ่ายแพ้ของเขาเกิดจากการสละสิทธิ์ของเขาเอง นั่นหมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้พ่ายแพ้อย่างแท้จริง
-ไม่ใช่ว่าเพราะที่นี่คือรายการศึกราชันหน้ากากหรอกเหรอ ถ้าไปเจอกับ เรน่า ในโคลอสเซียมจริง ๆ คงไม่มีใครเอาชนะเธอได้แน่
-ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังสตรีมอยู่ อัลเลย์บอส คงถูกอัดยับไปแล้ว
-เอาจริง ๆ เขาคงไม่ชนะสามครั้งแบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะเขามีข้อมูลของผู้เข้าแข่งขันทุกคนมากกว่าเลยทำให้เขาได้เปรียบกว่าคนอื่น ๆ
ผู้ชมหลายคนมองว่าชัยชนะของ ฮยอนอู เป็นเพราะโชคช่วย เขาไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้วก็เป็นความจริงอย่างน้อยก็ในตอนนี้ ‘ยิ่งฉันสู้กับเธอมากเท่าไหร่ โอกาสในการเอาชนะก็ยิ่งน้อยลงตามไปด้วย เพราะตอนนี้เลเวลของฉันยังน้อยมากเกินไป’
ฮยอนอู ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่น้อย ในเมื่อขณะที่เขายังระดับเลเวลน้อยอยู่แบบนี้ แต่กลับเอาชนะผู้เล่นแนวหน้าที่เข้าร่วมรายการได้แล้วนั้น มันก็หมายความว่าเขาจะสามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้อย่างแน่นอนเมื่อระดับเลเวลของเขาเพิ่มสูงขึ้น
“การสตรีมวันนี้จบลงแล้วครับ”
ศึกราชันหน้ากากเอฟพิโสดสองก่อให้เกิดความโกลาหล และความย้อนแย้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
.....
[อัลเลย์บอส เอาชนะ เจ้าหญิงน้ำแข็ง ]
[อัลเลย์บอส สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่]
[อัลเลย์บอส คือราชันหน้ากากตัวจริง]
อย่างที่ทุกคนคาดไว้ ฮยอนอู กลายเป็นศูนย์กลางของความข้อแย้ง การสตรีมของ ฮยอนอู แพร่กระจายไปทั่วแทบทุกกระทู้ของอารีน่า ทุกคนต่างพูดถึง อัลเลย์บอส นั่นทำให้มูลค่าของชื่อ อัลเลย์บอส เพิ่มสูงขึ้นอีกหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตาม ความนิยมของ อัลเลย์บอส ส่วนใหญ่ยังถูกจำกัดอยู่เพียงแค่บนแพลตฟอร์ม A-World เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับอารีน่าที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วทุกมุมโลกแล้วนั้น ชื่อเสียงของ อัลเลย์บอส ที่ได้รับจากรายการศึกราชันหน้ากากก็ทำให้เขาเปรียบเหมือนกับบริษัทขนาดใหญ่บริษัทหนึ่ง ซึ่งมันคือความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง
ขณะนั้น เสียงโทรศัพท์ของ ฮยอนอู ก็ดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็คือ เคล , ฮยอนอู รับสายของ เคล ด้วยความงุนงงเล็กน้อย “สวัสดีครับ คุณเคล”
-มิสเตอร์จี คราวนี้คุณทำเรื่องยิ่งใหญ่อีกแล้วนะครับ ยินดีกับคุณด้วยครับ
“ยินดี !?ยินดีเรื่องอะไร มีอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ !?”
-จากนี้ไปคงมีแบรนด์ต่าง ๆ ติดต่อมาเพื่อขอโฆษณากับช่องของคุณเพิ่มขึ้นอีกมากแน่นอน ทางที่ดีคุณควรคิดเกี่ยวกับแบรด์ที่ต้องการจะรับ และไม่ต้องการจะรับไว้บ้างก็ดีนะครับ
ฮยอนอู อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะให้กับคำพูดของ เคล จะมีแบรนด์ไหนติดต่อมาข้อโฆษณากับเขา !?
-จากไปนี้คุณอาจต้องตอบคำถามมากมายนับจากวันที่รายการออกอากาศ มันจะง่ายขึ้นสำหรับคุณถ้าคุณคิดเอาไว้ล่วงหน้า
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ !?”
-มิสเตอร์จี ดูเหมือนว่าคุณจะยังไม่รู้นะครับว่าตลาดของอารีน่ากว้างใหญ่แค่ไหน
เคล เงียบไปเล็กน้อย เขากำลังคิดอยู่ว่าจะหยิบยกใครขึ้นมาเป็นตัวอย่างในการอธิบาย
-ลองดู เรน่า เป็นตัวอย่างนะครับ ครั้งนี้คุณเอาชนะเธอได้ถึงสองครั้ง ตอนนี้เธอเป็นผู้เล่นที่มีรายได้มากกว่ากันล้านต่อปี รายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งมาจากโฆษณา และสปอนเซอร์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้สตรีมเป็นปกติ แต่เธอก็มีรายได้ที่สูงมาก แต่สำหรับคุณแล้ว คุณอาจได้รับรายได้มากกว่าเธอสอง .. ไม่สิ สามเท่าเลยด้วยซ้ำ
“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะลองคิดดูครับ”
ฮยอนอู ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย เขาคิดว่ามันยังไม่สายเกินไปที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง ดังนั้น หลังจากวางสายจาก เคล เขาก็สั่งอาหารมากินทันที
‘สั่งไก่ทอดมาดีไหม !?เจ้ายองชาน ชอบกินอะไรหว่า !?’
ฮยอนอู อยากจะเลี้ยงข้าว ยองชาน เป็นการตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับเขา
.....
หลังจากกลับมาถึงป้อมปราการลาทัส ฮยอนอู ก็มุ่งหน้าไปพบกับ เฮอราร์ด เพื่อขอรับรางวัลจากภารกิจ
[กวาดล้างมอนสเตอร์ในเทือกเขาเฮจิน ]
[เพื่อลดขนาดคลื่นมอนสเตอร์ที่จะเข้าจู่โจมป้อมปราการลาทัส จำเป็นต้องลดปริมาณมอนสเตอร์ในเทือกเขาเฮจินให้ได้มากที่สุด ]
[ระดับ : B]
[เงื่อนไข : กำจัดมอสเตอร์ในเทือกเขาเฮจิน 999/999 ]
[รางวัล : ค่าประสบการณ์ } สมบัติแห่งป้อมปราการลาทัส ]
“ผมจัดการมอนสเตอร์ในเทือกเขาเสร็จแล้วครับ”
“เจ้ากลับมาแล้วเหรอ แล้วเจอต้นเหตุของการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ไหม !?”
เฮอราร์ด ค่อนข้างประหลาดใจเมื่อเห็น ฮยอนอู กลับมาจากการกวาดล้างมอนสเตอร์ เขาไม่ได้ที่จะพยักหน้าเบา ๆ ให้กับความเร็วในการทำภารกิจของ ฮยอนอู
‘นี่เป็นความเร็วที่นักผจญภัยคนอื่น ๆ เทียบไม่ติดเลย’
“เอานี่ไปสิ นี่คือสิ่งที่ข้าได้รับมาระหว่างการปกป้องป้อมปราการลาทัส”
[ภารกิจกวาดล้างมอนสเตอร์ในเทือกเขาเฮจินสำเร็จแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
[เลเวลอัพ ]
[พลังชีวิต และพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู ]
[คุณได้รับสมบัติของป้อมปราการลาทัส ]
เฮอราร์ด พูดพร้อมกับส่งม้วนกระดาษม้วนหนึ่งให้กับ ฮยอนอู
‘นี่เหรอสมบัติ !?’
“นี่คืออะไร !?” ฮญอนอู พลิกม้วนกระดาษไปมาเพื่อตรวจสอบ มันไม่มีเนื้อหาอะไรเลย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ มันคือม้วนกระดาษเปล่า
“เอ่อ .. ข้าให้แผนที่กับเจ้าไปแล้ว เจ้ายังต้องการอะไรจากข้าอีก !?”
[แผนที่ขุมทรัพย์ของ เฮอราร์ด ]
[แผนที่ที่จะนำทางไปสู่ดันเจี้ยนลับที่ตั้งอยู่ตรงไหนสักแห่งของเทือกเขาเฮจิน ]
[สามารถใช้แผนที่ได้เมื่อข้อมูลในแผนที่เสร็จสมบูรณ์ ]
[ความก้าวหน้าของแผนที่ : 0%]
“ไปที่เทือกเขา จากนั้นข้อมูลในแผนที่จะปรากฏ” เฮอราร์ด พูดพร้อมกับโบกมือให้กับ ฮยอนอู เป็นสัญญาณให้เขาออกไป
.....
“อ๊ะ !?จริงเหรอเนี่ย !?” เมื่อ ฮยอนอู เข้ามาในอาณาเขตของเทือกเขาเฮจิน ภาพสีซีดก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนม้วนกระดาษที่เขาเพิ่งได้รับ “ทังอี เรื่องนี้สำคัญมาก เราจะค่อย ๆ ตรวจสอบไปเรื่อย ๆ จากตอนนี้”
ทังอี เหลือบมองไปยังม้วนกระดาษที่ ฮยอนอู ส่งมาให้ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของเขากลับแสดงถึงความแปลกใจ “นายท่าน นี่ท่านบ้าไปแล้วเหรอ !?มันจะแผนที่ได้ยังไง !?นี่มันก็แค่กระดาษเปล่าไม่ใช่เหรอ !?”
ใบหน้าของ ฮยอนอู เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของ ทังอี “ไม่หรอก ทังอี นายลองดูดี ๆ นายจะเห็นภาพค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา นายถือมันไว้ให้ดีก็แล้วกัน”
ฮยอนอู แนบแผนที่ลงไปในอ้อมแขนของ ทังอี
‘ไอ้เจ้านายเฮงซวย ข้าหวังว่าเจ้าจะต้องตายเพราะถูกมอนสเตอร์รุมทึ้ง’
.....
[ลิงขนแดงถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
ฮยอนอู ล่ามอนสเตอร์ไปด้วยระหว่างสำรวจไปรอบ ๆ เทือกเขาในทุกสถานที่ที่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้รับเบาะแสใด ๆ เกี่ยวกับต้นเหตุของการเกิดคลื่นมอนสเตอร์ แต่นี่ก็นับเป็นหนึ่งในจุดประสงค์หลักของ ฮยอนอู นั่นก็คือการเพิ่มระดับเลเวลของตัวเอง
“ทังอี มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม !?”
“นายท่าน ข้าพอจะมองเห็นภาพได้ลาง ๆ แล้ว”
จากคำพูดของ ทังอี , ฮยอนอู ก็คว้าแผนที่ในอุ้งเท้าของ ทีงอี ขึ้นมาตรวจสอบ ‘ดูเหมือนว่าฉันจะคิดผิด ฉันเดินไปรอบ ๆ ทางเข้าสถานที่แปลก ๆ ทุกที่ แต่ในแผนที่แผ่นนี้กลับมีภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่ปรากฏออกมา’
“ฉันต้องจัดการมอนสเตอร์เพื่อทำให้ภาพมันปรากฏออกมาเหรอ !?ฮยอนอู ส่ายศีรษะขณะที่พยายามคาดเดา มันเป็นไปไม่ได้ เขาฆ่ามอนสเตอร์ไปแล้วมากกว่าร้อยตัวนับตั้งแต่เข้ามาในเทือกเขา
‘หรือมันยังไม่พอ ...’
“ฉันต้องล่าเพิ่มอีกสัก 500 ตัวเหรอ !?” ฮยอนอู พึมพำอย่างช่วยไม่ได้ การล่ามอนสเตอร์เพียงลำพังแทบจะกลายเป็นความสิ้นหวังสำหรับเขา ฮยอนอู รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาเริ่มเดินออกไปอีกครั้ง “ทังอี บอกฉันทันทีที่แผนที่ชี้ไปยังจุดใดจุดหนึ่ง”
“ได้เลยนายท่าน”
‘ไอ้เจ้านายบ้าเอ๊ย’ ทังอี บ่นกับตัวเอง แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามที่ ฮยอนอู สั่งเท่านั้น
.....
[โกเลมศิลาดำถูกกำจัดแล้ว ]
[คุณได้รับค่าประสบการณ์ ]
[เลเวลอัพ ]
[พลังชีวิต และพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู ]
[จิตวิญญาณต่อสู้เพิ่มขึ้น 12 ]
‘เลเวลอัพแล้ว’
“ค่อนข้างเร็วใช้ได้เลย”
ความเร็วในการเพิ่มระดับเลเวลของ ฮยอนอู เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นทุกคนต้องประหลาดใจ ในหนึ่งวันเขาสามารถเพิ่มระดับเลเวลได้ถึงสองระดับ ซึ่งมันเป็นความเร็วมากกว่าแรงค์เกอร์สี่ถึงห้าเท่าด้วยซ้ำ
‘หน้าต่างสถานะ’
ฮยอนอู เปิดหน้าต่างสถานะของตัวเองเพื่อตรวจสอบ
[หน้าต่างสถานะ ]
[ชื่อตัวละคร : คัง ฮยอนอู ]
[เลเวล : 117 ]
[อาชีพ : อัศวินแห่งคิออน ]
[ฉายา : ศิษย์ของ เลอบรอน , นักรบที่ ข่าน ให้การยอมรับ , ดาวดวงใหม่ที่ เลอบรอน ให้การยอมรับ , คนแรกที่ได้เข้าสู่พระราชวัง , คนแรกที่ได้เข้าเฝ้าจักรพรรดิ , ชัยชนะ 100 ครั้ง ติดต่อกัน , โซโลเรดเดอร์ , นักล่ามังกรทะเลทราย ]
[ค่าสถานะ : ความแข็งแรง : 220 (+450) , ความคล่องแคล่ว : 345 (+500) , ความอึด : 150 (+450) , พลังเวทมนตร์ : 150 (500) , จิตวิญญาณต่อสู้ : 127 (+200) ]
[แต้มสเตตัส : 0 ]
[คุณสมบัติธาตุ : ธาตุลม ]
‘ฉันต้องมีฉายา กับค่าสถานะมากกว่านี้’
ด้วยค่าสถานะในปัจจุบัน ฮยอนอู แข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าความชื่นชอบของ ทังอี ที่มีต่อเขาจะเพิ่มขึ้น แต่มันส่งผลต่อค่าความแข็งแรง และความอึดของเขาเท่านั้น ฮยอนอู รู้สึกว่าตัวเองยังขาดค่าสถานะ และสกิลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวเพื่อใช้ในการล่าอยู่
‘หรือจะมองหาสกิลดาบที่มีความเร็วเป็นพิเศษดี ...’
ฮยอนอู คิดกับตัวเองเงียบ ๆ พลางปิดหน้าต่างสถานะ จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างค่าสถานะของ ทังอี ขึ้นมา เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่ได้ตรวจสอบหน้าต่างสถานะของ ทังอี
[หน้าต่างสถานะ ]
[ชื่อ : ทังอี ]
[เลเวล : 99 ]
[สายพันธุ์ : หมีมาริโอเนต ]
[ฉายา : ทายาทแห่งเกาะบุงบุง ]
[ค่าสถานะ : ความแข็งแรง : 244 , ความคล่องแคล่ว : 230 , ความอึด : 274 , พลังเวทมนตร์ : 526 ]
[ทายาทแห่งเกาะบุงบุง : ความสามารถทางกายภาพเหมือนกับหมีทั่วไป แต่มีพลังเวทมนตร์สูงเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าพันธุ์ เขามีความน่ารักที่ใคร ๆ ต่างก็หลงใหลผิดจากน้ำเสียงของเขา ]
[ความสนิทสนม : 82 ]
[สกิล : จิตวิญญาณแห่งหมี , คำอวยพรแห่งป่า , ใกล้ชิดกับพลังเวทมนตร์ , สายฟ้าฟาด ]
“ถ้าเพิ่มเลเวลอีกครั้งนายจะมีเลเวล 100 แล้ว !?”
สำหรับผู้เล่นแล้ว ระดับเลเวล 100 เป็นตัวเลขที่พิเศษมาก เพราะมันคือการเปลี่ยนคลาสอาชีพที่สอง แล้วสำหรับสัตว์เลี้ยงล่ะ !?สำหรับสัตว์เลี้ยงแล้วระดับเลเวล 100 มันจะเป็นช่วงเวลาพิเศษเหมือนกันไหม !?
‘เขาจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมนะ !?’
“ทังอี ผู้คนในเผ่าพันธุ์ของนายต่อสู้ยังไงเหรอ !?แล้วพ่อแม่ของนายล่ะ !?”
“เผ่าพันธุ์ของข้า !?” ทังอี ประหลาดใจกับคำถามของ ฮยอนอู แต่เขาก็ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาเพราะไม่มีอะไรให้ปิดบัง “หมีจะต่อสู้ยังไงน่ะเหรอ !?ก็ต้องใช้อุ้งเท้าทั้งสองข้างน่ะสิ”
ทังอี เป็นตุ๊กตาหมีที่น่ารักเกินไป ดังนั้น ฮยอนอู จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเผ่าพันธุ์หมีมาริโอเนตต่อสู้อย่างไร
‘มันจะต้องออกมาดูดีแน่ ๆ แบบนี้ฉันคงเรียกยอดวิวได้สูงลิ่วแน่นอนถ้าฉันอัพโหลดวีดีโอการต่อสู้ของ ทังอี ...’
“แล้วทำไมนายถึงตัวเล็กแบบนี้ ไม่ใช่ว่านายต้องใช้ร่างกายของตัวเองในการต่อสู้เหรอ !?”
นี่เป็นคำถามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อได้รับคำตอบแบบนั้นมา เพราะมันคงจะเป็นเรื่องยากมากหากต้องต่อสู้ด้วยร่างกายเล็ก ๆ แบบนี้
“รออีกหน่อยเถอะนายท่าน ข้าคิดว่าข้าจะสามารถเติบโตขึ้นได้ในอีกไม่ช้า”
“.... !!”
ทังอี จะเติบโตขึ้นเมื่อเขามีระดับเลเวล 100 เมื่อร่างกายของเขาสูงใหญ่ขึ้น ค่าสถานะของเขาจะต้องเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย บางทีเขาอาจจะทำหน้าที่แทนผู้เล่นสายแทงค์ได้เลยก็ได้
“ทังอี ไปล่ากันเถอะ ฉันจะทำให้นายได้เติบโตในวันนี้”
เป้าหมายเปลี่ยนเป็นการล่ามอนสเตอร์แทนการปลดผนึกแผนที่ลับที่น่าเบื่อ