ตอนที่แล้ว70
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป72

71


บทที่ 71

ริมฝีปากใต้หน้ากากของ ยองชาน ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ เมื่อเขาได้เห็น จอง ฮันแบค ก้าวขึ้นมาบนเวทีแบบนี้เขาก็แทบจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา แต่เขาก็ต้องเก็บอาการเอาไว้เพื่อไม่ให้กระทบต่อรายการ

“โอ้ !!หน้ากากซูเปอร์แมน ต้องการท้าชิงครับ ตอนนี้คุณชนะมาแล้วสองครั้ง และแพ้ไปแล้วสองครั้งเช่นกัน คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับว่าหากคุณแพ้อีกครั้ง คุณจะต้องถอดหน้ากากต่อหน้าทุกคน”

“ครับ ผู้เข้าใจ”

เมื่อได้ยินคำตอบของ จอง ฮันแบค , ยองชาน ก็แสดงท่าทีขี้เล่นออกมาราวกับเด็กวัยกำลังซน

‘จริงเหรอ !?ถ้างั้นก็เตรียมรอรับประวัติศาสตร์อันมืดมนจนน่าสมเพชของนายได้เลย’

ยองชาน ถามคำถามออกไปอีกครั้ง “แต่ถึงแบบนั้นคุณยังขึ้นมาบนเวทีแบบนี้ คุณจะต้องมั่นใจมาก ๆ แน่ว่าจะสามารถเอาชนะ โรแมนติคแอสซาซิน ได้ใช่ไหมครับ !?”

จอง ฮันแบค พยักหน้ารับโดยคิดว่านี่เป็นเพียงแค่การถ่ายทำรายการทั่ว ๆ ไปเท่านั้น เขาไม่ได้รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของ ยองชาน แม้แต่นิดเดียว

‘มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไหม !?แต่ก็เอาเถอะ มันเป็นคงเป็นส่วนหนึ่งของรายการล่ะนะ’

“ใช่ครับ”

“เอาล่ะ ถ้างั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ผมหวังว่าคุณจะชนะเขาได้นะครับ” ยองชาน พูด จากนั้นเขาก็หันไปทาง ฮยอนอู “โรแมนติคแอสซาซิน ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ !?”

“รู้สึกยังไงเหรอ !?”

“หน้ากากซูเปอร์แมน บอกว่าเขาขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งเพราะคิดว่าสามารถเอาชนะคุณได้ !?”

“ฉันก็เดาว่าเขาคงคิดแบบนั้น แต่ฉันไม่สนใจหรอก”

‘ไอ้เวรนี่ ... !?’ ยองชาน กัดฟันแน่น ฮยอนอู ไม่ได้ตอบแบบเป็นทางการสำหรับการสัมภาษณ์ แต่เป็นการตอบคำถามโดยตรงถึง ยองชาน แทน นี่ไม่ต่างไปจากการกลั่นแกล้งเขาทางอ้อมก็ว่าได้ ‘ฉันจะยอมทนกับนายอีกสักครั้งก็แล้วกัน’

“เอาล่ะ เรามาเริ่มการต่อสู้กันดีกว่า” ยองชาน ประกาศการแข่งขัน

[โรแมนติคแอสซาซิน VS ซูเปอร์แมน ]

ฮยอนอู ตระหนักดีว่าสกิลจิตวิญญาณแห่งยักษ์คูลดาวน์เสร็จแล้ว

‘มันผ่านมานานสองชั่วโมงแล้ว’

นี่เป็นเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น นี่จะเป็นการแก้แค้นที่ง่ายดายกว่าที่ ฮยอนอู คิดไว้ ไม่ !!แต่เดิมแล้วการแก้แค้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผลลัพธ์จากการแก้แค้นมันรุนแรงยิ่งกว่าเขาคิดไว้มากกว่า

‘ฉันจะเขียนประวัติที่น่าสมเพชติดตัวแกไปชั่วชีวิต’

ขณะนั้นอุ้งเท้าของ ทังอี ก็เคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ

[คุณได้รับบัพจิตวิญญาณแห่งหมี ]

[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]

[ความอึดเพิ่มขึ้น ]

[คุณได้รับบัพคำอวยพรแห่งป่า ]

[พลังป้องกันเพิ่มขึ้น ]

[อัตราฟื้นฟูเพิ่มขึ้น ]

เมื่อได้รับบัพจาก ทังอี , ฮยอนอู ก็ใช้สกิลจิตวิญญาณแห่งยักษ์ทันที

[จิตวิญญาณแห่งยักษ์ทำงาน ]

[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]

[ธรรมชาติแห่งยักษ์ทำงาน ]

[ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น ]

ทันทีที่สกิลทำงาน ฮยอนอู ก็พุ่งเข้าหา จอง ฮันแบค ทันที

[ปรมาจารย์การต่อสู้ทำงาน ]

[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]

[ค่าสถานะ จิตวิญญาณต่อสู้ ทำให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]

[คู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าคุณ ]

[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น ]

[ความคิดของฆาตกรทำงาน ]

[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น 15%]

ฮยอนอู เคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นจนดูเหมือนกับรถที่พุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วสูง ยิ่งเขาวิ่งออกไปมากเท่าไหร่ความเร็วของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ฮยอนอู ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้า จอง ฮันแบค พร้อมกับเหวี่ยงดาบออกไป พริบตานั้นแสงสว่างพร่ามัวก็เปล่งประกายขึ้นมาบาง ๆ

จอง ฮันแบค ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของ ฮยอนอู ได้ มันทำให้เขากระเด็นกลับไปด้านหลังด้วยความตื่นตระหนก

‘จอง ฮันแบค มาเล่นกับฉันหน่อยสิ’

ฮยอนอู ยิ้มเย็นขณะที่เขาจ้องไปยัง จอง ฮันแบค

.....

-บ้าเอ๊ย ฉันคิดไม่ออกเลยว่าเขาเป็นใคร

-เขาเป็นแรงค์เกอร์หรือเปล่า !?

-เห็นตอนเขาตอบคำถามไหม มีใครแสดงท่าทีอวดดีแบบนี้บ้าง !?

‘ให้ตายเถอะ เขาแข็งแกร่งกว่าครั้งก่อนอีก นี่มันสกิลอะไรกัน !?’ จอง ฮันแบค กำลังตื่นตระหนก การโจมตีครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนที่เขาจำได้ หากเป็นแบบนี้เขาจะต้องพ่ายแพ้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าในเวลานั้นเขาก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง ‘ทำไมอยู่ ๆ เขาถึงหยุด !?’

บางอย่างที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น โดยปกติแล้ว โรแมนติคแอสซาซิน จะต้องพุ่งตามออกไปเพื่อปิดฉากการต่อสู้ในทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ โรแมนติคแอสซาซิน กลับยืนอยู่กลางเวทีพร้อมกับกวักมือเบา ๆ ไปทาง จอง ฮันแบค

‘ไอ้เวรนี่ !!’

ผู้ชมที่กำลังดูการต่อสู้อยู่ต่างรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่น่าขบขันอย่างมาก แตกต่างจาก จอง ฮันแบค ที่กำลังโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาเป็นผู้เล่นมืออาชีพของทีม JT Telecom ซึ่งเป็นตัวแทนของเกาหลีใต้ เขาจะสามารถทนกับการยั่วยุแบบนี้จาก โรแมนติคแอสซาซิน ได้ยังไง !?

อย่างไรก็ตาม มันเป็นได้เพียงความคิดของเขาเองฝ่ายเดียวเท่านั้น ยิ่งเขาเข้าปะทะกับ โรแมนติคแอสซาซิน มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบกับความจริงที่ว่า นอกจากความเร็วที่เขาเหนือกว่าเพียงเล็กน้อยแล้ว ด้านอื่น ๆ เขากลับด้อยกว่า โรแมนติคแอสซาซิน ทั้งหมด เขาถูกกดดันมากขึ้นเรื่อย ๆ จากความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ นี่เป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับเขา

‘ฉันจะชนะได้ถ้าฉันใช้สกิลเฉพาะตัวของฉัน แต่ว่าฉันรับปากไว้แล้วว่าจะไม่ใช้มันออกมา’

จอง ฮันแบค เกิดความลังเลที่จะใช้ไพ่ตายของตัวเอง แรงค์เกอร์ทุกคนต่างมีไพ่ตายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นมืออาชีพอย่างเขา

‘บ้าเอ๊ย !!ไว้ค่อยคิดทีหลังแล้วกันว่าจะทำยังไง !!ตอนนี้ฉันต้องเอาชนะไอ้เวรนี่ก่อน’

การยั่วยุอย่างต่อเนื่องของ ฮยอนอู ทำให้ จอง ฮันแบค ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้สกิลคำอวยพรแห่งภูติที่เป็นสกิลเฉพาะตัวออกมา สกิลนี้จะเพิ่มความคล่องแคล่ว 50% และเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้อีก 20%

‘หลังจากนี้มันจะต่างไปจากเดิม’

จอง ฮันแบค พุ่งเข้าหา ฮยอนอู

.....

-นั่นเขากำลังบินอยู่ใช่ไหม !?แบบนี้เองสินะเขาถึงใช้คอสตูมหน้ากากซูเปอร์แมน !?

-เขาดูเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก

ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกคาดหวังว่าจะได้เห็นการตอบโต้ของ หน้ากากซูเปอร์แมน หลังจากที่ถูกกดดันมาตลอด เมื่อเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้นกว่าเดิมจากผลของสกิลคำอวยพรแห่งภูติ

อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงแตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง แม้ว่าจะได้รับผลของสกิลเฉพาะตัว แต่หน้ากากซูเปอร์แมนยังคงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ และถูกกดดันเหมือนเดิม

‘แกทำให้ฉันประหลาดใจนิดหน่อย’ ฮยอนอู ไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อยผิดจากท่าทีที่เขาแสดงออกมาภายนอก ความจริงแล้วเขาแทบจะไม่สามารถเอาชนะ จอง ฮันแบค ในตอนนี้ได้ แต่เป็นเพราะความดื้อรั้นของตัวเองที่ตั้งใจจะทำให้ จอง ฮันแบค อับอายมากที่สุด เขาถึงยังคงแสดงท่าทีสบาย ๆ ออกมาแบบนี้ตลอดเวลา

‘อย่างน้อยแกก็มีความสามารถสมกับเป็นผู้เล่นมืออาชีพสินะ’

สกิลของ จอง ฮันแบค ยอดเยี่ยมมาก ฮยอนอู อาจแพ้ถ้าเขาไม่ใช้ทุกอย่างที่เขามีออกมา

‘แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น แกก็ยังแพ้ฉันอยู่ดี จอง ฮันแบค’

ฮยอนอู พุ่งเข้าหา จอง ฮันแบค

‘ไอ้สารเลว แกจะต้องชดใช้’

.....

‘อะไรวะเนี่ย !?’

สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ดูไม่สมเหตุสมผลสำหรับ จอง ฮันแบค แม้แต่น้อย ทำไมเขาถึงแพ้ !?เขาเชื่อว่าตัวเองน่าจะแพ้ให้กับ เรน่า เพราะเธอแข็งแกร่งกว่าเขามาก อย่างไรก็ตาม เมื่อผลของสกิลบัพหายไป จอง ฮันแบค ก็ตระหนักได้ว่า โรแมนติคแอสซาซิน ไม่ได้มีระดับเลเวลสูงกว่าเขา และเขาเองอาจจะมีระดับเลเวลสูงกว่าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

นับตั้งแต่การเป็นสตรีมเมอร์มาจนถึงการเป็นผู้เล่นมืออาชีพ จอง ฮันแบค ได้ออกล่ามอนสเตอร์ และ PVP กํบผู้เล่นคนอื่นมานับไม่ถ้วน จากประสบการณ์ทั้งหมดทำให้เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า อีกฝ่ายแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อในช่วงแรก แต่หลังจากห้านาทีผ่านมา ...

อีกฝ่ายกลับอ่อนแอลงอย่างกะทันหัน บางทีในช่วงเวลาห้านาทีนั้นอาจเป็นขีดจำกัดของ โรแมนติคแอสซาซิน , จอง ฮันแบค ได้ข้อสรุปในใจ

‘แล้วทำไม !!!?’

ทำไม จอง ฮันแบค ถึงเอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้ !?เห็นได้ชัดว่าเขามีค่าสถานะที่สูงกว่า แต่เขากลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย เป็นเรื่องยากสำหรับเขาอย่างมากที่จะปัดป้องคมดาบของ โรแมนติคแอสซาซิน ได้ เขาถูกกดดันอย่างต่อเนื่อง และหากเป็นแบบนี้ต่อไปมันจะหมายถึงความพ่ายแพ้ และหายนะสำหรับเขา

“ทำไม !?ทำไม !?” จอง ฮันแบค ตะโกนลั่นขณะที่ดาบของ ฮยอนอู ปิดฉากการต่อสู้ครั้งนี้ในที่สุด

‘ฉันแพ้ ...’

การต่อสู้สิ้นสุดลง สิ่งนี้ได้กลายเป็นบาดแผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนความภาคภูมิใจของ จอง ฮันแบค

[โรแมนติคแอสซาซิน เป็นฝ่ายชนะ ]

.....

“หน้ากากซูเปอร์แมน ชนะสอง แพ้สาม ตามกฎของรายการแล้วเราคงต้องขอให้คุณถอดหน้ากากเพื่อเปิดเผยตัวตนของคุณ” ยองชาน พยายามกลั้นหัวเราะขณะที่เขาขอให้ จอง ฮันแบค ถอดหน้ากาก

-ว้าว เป็น จอง ฮันแบค

-ผู้เล่นมืออาชีพ !?

-ชนะ 2 แพ้ 3 ...

-อย่างน้อยเขาก็ไม่ทำให้ตัวเองถูกจับได้ นายทำได้ดีมาก จอง ฮันแบค

การตอบรับของผู้ชมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แตกต่างจากการออกอากาศครั้งแรกของศึกราชันหน้ากากที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง หน้ากากนักสู้ทุกคนถูกจับได้ และมีเพียง แดเนียล ที่ออกจากรายการไประหว่างการถ่ายทำเท่านั้นที่ไม่ถูกจับได้ จอง ฮันแบค สมควรได้รับคำชื่นชมหลังจากเขาสามารถปกปิดตัวตนของตัวเองมาจนถึงตอนนี้ได้

“ตัวตนที่แท้จริงของ หน้ากากซูเปอร์แมน ก็คือ .... สมาชิกทีม JT Telecom ผู้เล่นมืออาชีพ จอง ฮันแบค ช่วยทักทายกับผู้ชมหน่อยครับ”

“สวัสดีครับ ผม จอง ฮันแบค จากทีม JT Telecom”

“ในฐานะหน้ากากนักสู้คนแรกที่ตกรอบ ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าคุณรู้สึกยังไง !?” ยองชาน ยังคงเล่นตลกกับ จอง ฮันแบค

“มันค่อนข้างน่าเสียดายนิดหน่อย ผมจะฝึกให้หนักมากขึ้นกว่านี้ และจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นสิ่งที่ดีกว่านี้ในโปรลีก”

ใบหน้าของ จอง ฮันแบค บิดเบี้ยวไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามจาก ยองชาน แต่เขายังคงตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าผู้ชมหลายคนยังสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา

.....

หลังจากนั้น ฮยอนอู ก็ได้กระทำการอันโหดร้ายด้วยการยอมแพ้อีกครั้ง สิ่งนี้ทำให้ ยองชาน ที่อยู่ในบท อัลเลย์บอส ตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดอย่างมาก

‘ไอ้เจ้าบ้าเอ๊ย !!ฉันจะฆ่านายหลังจากถ่ายรายการเสร็จ !!’

ต่อจากนั้น เคาท์เตส ก็ได้เอาชนะ โมอาย และ แอนโดรเมด้า พรีเดเตอร์ มาได้หลังจากที่ ฮยอนอู ลงมาจากเวที เมื่อรวมกับชัยชนะที่ได้มาจาก ซูเปอร์แมน และ โจ๊กเกอร์ แล้ว เธอก็ชนะครบห้าครั้ง และได้สิทธิ์ท้าชิงตำแหน่งราชันหน้ากากกับ กำปั้นดุ ที่เป็นราชันหน้ากากจากสัปดาห์ก่อน

การต่อสู้ระหว่าง เรน่า และ คิม ซอกจอง กินเวลาไปราว 20 นาที และจบลงด้วยชัยชนะของ เรน่า ซึ่งนั่นทำให้เธอกลายเป็นราชันหน้ากากคนใหม่ของรายการศึกราชันหน้ากาก

“ราชันหน้ากากคนที่สองได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว !!!!”

-สมแล้วที่เป็น เรน่า

-เธอเหมาะสมกับอันดับสิบในโคลอสเซียมจริง ๆ

-สิบอันดับแรกแตกต่างไปจากแรงค์เกอร์คนอื่น ๆ จริง ๆ แม้แต่อันดับสิบเจ็ดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ

ตอนนี้สิ่งเหลืออยู่คือการเปิดเผยตัวตนของหน้ากากนักสู้ที่เหลืออยู่

“ตอนนี้เรามาเปิดเผยตัวตนของหน้ากากนักสู้กันเถอะ ผมขอเริ่มจากราชันหน้ากากคนแรกของเราก่อน”

ตามคำพูดของ ยองชาน หน้ากากกำปั้นดุก้าวออกมาพร้อมกับถอดหน้ากากอย่างไม่ลังเล

-ว่าแล้วว่าต้องเป็น จิน ชิจอง

-สมกับเป็น มองค์รูลิ อันดับหนึ่ง

-มันก็แน่อยู่แล้ว เห็น ๆ กันอยู่จากสกิลที่เขาใช้

“สวัสดี ฉัน จิน ชิจอง หัวหน้ากิลด์โลกใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน”

หลังจากทักทายกับผู้ชมแล้ว จิน ชิจอง ก็หันไปทาง ยองชาน พร้อมกับพูดอีกครั้ง “มีบางคนที่ฉันอยากจะสู้กับเขามาก แต่สุดท้ายฉันก็ไม่ได้สู้กับเขา นั่นเป็นความเสียใจของฉัน แต่ว่า ถ้าเขายอมกลับมาในครั้งต่อไป ฉันเองก็จะกลับมาด้วยเช่นกัน”

“โอ้ว !!ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ผมคิดว่าเขาโชคดีมากจริง ๆ ที่ไม่ต้องสู้กับราชันหน้ากาก ฮ่า ๆ...” ยองชาน พูดพลางหัวเราะเบา ๆ

เขาไม่รู้จริง ๆ ว่า จิน ชิจอง หมายถึงใคร

“ถ้างั้นเรามาถอดหน้ากากกันต่อเลย หน้ากากโจ๊กเกอร์ ช่วยถอดหน้ากากด้วยครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของ ยองชาน , โจ๊กเกอร์ ก็ถอดหน้ากากออก สถิติของเขาคือ ชนะ 0 และแพ้ 2 ครั้ง นั่นทำให้เขารู้สึกอับอายไม่น้อย

“สวัสดีครับ ผมคือสตรีมเมอร์ อิจิโนะ ครับ”

-นินจาตัวจริง

-ขอบคุณสำหรับความพยายามในวันนี้นะ อิจิโนะ

-เราจะเป็นกำลังใจให้นายต่อไป

การตอบสนองของผู้ชมเป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าตอนที่ จอง ฮันแบค ถอดหน้ากาก ไม่มีใครคิดว่า อิจิโนะ อ่อนแอ ด้วยคลายอาชีพนักฆ่าของเขา ผลลัพธ์มันอาจแตกต่างออกไปมากกว่านี้หากอยู่ในกิจกรรมตีเมือง หรืออยู่ในสงคราม แต่สำหรับการต่อสู้แบบ 1:1 แล้ว มันเป็นเรื่องยากมากที่นักฆ่าจะสามารถเอาชนะนักรบในการเผชิญหน้าโดยตรงได้

จากนั้น แอนโดรเมด้า พรัเดเตอร์ ก็ถอดหน้ากากของเขา เขาคือสตรีมเมอร์ในระดับเดียวกับ อิจิโนะ แต่ความสนใจที่มีต่อเขาก็หายไปอย่างรวดเร็วเมื่อ โมอาย ถอดหน้ากาก

-ว้าว !!นี่คือ โมอาย จริงเหรอ ....

-เรื่องจริงเหรอเนี่ย !?

-อ๊ากกก ฉันขอสมัครเป็นแฟนคลับของ โมอาย

ตัวตนที่แท้จริงของ โมอาย เป็นผู้หญิง เธอเป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย สภาพร่างกายสูงใหญ่ระหว่างอยู่ในหน้ากากโมอายเป็นผลจากไอเทมทั้งหมด แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นผู้เล่นในระดับเดียวกับ เรน่า แต่เธอก็เป็นผู้เล่นในระดับเดียวกับ อิจิโนะ

จากนั้นก็ถึงเวลาที่ โรแมนติคแอสซาซิน ต้องถอดหน้ากาก

-???

-นั่นมันอะไร !?

-เขาถอดหน้ากากแล้วไม่ใช่เหรอ !?ทำไมถึงยังมีหน้ากากอีกอัน

-เจ้าบ้าเอ๊ย ทำไมถึงใส่หน้ากากสองอัน !?

ในตอนแรกผู้ชมต่างพากันหัวเราะเยาะ และเรียกเขาว่าเป็นเจ้าบ้าที่ใส่หน้ากากสองอัน ทว่าเสียงหัวเราะนี้คงอยู่เพียงช่วงสั้น ๆ เมื่อ โรแมนติคแอสซาซิน เงยหน้าขึ้นทักทายกับทุกคน “สวัสดี ผม อัลเลย์บอส เองครับทุกคน!!!!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด