ตอนที่ 60 พวกเลือดบริสุทธิ์มันเอาอีกแล้ว (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 60 พวกเลือดบริสุทธิ์มันเอาอีกแล้ว
พระอาทิตย์ขึ้นบนท้องฟ้า รีมัสได้พละกำลังกลับคืนมา เขาเล่าให้แม็กนัสฟังเรื่องเกี่ยวกับตัวเองและเหตุผลที่เขากลายเป็นมนุษย์หมาป่า
แม็กนัสรู้สึกได้ว่าแม้รีมัสแสดงท่าทางเข้มแข็ง แต่ภายในตัวเขาเป็นเด็กที่รู้สึกไม่ปลอดภัย มองหาเพื่อน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ห่างไกลจากความศิวิไลซ์
ไลอัล พ่อของเขาทำงานที่กระทรวงเวทมนตร์และได้พบกับมนุษย์หมาป่า เฟนเรีย เกรย์แบ็ก ซึ่งถูกพิจารณาคดีในข้อหาฆ่าลูกมักเกิ้ลสองคน ไลออลเป็นคนเดียวในศาลที่รู้ว่าเกรย์แบ็คเป็นมนุษย์หมาป่า ขณะที่เกรย์แบ็คแสร้งทำเป็นมักเกิ้ลจรจัด
ด้วยความโกรธแค้นเมื่อเห็นว่าเกรย์แบ็คได้รับการปล่อยตัว ไลอัลจึงแสดงความคิดเห็นว่าเกรย์แบ็คไม่สมควรได้รับสิ่งใดนอกจากความตาย ความคิดเห็นนี้ทำให้ครอบครัวลูปินต้องเสียใจ เมื่อเกรย์แบ็คตัดสินใจแก้แค้นไลออลด้วยการพุ่งเป้าไปที่ลูกชายของเขา ขณะที่รีมัสวัยเกือบห้าขวบนอนหลับอย่างสงบสุขบนเตียงของเขา เกรย์แบ็คก็พังหน้าต่างเข้ามา
แม้ว่า ไลอัล จะสามารถไปถึงที่นั่นได้ทันเวลาเพื่อไล่ เกรย์แบ็ก ออกไปได้ด้วยคาถาอันทรงพลัง แต่เขาก็ไม่สามารถขัดขวางเจ้าสัตว์ร้ายนั่นจากการกระทำอันเลวทรามของเขาให้สำเร็จตามเป้าได้ รีมัสติดเชื้อหมาป่าแล้วตัวเขาเองก็กลายเป็นมนุษย์หมาป่า
พ่อแม่ของเขาพาเขาไปหาหมอหลายแห่ง พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เขากลับมาเป็นเด็กปกติ แต่อาการของเขาก็ไม่มีทางรักษาได้ ทว่าอาจารย์ใหญ่อัลบัส ดัมเบิลดอร์ได้จัดเตรียมที่พักพิเศษเพื่อให้รีมัสสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ได้
แม็กนัสมีแต่ความสงสารเขาอย่างสุดจิตสุดใจต่อมาเขาก็รู้สึกสงสารมนุษย์หมาป่าทุกคนที่ต้องการชีวิตปกติในโลกปัจจุบัน แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ชีวิตในป่าอย่างสันโดษ
*แอ๊ดดด*
แม็กนัสหันไปมองและเป็นไปตามคาด ตาเฒ่าดัมเบิลดอร์โผล่ออกมาเหมือนกระต่ายโผล่ออกมาจากรู
“แล้วใช้เวลานานไหมกว่าจะเจอผม?” แม็กนัสถาม
“ทั้งคืน” ดัมเบิลดอร์ตอบอย่างหงุดหงิด
“คุณเล่นซ่อนแอบได้แย่มากเลย คราวนี้มันวุ่นวายขนาดไหนฮะ?” เด็กชายถาม
"ก็น่าจะเฉพาะอาจารย์และเพื่อนร่วมห้องของเธอ ตอนนี้เธอก็รู้เรื่องมนุษย์หมาป่าแล้ว..." ดัมเบิลดอร์ตอบและเริ่มพึมพำบางอย่างว่าเขาควรระมัดระวังมากกว่านี้
“มนุษย์หมาป่าอะไรครับ ที่นี่มีแค่ผมกับรีมัสที่หายไป” แม็กนัสตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
ดัมเบิลดอร์ฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมาย "อา ถ้าอย่างนั้นเราควรพาเธอกลับมา... ดูเหมือนเธอจะมีรอยข่วนที่คิ้ว... ฉันหวังว่าจะไม่มีรอยกัด..."
“ไม่ครับ ไม่มีเลย” แม็กนัสตอบ
รีมัสมองทั้งสองอย่างขอบคุณ แม้ว่าเขาจะบ้าคลั่งในร่างมนุษย์หมาป่า แต่เขาก็ยังเก็บความทรงจำทั้งหมดที่เกิดขึ้นตลอดที่เขาหลุดจากการควบคุม ดังนั้นหากเขาทำอะไรไม่ดีเขาจะต้องเสียใจไปอีกนาน
“เธอต้องให้มาดามพอมฟรีย์ตรวจบาดแผลเพื่อหาการติดเชื้อ ไปกันเถอะ” ดัมเบิลดอร์พูดพลางเดินนำกลับไป ครั้งนี้ เขาไม่ได้พาพวกเขาเข้าไปในอุโมงค์เดิม แต่เดินจากถนนใหญ่ผ่านฮอกมี้ด นี่เป็นเพราะต้นไม้จอมเหวี่ยงนั่นยังคงเก็บเป็นความลับ มันยังมีประโยชน์กับรีมัส
ดัมเบิลดอร์ใช้เวทมนตร์บางอย่างและทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นพวกมัน อาจารย์ใหญ่พาพวกเขาตรงไปที่ห้องพยาบาล ที่นั่น มาดามพอมฟรีย์เย็บคิ้วซ้ายของแม็กนัสอย่างรวดเร็ว รีมัสสบายดีเขาเพิ่งดื่มยารักษาสุขภาพเพื่อฟื้นพลัง
หลังจากนั้น ดัมเบิลดอร์ก็พาเขาไปที่ห้องทำงานเพื่อให้เขาฟัง "ทำไมเธอถึงอยู่ห่างจากปัญหาไม่ได้ มันเพิ่งเป็นปีแรกของเธอเองนะ"
“ก็ผมไม่รู้นี่ว่ามาดามพอมฟรีย์กำลังช่วยไม่ได้ลักพาตัวเขา แม่จ๋าผมสอนเสมอว่าอย่าไปที่ไหนกับคนแปลกหน้า” แม็กนัสตอบ
“ใช่... นั่นเป็นเหตุร้ายจริงๆ ไม่น่าปล่อยให้พวกเขาเดินอย่างเปิดเผยเลย เธอจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไหม?” ดัมเบิลดอร์ถาม
"ครับ เขาสมควรได้เรียนที่นี่ แต่อาจารย์ต้องวางแผนให้รัดกุมกว่านี้เพื่อเก็บความลับนะฮะ ผมค้นพบโดยที่ผมไม่ได้พยายามเลย แล้วถ้ามีคนพยายามสืบมันจริงๆ จังๆ ล่ะ?” แม็กนัสแนะนำ
“นั่นสินะ แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องทำคือกลับไปนอนที่หอนอน ฉันแน่ใจว่ามันน่าจะจัดการไม่ง่ายเลย” ดัมเบิลดอร์แนะนำเขา พูดตามตรง ดัมเบิลดอร์กังวลเล็กน้อย พลางคิดว่าถ้าแม็กนัสอาจถูกกัดขึ้นมาจะเป็นยังไง แม้ว่าจะมีเลือดจางมาก แต่ชายชราก็เห็นเด็กน้อยเป็นญาติอย่างแท้จริง
แม็กนัสหาว “ครับ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนทั้งคืนเลย ราตรีสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์” ดัมเบิลดอร์พึมพำ ปล่อยให้เขาจากไป
เมื่อเขาไปแล้ว ดัมเบิลดอร์ก็ลุกขึ้นไปเช็คจดหมาย ในนั้นเขาพบจดหมายที่แปลกประหลาด มันมาจากกระทรวงเวทมนตร์ ปัจจุบันตระกูลเลือดบริสุทธิ์ที่มีอำนาจส่วนใหญ่รวมถึงกระทรวงเวทมนตร์ได้ทำการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับ แม็กนัสและอดีตของเขา
เขามาจากครอบครัวมักเกิ้ลจริงๆ และเท่าที่บันทึกพบว่าในครอบครัวของเขามีแต่มักเกิ้ล มีเขาเป็นพ่อมดเพียงคนเดียว ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งสมมติฐานว่าอาจไม่ใช่สายเลือดที่ทำให้ แม็กนัสสืบเชื้อสายมาจากเมอร์ลินแต่เป็นมรดกบางอย่าง
สิ่งนี้ทำให้ทุกคนมีความมั่นใจมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเขาเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวและไม่ใช่ทั้งครอบครัวของเขา แต่ตอนนี้พวกเขามีปัญหาที่แตกต่างออกไปเพราะตอนนี้ดัมเบิลดอร์มีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับครอบครัวแกรนท์ทั้งหมด
ดัมเบิลดอร์อ่านจดหมายกระทรวงแล้วขมวดคิ้วสีน้ำตาล ในนั้นระบุว่ากระทรวงต้องการเป็นเจ้าของห้องนิรภัยของเมอร์ลินจนกว่าแม็กนัสจะอายุ 17 ปี
พวกเขาให้เหตุผลว่าความรับผิดชอบนั้นใหญ่เกินไปสำหรับคนหนุ่มสาว
แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งกล่าวว่าห้องนิรภัยของอาเธอร์จะถูกส่งมอบให้กับราชวงศ์ของอังกฤษเนื่องจากเป็นของราชบัลลังก์ในขณะนี้ พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีแม็กนัสคนที่สองได้รับมรดกอีกไหม ราชวงศ์สูญเสียสิทธิ์ทั้งหมดเหนือบัลลังก์ ตอนนี้แม็กนัสเองก็เป็นผู้ถือครองมงกุฎ
ดัมเบิลดอร์รู้สึกโมโหกับเรื่องนี้ เขาเคยคิดว่ากระทรวงจะพยายามเข้าข้างแม็กนัส แต่ก็อีกครั้ง เมื่อเขานึกถึงประวัติการทำงานที่ไร้ความสามารถ มันก็ดูไม่ธรรมดาเลย ถึงกระนั้น เขาจำเป็นต้องหยุดพวกมันก่อนที่พวกมันจะทำอะไรโง่ๆ
ดังนั้นเขาจึงแยกตัวออกจากห้องทำงานตรงไปที่สำนักงานกระทรวงเวทมนตร์ เขาไปพบรัฐมนตรี เธอกำลังยุ่งอยู่ในสำนักงานตอนเขาเข้ามา ข้อดีของการเป็นฮีโร่คือการที่เขาไม่ต้องรอ
เขาวางจดหมายไว้บนโต๊ะของเธอแล้วถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนว่า "นี่คืออะไร?"
เธอถอนหายใจ “ไม่ใช่ฉัน คุณดัมเบิลดอร์ คณะกรรมการศาลสูงวิเซ็นกาม็อตตัดสินใจทำเช่นนี้ แอแบรกซัส มัลฟอยนำพวกเขาลงคะแนนในเรื่องนี้”
“มัลฟอยอีกแล้วเหรอ? พวกนั้นไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่หรือไง? ทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับราชาในอนาคตและพ่อมดที่จะโด่งดังที่สุดในโลกเนี่ยนะ? พวกเขาไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะยึดเอาทรัพย์สินของเขาไป” ดัมเบิลดอร์แย้ง
“ฉันรู้ ศาสตราจารย์ แต่ฉันทำอะไรไม่ได้ งานของรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คือดูแลกระทรวงและการจัดการภายใน ถ้าฉันเข้าไปยุ่งกับพวกเขา พวกเขาก็จะไล่ฉันออก พวกเขาได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับทางราชวงศ์ว่าจะมอบความมั่งคั่งครึ่งหนึ่งในห้องนิรภัยของกษัตริย์อาเธอร์ให้พวกเขา” เธอเปิดเผย
"นี่เป็นเรื่องไร้สาระ แม็กนัสไม่ใช่คนโง่ ท่านรัฐมนตรี เขาจะไม่ชอบสิ่งนี้ และอย่าลืมเขามีลักษณะนิสัยของสลิธีรินด้วย เขาจะไม่ลืมเรื่องนี้” ดัมเบิลดอร์เตือนเธอและออกจากห้องทำงานรัฐมนตรี
ขณะที่เขาออกไป เขาเห็นชายชราผมบลอนด์สีเงิน แอแบรกซัส มัลฟอย “ดูสิว่าเราเจอใคร? อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอตส์ ฉันได้ยินมาว่าความปลอดภัยของนักเรียนในฮอกวอตส์กำลังตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรอ?”
ดัมเบิลดอร์ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น เหมาะกับพ่อมดแก่อย่างเขา “อา พวกเขาแค่เล่นกันคุณมัลฟอย เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ แต่เด็กบางคนมักจะอ่อนแอและได้รับบาดเจ็บได้ง่าย เช่น แขนหัก แต่ไม่ต้องกังวล เรามีเจ้าหน้าที่เพียงพอสำหรับกรณีฉุกเฉินทางการแพทย์ทุกประเภท รักษาตัว”
แอแบรกซัสได้แต่กัดฟันเพราะเขายังไม่มีอิทธิพลมากพอที่จะทำลายดัมเบิลดอร์หรือตะโกนใส่เขา
...
ฮอกวอตส์,
แม็กนัสกลับไปที่หอพักของเขา ชั้นเรียนได้เริ่มขึ้นแล้วตามปกติ แต่เขาได้รับสิทธิ์ลาพักรักษาตัวเป็นกรณีพิเศษ สเนปกับรักนาร์อยู่ในห้องเรียน ห้องพักจึงว่างเปล่า
ทั้งหมดยกเว้นแชดและดั๊ก ทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง แชดวิ่งมาหาเขา คร่ำครวญและกอดขาของเขา ในขณะที่ดั๊กบินไปที่ไหล่ของเขาและเริ่มถูศีรษะบนใบหน้าของเขา
"ฮิฮิ พวกนาย ให้ฉันไปนอนก่อนนะ ฉันจะเล่นกับนายสองคนทีหลัง เคไหม" เขาหัวเราะพลางผละจากพวกเขา
แต่เมื่อเขานอน แชดกับดั๊กก็มานอนข้างๆ ติดปลายเตียงด้วย
~อ๊ะ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่ได้นอนเหมือนกันนะ เป็นเด็กดีกันจริงๆ~ แม็กนัสลูบหัวทั้งสองตัวแล้วจึงเข้านอน
_____________________________