ตอนที่ 59 ก็ดูเจ๋งดี (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 59 ก็ดูเจ๋งดี
ตรงหน้าเขาคือมนุษย์หมาป่าตัวใหญ่พอสมควรดูน่าขนลุก เสียงคำรามของมันทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในอากาศซึ่งแม็กนัสรู้สึกได้
~ฉันน่าจะไปนอนดีๆ~ เขาสบถกับตัวเอง
ไม้กายสิทธิ์ของเขายังคงส่องสว่าง ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามนุษย์หมาป่าตัวนี้ก็คือรีมัส ดังนั้นเขาจึงไม่อยากทำร้ายเด็กชายมากเกินไป
~อ่า พวกเขากลัวเงินไม่ใช่เหรอ?~
ดังนั้น แม็กนัสจึงแปลงร่างเศษไม้เป็นอิฐทำจากเงินอย่างรวดเร็วและขว้างไปที่หน้าของมนุษย์หมาป่า
*ผั่ว*
"แฮร่รรรรรรรร..."
~โอ๊ะโอ ดูเหมือนเขากำลังยั้วได้ที่ พวกหนังสือนิทานลวงโลกเอ๊ย~ แม็กนัสรู้สึกถูกหักหลังโดยนิทานก่อนนอน เขาจะฟ้องแม่จ๋าของเขาเรื่องพวกหนังสือหลอกลวงพวกนั้น
ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากใช้เวทมนตร์ วิธีที่ดีที่สุดคืออย่าให้มนุษย์หมาป่าขยับตัวได้ เขาจึงตัดสินใจใช้คำสาปพันธนาการทั้งตัว มันได้เรียนในปี 3 แต่เขาเรียนรู้และฝึกฝนมาก่อนแล้วในห้องต้องประสงค์ตามคำแนะนำของเมอร์ลิน
“เพทริฟิคัส โททาลัส...” แม็กนัสตะโกน เหตุผลที่เขายังคงตะโกนก็เหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ ทั่วไปการตะโกนทำให้คุณมีสมาธิกับคาถามากขึ้น วิธีนี้ทำให้เกิดผลที่ทรงพลัง เมื่อพ่อมดเติบโตขึ้น สมาธิของพวกเขาจะดีขึ้นและไม่จำเป็นต้องตะโกน บางคนไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากร่ายด้วยซ้ำ
ลำแสงสั้นๆ พุ่งออกมาจากปลายไม้กายสิทธิ์ของแม็กนัสไปโดนมนุษย์หมาป่าซึ่งยังคงคำรามใส่เขาและเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้า ๆ
*เปรี้ยง*
คาถาสัมผัสมนุษย์หมาป่าและเขาก็หยุด แม็กนัสรู้สึกผ่อนคลาย ~อ่าฮ่า ฉันน่าจะกลับได้แล้ว~
*คำราม*
ทันใดนั้น มนุษย์หมาป่าก็พุ่งกระโจนเข้ามาหาเขา ปราศจากผลของคำสาปผูกมัด แม็กนัสเรียกดาบโฮปของเขาออกมาทันที และทำให้ด้ามของมันติดอยู่ในปากของมนุษย์หมาป่า นี่เป็นเรื่องสำคัญสูงสุดเพราะถ้าคุณโดนกัดนั่นหมายถึงเกมโอเวอร์
"ทำไมนายยังขยับได้อยู่... เดี๋ยวนะ... ไอ้โง่เอ๊ย! โง่! ฉันมันโง่!... สัตว์วิเศษมีความต้านทานเวทมนตร์" เขาสบถกับตัวเอง
*ฉึบ*
"อ๊าาาา..." แม็กนัสรู้สึกเจ็บแปร๊บที่คิ้วซ้าย เลือดเริ่มไหลออกมา ตอนนี้เขาสามารถลืมตาได้ข้างเดียวเท่านั้น
“"ตื่นขึ้นมา… รีมัส… นายไม่อยากทำแบบนี้…"แม็กนัสตะโกนขณะต่อสู้กับมนุษย์หมาป่าตัวต่อตัวหลบกรงเล็บของเขาไปพลางๆ
"ก๊าซซซซซซซซ..."
สัตว์ร้ายไร้ซึงความคิด ไม่มีเหตุผลที่จะพยายามพูดคุยกับมัน “นายคงเจ็บสักหน่อยนะ...”
แม็กนัสกำลังหยุดมนุษย์หมาป่าโดยที่ดาบของเขาติดอยู่ที่ขากรรไกร เขามองใบหน้าอัปลักษณ์ใกล้ๆ ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
“โทษทีนะ นายคงไม่ได้แอ้มเนื้อชั้นเยี่ยมนี้หรอก” เขาพูดพลางอ้าปากกว้างทันที
"ฮ้าาาาาาาาาาาาาาาา..." ไฟสีแดงเข้มพุ่งออกมาจากปากของแม็กนัส สัมผัสใบหน้าของมนุษย์หมาป่าโดยตรง มันดูเหมือนจะร้อนมากกว่าไฟปกติเยอะเลย เพราะดวงตาของแม็กนัสเป็นแสงสีแดงฉานเรืองรองประดุจหลอดไฟ มนุษย์หมาป่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพลางปล่อยดาบไป
มันกระโจนกลับอย่างรวดเร็วกลัวถูกไฟครอก แม็กนัสไม่หยุดพ่นไฟแล้วไล่ต้อนมนุษย์หมาป่าให้จนมุม ในที่สุดความกลัวก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของสัตว์ร้าย แม็กนัสจัดการได้ง่ายๆ เพราะรีมัสยังเด็กอยู่ ดังนั้นการแปลงร่างของมนุษย์หมาป่าจึงไม่แข็งแกร่งเท่าร่างโตเต็มวัย
จากนั้น แม็กนัสก็ยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นอีกครั้งและร่ายเวทย์ "วิงการ์เดียม เลวีโอซ่า..."
เขาทำให้มนุษย์หมาป่าลอยอยู่กลางอากาศ ทำให้มันขยับไปไหนไม่ได้อีกแล้ว จากนั้นเขาก็นั่งลงบนพื้นและเปลี่ยนแผ่นไม้เป็นกระจกส่องเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตาของเขา
“อา...มันดูไม่ดีเลย ฉันจะอธิบายแผลเป็นให้แม่จ๋าฟังยังไงดี” เขาสงสัย ตอนนี้เขายังค่อนข้างกลัวแม่จ๋ามาก
จากนั้นเขาก็หันไปมองมนุษย์หมาป่าที่ยังคงพยายามเคลื่อนไหว ในไม่ช้ามันก็จะหมดเรี่ยวแรงและสงบลง แม็กนัสรู้สึกแย่แทนรีมัส มันเป็นคืนแห่งการเปิดเผยสำหรับเขา ใครจะไปคิดว่าเด็กอัจฉริยะจากกริฟฟินดอร์จะเป็นมนุษย์หมาป่า
~ นี่มันชีวิตต้องสาปอย่างแท้จริง เขาเป็นมนุษย์หมาป่าโดยกำเนิดหรือว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่~ เขาสงสัย
แม็กนัสอยู่ที่นั่นโดยปล่อยให้รีมัสอยู่กลางอากาศ โดยไม่รู้ตัวว่าเขาได้สร้างคลื่นลมอะไรให้เหล่าคณาจารย์ในฮอกวอตส์บ้าง เพราะการที่เขาหายตัวไปพวกแรกนาร์กับสเนปจึงได้แจ้งเรื่องนี้แก่ซลักฮอร์น
...
02.00 น. ณ หอนอนสลิธีริน
ทุกคนกำลังหลับอยู่ รวมทั้งสเนปและรักนาร์
"เมี้ยววววววว..." ทันใดนั้น แชดก็เริ่มคร่ำครวญ เขากระโดดขึ้นไปบนเตียงรักนาร์แล้วตะกุยหน้าเขาจนกว่าเขาจะตื่น
"ฮิฮิ...อีกหน่อยสิ..." รักนาร์หัวเราะเบาๆ มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเห็นอะไรในความฝัน
*ข่วน*
เมื่อมองไม่เห็นทางอื่น แชดจึงข่วนบนใบหน้าของเขา รักนาร์ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด "อ๊าาา... เจ้าแมวโง่"
"แง้ววววว..." แชดโบกอุ้งเท้าอย่างแรงและชี้ไปที่เตียงของแม็กนัส เมื่อเห็นว่าเขาแสดงท่าทางแปลกๆ รักนาร์ก็เริ่มสนใจ เขาหันไปที่เตียงและไม่เห็นใครอยู่บนนั้น
“เขาไปไหนล่ะ? ไปห้องน้ำหรือเปล่า?” เขาสงสัยและมองดูนาฬิกาตอนนี้ตีสองแล้ว จากนั้นเขาก็ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกทีไม่เห็นรอยยับบนเตียง
"เขาไม่ได้ไปพบดัมเบิลดอร์เหรอ? ทำไมเขายังไม่กลับ? โอ๊... เซฟตื่นเร็ว!" เขาเรียกเพื่อนอีกคน
สเนปเป็นคนหลับง่ายและตื่นทันทีตามเสียงเรียกของเขา เขาหันไปหาเขา "เกิดอะไรขึ้น?"
“ดูสิ แม็กนัสยังไม่กลับมา นี่มันตี 2 แล้ว เราควรรายงานศาสตราจารย์ซลักฮอร์น ไม่มีประโยชน์ที่จะไปบอกประธานนักเรียนงี่เง่านั่น” เขาพูด
สเนปขยี้ตาแล้วลุกขึ้น "ไปกันเถอะ"
พวกเขาเดินออกจากห้องนั่งเล่นรวม แต่ถูกค้นพบโดยอาร์กัส ฟิลช์ทันที เขาเริ่มสาปแช่งพวกเขาและบ่นทันทีตามนิสัย
“ใจเย็นๆ ฟิลช์ เราจะไปหาศาสตราจารย์ซลักฮอร์น แม็กนัสไม่ได้กลับมาที่ห้องนั่งเล่น ล่าสุดเขาไปพบศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” รักนาร์รีบควบคุมชายที่กำลังโวยวายทันที
“เป็นไปไม่ได้ ฉันอยู่ที่นี่มาตลอด ไม่มีใครหนีออกไปจากที่นี่ได้” ฟิลช์กล่าว
สเนปกลอกตา “เขาไม่ได้มาที่นี่แต่แรก นายสามารถมากับเราถ้าต้องการ”
ดังนั้น พวกเขาจึงไปที่ห้องพักของอาจารย์และปลุกซลักฮอร์นให้ตื่น เขาอยู่ในชุดนอน “ศาสตราจารย์ คืนนี้แม็กนัสไม่มาที่หอพัก เขาหายตัวไป”
ดวงตาของซลักฮอร์นเบิกโพลงทันทีที่ได้ยิน เด็กที่หายไปคนอื่นคงไม่ทำให้เขาไม่สบายใจขนาดนี้ แต่แม็กนัสเป็นกรณีที่แตกต่างออกไป ผู้คนมากมายตามหาเขา “ครั้งสุดท้ายที่พวกเธอเห็นเขาคือที่ไหน?”
“เขาบอกว่าจะไปพบศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์” รักนาร์เผย
“ไปห้องอาจารย์ใหญ่กันเถอะ” เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเวทมนตร์แล้วรีบออกไป
ไม่นานเรื่องก็ไปถึงดัมเบิลดอร์ ก่อนอื่นเขาตรวจสอบห้องทำงานที่เขามอบให้แม็กนัส แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่น
ตอนนี้พวกเขารู้สึกกังวล บรรดาอาจารย์ส่วนใหญ่ตื่นขึ้นเพื่อค้นหาเขา เหล่าผีในฮอกวอตส์ก็ถูกขอให้หาเขาด้วย หลังจากค้นหามาหลายชั่วโมง ในที่สุดดัมเบิลดอร์ก็มีความคิดที่จะถามรูปเหมือนของเมอร์ลิน
"เขาออกไปจากปราสาทเป็นอย่างสุดท้ายที่ข้าจำได้ ข้าว่าข้ายังไม่เห็นเขากลับมา" เมอร์ลินบอกพวกเขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดัมเบิลดอร์มีลางสังหรณ์ไม่ดี เขามองออกไปนอกปราสาทและพระอาทิตย์กำลังจะขึ้น ทันใดนั้น ความจริงที่ว่ามันเป็นพระจันทร์เต็มดวงก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา
“ทุกคน พวกคุณตามหาเขาในโรงเรียน ผมจะไปหาเขาข้างนอก” ดัมเบิลดอร์บอกคนเหล่านั้นและจากไป
…
ณ เพิงโหยหวน,
เพิงเล็กๆ ไม่มีหน้าต่าง ดังนั้นแม็กนัสจึงไม่รู้ว่าข้างนอกยังเป็นเวลากลางคืนอยู่หรือเปล่า แต่จากข้อเท็จจริงที่ว่ารีมัสยังเป็นมนุษย์หมาป่าอยู่ เขาจึงรู้ว่ายังเป็นเวลากลางคืน แต่น่าจะใกล้เช้าแล้ว
เขารออย่างต่อเนื่องพยายามที่จะพูดคุยกับมนุษย์หมาป่า แม้แต่มนุษย์หมาป่าก็พยายามตะเกียกตะกายออกมาแล้วแต่ก็ขยับไปไหนไม่ค่อยได้
ตอนนี้แม็กนัสรู้สึกง่วงผสมเหนื่อยมาก เนื่องจากเขาใช้เวทมนตร์อย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่ผ่านมา และในที่สุดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เริ่มปรากฏบนตัวมนุษย์หมาป่า
“น-นายไม่ควร ม-มาเลย...” เสียงอู้อี้ดังมาจากมนุษย์หมาป่า
แม็กนัสปล่อยมนุษย์หมาป่าในขณะที่เขาเริ่มกลับสู่ร่างมนุษย์ “ขอโทษที่นะเพื่อน ไม่มีใครบอกฉันว่านายเป็นมนุษย์หมาป่า ฉันแค่คิดว่าพยาบาลน่าสงสัยกำลังพาเด็กไปที่ไหนสักแห่งอย่างลับๆ ฉันเลยเป็นห่วงน่ะ”
รีมัสกลับสู่ร่างมนุษย์อย่างช้าๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้สวมเสื้อผ้า แต่มีตู้เล็ก ๆ ที่มีเสื้อผ้าสำหรับเขา เขาสวมมันทันทีพลางนั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
“ฉันเดาว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอยู่ที่ฮอกวอตส์” รีมัสพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
"ทำไมนายพูดแบบนั้น?" แม็กนัสถาม
“ก่อนที่ฉันจะมาที่นี่ ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์บอกให้ฉันเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่ให้นักเรียนรู้ และถ้าพบ ฉันจะต้องออกไป” รีมัสตอบ
*เฮ้อ*
"ฉันว่าฉันเก็บความลับได้นะ ตราบใดที่นายเก็บฉันไว้เหมือนกัน" แม็กนัสกล่าวตอบ
รีมัสรู้สึกสับสน "ความลับนาย?... โอ้... นายพ่นไฟออกมาจากปาก...นายทำได้ไง?"
"ฮ่าฮ่า ฉันไม่รู้ อาจจะสืบทอดมาจากเมอร์ลินมั้ง แต่ฉันไม่อยากถูกเรียกว่าเป็นพวกแปลกๆ หรอก อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงจะมีแผลเป็นนี่ติดตัวไปตลอดก็เหอะ ถ้าให้เดา” แม็กนัสมองหน้าตัวเองในกระจก
“ขอโทษนะ” รีมัสกล่าวขอโทษ
“ไม่มีปัญหาหรอกน่า ฉันว่ามันก็ดูเจ๋งดี… ฮิฮิ” แม็กนัสหัวเราะเบาๆ
_____________________________
มนุษย์หมาป่า