ตอนที่ 58 ช่วยเหลือเด็กชาย (อ่านฟรี)
แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ สายเลือดแห่งมังกร
ตอนที่ 58 ช่วยเหลือเด็ก
วันเวลาที่ฮอกวอตส์ผ่านไปอย่างเชื่องช้า แม็กนัสเวทมนตร์ของเขาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามกาลเวลา เขาจดจำความรู้ทางทฤษฎีจนถึงปีที่ 7 แล้ว สิ่งที่เขาต้องทำคือฝึกฝนให้เชี่ยวชาญในทางปฏิบัติ
แต่เขาก็ยังเพิกเฉยต่อวิชาพยากรณ์ศาสตร์ เนื่องจากมันไม่ตรงไปตรงมาและคลุมเครืออยู่เสมอ มันมักจะทำให้เกิดความสับสนและวิตกกังวลซะมากกว่าความปลอดภัยเกี่ยวกับอนาคต บางทีก็บอกว่าคุณจะตายแต่ไม่ได้บอกว่าตายอย่างไร และแล้วคุณก็จะมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวในไม่ช้าก็ตายเพราะอาการหัวใจวายที่วิตกจริตซะเอง
ด้วยความช่วยเหลือจากเมอร์ลินเขาได้เรียนรู้เวทมนตร์การต่อสู้และวิธีร่ายหรือตอบโต้เวทมนตร์อย่างมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ จากนั้นมีเวทมนตร์ไร้ไม้กายสิทธิ์ซึ่งยากสำหรับเขามาก
เวทมนตร์ไร้ไม้กายสิทธิ์เพียงอย่างเดียวที่เขาทำได้คือสร้างไฟ ตอนนี้เขาเก่งมาก สามารถสร้างเปลวไฟจากมือ เท้า และปากได้ แล้วมันก็ไม่ได้เป็นเพียงไฟดวงเล็กๆ อีกต่อไป แต่กลายเป็นกระแสเปลวไฟลุกโชนไปรอบๆ แขน
เขายังทำบอลไฟไม่ได้ทำได้แค่เป็นเปลวไฟอย่างพริ้วๆ ไปมา ถึงเมอร์ลินจะเคยบอกว่าเขาไม่มีพลังแบบนี้อาเธอร์ก็ด้วย เพราะงั้นนี่เป็นความสามารถที่เขาจำเป็นต้องสำรวจด้วยตัวเขาเอง
ผ่านไปสองเดือนแล้วตั้งแต่เปิดภาคเรียน และในที่สุด วันฮาโลวีนก็มาถึง ก่อนวันฮัลโลวีน วันหยุดสุดสัปดาห์ฮอกมี้ดมาถึงแล้ว ตามที่วางแผนไว้ เขาไปหาดัมเบิลดอร์เพื่อขออนุญาตออกไปข้างนอก
"ไม่! เธอเป็นนักเรียนปี 1 อนุญาตให้นักเรียนปี 3 ขึ้นไปเท่านั้น" ดัมเบิลดอร์เพียงแค่ปฏิเสธเขา
"ไม่เอาน่า ผมมีธุระต้องไปทำที่นั่นนะครับ ผมจะไปพบเท็ด ท็องส์" แม็กนัสเถียง
“แต่มันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ฉันให้สิทธิพิเศษกับเธอคนเดียวไม่ได้” ดัมเบิลดอร์ไม่ขยับเขยื้อน
“อืม... งั้นก็ส่งคนมาคุ้มกันผม อ้า บางทีฟอกส์อาจจะอยากไปกับผมก็ได้” แม็กนัสแนะนำ
เมื่อได้ยินชื่อของเขา ฟอกส์ก็หายตัววาบไฟลุกมาปรากฏอีกครั้งบนไหล่ของแม็กนัส ตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ "เจ๋งมาก ฟอกส์ กินนี่สิ"
เพราะต้องคอยให้อาหารซัมเมอร์ แม็กนัส จึงเก็บอาหารนกไว้กับตัวตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วเขามีความคิดอีกอย่าง ~ ฉันจะหายตัวด้วยไฟเหมือนฟอกส์ได้ไหมนะ ~
ดัมเบิลดอร์รู้สึกถูกทรยศที่ฟอกส์ทำตัวแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นนกฟีนิกซ์ของเขาทำแบบนี้มาก่อน ฟอกส์ไม่เคยไว้ใจคนอื่น เป็นนกฟีนิกซ์ที่มีวิจารณญาณสูง
"เขาเป็นนก อย่างมากเขาแค่สามารถพาเธอไปไหนไม่รักษาเธอได้ แต่เขาไม่ สามารถต่อสู้กับใครได้ เธอก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นครั้งสุดท้ายที่เธอไปตรอกไดแอกอน” ดัมเบิลดอร์ยืนกรานที่จะปฏิเสธเขา
“เอาล่ะ ถ้าคุณคิดอย่างนั้น จากนี้ไป ผมต้องการห้องทำงานพิเศษที่เตรียมไว้สำหรับผมในฮอกวอตส์ ที่ผมสามารถพบกับทนายความของผมพูดคุยเรื่องธุรกิจได้ ผมเป็นทายาทของเมอร์ลินแล้วจะปล่อยให้ความมั่งคั่งทั้งหมดนอนนิ่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ผมต้องทำการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้” แม็กนัสพูดด้วยแววตามั่นใจ
ดัมเบิลดอร์ลูบเคราของเขา คิดเกี่ยวกับโอกาส แต่เขาชอบตัวเลือกนี้ เพราะหากเขาตกลงปล่อยแม็กนัสไปในวันนี้ เขาก็จะถามทุกครั้ง จะดีกว่าถ้าเขามีห้องทำงานในโรงเรียน
“ก็ได้ ฉันจะพอจะช่วยเรื่องนี้ได้ แต่เธอต้องปิดเรื่องห้องทำงานของเธอเป็นความลับ ห้องใต้ดินที่พักเหล่าอาจารย์ ทนายของเธอจะต้องผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการตรวจสอบผ่านประตูใหญ่เท่านั้น ฉันมีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของนักเรียนทุกคน” ดัมเบิลดอร์กล่าว
แม็กนัสยิ้ม "ดีครับ ผมเห็นด้วย ทนายผมก็เป็นพ่อมดเกิดจากมักเกิ้ล ดังนั้นเขาจะไม่มีปัญหาใดๆ เพราะเขารู้สถานะของโลกเวทมนตร์ดี ยังไงก็ตามผมจะพาฟอกส์ไปด้วย ผมต้องการความช่วยเหลือจากเขาด้วยเวทมนตร์ นายพอจะช่วยฉันได้ไหม?ฟอกส์”
*เสียงฟีนิกซ์*
ฟอกส์ร้องยืนยันแม็กนัสก็มีความสุข “เขาตกลงแล้ว ดังนั้นคุณจะปฏิเสธไม่ได้แล้วนะครับ แล้วเจอกันครับอาจารย์ อ้อ... เดี๋ยวก่อน... ผมลืมไป คุณช่วยตรวจสอบสถานะครอบครัวผมหน่อยได้ไหมครับ? ผมได้ยินมาว่าแม่ของผมดูไม่ค่อยดีนัก”
ดัมเบิลดอร์พยักหน้า “ได้ฉันจะดูให้”
ในความเป็นจริง อัลบัสได้บอกให้ใครบางคนตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หลังจากทราบการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของพ่อแม่ของแม็กนัส เขาก็รู้ถึงความผิดปกติบางอย่างอยู่แล้ว แต่เขาไม่อยากเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงให้อดีตมือปราบมารทำภารกิจนี้
หลังจากนั้น แม็กนัสก็ออกจากห้องทำงานอาจารย์ใหญ่แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานแห่งใหม่ของเขา เขาเข้าไปในห้อง มันค่อนข้างใหญ่ แต่ในตอนนี้มีแต่เฟอร์นิเจอร์ขยะที่สุมไว้เต็มห้อง ดังนั้นเขาจึงเริ่มใช้เวทมนตร์เพื่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่
เวทมนตร์ที่ใช้ก็ง่ายๆ คาถาลอยบ้าง คาถาเคาะ แล้วก็คาถาตัด ทั้งหมดนี้เพียงพอที่จะทำโต๊ะ เก้าอี้ และตู้
จากนั้น เขาจำเป็นต้องขัดมัน เพราะเขาเพิ่งใช้คาถาทำความสะอาดหลายครั้ง หลังจากใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดมันก็พร้อมสำหรับห้องทำงานใหม่ห้องส่วนตัวของเขาเอง ช่างรู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่เมื่อทำสิ่งนี้
~ อา ฉันน่าจะเขียนจดหมายถึงเท็ด ~ เขานึกขึ้นได้แล้วเขียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสถานที่นัดพบ หลังจากนั้นเขาจะให้ซัมเมอร์ไปส่งให้ มันดึกแล้วและใกล้เวลาเข้านอน เขาจึงปิดห้องทำงานและมุ่งหน้าไปยังหอนอนของเขา
แต่ขณะที่เขากำลังไปที่นั่น เขาเห็นมาดามพอมฟรีย์กับรีมัสค่อยๆ ลอบเดินออกไปข้างนอกโรงเรียนด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาดูระมัดระวังตัวกันมาก
ใกล้เวลาเข้านอนแล้ว ดังนั้นการออกไปข้างนอกนี้จึงไม่ใช่เรื่องปกติ เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมพยาบาลของโรงเรียนกับนักเรียนคนหนึ่งจะไปไหนกันในเวลาแบบนี้
แม็กนัสพอจะรู้แล้วว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด มันคือต้นวิลโลว์จอมหวด เขาเห็นมาดามพอมฟรีย์กำลังทำอะไรบางอย่างจากระยะไกล เธอโรยแป้งรอบตัวเธอแล้วไปที่ลำต้นของต้นไม้ที่มีความก้าวร้าวอย่างยิ่งแล้วกดตรงปุ่มตาต้นไม้
น่าแปลกที่ต้นไม้หยุดเคลื่อนไหวทันที ราวกับว่ามีสวิตช์ปิดอยู่ จากนั้นเขาก็เห็นทั้งสองเข้าไปในอุโมงค์เล็กๆ ใต้ต้นไม้ เขารอให้พวกนั้นกลับมา แต่เมื่อมีการเคลื่อนไหวต่อมาเกิดขึ้น มีเพียงมาดามพอมฟรีย์เท่านั้นที่ออกมา
~รีมัสอยู่ที่ไหน? เดี๋ยวนะ! เธอ... ฆ่าเขารึเปล่า~ แม็กนัสจินตนาการถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุด ถึงยังไงเขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไปไหนมาไหนกับเด็กชาย
~ฉันต้องช่วยเขา~ แม็กนัสตัดสินใจ
ดังนั้นเขาจึงปล่อยมาดามพอมฟรีย์แล้วเดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ มันกลับคืนสู่สภาพที่ดุร้ายและดูเหมือนมีความรู้สึก เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ต้นไม้ก็เริ่มแสดงท่าทีราวกับว่ามันกำลังมองแม็กนัสอย่างตั้งอกตั้งใจ
“นี่ ผมชื่อแม็กนัสนะ ขอผ่านได้ไหม” แม็กนัสกล่าวอย่างใจดี
เขากำลังรอการต่อสู้ แต่น่าแปลกที่ต้นไม้กลับยืดตัวขึ้นราวกับว่ามันไม่เห็นเขาหรือสนใจเขา แม็กนัสจึงก้าวไปข้างหน้า เขาตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าต้นวิลโลว์จะไม่ทำให้เขาประหลาดใจ
~หืม ขนาดต้นไม้ก็เหมือนกันเหรอ? ทำไมสัตว์กับต้นไม้ถึงเป็นมิตรกับฉันจัง~ เขาสงสัย
แต่เขากลับลืมเรื่องทั้งหมดนั้นและเดินเข้าไปในอุโมงค์เล็ก ๆ ทันที อย่างไรก็ตาม มันใหญ่กว่ามากจากภายใน
เขาเดินผ่านมันและต้องบอกว่ามันเป็นอุโมงค์ที่ยาวมาก เขาใช้คาถา Lumos เพื่อทำให้ไม้กายสิทธิ์ของเขาสว่างขึ้น อุโมงค์มืดมากแต่ก็ถูกสร้างไว้อย่างดี
หลังจากเดินไปไม่กี่นาทีเขาก็มาถึงทางตัน เขาสับสนว่าจะไปที่ไหนต่อไป แต่ต่อมา สายตาของเขาเหลือบไปเห็นช่องบนหลังคาอุโมงค์ มันทำจากไม้และมองออกไปนอกสถานที่
เขาเปิดมันช้าๆ เพื่อไม่ให้แจ้งเตือนว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาแล้ว เขาหมอบลงทันทีที่เขาออกมาจากช่องเล็กๆ ก็ไม่เห็นมีใคร ที่น่าตกใจก็คือขนาดหน้าต่างก็ไม่มีเช่นกัน
*แกรก*
*แกรก*
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังขูดไม้จากอีกห้องหนึ่ง บ้านมืดสนิทและเขาได้หยุดคาถา Lumos เพื่อไม่ให้ศัตรูตื่นตัว แต่พอมีแสงจันทร์ส่องมาจากช่องว่างเล็กๆ บนหลังคา
~ที่นี่คือที่ไหน~ เขาสงสัย
“รีมัส...” เขากระซิบชื่อ
แต่ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น เสียงเกาก็หยุดลง และในไม่ช้าก็มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาหาเขา แม็กนัสรู้สึกขนลุก
"กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร..."
แม็กนัสหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้าย
ในไม่ช้ามันก็ดังจนเขารู้สึกว่ามันอยู่ใกล้มาก เขาได้ยินเสียงหายใจด้วยซ้ำ
ดังนั้น เขาจึงยกไม้กายสิทธิ์ไปทางทิศทางที่เสียงนั้นกำลังมา และร่าย Lumos ที่ที่ทรงพลัง
"แกรรรรรรรรรรร..."
ทันใดนั้นแสงก็ขยายไปในทิศทางหนึ่ง แม็กนัสพยายามดูว่ามันคือตัวอะไร แต่เมื่อเขาเห็นมัน ขนทั้งหมดบนตัวของเขาก็ลุกชัน ความรู้สึกของเขาตื่นตัวและดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง
เขาหัวเราะอย่างประหม่า "เอ่อ... ฉันว่าฉันกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ..."
_____________________________
ฟอกส์
ต้นวิลโลว์จอมหวด