ตอนที่ 350 ทางน้ำจี้ชิว
“ที่นี่คืออะไร?” ถังเทียนปากอ้าค้างขณะเขามองดูถ้ำหินขนาดมหึมาต่อหน้าเขา
อาเฮ่อมีสติปัญญาฉลาดสังเกตเห็นตัวหนังสือบนผนังและจำได้ เขาตอบ “นี่คือทางน้ำโบราณ เรียกว่าทางน้ำจี้ชิว ข้าเคยได้ยินชื่อทางน้ำนี้มาก่อน แต่ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่”
“ทางน้ำโบราณ!”
ถังเทียนตะลึง คนที่เหลือก็ตื่นเต้นเช่นกัน มองดูรอบๆด้วยความตื่นเต้น
“ใหญ่โตมโหฬารมาก!” หัวหม่าเอ๋ออุทานนางเป็นชาวกลุ่มดาวหมาป่าโดยกำเนิด แต่ไม่เคยได้ยินชื่อทางน้ำจี้ชิวเลย “ทางน้ำนี้จะพาเราไปที่ไหน?”
อาเฮ่อส่ายหัว “ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน ข้าจำไม่ได้ว่าข้าเคยเห็นจากที่ไหน”
เผียะ!
ทุกคนสะดุ้งตกใจเสียงนั้น แต่เป็นถังเทียนตบหน้าผากตนเอง เขาทำสีหน้าหงุดหงิด “ว้า..ข้าลืมแผนที่กลุ่มดาวเสียสนิท! ข้าได้ยินว่าแผนที่นี้ปรมาจารย์ท่านหนึ่งได้สร้างไว้ ขอข้าตรวจดูก่อน”
ถังเทียนล้วงแผนที่กลุ่มดาวออกมาอ่านดู หลังจากนั้นชั่วครู่ เขาตะโกนอย่างตื่นเต้น“เจอแล้ว”
ถังเทียนอ่านทีละคำ
“ทางน้ำจี้ชิวเป็นทางน้ำโบราณและขึ้นชื่อซึ่งเชื่อมขอบฟ้าเหนือกับขอบฟ้าใต้ ปรากฏขึ้นเมื่อห้าพันปีที่แล้ว และเคยเป็นที่นิยมมากที่สุดในเวลานั้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นธารหลั่งไหลแห่งพลังงานและความจริงก็คือเป็นแม่น้ำลับของกลุ่มดาว เซียนจี้ชิวเป็นผู้พบและสำรวจทางน้ำนี้และเรียกทางน้ำนี้ว่าทางน้ำจี้ชิวตำแหน่งของมันจะเปลี่ยนไปทุกๆ ห้าร้อยปี และมักจะเชื่อมโยงกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้เข้ากับกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือดังนั้นจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสะพานลับเชื่อมใต้สู่เหนือ”
“นั่นหมายความว่าทางน้ำนี้จะนำเราไปยังสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือใช่ไหม?” อาเฮ่อสรุป
“นั่นคือสิ่งที่เขียนไว้ในแผนที่” ถังเทียนชี้แผนที่กลุ่มกลุ่มดาว
“ธารหลั่งไหลแห่งพลังหมายความว่ายังไง?” หลิงซิ่วพบบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับเขา
“มีพลังมากมายนักหรือ?” ถังเทียนไม่แน่ใจเช่นกัน
ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกษากันเสียงดังครืนครันสะท้อนก้องดังออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ ขณะที่กองทัพกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา ทุกคนหยุดคุยและหันหน้าไปดู
กองทัพปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โดยมีหยาหยานำหน้า
หยาหยาสกปรกไปทั้งตัวและเมื่อเห็นถังเทียน ตาของมันเป็นประกาย และเริ่มส่งเสียงครางหงุงหงิงมันกางแขนในอากาศและพุ่งเข้าหาถังเทียนทันที
ร่างสีเทาพุ่งวาบปรากฏตัวอยู่หน้าพวกเขาทันที
ลูกเตะด้านข้างที่ทรงพลังยิงออกมาคมเหมือนมีดปะทะใส่หยาหยาทันที
ปัง!
ร่างของหยาหยากระแทกเข้าไปในผนังเกิดรูโหว่เป็นรูปตัวของมันพอดี สีหน้าของมันชะงักแข็งค้าง
ดูเหมือนถังเทียนเพิ่งตื่นจากภวังค์และรีบขอโทษมันทันที “ขอโทษที ข้ามีปฏิกิริยาเร็วเกินไปหน่อย..”
หลิงซิ่วกับอาเฮ่อเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป! แค่หลังจากหยาหยากระแทกเข้าไปในผนัง พวกเขาเพิ่งจะรู้สึกตัว นี่ความเคลื่อนไหวของเขาไวมากขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทั้งสองมองหน้ากันเอง เมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นแววตกใจในดวงตา พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าดูเหมือนว่าเจ้าคนผิดมนุษย์มนาผู้นี้จะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว
ถังเทียนทำเป็นห่วงใยและวิ่งไปที่ผนังและดึงหยาหยาออกมา นิ้วของเขาที่ดึงหยาหยาออกมามีแรงกดดันบางอย่าง โชคดีที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บ โอวก็แค่มีฝุ่นมากมาย....เขาอุ้มหยาหยาออกมาจากผนังและปัดฝุ่นให้มัน เหมือนกับว่าเขากำลังถือไม้กวาดที่มีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด
ภายในฝุ่นฟุ้งหยาหยากำลังถูกตบเหมือนพายเนื้อ มันมีสีหน้าซึมเซา
“เฮ้,ครั้งต่อไป อย่าทำอะไรที่อันตรายแบบนี้ตามลำพังอีก”
ถังเทียนทำท่าห่วงใยลึกซึ้งและสั่งสอนขณะที่หยาหยามองเห็นดาวเต็มไปหมด
หลิงซิ่วจ้องมองดูกองทัพอสูรจักรกลและถาม “มีอันตรายอยู่ข้างหน้าบ้างไหม?”
อสูรจักรกลทุกตัวมองทอดระยะออกไป พวกมันหลายตัวมีบาดแผลอยู่บนร่างกาย และมองดูท่าทางตกใจ หลิงซิ่วจำได้ว่ากองทัพอสูรจักรกลของหยาหยามีราวๆ 200-300 ตัว แต่ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 60-70 ตัวเป็นไปได้ว่าลึกลงไปคงมีอันตรายกระมัง?
หลิงซิ่วกระตือรือร้นจะเข้าไปค้นดู เนื่องจากยิ่งอันตราย ก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น
และมันคือทางน้ำที่มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์ ใครจะรู้ว่ามีสมบัติอะไรเก็บไว้ข้างใน
“รอให้จิ่งหาวออกมาก่อนจากนั้นเราค่อยเข้าไปดูกัน” อาเฮ่อเสนอแนะทันที
หลิงซิ่วไม่คัดค้าน เขานับถือจิ่งหาวมาก ถังเทียนพยักหน้าเช่นกัน “ตกลง!”
พี่จิ่งหาวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าทุกคน และยังไม่ออกมาจากห้องฝึกฝน ความจริงเขาขัดคำสั่งของอาจารย์และเดินทางมาช่วยเขาทำให้ถังเทียนซาบซึ้งใจมาก
“ปล่อยให้ถังอี้ประจำการอยู่ที่นี่” เสียงปิงดังออกมา
เขาเสร็จงานต่างๆของเขาแล้วจึงตามออกมา และเมื่อเห็นทางน้ำโบราณ เขาอดประหลาดใจไม่ได้
ทุกคนเห็นด้วยกับคำแนะนำของปิง โบราณสถานหักพังอย่างนั้นมักจะมีสมบัติและความมั่งคั่งอยู่ ใครจะรู้ว่ามีคนมากมายเพียงไหนต้องการจะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง
หลังจากที่ทุกอย่างเกิดขึ้น ถังเทียนลืมเรื่องที่เขาต้องการสู้กับอาเฮ่อและหลิงซิ่ว
ก่อนจะแยกย้ายกลับข่าวร้ายที่ทำให้สีหน้าทุกคนเขียวคล้ำก็มาถึง
“ประตูดวงดาวสู่กลุ่มดาวโลมาถูกปิดและนอกจากประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวกา ประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวต่างๆ ปิดหมดและประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวกาก็ถูกปิดด้วยเช่นกัน ไม่มีการเตือนหรือบอกกล่าวและเราไม่ได้รับข่าวสารอื่นใดด้วย” หัวหม่าเอ๋อพูดไปสั่นไป นางไม่สามารถนึกภาพออกจะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลอำนาจมากขนาดไหนถึงสั่งให้ปิดประตูดวงดาวได้มากมายขนาดนี้
“ฮึ่ม...เจ้าพวกไร้ยางอายพวกนั้น ข้าจะแทงพวกมันให้ตายในไม่ช้านี้แหละ” หลิงซิ่วโกรธ
“ข้าจะไปหาดูว่าใครทำเรื่องนี้”ปิงกล่าวและหายไปทันที ถังเทียนรู้ว่าปิงไปหาติงตัง
“กระเป๋าหนาอย่างนั้นก็สามารถทำเช่นนั้นได้” อาเฮ่อกล่าวจริงจัง “ศัตรูต้องการทำให้เราถูกกักไว้ที่นี่”
หลังจากผ่านไปไม่นาน ปิงวิ่งกลับมาหน้าดำคร่ำเครียด “เป็นฝีมือเย่จิ่ว ตระกูลเย่มีผู้อาวุโสนักสู้ระดับเซียนอยู่คนหนึ่ง จู่ๆ ก็โผล่ออกมาฆ่าผู้อาวุโสสำนักของสมาพันธ์ชาวยุทธที่ล้อเลียนตระกูลเย่ เย่จิ่วส่งจดหมายไปให้ผู้มีอำนาจของกลุ่มดาวขอให้พวกเขาปิดประตูดวงดาวที่เชื่อมกับกลุ่มดาวหมาป่า”
ดวงตาของทุกคนมีแววโกรธโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหม่าเอ๋อที่เริ่มด่าทอ “เขาต้องการบีบคั้นให้เราตาย”
กลุ่มดาวหมาป่ามิได้มีประตูดวงดาวเชื่อมโยงกับกลุ่มดาวอื่นมากนัก และถ้าประตูดวงดาวถูกผนึกอย่างนั้นกลุ่มดาวหมาป่าจะกลายเป็นกรงขัง
“เขากำลังอวดศักดากับเรา” อาเฮ่อเข้าใจวิธีที่สมาชิกตระกูลใหญ่และมีอำนาจแข็งแกร่งแสดงออกมา เขากล่าว “เขากำลังใช้เวลาที่เราสะสมอำนาจทำให้เรากังวล ดังนั้นการกดดันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ตระกูลเย่มีนักสู้ชั้นเซียนคนหนึ่งตอนนี้เราลำบากแล้ว ยอดฝีมือขอบเขตชั้นเซียน แข็งแกร่งทรงพลังมาก และไม่ใช่ผู้ที่คนในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือจะขัดขืนได้เสียด้วย”
ยอดฝีมือขอบเขตเซียน!
คำพูดเหล่านี้เหมือนมนต์วิเศษจากฝันร้ายกดดันหัวใจพวกเขาอย่างหนักหน่วง
ไม่มีใครคาดเลยว่าตระกูลเย่จะมีเซียนนักสู้คนหนึ่งอยู่ด้วย นั่นเป็นข้อมูลภายในจากตระกูลระดับสูง
ขณะที่ทุกคนอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว ถังเทียนกลับไม่กังวลแม้แต่น้อย และตอบง่ายๆ “ถ้าเป็นนักสู้ชั้นเซียนแล้วไงต่อ? เขามีสี่ขาหรือเปล่า? วางใจน่ะทุกคน นักสู้เซียนทำเงินได้มากหลายแสนในหนึ่งนาทีหรือเปล่า ทำไมพวกเขาจะต้องเสียเวลาอันมีค่ากับคนอย่างพวกเราด้วย? เราอาจจะสู้กับนักสู้ระดับเซียนไม่ได้ก็จริง แต่ถ้าเย่จิ่วคิดว่าเราจะก้มหัวให้และขลาดกลัวเพราะเรื่องนี้และเขาทำตัวเหนือกว่า บอกได้เลยว่าเขาคิดผิด”
พอสายตาทุกคนมองดูถังเทียน อารมณ์ของพวกเขาสงบกันทุกคน เมื่อคิดดูแล้ว แม้ว่าถังเทียนจะพูดขวานผ่าซาก แต่เขาก็พูดถูก นักสู้ระดับเซียนจะมาเสียเวลากับพวกเขาไปทำไม?
หลิงซิ่วลอบตั้งเป้าเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และใช้หอกแทงเซียนเฒ่าให้ตาย!
อาเฮ่อเริ่มคิดอย่างใจเย็น ยอดฝีมือขอบเขตเซียนไม่น่าจะหยาบกร้าน ใช่ว่าทุกคนจะรักหลงใหลเงินเหมือนอย่างถังเทียน...
ปิงถอนหายใจ ความโง่ ใช่ว่าจะไม่มีข้อดี...
เมื่อเห็นว่าทุกคนสงบแล้วเขารู้สึกภูมิใจ “นอกจากนี้เรายังมีทางน้ำจี้ชิวไม่ใช่หรือ? เนื่องจากมันถูกสร้างมาให้เชื่อมกับกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ อีกด้านหนึ่งก็ต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวของพวกเขาแน่หึ หึ บอกข้าที เย่จิ่วต้องการอวดอำนาจตัวเองผนึกเราไว้และเอาชนะเรา และถ้าเราไปโผล่ในขอบฟ้าเหนือ เขาจะไม่หวาดกลัวเชียวหรือ? โอว.. ข้ารอเห็นสีหน้าของเขาไม่ไหวแล้วฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
ทุกคนเริ่มรู้สึกกระตือรือร้น
“ขณะเดียวกัน ก็กำจัดความหยิ่งยโสของเขาไปด้วย!” หลิงซิ่วเลียริมฝีปาก นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
“จะดีที่สุดล่อให้เย่เฉาเกอมาที่นี่เลย” อาเฮ่อพูดเย็นชา “เราสามารถซุ่มโจมตีได้”
“เป็นความคิดที่ดี!” ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย “เราจะรวมหัวเล่นงานเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ต้องฆ่าเขาให้ได้”
หยาหยาที่กำลังงัวเงียก็ค่อยๆตื่นขึ้นจากเสียงคุยปรึกษาและได้ยินแผนการรบของพวกเขา เลือดลมของมันพลุกพล่านทันที มันยกหมัดน้อยๆ ของมันร้องเสียงดังลั่น “ยิ ย้ายิ ย้า!”
ไม่มีใครสนใจมัน
ช่วงเวลานี้เย่จิ่วรู้สึกพอใจ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเมื่อตอนที่เขาพ่ายแพ้ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าสายตาทั้งอิจฉาและนับถือจากผู้อาวุโสสำนักคนอื่นๆ ขณะที่ความตกต่ำของตระกูลเย่หายไป และบรรยากาศของพวกเขาเปลี่ยนไป
ทั้งหมดนี้เกิดเพราะความเคลื่อนไหวกระบวนท่าเดียวของลุงใหญ่ของเขา
ลุงใหญ่ของเขาเพียงแต่ตักเตือนสมาพันธ์ชาวยุทธว่าเขายังไม่ตาย
เพียงข้ามคืนเย่จิ่วกลายเป็นคนหยิ่งลำพอง และบ้านตระกูลเย่เริ่มคึกคักขึ้น ความเคลื่อนไหวต่อไปจะทำให้ชื่อของเขาแพร่กระจายกว้างไกล ในสายตาของผู้มีอำนาจเบื้องบน พวกเขารู้สึกว่าจะทำให้เรื่องแย่ลงไปเนื่องจากราชินี แต่ด้วยการจัดการของเย่จิ่ว ราชินีจะไม่มีการเคลื่อนไหวแน่นอน
ไม่ฆ่าและไม่ทำร้ายนั่นคือส่วนที่ยาก
ความยืดหยุ่นของเขาหมายถึงกระทำการหลายเรื่องเพื่อเปลี่ยนมุมมองของเบื้องบนที่มีต่อเขา และถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรในปลายปีเขาจะมีตำแหน่งแน่นอน ถ้าเขาเลื่อนขึ้นตำแหน่งอื่น นั่นหมายความว่าเขาจะเป็นอิสระจากการเป็นผู้อาวุโสระดับกลางและก้าวขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่า ถึงเวลานั้นด้วยการสนับสนุนจากลุงใหญ่ เขาเชื่อว่าตระกูลเย่จะผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
สำหรับสายตาคนทั่วไปอำนาจของตระกูลเย่เพิ่มมากขึ้น สามารถสั่งให้กลุ่มดาวปิดประตูดวงดาวได้อำนาจของตระกูลเย่นับว่าน่ากลัวมาก
ตระกูลเย่ที่เก็บตัวเงียบมาหลายปี พลังอำนาจแผ่กระจายแล้วหลังจากเย่จิ่วใช้เงินครั้งใหญ่
นั่นคือครั้งแรกที่เย่จิ่วรู้สึกว่าขอบเขตเซียนแท้จริงแล้วแข็งแกร่งมากแค่ไหน
เขากำลังถูกความลุ่มหลงอำนาจเผาผลาญ เขาเพิ่งตระหนักว่าตนเองไร้เดียงสาและโง่เพียงไหน ไม่ว่าเฉาเกอจะเป็นหมาป่าเดียวดายหรือไม่ก็ตาม ตราบเท่าที่เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียน เขาจะกลายเป็นสัญลักษณ์ปกป้องของตระกูลเย่ เย่เฉาเกอไม่จำเป็นต้องลงมือ ความคงอยู่ของเขาก็เพียงพอขู่ขวัญศัตรูแล้ว
ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าต้องเคี่ยวเข็ญให้เฉาเกอเข้าสู่ขอบเขตเซียนให้ได้
เย่จิ่วตัดสินใจกำหนดเป้าหมายของเขาเอง
เรื่องของถังเทียนและพวกเขาถูกโยนไปชั่วคราว สำหรับเขาเรื่องนี้ได้ผลสรุปแล้ว
สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือคู่ต่อสู้ต่อไปที่ตระกูลเย่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นน่ากลัวขนาดไหน