ตอนที่แล้วตอนที่ 349 ผู้เฒ่าแห่งตระกูลเย่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 351 แผนปลุกสายเลือดล้านคน

ตอนที่ 350 ทางน้ำจี้ชิว


“ที่นี่คืออะไร?”  ถังเทียนปากอ้าค้างขณะเขามองดูถ้ำหินขนาดมหึมาต่อหน้าเขา

อาเฮ่อมีสติปัญญาฉลาดสังเกตเห็นตัวหนังสือบนผนังและจำได้  เขาตอบ “นี่คือทางน้ำโบราณ เรียกว่าทางน้ำจี้ชิว  ข้าเคยได้ยินชื่อทางน้ำนี้มาก่อน  แต่ไม่คิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่”

“ทางน้ำโบราณ!”

ถังเทียนตะลึง  คนที่เหลือก็ตื่นเต้นเช่นกัน มองดูรอบๆด้วยความตื่นเต้น

“ใหญ่โตมโหฬารมาก!”  หัวหม่าเอ๋ออุทานนางเป็นชาวกลุ่มดาวหมาป่าโดยกำเนิด แต่ไม่เคยได้ยินชื่อทางน้ำจี้ชิวเลย “ทางน้ำนี้จะพาเราไปที่ไหน?”

อาเฮ่อส่ายหัว  “ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน  ข้าจำไม่ได้ว่าข้าเคยเห็นจากที่ไหน”

เผียะ!

ทุกคนสะดุ้งตกใจเสียงนั้น  แต่เป็นถังเทียนตบหน้าผากตนเอง  เขาทำสีหน้าหงุดหงิด  “ว้า..ข้าลืมแผนที่กลุ่มดาวเสียสนิท!  ข้าได้ยินว่าแผนที่นี้ปรมาจารย์ท่านหนึ่งได้สร้างไว้  ขอข้าตรวจดูก่อน”

ถังเทียนล้วงแผนที่กลุ่มดาวออกมาอ่านดู  หลังจากนั้นชั่วครู่ เขาตะโกนอย่างตื่นเต้น“เจอแล้ว”

ถังเทียนอ่านทีละคำ

“ทางน้ำจี้ชิวเป็นทางน้ำโบราณและขึ้นชื่อซึ่งเชื่อมขอบฟ้าเหนือกับขอบฟ้าใต้  ปรากฏขึ้นเมื่อห้าพันปีที่แล้ว และเคยเป็นที่นิยมมากที่สุดในเวลานั้น  ได้รับการยกย่องว่าเป็นธารหลั่งไหลแห่งพลังงานและความจริงก็คือเป็นแม่น้ำลับของกลุ่มดาว  เซียนจี้ชิวเป็นผู้พบและสำรวจทางน้ำนี้และเรียกทางน้ำนี้ว่าทางน้ำจี้ชิวตำแหน่งของมันจะเปลี่ยนไปทุกๆ ห้าร้อยปี และมักจะเชื่อมโยงกลุ่มดาวขอบฟ้าใต้เข้ากับกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือดังนั้นจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสะพานลับเชื่อมใต้สู่เหนือ”

“นั่นหมายความว่าทางน้ำนี้จะนำเราไปยังสิบเก้ากลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือใช่ไหม?”  อาเฮ่อสรุป

“นั่นคือสิ่งที่เขียนไว้ในแผนที่”  ถังเทียนชี้แผนที่กลุ่มกลุ่มดาว

“ธารหลั่งไหลแห่งพลังหมายความว่ายังไง?”  หลิงซิ่วพบบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับเขา

“มีพลังมากมายนักหรือ?”  ถังเทียนไม่แน่ใจเช่นกัน

ขณะที่ทุกคนกำลังปรึกษากันเสียงดังครืนครันสะท้อนก้องดังออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ  ขณะที่กองทัพกำลังมุ่งหน้ามาทางพวกเขา  ทุกคนหยุดคุยและหันหน้าไปดู

กองทัพปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วมาก  โดยมีหยาหยานำหน้า

หยาหยาสกปรกไปทั้งตัวและเมื่อเห็นถังเทียน ตาของมันเป็นประกาย และเริ่มส่งเสียงครางหงุงหงิงมันกางแขนในอากาศและพุ่งเข้าหาถังเทียนทันที

ร่างสีเทาพุ่งวาบปรากฏตัวอยู่หน้าพวกเขาทันที

ลูกเตะด้านข้างที่ทรงพลังยิงออกมาคมเหมือนมีดปะทะใส่หยาหยาทันที

ปัง!

ร่างของหยาหยากระแทกเข้าไปในผนังเกิดรูโหว่เป็นรูปตัวของมันพอดี สีหน้าของมันชะงักแข็งค้าง

ดูเหมือนถังเทียนเพิ่งตื่นจากภวังค์และรีบขอโทษมันทันที  “ขอโทษที  ข้ามีปฏิกิริยาเร็วเกินไปหน่อย..”

หลิงซิ่วกับอาเฮ่อเข้ามาถึงที่เกิดเหตุ  มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป! แค่หลังจากหยาหยากระแทกเข้าไปในผนัง พวกเขาเพิ่งจะรู้สึกตัว นี่ความเคลื่อนไหวของเขาไวมากขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทั้งสองมองหน้ากันเอง  เมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นแววตกใจในดวงตา  พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าดูเหมือนว่าเจ้าคนผิดมนุษย์มนาผู้นี้จะแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว

ถังเทียนทำเป็นห่วงใยและวิ่งไปที่ผนังและดึงหยาหยาออกมา นิ้วของเขาที่ดึงหยาหยาออกมามีแรงกดดันบางอย่าง  โชคดีที่มันไม่ได้รับบาดเจ็บ  โอวก็แค่มีฝุ่นมากมาย....เขาอุ้มหยาหยาออกมาจากผนังและปัดฝุ่นให้มัน เหมือนกับว่าเขากำลังถือไม้กวาดที่มีฝุ่นเกาะเต็มไปหมด

ภายในฝุ่นฟุ้งหยาหยากำลังถูกตบเหมือนพายเนื้อ มันมีสีหน้าซึมเซา

“เฮ้,ครั้งต่อไป  อย่าทำอะไรที่อันตรายแบบนี้ตามลำพังอีก”

ถังเทียนทำท่าห่วงใยลึกซึ้งและสั่งสอนขณะที่หยาหยามองเห็นดาวเต็มไปหมด

หลิงซิ่วจ้องมองดูกองทัพอสูรจักรกลและถาม  “มีอันตรายอยู่ข้างหน้าบ้างไหม?”

อสูรจักรกลทุกตัวมองทอดระยะออกไป  พวกมันหลายตัวมีบาดแผลอยู่บนร่างกาย  และมองดูท่าทางตกใจ หลิงซิ่วจำได้ว่ากองทัพอสูรจักรกลของหยาหยามีราวๆ 200-300 ตัว  แต่ตอนนี้เหลืออยู่เพียง 60-70 ตัวเป็นไปได้ว่าลึกลงไปคงมีอันตรายกระมัง?

หลิงซิ่วกระตือรือร้นจะเข้าไปค้นดู  เนื่องจากยิ่งอันตราย ก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น

และมันคือทางน้ำที่มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์  ใครจะรู้ว่ามีสมบัติอะไรเก็บไว้ข้างใน

“รอให้จิ่งหาวออกมาก่อนจากนั้นเราค่อยเข้าไปดูกัน” อาเฮ่อเสนอแนะทันที

หลิงซิ่วไม่คัดค้าน  เขานับถือจิ่งหาวมาก  ถังเทียนพยักหน้าเช่นกัน  “ตกลง!”

พี่จิ่งหาวได้รับบาดเจ็บหนักกว่าทุกคน  และยังไม่ออกมาจากห้องฝึกฝน ความจริงเขาขัดคำสั่งของอาจารย์และเดินทางมาช่วยเขาทำให้ถังเทียนซาบซึ้งใจมาก

“ปล่อยให้ถังอี้ประจำการอยู่ที่นี่”  เสียงปิงดังออกมา

เขาเสร็จงานต่างๆของเขาแล้วจึงตามออกมา และเมื่อเห็นทางน้ำโบราณ เขาอดประหลาดใจไม่ได้

ทุกคนเห็นด้วยกับคำแนะนำของปิง โบราณสถานหักพังอย่างนั้นมักจะมีสมบัติและความมั่งคั่งอยู่  ใครจะรู้ว่ามีคนมากมายเพียงไหนต้องการจะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง

หลังจากที่ทุกอย่างเกิดขึ้น ถังเทียนลืมเรื่องที่เขาต้องการสู้กับอาเฮ่อและหลิงซิ่ว

ก่อนจะแยกย้ายกลับข่าวร้ายที่ทำให้สีหน้าทุกคนเขียวคล้ำก็มาถึง

“ประตูดวงดาวสู่กลุ่มดาวโลมาถูกปิดและนอกจากประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวกา ประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวต่างๆ ปิดหมดและประตูดวงดาวเข้าสู่กลุ่มดาวกาก็ถูกปิดด้วยเช่นกัน  ไม่มีการเตือนหรือบอกกล่าวและเราไม่ได้รับข่าวสารอื่นใดด้วย” หัวหม่าเอ๋อพูดไปสั่นไป นางไม่สามารถนึกภาพออกจะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลอำนาจมากขนาดไหนถึงสั่งให้ปิดประตูดวงดาวได้มากมายขนาดนี้

“ฮึ่ม...เจ้าพวกไร้ยางอายพวกนั้น  ข้าจะแทงพวกมันให้ตายในไม่ช้านี้แหละ”  หลิงซิ่วโกรธ

“ข้าจะไปหาดูว่าใครทำเรื่องนี้”ปิงกล่าวและหายไปทันที ถังเทียนรู้ว่าปิงไปหาติงตัง

“กระเป๋าหนาอย่างนั้นก็สามารถทำเช่นนั้นได้”  อาเฮ่อกล่าวจริงจัง  “ศัตรูต้องการทำให้เราถูกกักไว้ที่นี่”

หลังจากผ่านไปไม่นาน  ปิงวิ่งกลับมาหน้าดำคร่ำเครียด  “เป็นฝีมือเย่จิ่ว ตระกูลเย่มีผู้อาวุโสนักสู้ระดับเซียนอยู่คนหนึ่ง  จู่ๆ ก็โผล่ออกมาฆ่าผู้อาวุโสสำนักของสมาพันธ์ชาวยุทธที่ล้อเลียนตระกูลเย่  เย่จิ่วส่งจดหมายไปให้ผู้มีอำนาจของกลุ่มดาวขอให้พวกเขาปิดประตูดวงดาวที่เชื่อมกับกลุ่มดาวหมาป่า”

ดวงตาของทุกคนมีแววโกรธโดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหม่าเอ๋อที่เริ่มด่าทอ “เขาต้องการบีบคั้นให้เราตาย”

กลุ่มดาวหมาป่ามิได้มีประตูดวงดาวเชื่อมโยงกับกลุ่มดาวอื่นมากนัก  และถ้าประตูดวงดาวถูกผนึกอย่างนั้นกลุ่มดาวหมาป่าจะกลายเป็นกรงขัง

“เขากำลังอวดศักดากับเรา”  อาเฮ่อเข้าใจวิธีที่สมาชิกตระกูลใหญ่และมีอำนาจแข็งแกร่งแสดงออกมา  เขากล่าว “เขากำลังใช้เวลาที่เราสะสมอำนาจทำให้เรากังวล ดังนั้นการกดดันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้  ตระกูลเย่มีนักสู้ชั้นเซียนคนหนึ่งตอนนี้เราลำบากแล้ว ยอดฝีมือขอบเขตชั้นเซียน แข็งแกร่งทรงพลังมาก และไม่ใช่ผู้ที่คนในกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือจะขัดขืนได้เสียด้วย”

ยอดฝีมือขอบเขตเซียน!

คำพูดเหล่านี้เหมือนมนต์วิเศษจากฝันร้ายกดดันหัวใจพวกเขาอย่างหนักหน่วง

ไม่มีใครคาดเลยว่าตระกูลเย่จะมีเซียนนักสู้คนหนึ่งอยู่ด้วย  นั่นเป็นข้อมูลภายในจากตระกูลระดับสูง

ขณะที่ทุกคนอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว  ถังเทียนกลับไม่กังวลแม้แต่น้อย  และตอบง่ายๆ “ถ้าเป็นนักสู้ชั้นเซียนแล้วไงต่อ?  เขามีสี่ขาหรือเปล่า? วางใจน่ะทุกคน นักสู้เซียนทำเงินได้มากหลายแสนในหนึ่งนาทีหรือเปล่า ทำไมพวกเขาจะต้องเสียเวลาอันมีค่ากับคนอย่างพวกเราด้วย? เราอาจจะสู้กับนักสู้ระดับเซียนไม่ได้ก็จริง  แต่ถ้าเย่จิ่วคิดว่าเราจะก้มหัวให้และขลาดกลัวเพราะเรื่องนี้และเขาทำตัวเหนือกว่า บอกได้เลยว่าเขาคิดผิด”

พอสายตาทุกคนมองดูถังเทียน  อารมณ์ของพวกเขาสงบกันทุกคน  เมื่อคิดดูแล้ว  แม้ว่าถังเทียนจะพูดขวานผ่าซาก  แต่เขาก็พูดถูก  นักสู้ระดับเซียนจะมาเสียเวลากับพวกเขาไปทำไม?

หลิงซิ่วลอบตั้งเป้าเขาต้องแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และใช้หอกแทงเซียนเฒ่าให้ตาย!

อาเฮ่อเริ่มคิดอย่างใจเย็น  ยอดฝีมือขอบเขตเซียนไม่น่าจะหยาบกร้าน ใช่ว่าทุกคนจะรักหลงใหลเงินเหมือนอย่างถังเทียน...

ปิงถอนหายใจ  ความโง่ ใช่ว่าจะไม่มีข้อดี...

เมื่อเห็นว่าทุกคนสงบแล้วเขารู้สึกภูมิใจ  “นอกจากนี้เรายังมีทางน้ำจี้ชิวไม่ใช่หรือ? เนื่องจากมันถูกสร้างมาให้เชื่อมกับกลุ่มดาวขอบฟ้าเหนือ  อีกด้านหนึ่งก็ต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวของพวกเขาแน่หึ หึ บอกข้าที เย่จิ่วต้องการอวดอำนาจตัวเองผนึกเราไว้และเอาชนะเรา  และถ้าเราไปโผล่ในขอบฟ้าเหนือ  เขาจะไม่หวาดกลัวเชียวหรือ?  โอว.. ข้ารอเห็นสีหน้าของเขาไม่ไหวแล้วฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทุกคนเริ่มรู้สึกกระตือรือร้น

“ขณะเดียวกัน ก็กำจัดความหยิ่งยโสของเขาไปด้วย!”  หลิงซิ่วเลียริมฝีปาก  นัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

“จะดีที่สุดล่อให้เย่เฉาเกอมาที่นี่เลย”  อาเฮ่อพูดเย็นชา  “เราสามารถซุ่มโจมตีได้”

“เป็นความคิดที่ดี!”  ถังเทียนนัยน์ตาเป็นประกาย  “เราจะรวมหัวเล่นงานเขาอีกครั้ง  และครั้งนี้ต้องฆ่าเขาให้ได้”

หยาหยาที่กำลังงัวเงียก็ค่อยๆตื่นขึ้นจากเสียงคุยปรึกษาและได้ยินแผนการรบของพวกเขา  เลือดลมของมันพลุกพล่านทันที  มันยกหมัดน้อยๆ ของมันร้องเสียงดังลั่น “ยิ ย้ายิ ย้า!”

ไม่มีใครสนใจมัน

ช่วงเวลานี้เย่จิ่วรู้สึกพอใจ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากเมื่อตอนที่เขาพ่ายแพ้ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าสายตาทั้งอิจฉาและนับถือจากผู้อาวุโสสำนักคนอื่นๆ  ขณะที่ความตกต่ำของตระกูลเย่หายไป และบรรยากาศของพวกเขาเปลี่ยนไป

ทั้งหมดนี้เกิดเพราะความเคลื่อนไหวกระบวนท่าเดียวของลุงใหญ่ของเขา

ลุงใหญ่ของเขาเพียงแต่ตักเตือนสมาพันธ์ชาวยุทธว่าเขายังไม่ตาย

เพียงข้ามคืนเย่จิ่วกลายเป็นคนหยิ่งลำพอง และบ้านตระกูลเย่เริ่มคึกคักขึ้น ความเคลื่อนไหวต่อไปจะทำให้ชื่อของเขาแพร่กระจายกว้างไกล ในสายตาของผู้มีอำนาจเบื้องบน พวกเขารู้สึกว่าจะทำให้เรื่องแย่ลงไปเนื่องจากราชินี  แต่ด้วยการจัดการของเย่จิ่ว  ราชินีจะไม่มีการเคลื่อนไหวแน่นอน

ไม่ฆ่าและไม่ทำร้ายนั่นคือส่วนที่ยาก

ความยืดหยุ่นของเขาหมายถึงกระทำการหลายเรื่องเพื่อเปลี่ยนมุมมองของเบื้องบนที่มีต่อเขา  และถ้าไม่มีอุบัติเหตุอะไรในปลายปีเขาจะมีตำแหน่งแน่นอน ถ้าเขาเลื่อนขึ้นตำแหน่งอื่น นั่นหมายความว่าเขาจะเป็นอิสระจากการเป็นผู้อาวุโสระดับกลางและก้าวขึ้นไปสู่ระดับที่สูงกว่า ถึงเวลานั้นด้วยการสนับสนุนจากลุงใหญ่ เขาเชื่อว่าตระกูลเย่จะผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง

สำหรับสายตาคนทั่วไปอำนาจของตระกูลเย่เพิ่มมากขึ้น สามารถสั่งให้กลุ่มดาวปิดประตูดวงดาวได้อำนาจของตระกูลเย่นับว่าน่ากลัวมาก

ตระกูลเย่ที่เก็บตัวเงียบมาหลายปี  พลังอำนาจแผ่กระจายแล้วหลังจากเย่จิ่วใช้เงินครั้งใหญ่

นั่นคือครั้งแรกที่เย่จิ่วรู้สึกว่าขอบเขตเซียนแท้จริงแล้วแข็งแกร่งมากแค่ไหน

เขากำลังถูกความลุ่มหลงอำนาจเผาผลาญ เขาเพิ่งตระหนักว่าตนเองไร้เดียงสาและโง่เพียงไหน  ไม่ว่าเฉาเกอจะเป็นหมาป่าเดียวดายหรือไม่ก็ตาม  ตราบเท่าที่เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียน  เขาจะกลายเป็นสัญลักษณ์ปกป้องของตระกูลเย่  เย่เฉาเกอไม่จำเป็นต้องลงมือ  ความคงอยู่ของเขาก็เพียงพอขู่ขวัญศัตรูแล้ว

ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าต้องเคี่ยวเข็ญให้เฉาเกอเข้าสู่ขอบเขตเซียนให้ได้

เย่จิ่วตัดสินใจกำหนดเป้าหมายของเขาเอง

เรื่องของถังเทียนและพวกเขาถูกโยนไปชั่วคราว  สำหรับเขาเรื่องนี้ได้ผลสรุปแล้ว

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือคู่ต่อสู้ต่อไปที่ตระกูลเย่เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นน่ากลัวขนาดไหน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด