ตอนที่ 11-24 กระบี่หมื่นบรรจบ มุกชีวิต
เจ้าแม่แลชเพิลลอยนิ่งในอากาศเหมือนกับราชินีงามสง่ารากเถาหลายพันรอบๆ มีสีเขียวอ่อนใสพันอยู่รอบร่างที่ร้ายกาจของนาง
ในขณะเดียวกันด้านล่างของนาง
ทั้งรากและเถานับไม่ถ้วนชูขึ้นมาในอากาศโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่ง เสียงคำรามกระหึ่มดังมาจากใต้ผืนทราย ลูกของนางพญาจำนวนมากอยู่ภายใต้การควบคุมของจ้าวแม่แลชเพิลกำลังคลุมเต็มปิรามิดสีดำกีดขวางทางเข้าไว้อย่างสิ้นเชิง
ลินลี่ย์ชำเลืองมองโรซารี่และเดลี่ เซียนจอมเวททั้งสองคนเริ่มร่ายเวทกันใกล้จะแล้วเสร็จ
ผมสีหยกยาวของโรซารี่โบกสะบัดทันทีขณะที่คลื่นของแก่นธาตุน้ำทะลักออกจากร่างของนาง เกล็ดหิมะและน้ำแข็งนับไม่ถ้วนเทออกและอุณหภูมิลดลงต่ำทันที แม้แต่รากและเถาที่กำลังกวัดแกว่งอยู่ด้านล่างถูกแช่แข็งทันที
เวทต้องห้ามธาตุน้ำ– ศูนย์สัมบูรณ์
ขณะเดียวกันนั้นคลื่นไร้ลักษณ์ที่เป็นระลอกพลังงานระเบิดออกจากร่างของเดลี่พุ่งตรงเข้าหานางพญาแลชเพิลในกลางอากาศ ร่างของนางพญาแลชเพิลเพียงแต่สั่นเล็กน้อย และนางไม่ได้รับผลอะไรมาก
“แคร็ก... ปัง”
รากหลายรากแตกกระจายจากความเย็น
ร่างของนางพญาแลชเพิลคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งเช่นกัน
“นี่คือการโจมตีที่พวกเจ้าได้วางแผนมาใช่ไหม?” นางพญาแลชเพิลหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ในแง่พลังจิต เจ้าจะเทียบกับข้าได้ยังไง? สำหรับเวทธาตุน้ำ..ฮะฮะ นั่นยิ่งน่าตลกใหญ่ข้า, แลชเพิลเป็นผู้ฝึกฝนมาทางกฎธาตุน้ำและลม”
“ทรงพลังมาก!” กลุ่มของลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ต้นไม้อสูรที่มีลำต้นใหญ่โตโดยทั่วไปก็มีพลังวิญญาณมากมายมหาศาลอยู่แล้ว ร่างแท้จริงของนางพญาแลชเพิลความจริงก็ใหญ่โตน่ากลัวอยู่แล้ว แต่เมื่อนางฝึกฝน นางจะเริ่มย่อขนาดตัวลง แต่วิญญาณของนางจะเพิ่มขนาดพลังมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองฝ่ายคือเซียนขั้นสุดยอด
แต่เซียนมนุษย์ยังด้อยกว่าต้นไม้อสูรที่น่ากลัวนี้อยู่มาก
คำพูดของนางพญาแลชเพิลเพิ่งเปล่งออกมา..
“พิ้ววว!”
แสงสีดำสิบแปดสายยิงออกมาจากตาของราชสีห์ทองหกตาสามพี่น้อง รังสีสิบแปดสายครอบคลุมตัวนางพญาแลชเพิลทันทีเหมือนกับว่าร่างกายและรากเถาที่ใหญ่โตของนางถูกย้อมด้วยชั้นผิวสีดำ
ตาของนางพญาแลชเพิลเบิกกว้างทันที และใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของนางบิดเบี้ยวทันที
นาง...ไม่สามารถขยับได้!
“ควั่บ” ทำงานประสานกันได้สมบูรณ์แบบ ขณะที่แสงสิบแปดสายยิงออกไป ลินลี่ย์ก็บินตรงเข้าหานางพญาแลชเพิลด้วยความเร็วสูง
“โกรวววว!”
“ฆ่าเขาซะ!”
……..
ส่วนของลูกที่นับไม่ถ้วนของนางที่อยู่ใต้ทรายคำรามกราดเกรี้ยวต้องการดูมารดาของพวกมันสังหารมนุษย์เหล่านี้ แต่ในทันใดนั้น ไม่มีตนใดสังเกตออก...ว่าเจ้าแม่ของพวกมันไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป
กระบี่เลือดม่วงในมือข้างหนึ่งและดาบหนักอดาแมนเทียมในมืออีกข้างหนึ่ง ลินลี่ย์ร่างมังกรใช้ดวงตาสีทองเข้มจ้องมองนางพญาแลชเพิลเขม็งเขาใช้ความเร็วระดับสูงสุดพุ่งเข้าหานาง ลินลี่ย์ฝ่าเข้าไปในรากและเถาที่กำลังโกรธเกรี้ยวของนางพญาแลชเพิล
เขายิ้มที่มุมปาก
สายลมหวีดหวิวขณะที่ลินลี่ย์พุ่งผ่านระยะหลายร้อยเมตรจนระยะห่างจากแลชเพิลไม่กี่ร้อยเมตร สำหรับลินลี่ย์ร้อยเมตรก็เพียงแค่พริบตา... แต่เมื่อยอดฝีมือสู้กัน พริบตานั้นสามารถตัดสินชัยชนะได้
“กรรรรร!” เสียงคำรามกราดเกรี้ยวหลุดออกมาจากปากของนางพญาแลชเพิล
รากและเถานับไม่ถ้วนรายล้อมตัวของนางพญาพุ่งตรงเข้าหาลินลี่ย์ ดวงตาของนางพญาเต็มไปด้วยความโกรธเกลียดและนางสาบานด้วยตนเองว่านางจะต้องฆ่ามนุษย์ที่อยู่ต่อหน้านางให้หมดเริ่มจากคนที่อยู่ใกล้ที่สุด
นางพญาเป็นอิสระจากอาการอัมพาตแล้ว
“แย่แล้ว” หน้าของเดลี่ โรซารี่และคนอื่นๆเปลี่ยนไป
ตาน้อยๆของบีบีเป็นประกายสีแดงทันที ขณะเดียวกันร่างของเขามีชั้นแสงสีดำคลุมรอบ บีบีแปลงเป็นรังสีดำบุกเข้าไปข้างหน้าอย่างไม่สนใจอันตรายใดๆ ทั้งนั้น“พี่ใหญ่” บีบีห่วงใยสุดขีด
มีรากจำนวนหนึ่งพุ่งเข้าหาเขา
ลินลี่ย์เองยังใจเย็นอยู่มาก เขาเตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์นี้มาเป็นเวลานาน
กระบี่เลือดม่วงในมือของเขากลายสภาพเป็นประกายสีม่วงร้ายกาจสิบล้านสายทันที ทุกหนแห่งที่ประกายปรากฏ พื้นที่อากาศจะถูกย่นย่ออย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันประกายแสงสีม่วงทั้งหมดจะขดและเลื้อยไปข้างหน้าเป็นรูปแบบเฉพาะพุ่งเข้าหาจุดหมายเดียว
แช่แข็งพื้นที่!
รากเถาจำนวนมากที่พุ่งเข้าหาเขาความเร็วตกลงอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับว่าพวกมันกำลังกวาดผ่านโคลน
สำหรับประกายกระบี่สิบล้านสายของลินลี่ยกำลังพุ่งไปบรรจบกันที่จุดเดียว รวมกันเป็นจุดสีม่วง แสงสีม่วงนี้เป็นเหมือนดาวหางพุ่งเข้าหาอย่างไม่มีอะไรป้องกันไว้ได้
“ปัง!” แสงกระบี่สีม่วงพุ่งไปข้างหน้าและเถารากกึ่งโปร่งใสที่ทนทานพังทลายและแตกสลายทันที ชิ้นส่วนเถารากนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายไปทั่ว
สัจธรรมแห่งธาตุลม– กระบี่หมื่นบรรจบ!
กระบี่โจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดที่ลินลี่ย์สามารถรวบรวมขึ้นผ่านการใช้สัจธรรมแห่งธาตุลม
ลินลี่ย์รีบวิ่งออกจากพื้นที่ที่แตกกระจัดกระจายเพราะพลังโจมตีกระบี่หมื่นบรรจบของเขา ขณะที่นางพญาแลชเพิลจ้องมองอย่างประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไง?” รากเถาของนางทรงพลังมากกว่าส่วนของต้นลูกอย่างเห็นได้ชัด
เถารากมากมายโอบล้อมมนุษย์ได้ แต่มนุษย์กลับทำลายมันได้ทันที
“ตาย” เมื่อตะลุยผ่านกรงเถารากได้ลินลี่ย์ก็ไปถึงอากาศเหนือศีรษะของนางพญาแลชเพิลแล้วและดาบหนักอดาแมนเทียมในมือลินลี่ย์สับลงทันที
แลชเพิลพุ่งลงด้วยความเร็วสูงทันที
แต่ความเคลื่อนไหวของร่างนางจะเร็วเท่ากับอาวุธได้ยังไง? นางพญาแลชเพิลควบคุมรากเถาของนางมาป้องกันไว้ แต่... สายเกินไป
“ปัง!” ดาบหนักอดาแมนเทียมของลินลี่ย์ปะทะเข้ากับศีรษะของแลชเพิล
ดาบหนักอดาแมนเทียมเพียงแต่สัมผัสศีรษะของแลชเพิลอย่างแผ่วเบาและร่างที่ใหญ่โตของแลชเพิลเริ่มสั่นสะเทือนทันที จากนั้นของเหลวสีเขียวเริ่มพุ่งออกมาจากปากและตานาง รากเถาที่กวัดแกว่งอย่างบ้าคลั่งเริ่มตกลงอย่างไร้ชีวิตชีวา
มืออีกข้างของลินลี่ย์ไม่ได้พักเฉย เขาใช้วิชากระบี่หมื่นบรรจบอีกครั้ง
แสงกระบี่ที่ร้ายกาจสิบล้านสายเคลื่อนไหวในจังหวะที่แปลกประหลาดและแช่แข็งพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง กระบี่สิบล้านสายบรรจบกันในตำแหน่งเดียวสร้างเป็นประกายกระบี่สีม่วงพร่าเลือนพุ่งตรงเข้าหาศีรษะของนางพญาแลชเพิล
“ปัง!”
เริ่มตั้งแต่ศีรษะทั่วทั้งตัวของนางพญาแลชเพิลพังทลายและแตกเป็นชิ้นๆ เพียงเมื่อร่างนางแตกออกลินลี่ย์จึงได้ตระหนักว่าอวัยวะภายในของนางถูกเขย่าสั่นสะเทือนโดยสัจธรรมแห่งธาตุดินจนอ่อนนุ่มเหมือนโคลน แต่เมื่อร่างของนางพญาเริ่มพังสลายเต็มที่ ลินลี่ย์พบด้วยความประหลาดใจว่า ภายในร่างของนางพญายังมีมุกใสขนาดเล็กมากส่องประกายสีเขียว
ลินลี่ย์พลิกมือและคว้ามุกใสนั้นไว้ ขณะที่นางพญาแลชเพิลเหลือร่างกายอยู่ครึ่งหนึ่งและจำนวนรากเถาที่ไร้ชีวิตชีวาร่วงจากกลางอากาศและกระแทกใส่เถาไม้ข้างล่าง
รากเถาที่โบกสะบัดของทะเลสีเขียวเบื้องล่างชะงักทันที
ไม่มีต้นไม้อสูรตนใดอยากจะเชื่อ เจ้าแม่ผู้ทรงพลังของพวกเขาถูกสังหารกลางอากาศโดยนักรบที่ดูเหมือนมนุษย์มังกร
เจ้าแม่ผู้ไร้เทียมทานของพวกมัน....ตายเสียแล้ว!
“ฟังให้ดี” ลินลี่ย์ตะโกนใส่กลุ่มต้นไม้อสูรข้างล่างอย่างเย็นชา“พวกเจ้าจงไสหัวไปซะดีกว่า มิฉะนั้น..ข้าจะสังหารพวกเจ้าทุกตัวตนเหมือนอย่างที่สังหารเจ้าแม่ของพวกเจ้า” ลินลี่ย์กวาดสายตาลงมองข้างล่าง
“ครืดดด, ครืดดดด...”
รากและเถานับไม่ถ้วนจมลงในทรายอย่างตื่นตระหนก และทะเลสีเขียวที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่กลายเป็นทะเลทรายอีกครั้ง ขณะที่ต้นไม้อสูรเหล่านั้นรีบเผ่นหนีไปอย่างหวาดผวา แม้แต่เจ้าแม่ของพวกมันที่มีพลังมากกว่าพวกมันเป็นร้อยเท่าก็ยังตายได้
พวกมันเป็นแค่ส่วนประกอบลูกจะท้าทายอะไรได้?
ปิรามิดดำซึ่งถูกคลุมด้วยเถาหวายในตอนนี้เผยให้เห็นลักษณะที่แท้จริงอีกครั้ง
“พี่ใหญ่, ท่านทำให้ข้ากลัวแทบตายแล้ว” ตอนนี้บีบีเข้ามาอยู่ด้านข้างลินลี่ย์ และรั้งรัศมีคลุมตัวสีดำกลับเข้าไปในร่าง
ลินลี่ย์อดกอดบีบีอย่างช่วยไม่ได้
แม้ว่าบีบีจะมีอารมณ์อ่อนไหวแบบเด็ก บางครั้งก็ซุกซนตามประสาบางคราวก็กระหายเลือดเหมือนอย่างอสูรเวทอื่น แต่เขายอมสละชีวิตช่วยเหลือลินลี่ย์ได้ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน และผูกพันชีวิตเหมือนเป็นคนเดียว สัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งมาก..ความเชื่อมโยงทางวิญญาณภายใน พวกเขาสามารถรู้สึกได้แม้จะในส่วนของกายหยาบ
“ข้าไม่เป็นไร, หากไม่มีความเชื่อมั่นในระดับหนึ่งข้า..พี่ใหญ่ของเจ้า จะกล้าทำแบบนั้นหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะเบาๆ
เวลานั้นเดลี่และคนอื่นบินเข้ามาหาด้วยเช่นกัน หลังจากโชคชะตาพลิกผันที่พวกเขาเห็นประจักษ์ ตอนนี้พวกเขาทุกคนมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า
“ลินลี่ย์,เมื่อเจ้ากล้าแสดงฝีมือโจมตีนั้นของเจ้าต่อหน้าเราข้าเองก็ยังไม่มั่นใจเท่าใดนักเลย” เฟนหัวเราะ “แต่หลังจากเพิ่งเห็นในตอนนี้แล้ว ข้ารู้แล้วพลังกระบี่นั้นของเจ้าทรงพลังเพียงไหน ไม่ว่าจะมีพลังป้องกันแน่นหนาเพียงใด ก็ยังไม่สามารถรับพลังโจมตีนั้นของเจ้าได้อยู่ดี”
เมื่อลินลี่ย์แสดงฝีมือ เขาเพียงแต่แสดงฝีมือในกลางอกาศ เฟนและยอดฝีมืออื่นจะเห็นได้ว่ามันทรงพลังเพียงไหนได้ยังไง?
“ทุกคน รีบหาดูเถอะเผื่อว่าจะพบสมบัติเทพที่ชั้นเจ็ดนี้” เดลี่บอกกล่าวกับทุกคน “เราตกลงกันไว้ก่อนนี้แล้วว่าคนที่สามารถฆ่านางพญาจะได้ครอบครองสมบัติเทพ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรลินลี่ย์เสี่ยงชีวิตฆ่านางได้... ดังนั้นเขาควรจะได้สมบัติเทพไป ทุกคน..ช่วยกันหาดูดีๆ”
ลินลี่ย์รีบกล่าว“ไม่ต้องลำบากนักก็ได้...”
“เจ้าอยู่ตรงนี้แหละ เราจะช่วยเจ้าหา” หนึ่งในราชสีห์ทองหกตากล่าว พวกเขาประเมินพลังของนางพญาต่ำไป แม้เมื่อสามพี่น้องจะรวมพลังกันและใช้วิชาต้องห้ามแต่พวกเขาก็แค่สามารถทำให้นางพญาเป็นอัมพาตชั่วขณะเท่านั้น
ลินลี่ย์มีส่วนมากที่สุดในการสังหารนางพญา ทุกคนเริ่มช่วยกันค้นหาสมบัติของเทพเจ้าแม้แต่โอลิเวอร์ยังเต็มใจบินลงมาพื้นล่าง ยอดฝีมือทุกคนเริ่มค้นหาอย่างระมัดระวัง
ส่วนลินลี่ย์บินไปที่พื้นที่ทางออกที่อยู่ด้านข้างปิรามิด
นี่เป็นเพราะครั้งสุดท้ายที่ชั้นหก สมบัติเทพเจ้าก็วางไว้ในที่อย่างนี้ เพียงแต่ครั้งนี้แตกต่างกัน
“ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น?” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ เขาใช้เวลาหาอยู่ที่บันไดอยู่ชั่วครู่ แต่ไม่พบเห็นอะไร
ยอดฝีมือวนเวียนค้นหาในพื้นที่หลายตารางกิโลเมตรอย่างระมัดระวัง ในที่สุด ทุกคนกลับมารวมกันที่ปิรามิด
“พวกเจ้าพบอะไรบ้างไหม?” เดลี่ถาม
ทุกคนส่ายศีรษะ
เดลี่ขมวดคิ้ว “แปลก ในชั้นที่หกเมื่อรวมกับขวานของอสูรจ้าวอัคคียังมีสมบัติเทพเจ้าถึงสามชิ้น ชั้นที่เจ็ดของนางพญาแลชเพิลซึ่งมีพลังมากกว่าอสูรจ้าวอัคคีแต่เรากลับไม่สามารถหาสมบัติของเทพเจ้าเจอ”
ลินลี่ย์ก็งงเช่นกัน
“นี่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น” เฟนสับสนเช่นกัน “สมบัติเทพเจ้าอยู่ที่ใดกันแน่?”
“โอว ใช่แล้ว” โรซารี่ตาเป็นประกาย “ในชั้นที่หกอสูรจ้าวอัคคีเองก็ใช้ขวานยักษ์เป็นอาวุธประจำตัว คิดว่าจะมีสมบัติเทพเจ้าในร่างของแลชเพิลหรือไม่? ลินลี่ย์ เจ้าเห็นอะไรบ้างไหม?”
“บนตัวนางหรือ?” ลินลี่ย์ตกใจ
และจากนั้นลินลี่ย์คิดถึงมุกใสกลมที่เขาเก็บไว้ในแหวนมิติไปแล้ว เขาดึงออกมาถือไว้ในมือทันที “ใช่แล้ว เมื่อข้าสังหารนางพญาและร่างของนางกำลังแหลกสลาย ข้าพบมุกที่ดูเหมือนจะไม่ธรรมดาอยู่ในร่างของนาง ข้าจึงเก็บเอาไว้ ลองดูซิ นี่คืออะไร?”
ลินลี่ย์ไม่นึกว่ามุกกลมนี้จะเป็นสมบัติเทพเจ้า
ขณะที่เขาเห็นมัน...คิดว่าเป็นบางอย่างที่คล้ายๆ กับแก่นเวทของอสูรเวท และนี่คือแก่นของนางพญา
“มุกชีวิต” เมื่อเห็นมุกกลมในมือของลินลี่ย์ ราชสีห์ทองหกตาทั้งสามร้องตกใจพร้อมกัน
ลินลี่ย์เดลี่และคนอื่นๆ จ้องมองราชสีห์ทองหกตาทั้งสามอย่างมึนงง หนึ่งในพวกเขาอธิบาย “มุกชีวิตนี้เป็นสมบัติวิญญาณที่เราเคยเห็นครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อเราอยู่กับพ่อของเรา ตอนนี้เราเข้าใจแล้ว..ทำไมนางพญาแลชเพิลถึงได้งอกรากเถาได้ใหม่อย่างรวดเร็ว”
“ถ้ามุกชีวิตอยู่ในร่างกายผู้ใด อย่างนั้นพลังชีวิตไร้ขีดจำกัดภายในมุกชีวิตจะถูกสร้างให้กับผู้ใช้ แม้ว่าร่างของผู้ใช้จะถูกตัดเป็นแปดเสี่ยง แต่ก็ยังฟื้นคืนกลับเป็นปกติได้ในชั่วพริบตาแค่ต้องการเวลาหนึ่งหรือสองวินาที กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตราบใดที่วิญญาณของเจ้ายังไม่ถูกทำลาย อย่างนั้นเจ้าก็จะไม่ตายจริง” ราชสีห์ทองหกตาพูดอย่างตื่นเต้น “สำหรับนักสู้ระดับเซียน มุกชีวิตนี้มีค่ายิ่งกว่าสมบัติเทพใดๆทั้งหมด!”