ตอนที่ 11-23 เร็ว,ช้า?
เจ้าแม่แลชเพิลมีพลังมากมายมหาศาล ที่เหนือทะเลทรายของสุสานเทพเจ้าชั้นที่เจ็ดลมพัดทรายในทะเลทราย ขณะที่เดลี่ ลินลี่ย์เฟนและยอดฝีมือชาวมนุษย์พร้อมด้วยบีบีและยอดฝีมืออสูรเวทยืนอยู่กับที่ในอากาศ ทั้งหมดนั้นไตร่ตรองถึงก้าวต่อไปอย่างจริงจัง
“ถ้าเราไม่มีความหวังเลยแม้แต่น้อย ข้าขอเสนอให้..ยอมแพ้” เดลี่ฝืนพูดออกมา
ยอดฝีมือคนอื่นมองหน้าเดลี่ทุกคน
“ยกเลิกอย่างนี้น่ะหรือ?” ตาของเฟนมีร่องรอยไม่ยินยอม
พวกเขารอคอยมาพันปีสำหรับโอกาสนี้ และพวกเขาก็ผ่านชั้นที่หกมาได้แล้ว เขาไม่ยินดีจะยกเลิกโอกาสนี้ในตอนนี้เลยจริงๆ
“เราไม่มีความหวังเลยแม้แต่น้อย” เดลี่ส่ายศีรษะ “แค่เถาเส้นเดียวของนางพญาแลชเพิลก็แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้แล้ว และนางยังมีเถาแบบนี้เป็นพัน ที่สำคัญมากกว่าต่อให้พวกเจ้าทำลายเถาก้านพวกนี้ได้ มันจะงอกขึ้นใหม่ได้ตามธรรมชาติ”
เดลี่มองดูรอบๆตัว “ทุกท่าน, พวกท่านบอกข้าได้ไหม เราจะต่อต้านความตายของเราได้ไหม?”
ลินลี่ย์และบีบีมองกันเอง
“พี่ใหญ่, ยอมเถอะ” บีบีพูดทางใจกับลินลี่ย์ “เราไม่มีความจำเป็นต้องรีบ อย่างแย่ก็รออีกร้อยปี เมื่อเราทั้งสองแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ข้าจะขอปู่เบรุตให้เปิดอุโมงเข้าสุสานเทพเจ้าให้เฉพาะเราเท่านั้นก็ได้”
บีบีรู้สึกว่าไร้ความหวังเช่นกัน
ลินลี่ย์อดนึกย้อนกลับไปถึงฉากภาพที่น่ากลัวนับไม่ถ้วนนั้นไม่ได้ เถาก้านนับไม่ถ้วนนั้นโอบล้อมเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกที่เขาถูกรายล้อมความรู้สึกถึงอันตรายแบบนั้นสั่นสะท้านใจเขาจริงๆ
แต่ขณะนั้นเองราชสีห์ทองหกตามองหน้ากันเอง และหนึ่งในราชสีห์ทองหกตาพูดขึ้นอย่างจริงจัง “ไม่, เรายังไม่ถึงกับหมดหวัง เรายังมีความหวังอยู่บ้าง”
“โอว?”
ยอดฝีมือที่ลอยตัวอยู่ทุกคนจ้องมองราชสีห์ทองหกตาเหล่านั้นอย่างประหลาดใจ
“เรายังมีหวัง? เจ้าบอกว่าเรายังมีหวัง? ความหวังอะไร?” เฟนถามทันที
ราชสีห์ทองหกตาพยักหน้า “เราสามพี่น้องยังมีไม้ตายโจมตีสูงสุดผ่านตาทั้งหกของพวกเรา เราสามารถปล่อยรังสีหกสายอาบร่างคู่ต่อสู้ของเรามันจะช่วยทำให้คู่ต่อสู้เป็นอัมพาตและป้องกันพวกมันไม่ให้เคลื่อนไหว”
“อัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้?ป้องกันพวกมันไม่ให้เคลื่อนไหว” ลินลี่ย์ตกใจ
พลังโจมตีสูงสุดนี้ร้ายกาจเกินไป นั่นก็หมายความว่ามันสามารถบังคับคู่ต่อสู้ให้อยู่กับที่รอถูกเล่นงานสินะ?
ทุกคนในที่นั้นแม้แต่โอลิเวอร์และจ้าวแมงป่องเกล็ดดำที่เงียบมาตลอดมีดวงตาเต็มไปด้วยความทึ่ง
“ใช่แล้ว, ข้าจำได้เดี๋ยวนี้เอง” โรซารี่พูดด้วยความดีใจแกมประหลาดใจ “ข้าจำได้ว่าเมื่อเรามาถึงชั้นที่เจ็ดตอนแรกบีบีและคนอื่นดำลงไปในทรายเพื่อจับสัตว์ประหลาดตัวลูก และเป็นหนึ่งในพวกเจ้าสามพี่น้องที่ฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนั้น เมื่อพวกเจ้าฆ่ามันตาทั้งหกของพวกเจ้าจะปล่อยแสงสีดำรายล้อมสัตว์ประหลาดนั่นไว้การทำให้มันเป็นอัมพาตและบังคับมันทำให้พวกเจ้าฆ่ามันได้”
ลินลี่ย์และคนอื่นจำตอนนั้นได้เช่นกัน
“ถ้าเป็นกรณีเช่นนั้น อย่างนั้นเราจะชนะได้แน่” จ้าวแมงป่องเกล็ดดำดีใจ “ทำให้นางพญาแลชเพิลนั้นเป็นอัมพาตและจากนั้นทำลายวิญญาณนาง เมื่อวิญญาณนางถูกทำลายนางพญาจะตายอย่างแน่นอน”
“ไม่ง่ายอย่างนั้น” หัวหน้าของราชสีห์ทองหกตาส่ายศีรษะ “วิชาของเราไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทาน วิธีที่พวกเจ้ากำลังหมายถึงนี้เราจะสามารถแช่แข็งศัตรูทุกคนที่เราเผชิญหน้าได้และจากนั้นก็ฆ่าทันทีนั่นไม่ได้ทำให้เราไร้เทียมทาน? วิชานี้ขึ้นอยู่กับพลังของศัตรู”
ลินลี่ย์และคนอื่นพยักหน้า
ถูกแล้ว ถ้าราชสีห์ทองหกตาใช้วิชานี้สู้กับเทพก็มีแนวโน้มว่าเทพจะฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดายแค่เพียงพลิกฝ่ามือ
“วิชานี้ของพวกเราตามปกติจะมีผลต่อสัตว์ประหลาดตัวลูกเป็นอย่างดีแน่นอน” ราชสีห์ทองหกตาพูดอย่างจริงจัง “แต่พลังของเจ้าแม่แลชเพิลแข็งแกร่งกว่าลูกของนางเป็นร้อยเท่า เมื่อนางผ่อนคลาย พลังของนางยิ่งใหญ่อย่างน่าประหลาด จะทำให้นางเป็นอัมพาตเป็นเรื่องที่ยากมาก”
ราชสีห์ทองหกตาอีกสองตนพยักหน้าด้วยเช่นกัน
ลินลี่ย์และคนอื่นเข้าใจเหตุผลนี้ทุกคน
มันเหมือนกับกรงเหล็กขนาดใหญ่ อาจใช้กักขังม้าหรือวัวก็ได้ แต่ถ้าท่านใช้กรงเหล็กขนาดเดียวกันนี้เอาไปใช้ดักมังกรยักษ์ที่แข็งแกร่งมากกว่าม้าและโคเป็นร้อยเท่าพันเท่าได้หรือ?
“อย่างไรก็ตามแม้ว่านางพญาแลชเพิลจะแข็งแกร่งมาก แต่นางก็ไม่ใช่ระดับเทพ ถ้าเราสามพี่น้องร่วมพลังกันและใช้พลังนี้ด้วยกัน ก็มีแนวโน้มว่า.. เราจะทำให้นางพญาแลชเพิลเป็นอัมพาตได้ราวหนึ่งวินาที” พี่ใหญ่ของราชสีห์ทองหกตาพูด
ลินลี่ย์และคนอื่นรู้สึกดีใจ
วินาทีหนึ่ง? แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับยอดฝีมืออย่างลินลี่ย์ หนึ่งวินาทีก็เพียงพอจะทำให้ยอดฝีมือแต่ละคนลงมือโจมตีได้เป็นสิบครั้ง
“แต่แน่นอนว่า นั่นเป็นแค่เพียงประเมิน ที่สำคัญยังไม่มีการต่อสู้จริงจังกับนาง เรายังไม่รู้ว่าเราจะทำให้นางเป็นอัมพาตได้นานเพียงไหน” ราชสีห์ทองหกตากล่าว
ทุกคนเข้าใจ แต่พวกเขายังรู้อีกว่า...หากราชสีห์ทองหกตานี้สู้ด้วยกัน จะทำให้นางพญาแลชเพิลเป็นอัมพาตได้ชั่วคราวแน่นอน
“ทุกคน มีใครในพวกเรารู้สึกมั่นใจว่าจะสามารถฆ่านางพญาตัวนี้ได้ทันทีบ้าง?”
ราชสีห์ทองหกตาทั้งสามพี่น้องนี้จะสามารถช่วยให้พวกเขาที่เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งได้รับโอกาสครั้งเดียวคำถามตอนนี้ก็คือใครมีโอกาสทำได้สำเร็จมากที่สุด
“น่าเสียดาย, เราไม่มีจอมเวทสายธาตุลม” โรซารี่ส่ายศีรษะและถอนหายใจ ในแง่การโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่ทรงพลังที่สุดที่สำคัญต้องเป็นเซียนจอมเวทสายธาตุลม ทันทีที่คมมีดมิติใช้ออกมา ตัวมันเองสามารถใช้ตัดตัวเองได้ มันจะต้องสามารถใช้ตัดนางพญาเป็นสองท่อนได้แน่นอน
ตอนนี้ยอดฝีมือทุกคนได้แต่เงียบ
“ลินลี่ย์, เจ้าล่ะ เป็นยังไงบ้าง?” เฟนมองดูลินลี่ย์
ลินลี่ย์ยังคงเงียบ
เจ้าแม่แลชเพิลรายล้อมไปด้วยกลุ่มรากเถาที่หนาแน่น ราชสีห์ทองหกตาจะสามารถทำให้นางเป็นอัมพาตได้นานเท่าใดก็ไม่รู้ ถ้าเขาสามารถเข้าใกล้ร่างนางพญาได้เร็วนางจะหลีกพ้นจากอาการอัมพาตได้ และจากนั้นเขาจะถูกล้อมโดยเถารากนับไม่ถ้วนอีกครั้ง
เขาจะไม่มีแม้แต่โอกาสหนี
ที่สำคัญแม้ว่าดาบหนักอดาแมนเทียและกระบี่เลือดม่วงจะผสานรวมพลังกัน ก็เพียงแต่ทำลายรากได้แค่ร้อยในแต่ละครั้ง
“พี่ใหญ่” บีบีส่ายศีรษะให้ลินลี่ย์
โอกาสสำเร็จต่ำเกินไป
“ใครก็ตามที่สามารถฆ่านางพญาได้จะเป็นคนครอบครองสมบัติวิเศษของชั้นที่เจ็ด ถ้ามีอยู่จริง ข้าคิดว่าไม่มีใครในที่นี้ที่ปฏิเสธ” เดลี่มองดูทุกคน
ทุกคนพยักหน้า
“เรายังมีเวลาอีกสองปี ก่อนที่จะถึงกำหนดเวลาสิบปี” ลินลี่ย์พูดจริงจัง “ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเรามาใช้เวลาคิดอีกสักหน่อยเถอะ”
ยอดฝีมือทุกคนพยักหน้า เว้นแต่อย่างน้อยพวกเขามีความมั่นใจ พวกเขาจะไม่เลือกโยนชีวิตทิ้งไป
…..
ทะเลทรายไร้ขอบเขต
ลินลี่ย์ลอยตัวนิ่งอยู่ในอากาศ ตาของเขาปิด ขณะที่เขาปรับตัวเองให้เข้ากับสายลม เกี่ยวกับกฎแห่งธาตุลม ลินลี่ย์ได้รู้แจ้งความรู้ใหม่สองด้านเท่านั้นคือ ด้านเร็วและด้านช้า ขณะนั้นเองเขากำลังปรับตัวเองให้เขากับกฎธาตุลม ดังนั้นเขาจะปรับตัวให้เข้ากับสองด้านนี้เป็นปกติ
ใจของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับแก่นธาตุลม
“หืมม?” สติของลินลี่ย์ปรากฏมีภาพอยู่ภายในใจทันที
เมื่อนางพญาแลชเพิลโจมตีครั้งแรก รากเถานับหมื่นนับพันจะยิงออกมาด้วยความเร็วสูง ขณะนั้นลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นมีความรู้สึกว่าพื้นที่โดยรอบถูกแช่แข็งทันที และรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังติดอยู่ในน้ำหรือบ่อซีเมนต์
“เวลานั้นเถาก้านของของนางพญาจะเคลื่อนไหวเป็นจังหวะที่แปลกประหลาดลึกซึ้งและลึกลับ อาจเป็นผลทำให้เกิดการแช่แข็งพื้นที่” ใจของลินลี่ย์มีความคิดอย่างหนึ่งทันที
พื้นที่แช่แข็งในความเป็นจริงก็คือความเข้าใจด้านช้าในระดับลึกซึ้ง ปัจจุบันนี้ลินลี่ย์ยังคงมีระยะห่างจะด้านช้าและด้านเร็ว
“เถาก้านของนางพญานั้นไวมาก แม้แต่ลูเธอร์ฟอร์ดก็ยังไม่สามารถหนีได้ทัน” ลินลี่ย์ยังคงงงอยู่ “แต่เมื่อเถาก้านเหล่านั้นยิงพุ่งออกมา มันไวมากจนพื้นที่นั้นทำให้มันเป็นภาพเลือนราง น่าจะเป็นการพับมิติพื้นที่ ในด้านเร็ว แต่ทำไมมันจึงกลายเป็นว่าเถาก้านทั้งหมดรวมกันก็สามารถสร้างผลทางด้านแช่แข็งพื้นที่ได้?”
ลินลี่ย์ยังคงงง
ขณะเดียวกันลินลี่ย์เริ่มนึกย้อนภาพก้านเถาที่พุ่งออกมาโดยไม่รู้ตัวและค้นหาความลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นอย่างระมัดระวัง
หลังจากผ่านไปนานลินลี่ย์ที่ยังยืนอยู่ในกลางอากาศ ลืมตาขึ้นทันทีเขาพลิกมือดึงกระบี่เลือดม่วงออกมาและแทงออกไปด้านนอก ทันใดนั้น...
กระบี่เลือดม่วงนับพันปรากฏอยู่ต่อหน้าลินลี่ย์ และกระบี่ที่เลือนรางก็ทำให้พื้นที่รอบตัวมันเริ่มพร่าเลือน พลังโจมตีนี้ผสานกับความเข้าใจ ‘ย่นระยะพื้นที่’ และพลังโจมตี ‘ระลอกสายลม’ ด้วยพลังระลอกสายลมสามารถสร้างกระบี่โจมตีถึงสิบล้านสาย
“ไม่ถูกต้อง”
“ลินลี่ย์ขมวดคิ้ว”
“ถ้าข้าต้องการให้ทุกกระบี่โจมตีได้เหมือนเถาก้านนั้น กระบี่ทั้งสิบล้านที่พร่าเลือนก็น่าจะสามารถสร้างผลแช่แข็งพื้นที่ได้เป็นพิเศษอย่างต่อเนื่องได้” ลินลี่ย์ลองสะบัดกระบี่เลือดม่วงอีกครั้ง
ใช่แล้ว
ตอนนี้ลินลี่ย์ลองกระตุ้นพลังระลอกสายลมและสร้างกระบี่สิบล้านสายทันทีเลียนแบบการโจมตีของนางพญาแลชเพิล
อีกครั้ง อีกครั้ง
“ควั่บ”
กระบี่เลือดม่วงกลายเป็นกระบี่สิบล้านสายในกลางอากาศและสร้างประกายกระบี่ที่ยาวหลายเมตร โดยประกายกระบี่สีม่วงเริ่มครอบคลุมพื้นที่ พลังโจมตีของกระบี่ทั้งสิบล้านโจมตีได้เหมือนกับเป็นเถาก้านนับไม่ถ้วนรายล้อมไว้ และจากนั้น ในเวลาเดียวกัน กระบี่ทั้งหมดค่อยบรรจบเป็นจุดเดียวกันมีเสียงหนึ่งสามารถได้ยินได้...
“ปัง!”มิติที่ฉีกขาดปรากฏขึ้น
ลินลี่ย์ตาเป็นประกาย
“ใช่แล้ว ‘แช่แข็งมิติ’” หน้าของลินลี่ย์มีร่องรอยตื่นเต้นในที่สุด
“ในที่สุดก็สำเร็จ” โชคดีที่กระบี่เลือดม่วงสามารถบิดตัวและโค้งได้ นั่นคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เขาทดสอบเวลาโจมตีได้ครั้งแล้วครั้งเล่าและเลียนแบบการโจมตีของนางพญาแลชเพิลได้ เพียงแต่การโจมตีที่นางพญาแลชเพิลใช้นั้นมีเถาก้านนับพันรายล้อมศัตรู
แต่ด้วยการโจมตีของลินลี่ย์กระบี่เป็นสิบล้านเล่มออกมารวมที่จุดเดียวรวมพลังโจมตีทั้งหมด
“ในอดีตพลังโจมตี ‘ระลอกสายลม’ สามารถส่งกระบี่โจมตีได้ต่อเนื่อง แต่เมื่อเปลี่ยนสภาพเป็นกระบี่สิบล้านเล่มเพราะแรงเสียดทานของสายลม กระบี่นับไม่ถ้วนไม่สามารถบรรจบรวมในจุดเดียวกันอย่างต่อเนื่องได้” ลินลี่ย์เคยผิดหวังเรื่องนี้ในอดีต
เมื่อกระบี่ของเขาสะบัดออก ปกติจะต้องมีกระแสสายลมตามมาเพื่อสร้างเป็นกระบี่ลมสิบล้านเล่มตามมา
แต่เมื่อมีกระบี่สายลมสิบล้านเล่มบรรจบรวมกันจำเป็นต้องให้กระบี่ต้านแรงลมกันเอง หากจะกล่าวโดยทั่วไป ‘ความแตกต่างเพียงหนึ่งมิลลิเมตรอาจทำให้ความแตกต่างของระยะมีถึงพันกิโลเมตรได้’ แรงต้านพลังสายลมตามธรรมชาติก็หมายความว่าไม่สามารถสร้างกระบี่สายลมอีกสิบล้านสายได้ทันที
“แต่ด้วยการใช้จังหวะที่เฉพาะไม่เหมือนใครนี้เมื่อสร้างกระบี่สายลมนั้นทั้งหมด ข้าสามารถทำได้” ลินลี่ย์ประหลาดใจมาก
กระบี่สายลมทั้งสิบล้านเล่มถูกสร้างออกมาพร้อมกัน แต่มันไม่รุนแรงมากและโดยการสุ่มแค่สายลมที่ตามมาดูเหมือนจะผ่านกันเป็นแนวโค้ง สร้างแรงเหวี่ยงที่แปลกประหลาดขณะที่กระบี่ทั้งหมดรวมกันเป็นจุดเดียวกัน
“ลักษณะเฉพาะตัวจริงๆ” ลินลี่ย์อดใจไม่ได้ถึงกับต้องถอนหายใจอย่างอัศจรรย์ใจ
แต่ลินลี่ย์ก็มีความสุขมาก
“แม้ว่าในแต่ละกระบี่ที่ของกระบี่ทั้งสิบล้านจะไม่ค่อยทรงพลังเท่าใดนั้น เมื่อกระบี่เหล่านั้นบรรจบกันเป็นหนึ่ง พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่า” ลินลี่ย์ตื่นเต้นจัด เมื่อกระบี่สิบล้านเล่มผสานกันเป็นหนึ่งความแหลมคมและความเร็วของกระบี่เลือดม่วงก็มากขึ้นเต็มที่
สัจธรรมแห่งธาตุลม– หมื่นกระบี่บรรจบ!
นี่คือการบรรลุสัจธรรมแห่งธาตุลมอีกระดับหนึ่ง
ในแง่พลังโจมตียังมีพลังมากกว่า ‘จังหวะของสายลม’
“เพียงแต่, นี่เป็นการโจมตีเป้าหมายเดียวมีประโยชน์ใช้สู้กับเป้าหมายเดียว” ลินลี่ย์รู้ดีว่าเมื่อกระบี่นับไม่ถ้วนนั้นผสานกัน ไม่ว่ากระบี่จะผ่านไปที่ใดเป้าหมายทั้งหมดจะถูกทำลายล้างบดขยี้เป็นผุยผง
ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องนั้น การผสานพลังของกระบี่สิบล้านเล่มจะทำให้เพลังโจมตีสูงอยู่ในระดับที่น่ากลัวแน่นอน
นอกจากนี้ การโจมตีนี้ยังแฝงไว้ด้วยผลของการแช่แข็งมิติ
“ทำให้ด้าน ‘เร็ว’ นั้นจึงสามารถสร้างผล ‘แช่แข็งมิติ’ ได้ แล้วผล ‘ด้านช้า’ล่ะ?” แม้ว่าลินลี่ย์จะประสบผลสำเร็จพัฒนาการพลังโจมตีนี้ได้ แต่เขายังงงอยู่ดี
ด้าน‘เร็ว’ และ ‘ช้า’ ของกฎธรรมชาติธาตุลมสองขั้วที่ตรงกันข้าม แต่ดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน
“ถ้าข้าไม่อาจค้นหาได้ อย่างนั้นข้ายังจะไม่คิดก่อน” ลินลี่ย์อยู่ในอารมณ์ที่ร่าเริง “การโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดของสัจธรรมของธาตุลมสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างได้ทุกอย่าง ด้วยพลังโจมตีนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องกลัวการทำลายก้านเถาใดๆอีกด้วย”
หัวใจของลินลี่ย์ยังคงเต้นแรงด้วยความมั่นใจ
สามวันต่อมา
หลังจากจดจำพลังโจมตีสัจธรรมแห่งสายลมที่ทรงพลังมากที่สุดไว้ในใจได้แล้ว ลินลี่ย์มุ่งหน้าไปหานางพญาแลชเพิลพร้อมกับยอดฝีมืออื่นทันที ครั้งนี้คนอื่นจะช่วยสนับสนุนเขาด้วยการโจมตีของพวกเขาเอง ขณะที่ลินลี่ย์เองจะต้องใช้พลังโจมตีสุดท้ายให้ได้
หลังจากบินไปได้ชั่วขณะ
“โอเอซีสข้างหน้า น่าจะเป็นตำแหน่งที่ลูกๆของนางพญาแลชเพิลมารวมตัวอยู่” เดลี่ชี้ไปที่ไกล
สถานที่ตั้งของปิรามิดดำตอนนี้ถูกล้อมด้วยทะเลสีเขียวจนกลายเป็นรูปโอเอซีส
“ฮ่าฮ่า...ข้าเองคิดว่าพวกเจ้าคงจะกลัวจัดจนหนีกลับไปที่ชั้นหกแล้วนึกไม่ถึงเลยว่าพวกเจ้าจะกล้ากลับมา” เสียงที่แจ่มชัดดังสั่นสะเทือนเหนือทะเลสีเขียว และในกลางอากาศเหนือทะเลสีเขียว ร่างมนุษย์เรืองแสงสีเขียวมีกิ่งก้านเถานับพันกวัดแกว่งอยู่ไปมา
นางพญาแลชเพิล