ตอนที่ 11-20 อสูรเวทแผลงฤทธิ์
หญ้าแน่นขนัดล้อมลินลี่ย์ไว้อย่างแน่นหนาและหญ้าที่รายล้อมนี้มีเสียงดังครึ่กครั่ก ต้นหญ้ากำลังบีบแน่นกดดันและในพริบตาแรงกดดันมากจนหน้าของลินลี่ย์เริ่มเปลี่ยนสี
“เฉพาะแรงกดนี้สามารถบดขยี้เซียนทั้งหมดจนเป็นเนื้อเลอะเลือนได้ทันที”ลินลี่ย์พูดกับตนเอง
“สิ่งมีชีวิตประเภทต้นไม้นี้น่ากลัวยิ่งกว่าสิ่งมีชีวิตต้นไม้จากชั้นที่สองเป็นสิบเท่า!” ลินลี่ย์ไม่กล้าเสียเวลาอีก
“ทำลาย!” กระบี่เลือดม่วงในมือสะบัดออก...
ที่ใดก็ตามที่กระบี่เลือดม่วงผ่านไปอากาศจะแช่แข็งและจากนั้นก็พับตัวมันเอง และดาบพิเศษที่ปรากฏเป็นใบของอาวุธ แม้ว่าก้านหญ้าจะหนาและทนมากกว่าเถาวัลย์จากชั้นสองเป็นสิบเท่า แต่อยู่ต่อหน้ากระบี่เลือดม่วงพวกมันก็ถูกตัดเป็นชิ้นได้อย่างง่ายดาย
“ปัง!
หญ้ากลายเป็นชิ้นแตกกระจายและก้านของมันระเบิดไปทั่วทุกที่ และลินลี่ย์พุ่งออกมาจากกอหญ้าที่คุมขังเหมือนกับธนู
“พี่ใหญ่!ข้าไม่เป็นไร!” มีรูปรากฏขึ้นในกอหญ้าอีกแห่งหนึ่ง และจากนั้นบีบีที่ตลอดทั้งร่างคลุมไปด้วยแสงดำเหาะออกมาด้วยความเร็วสูง
“บีบี, นี่เป็นวิชาอะไร?”ลินลี่ย์รู้สึกยินดีในใจ
“ข้าเป็นหนูกินเทพ อสูรระดับเทพตัวหนึ่งนะ” บีบีเชิดหัวน้อยๆ ด้วยความภูมิใจ แต่จากนั้นบีบีสังเกตภาพที่ไม่ไกลออกไปได้...หญ้าหนาแน่นกอใหญ่หุ้มตัวเป็นรูปบอลขนาดใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนผู้หนึ่งถูกหุ้มอยู่ในกอหญ้าขนาดใหญ่สามารถเห็นแสงสีขาวเลือนรางได้
“พี่ใหญ่, เดลี่ดูอาการไม่ดีเลย” บีบีจำได้ว่าเป็นเดลี่ที่เปล่งรัศมีสีขาว
ลินลี่ย์สังเกตเห็นได้เช่นกัน เขาไม่ลังเลและบินไปที่นั่นขณะที่ส่งพลังจิตตรวจดูสถานการณ์ภายในเขาเห็นได้ชัดเจนว่าภายใน..เป็นร่างเดลี่ถูกหุ้มด้วยเกราะเรืองแสงคอยปกป้องทั้งตัว ขณะที่ธนูสีขาวยิงโจมตีต้นหญ้าที่รายล้อมเขาอย่างบ้าคลั่ง
โชคไม่ดีที่ต้นหญ้ามีความทนได้มากเกินไป
“ฉัวะ!” กระบี่เลือดม่วงถูกสะบัดและแสงสีม่วงวาบผ่านต้นหญ้าตัดพวกมันจนขาด
เดลี่หลบออกมาจากการจองจำได้ เมื่อเห็นว่าเป็นลินลี่ย์ เขาพูดทันที “ขอบคุณ เจ้าหญ้าปีศาจนี่ทนทานจริงๆ แม้ว่าข้าจะใช้เวทระดับเก้าแล้วก็ยังไม่สามารถทำลายมันได้ ถ้าไม่ได้เจ้าช่วยไว้ คงจะเป็นปัญหาหนักจริงๆ”
แสงสีแดงฉายวาบไปทั่วทันทีและหญ้ากระเด็นไปทั่ว ถูลี่กวัดแกว่งอาวุธชั้นเทพ ดาบแดงโลหิตบินไปทั่วท้องฟ้า พอมีดาบเล่มนี้ ถูลี่เป็นเหมือนเสือติดปีก ถูลี่คำรามลั่นด้วยความโกรธ “มันเป็นใคร? อย่าดีแต่ลับๆ ล่อๆถ้าเจ้ามีฝีมือ ออกมาสู้กับเราอย่างเปิดเผย”
“ปัง!” กรงขังหญ้าอีกลูกหนึ่งระเบิดออก และลูเธอร์ฟอร์ดซึ่งตลอดทั้งตัวเขาปกคลุมไปด้วยแสงหลบหนีออกมาจากการคุมขังได้เช่นกัน
ยอดฝีมืออื่นทะยอยหนีออกมาได้ทีละคน
อย่างไรก็ตามในตอนนี้สถานการณ์ของโอลิเวอร์ค่อนข้างแย่
ตอนนี้ต้นหญ้านับไม่ถ้วนที่ล้อมรอบและกำลังบดขยี้เขา โอลิเวอร์ไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวแม้แต่น้อยและเขาก็พบในทันทีว่า...
ใบหญ้าทั้งหมดบดใส่เขาและเริ่มเลื่อยตัวเขาด้วยความเร็วสูง หญ้าทั้งหมดเหล่านี้มีขอบที่คมมาก และด้วยการสีความเร็วสูงนี้..ทำให้หญ้าพวกนี้เริ่มแล่ตัวเขาเหมือนกับเขี้ยวแหลมคมหรือเหมือนฟันเลื่อยที่ชาวนาใช้ไถคราดพื้นดิน
ในพริบตาร่างของโอลิเวอร์ก็เป็นบาดแผลเปิด
“ฮึ่ม” ตาของโอลิเวอร์เปลี่ยนเป็นเย็นชา
“ควั่บ!” แสงสว่างวาบฉายและต้นหญ้าแตกกระจายไปทุกที่
ผมยาวดำขาวสองสีของเขาสะบัดพลิ้วและด้วยกระบี่น้ำแข็งดำในมือของเขา โอลิเวอร์บินขึ้นในอากาศ เพียงแต่ร่างของโอลิเวอร์มีรอยแผลเลือด โอลิเวอร์ลอบตกใจ “เป็นฟันเลื่อยที่ร้ายกาจจริงๆ”
ยอดฝีมือสิบสามคนลอยตัวนิ่งในอากาศ เดลี่มองดูรอบๆ ตัวเขา จากนั้นระบายลมหายใจโล่งอก “โชคดีที่ไม่มีใครตาย”
โอลิเวอร์มองดูเซียนที่อยู่ใกล้ๆ ที่เอวของเซียนมนุษย์ผู้นี้มีบาดแผลขนาดใหญ่รอบเอว “คาร์ลอส!นั่นอันตรายมากเลยนะ เจ้าเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว” มนุษย์ที่ชื่อคาร์ลอสระบายลมหายใจเช่นกัน “เกือบไปจริงๆ เจ้าฟันประหลาดนั่น คมและดุร้ายมาก ถ้าข้ารู้ตัวช้ากว่านี้เล็กน้อยต้นหญ้านั่นคงจะพรวดพราดเข้ามาในร่างข้าเป็นแน่
“พรวดพราดเข้ามาในร่างท่าน?” ลินลี่ย์และเฟนเมื่อได้ยินเช่นนี้ อดตกใจไม่ได้
ถ้าต้นหญ้าทะลุเข้าไปในร่างคนมีแนวโน้มว่าพวกมันจะทำลายอวัยวะภายในแทบจะทันที
“อย่าขยับ” เดลี่บินมาหาเซียนมนุษย์และเริ่มร่ายเวทรักษาเขา
คาร์ลอสผู้นี้เป็นคนหนึ่งในสามยอดฝีมือกลุ่มสอง
สามยอดฝีมือในกลุ่มที่สองมีมนุษย์อยู่สองคน คาร์ลอสและโอลิเวอร์ อีกหนึ่งเป็นอสูรเวทจ้าวแมงป่องเกล็ดดำ แมงป่องเกล็ดดำโดยทั่วไปเป็นอสูรเวทระดับเก้า แต่จ้าวแมงป่องเกล็ดดำนี้ฝึกฝนจนเป็นเซียนขั้นสูงซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและเหลือเชื่อ
“ข้าเกลียดที่ต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตตระกูลพืชจริงๆ” ลินลี่ย์ก้มหน้า ศึกษาพื้นที่รอบตัวเขา
พื้นที่ด้านล่างปกคลุมไปด้วยทราย ‘โอเอซีส’ ก่อนนั้นหายไปหมดแล้ว ทิ้งไว้แต่กอหญ้ายักษ์กระจัดกระจาย ลินลี่ย์เห็นกับตาตัวเองก่อนว่าพวกต้นหญ้าที่ไม่ได้รับความเสียหายจะจมลงในทรายและหายไป
“ไปกันเถอะ” เดลี่กล่าว “ถ้าเจ้าสัตว์ประหลาดต้นไม้นั่นไม่มายุ่งกับเราอีก เราก็อย่าไปเสียเวลากับมันเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือหาทางเข้าสู่ชั้นที่แปด
“ไปกันเถอะ” ลินลี่ย์และคนอื่นพยักหน้า
ยอดฝีมือทั้งสิบสามไม่ให้ความสนใจกับสัตว์ประหลาดต้นไม้อีกต่อไป และบินออกไปโดยเร็ว พวกเขาเริ่มค้นหาในทะเลทรายที่กว้างใหญ่ต่อ
“ยังมีอีกโอเอซีสหนึ่งข้างหน้า” เฟนขมวดคิ้วและตะโกนเสียงดัง
ลินลี่ย์เข้าไปดูใกล้ๆ ความจริงในระยะไกลมันมีสีเขียวครึ้ม แต่เมื่อบินเข้าไปใกล้มากขึ้นทุกคนจึงเห็นได้ว่าเป็นโอเอซีสขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามหลังจากพบกับเหตุการณ์ครั้งก่อนมาแล้ว ไม่มีใครที่ไม่ระวังตัวอีกครั้ง
“อย่าเข้าไปใกล้เกินไป” โรซารีส่ายศีรษะ “อยู่ห่างๆ จากมันไว้สัตว์ประหลาดนั่นยากจะรับมือ”
ทุกคนเห็นด้วยและทั้งกลุ่มจงใจเดินอยู่รอบโอเอซีส แต่หลังจากที่กลุ่มของลินลี่ย์บินออกไปในตำแหน่งอื่น โอเอซีสเขียวนั้นก็ดำลงไปในทราย ขณะที่ตัวทรายเองเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย
ตำแหน่งที่สั่นสะเทือนในทรายเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วสูงบังเอิญว่าไปยังตำแหน่งเดียวกับที่กลุ่มของลินลี่ย์กำลังบินไป
“หืม?” จ้าวแมงป่องเกล็ดดำอยู่รั้งท้ายสุด เหลือบลงมองข้างล่างจากนั้นตะโกนเตือนทันที “ทุกคน, ระวังเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นกำลังมุดทรายตรงมาที่เราด้วยความเร็วสูง”
ในเทือกเขาอสูรวิเศษพวกอสูรเวทมักจะซุ่มโจมตีจากด้านล่าง ในฐานะที่เป็นอสูรเวท แมงป่องเกล็ดดำคุ้นเคยกับการโจมตีรูปแบบนี้
“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ” ลินลี่ย์ เฟน ถูลี่และคนอื่นๆชะงักอยู่ในกลางอากาศและจ้องมองข้างล่าง
ถ้ามีใครมองดูอย่างระมัดระวัง ก็จะสามารถเห็นได้ว่า...บนผิวของทรายมีต้นหญ้าหนึ่งหรือสองต้นที่ยากจะสังเกต อสูรต้นไม้พันธุ์นี้สามารถใช้ต้นหญ้าทั้งหมดเป็นตาได้ ที่ใดก็ตามที่ต้นหญ้าสามารถเห็น มันก็สามารถเห็นได้เช่นกัน
“เราจะทำยังไงดี?” ลินลี่ย์ เดลี่และคนอื่นๆ มองหน้ากันเอง
จะฆ่าสัตว์ประหลาดต้นไม้นี้เป็นเรื่องยุ่งยากมาก แต่พวกเขาจะปล่อยให้มันคุกคามน่ากลัวได้ยังไง?
“ควั่บ!” “ควั่บ!”
เหมือนกับธนูแหลมคมสองดอกต้นหญ้าเขียวพุ่งออกมาจากใต้ทรายทันทีและรวบขาของเดลี่แทบจะทันทีก้านหญ้าทั้งสองนี้หนาเท่าแขนมนุษย์ และมีใบหญ้าขนาดเล็กกว่าอยู่ที่ยอดของมันเช่นกัน
ในทันทีที่มันรวบเดลี่ไว้
“ควั่บ”
ทันใดนั้นหญ้าเหล่านั้นฉุดดึงลงอย่างรวดเร็ว ลำต้นหญ้าทั้งสองพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วมากตวัดรัดและฉุดลง ในพริบตาเดลี่ถูกลากลงไป เดลี่คำรามเสียงลั่นขณะเดียวกันใช้พลังจิตโจมตีพื้นที่ด้านล่าง
“แย่แล้ว” หน้าของลินลี่ย์และคนอื่นเปลี่ยนไป และพวกเขาไล่ตามลงไปทันที
“ตุ้บ...” เดลี่ถูกฉุดดึงลงไปในพื้นทราย และในพริบตา เขาหายลับไปจากสายตาของทุกคน ผิวทรายมองดูเหมือนธรรมดา ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ตามลงไป!” บีบีตะโกนลั่น
บีบี,ราชสีห์ทองหกตาทั้งสาม, จ้าวแมงป่องเกล็ดดำไม่ลังเลแม้แต่น้อย อสูรเวททั้งห้าย่อขนาดขณะพุ่งลงทะเลทรายอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขณะดำลงในทรายตอนที่ยังมีร่างใหญ่ เทียบกับอสูรเวทแล้ว ยอดฝีมือชาวมนุษย์ไม่มีทางทำได้รวดเร็วขณะที่พวกเขาดำลงในพื้นทราย
เฟนโรซารี่ ถูลี่และพวกที่เหลือทั้งเจ็ดรออยู่กับที่ในกลางอากาศ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง
“ตอนนี้เราได้แต่ฝากความหวังไว้กับบีบีและอสูรเวทอื่น หวังอย่างเต็มที่ว่าพวกเขาจะสามารถช่วยเดลี่ได้” ลินลี่ย์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
ถ้าเขาดำลงไปในทรายก่อนอื่นเลยความเร็วในการดำดินของเขาจะลดลงกว่าครึ่งและเขาจะไม่สามารถไล่ตามอสูรต้นไม้ได้
“ต้นหญ้าปีศาจนั่นรวดเร็วเกินไป พวกมันเคลื่อนไหวราวกับยอดฝีมือสะบัดกระบี่” ถูลี่ขมวดคิ้ว “ในพริบตา พวกมันก็รัดขาของเดลี่ได้ นอกจากนี้ขณะที่เดลี่ใช้พลังจิตโจมตี แต่ดูเหมือนมันไม่ได้รับผลอะไรเลย”
“เป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่มีผลอะไร” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะ “ร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นใหญ่พอๆกับโอเอซีส สิบตารางกิโลเมตร เพียงแต่ตอนนี้มันแสดงให้เห็นต้นหญ้าเท่านั้น ร่างใหญ่ของมันอาจอยู่ห่างจากเราหลายกิโลเมตร เดลี่ไม่แน่ใจว่าร่างใหญ่ของเจ้าสัตว์ประหลาดนี่อยู่ที่ไหน สำหรับเขาแค่ใช้พลังจิตโจมตีโดยไม่รู้ว่าเป้าหมายอยู่ที่ใดนั่นเอง... คงน่าประทับใจมากถ้าเขาสามารถทำร้ายมันได้”
โอลิเวอร์แค่นเสียงเย็นชา “เดลี่ผู้นั้นดูท่าทางจะถูกฆ่าแล้ว”
“ทำไมเจ้าพูดอย่างนั้นเล่า?” เฟนและคนอื่นมองดูโอลิเวอร์อย่างไม่พอใจ
โอลิเวอร์ชำเลืองมองดูพวกเขา จากนั้นพูดอย่างใจเย็น “สุสานเทพเจ้ามีสัตว์ประอยู่ที่นี่นับไม่ถ้วน และวิธีการหลายอย่างที่ใช้กับมนุษย์ไม่จำเป็นต้องเหมาะสม เดลี่ผู้นี้เป็นเซียนจอมเวท เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนั้นอย่างมากเขาก็ใช้เวทต่อต้าน แต่เวทต่อต้านของเขาจะทรงพลังได้มากแค่ไหนกันแน่? ต่อต้านกับสัตว์ประหลาดแบบนั้น เวทแบบนั้นไม่มีท่าทีคุกคามแม้แต่น้อย และยัง..เขายังกล้ามาสุสานเทพเจ้าอย่างนี้ นั่นเท่ากับหาที่ตายไม่ใช่หรือ?”
“คนผู้นี้ พูดแบบนี้ได้ยังไง?” โรซารี่ค่อนข้างไม่พอใจ
“เซียนจอมเวททักษะในการสู้ระยะประชิดต่ำมาก เมื่อเข้าถึงระดับเทพและเมื่อได้รับร่างระดับเทพพวกเขาก็ยังมีข้อบกพร่องในการสู้ระยะประชิดอยู่ดี” เฟนกล่าว
แต่ลินลี่ย์กลับรู้สึกว่าคำพูดของโอลิเวอร์สมเหตุผลจริงๆ เซียนจอมเวทจะมีจุดอ่อนจริงเมื่อเผชิญการโจมตีฉับพลัน
“แล้วไง?” โอลิเวอร์พูดอย่างใจเย็น “หลังจากกลายเป็นเทพ นักสู้จะเปลี่ยนแปลงไปและได้รับร่างเทพ! ร่างเทพมีพลังมาก เหมาะกับการสู้ระยะประชิด”
โอลิเวอร์หัวเราะเยาะ “แต่จากตรงนั้น ทำไมจะต้องรอจนเป็นเทพด้วยวเล่า? เซียนจอมเวทเมื่อถึงระดับเซียนใช้เวลาเล็กน้อยก็สามารถฝึกทักษะสู้ระยะประชิดได้ สำหรับคนอย่างเดลี่ เวลาไม่กี่ร้อยปีถือว่าไม่มีอะไรมาก”
“มีเซียนจอมเวทที่กลายเป็นเซียนนักรบก็ดีเหมือนกันใช่ไหม? เจ้าคิดว่ามันง่ายอย่างนั้นใช่ไหม?” เฟนขมวดคิ้วขณะกล่าว
“พอเถอะ” ลินลี่ย์กล่าว “พูดกันพอแล้ว ทุกคนมีความเห็นเป็นของตนเองทั้งนั้น”
หน้าของลินลี่ย์ดีใจทันที “เยี่ยมมาก, เจ้าอสูรนั่นถูกลากออกมาแล้ว”
“ลากออกมา?” ทุกคนประหลาดใจและดีใจ มองลงข้างล่างทันที
ทรายด้านล่างเริ่มยุบตัวและคนที่บินออกมาคนแรกก็คือเดลี่ ร่างของเดลี่เต็มไปด้วยรอยเลือด หน้าของเขาค่อนข้างซีด เมื่อเห็นลินลี่ย์และคนอื่นๆ เขายังคงหัวเราะออก “นั่นอันตรายจริงๆ”
“พี่ใหญ่, เรากำลังออกมาแล้ว” เสียงของบีบีดังขึ้น
และจากนั้นบีบีโผล่ออกมาจากทรายขณะที่กรงเล็บบีบีมีก้านหญ้าหนา มันหนาเท่าแขนมนุษย์ ใช้ก้านต้นหญ้าหนา เขาลากออกมาจากสัตว์ประหลาดเบื้องล่าง และสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาปรากฏต่อหน้าทุกคน
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงอย่างน้อยเท่าอาคารสิบชั้น และทั่วทั้งตัวปกคลุมด้วยรากหญ้าสีดินหนาอย่างน้อยก็มีขนาดเท่าบ้าน
รากหญ้ารอบๆเจ้าปีศาจที่มียาวมากที่สุดร้อยเมตร เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดยาวกว่าลำต้นที่แตกหักไปแล้ว บีบีลากสัตว์ประหลาดนี้ขึ้นมา ขณะที่ด้านล่างราชสีห์ทองหกตาและจ้าวแมงป่องเกล็ดดำตามออกมา
“เจ้านี่ยังต้องการหนีอีกหรือ? เฮอะ..” บีบีจับลำต้นที่มือข้างหนึ่งและหมุนควงเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ในกลางอากาศสองสามครั้ง เหมือนกับเป็นกังหันยักษ์ “พี่ใหญ่ ข้าคิดว่ามันมีพลังมากทีเดียว แต่ข้าไม่คาดเลยว่ามันจะนุ่มเหมือนลูกพลับ พี่ใหญ่,จะจัดการกับเจ้าสัตว์ประหลาดนี่ยังไงดี? บอกมาเลย”
จ้าวแมงป่องเกล็ดดำบินขึ้นมาเช่นกัน “เจ้านี่ไม่มีอะไรพิเศษเลยจริงๆ มันแค่รู้จักโจมตีสองสามท่าเท่านั้น เมื่อเราเข้าไปใกล้ๆ มันก็เสร็จ”