ตอนที่ 11-19 สมบัติเทพเจ้าสามอย่าง
ลินลี่ย์มองดูขวานเล็กสีแดงเข้ม
“เมื่อไม่นานนี้ ขวานนี้ยาวเกินร้อยเมตร แต่ตอนนี้ มันบางเล็กนิดเดียว” ลินลี่ย์ให้ความสำคัญกับขวานในใจ คุณค่าของขวานนี้สูงมาก“สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออสูรจ้าวอัคคีเป็นเพียงเซียนชั้นสุดยอดแต่ก็มีของแบบนี้อยู่ในตัว ขวานนี้สามารถสร้างพลังที่น่ากลัวขนาดนั้นได้”
ลินลี่ย์คิดถึงกระบี่เลือดม่วงของตัวเขาเอง
“ทั้งสองเป็นสมบัติชั้นเทพ แต่ในมือของข้า กระบี่เลือดม่วงเพียงแต่ปลดปล่อยพลังออกมาได้บางส่วนเท่านั้น”
ลินลี่ย์เข้าใจว่ากระบี่เลือดม่วงเป็นอาวุธที่น่ากลัวยิ่งกว่า แต่ที่ระดับเซียน เขาไม่สามารถใช้พลังของกระบี่เลือดม่วงได้เต็มที่เหมือนกับแหวนมังกรขนดมาก ปัจจุบันลินลี่ย์ไม่สามารถใช้งานแหวนมังกรขนดได้เต็มที่เลย
ยิ่งเป็นสมบัติที่ทรงพลังก็ยิ่งมีความต้องการมากสำหรับใช้งานมัน
อย่างไรก็ตาม..ขวานสมบัติเทพนี้คือสิ่งที่เซียนก็สามารถใช้ได้ สำหรับเซียนขวานนี้เป็นอาวุธที่ดีกว่า
“ลินลี่ย์! เก็บไว้เถอะ เจ้ามีส่วนร่วมมากที่สุดในการฆ่าอสูรจ้าวอัคคี” เดลี่บินมาสมทบด้วยกัน
ลินลี่ย์นึกถึงบาร์เกอร์ทันทีและกล่าว “งั้นข้าไม่เกรงใจนะ” ขณะเดียวกัน ลินลี่ย์ยอมรับขวานสีแดงเข้มไว้และเก็บเอาไว้ในแหวนมิติเก็บสมบัติ “หวังว่าบาร์เกอร์จะรอดตาย ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะให้ขวานนี้กับเกทส์และคนอื่นเป็นของขวัญ”
ลินลี่ย์ยังรู้สึกผิดในใจต่อบาร์เกอร์
“อสูรจ้าวอัคคีในที่สุดก็ตายได้ แต่ฮาร์เวิร์ดและคนอื่น...” ตอนนี้เดลี่รู้สึกสะท้อนใจ ฮิกกินสัน, โอลิเวอร์และยอดฝีมือที่เหลืออีกสิบสองบินมาแต่ไกล เดิมทีมียอดฝีมือเกินยี่สิบ แต่ตอนนี้เหลือไม่กี่คน
“พี่ใหญ่” ฮิกกินสันรู้สึกเจ็บปวดเช่นกัน
เดลี่และฮิกกินสันมองหน้ากันอย่างเศร้าโศก แต่พวกเขาเข้าใจ..ตั้งแต่เลือกมาสุสานเทพเจ้าแล้ว พวกเขาเลือกเส้นทางที่ไม่สามารถตำหนิผู้อื่นได้ ถ้าพวกเขาตาย ความจริงฮาร์เวิร์ดก็มีชีวิตมาหลายพันปีแล้ว ตายตอนนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ที่สำคัญคนพวกนี้มีประสบการณ์ชีวิตหลายอย่างมากมายแล้ว
โอลิเวอร์มองดูลินลี่ย์ และลอบถอนหายใจและยิ้ม “ลินลี่ย์นี้ช่วยชีวิตข้าอีกแล้ว” โอลิเวอร์เป็นคนที่หยิ่งยโสมากและเขาเกลียดการเป็นหนี้คนอื่น แต่ลินลี่ย์ช่วยเขาสองครั้งแล้ว
“ลินลี่ย์,พลังโจมตีของเจ้ามีรูปแบบเฉพาะตัวมาก” ลูเธอร์ฟอร์ดถอนหายใจทึ่ง “อสูรจ้าวอัคคีนั้นมีพลังป้องกันน่ากลัวมาก แต่พลังโจมตีของเจ้าดูเหมือนไม่สนใจสิ่งนี้”
ลินลี่ย์ไม่พยายามปิดบังอะไร “นี่คือพลังโจมตีที่ข้าได้รับจากการรู้แจ้ง มันสามารถผ่านไปที่เป้าหมายโดยไม่มีอะไรป้องกัน”
“พลังโจมตีที่ประหลาดและน่าตกใจจริงๆ” เฟนถอนหายใจอย่างอัศจรรย์ใจเช่นกัน
ยอดฝีมือที่อยู่ใกล้ๆทุกคนรู้สึกใจสั่นสะท้าน ลินลี่ย์เป็นนักรบเลือดมังกรและพรสวรรค์ธรรมชาติของเขาก็สูงสุดเท่าที่มนุษย์จะเข้าถึงได้แล้ว แต่ตอนนี้การรู้แจ้งกฎธรรมชาติของลินลี่ย์เข้าถึงระดับที่น่ากลัว ลินลี่ย์แข็งแกร่งทรงพลังกว่าใครในทั้งสองด้าน
ด้วยการผสานพลังทั้งสองด้านนั้น อาจกล่าวได้ว่าพลังโจมตีของเขายิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาเซียนของทวีปยูลาน!
“สุดยอดเซียนอันดับหนึ่งของทวีปยูลาน..ก็คือเจ้าแน่นอน!” เดลี่ถอนหายใจเห็นด้วยขณะมองดูลินลี่ย์
“ข้าแค่มีเพียงพลังรุกและพลังต้านรับดีเท่านั้น แต่ในแง่ความเร็ว ข้ายังไม่อาจเทียบกับท่านเฟนและท่านเดลี่” ลินลี่ย์ตอบตามตรง ความเข้าใจที่เขาได้รับมาจากกฎธาตุลมยังห่างจากระดับความเชี่ยวชาญ
“จริงสิ, ถูลี่เป็นยังไงบ้าง?”โรซารีดูอาการดีขึ้นแล้วในตอนนี้ นางพูดขึ้นทันที “ไปดูเถอะว่าเขายังมีชีวิตอยู่ไหม?”
“ไปกันเถอะ” เฟนและเดลีพยักหน้าเห็นด้วย
ที่สำคัญคือถูลี่คือสุดยอดเซียนที่มีพลังโจมตีรุนแรงที่สุดในกลุ่ม ถ้าพวกเขาต้องการบุกเข้าสุสานเทพเจ้าให้ลึกเข้าไป พวกเขาจะขาดคนอย่างเขาไม่ได้ ลินลี่ย์และคนอื่นๆ บินตรงไปที่ตำแหน่งที่ร่างของเขาร่วงลงไป
ขณะต่อมา...
ข้างแม่น้ำลาวาร้อนแรงร่างของเขาเต็มไปด้วยเลือด ถูลี่นั่งขัดสมาธิอยู่บนหินก้อนหนึ่ง แขนของเขาแหลกสลาย และแม้แต่ขาข้างหนึ่งก็ฉีก มีรอยเลือดอยู่บนหน้าอกเขา
“ถูลี่” เดลี่บินเข้าไปหา “เจ้าโชคดีอยู่นะที่รอดชีวิตได้”
ถูลี่เห็นเดลี่บินเข้ามาหาจึงฝืนยิ้มให้ “ตอนนั้นข้าเกือบเสร็จไปเหมือนกัน เดลี่, ช่วยข้าหน่อย..พลังรักษาของเจ้าดีที่สุดในหมู่เซียน” เดลี่ยื่นเหยียดมือออกและใช้เวทรักษาทันที
ระดับเดลี่ เขาสามารถใช้เวทรักษาสายธาตุแสงระดับเก้าได้
แต่โอลิเวอร์แม้จะฝึกฝนมาในกฎธาตุแสงในฐานะนักรบ แต่ความสามารถในการรักษาของเขายังด้อยกว่าเดลี่ห่างไกล
โรซารีลูเธอร์ฟอร์ดและเฟนลงมาสมทบกันทุกคนถูลี่มองดูทั้งสี่คนจากนั้นพูดด้วยความประหลาดใจ “เดลี่! พวกเจ้าทุกคนยังสบายใจได้ยังไง? หรือว่าพวกเจ้าฆ่าอสูรจ้าวอัคคีไปแล้ว? พวกเจ้าใช้วิธีอะไรฆ่าเขา?”
ถูลี่ประหลาดใจหนัก เขาเห็นกับตาตนเองว่าพลังของอสูรจ้าวอัคคีนั้นน่ากลัวเพียงไหน
“เป็นลินลี่ย์ที่ฆ่าเขาได้” โรซารีกล่าว ขณะที่ชี้ไปที่ลินลี่ย์ซึ่งอยู่ในกลางอากาศห่างออกไป
ถูลี่เงยหน้ามองดูลินลี่ย์
“ลินลี่ย์?”
“ใช่แล้ว เขาทำทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาฟันดาบใส่ร่างของอสูรจ้าวอัคคีไปครั้งหนึ่ง จากนั้นอสูรจ้าวอัคคีก็ตาย” เดลี่ถอนหายใจชมเชย “ในเรื่องพลังโจมตี ตอนนี้ต้องนับว่าลินลี่ย์เป็นอันดับหนึ่งในหมู่เซียนของทวีปยูลานแล้ว”
ในไม่ช้าอาการบาดเจ็บของถูลี่ก็หายดีดังเดิม
“ทางออกชั้นที่เจ็ดอยู่ในใจกลางซึ่งปีศาจแม็กมากระจุกรวมตัวกันอยู่” กลุ่มเซียนที่ทรงพลังที่สุดของทวีปยูลานบินตรงไปที่ใจกลางชั้นหก
ความจริงมีฝูงปีศาจแม็กมาอยู่เป็นจำนวนมากที่นี่
“มนุษย์มังกรมาแล้ว หนีเร็ว!” เมื่อเห็นลินลีย์ ปีศาจแม็กมาเป็นจำนวนมากพากันหวาดหวั่นและหนีไปทันที
“อีกแล้ว พวกเขาเรียกข้าว่ามนุษย์มังกร!” ลินลี่ย์ส่ายศีรษะถอนหายใจ ขณะที่บีบีหัวเราะคิกคัก “พี่ใหญ่,เจ้าพวกลูกไล่เหล่านั้นไม่มีประสบการณ์ พวกมันไม่รู้จักนักรบเลือดมังกร พวกมันรู้แต่เพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกรซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนอื่น เทียบกับเชื้อสายของนักรบเลือดมังกรของท่านแล้วพี่ใหญ่, มนุษย์มังกรเหล่านั้นยังอ่อนแอกว่ามาก”
ขณะที่พวกเขาพูด ยอดฝีมือหลายคนตามลงมาสมทบ
ไม่จำเป็นต้องมีการต่อสู้ ศักดิ์ศรีของลินลี่ย์จากการสังหารอสูรจ้าวอัคคีทำให้ปีศาจแม็กมาหวาดกลัวหนีกระจายไปทั่วทุกที่
“ทางออก!” ยอดฝีมือเห็นบันไดใกล้ๆ ทันที ตอนนี้พวกเขาอยู่ในใจกลางภูเขาไฟ และบันไดที่นี่เปล่งรัศมีสีดำ นี่คือทางออกไปชั้นที่เจ็ด
“เฮ้, นั่นอะไร?” บีบีบินเข้าไปดู
ข้างๆบันไดมีอาวุธอยู่สองชิ้น หนึ่งในอาวุธนั้นคือดาบโค้งสีแดงเข้ม ขณะที่อีกชิ้นหนึ่งคือไม้เท้าเวท ที่ด้านบนมีอัญมณีขนาดใหญ่และพลังงานที่ปล่อยออกมาทำให้ลินลี่ย์รู้สึกทึ่ง
“อาวุธเทพสองชิ้น” เดลี่กล่าวอย่างทึ่ง และเฟนกับถูลี่ทั้งตกใจระคนดีใจเช่นกัน
“อาวุธเทพสองชิ้น?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ
แต่จากนั้นลินลี่ย์ก็เข้าใจทันที ลอร์ดเบรุตเคยพูดไว้ก่อนนั้นแล้วว่ามีเพียงชั้นที่สิบเอ็ดของสุสานทพเจ้าจึงจะมีประกายเทพปรากฏ และสิบชั้นแรกของสุสานเทพเจ้าจะยังไม่มีประกายเทพปรากฏ และว่าประกายเทพในช่วงสิบชั้นแรกยังไม่มี อย่างไรก็ตาม สิบชั้นแรกอาจจะมีสมบัติเทพก็เป็นได้”
“นี่คือสุสานเทพเจ้า เทพหลายตนมาตายอยู่ที่นี่ เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะทิ้งอาวุธสมบัติเอาไว้” ลินลี่ย์รู้ดีว่าสมบัติเทพเหล่านี้ไม่ได้มีค่าใกล้กับประกายเทพเลย
ชั้นหกเอาชนะได้ยากมากเพราะมีสมบัติเทพเจ้าถึงสามชิ้นที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
“มีสมบัติเทพเจ้าสองชิ้นที่นี่ เราควรจะแบ่งกันอย่างไร?” บีบียืนอยู่ข้างสมบัติเทพเจ้าและพูดเสียงดัง
“นี่....”
ทุกคนเงียบ หลายคนหันไปมองลินลี่ย์
ในชั้นที่หกคนที่ได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือลินลี่ย์ แต่แน่นอนว่าโรซารีและราชสีห์ทองหกตาก็มีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน ในเรื่องการแบ่งสมบัติเทพมีเพียงคนที่มีส่วนร่วมเท่านั้นจึงควรได้รับรางวัลสมบัติเทพเจ้า
ลินลี่ย์ไม่พูดอะไร
เขาได้รับไปหนึ่งชิ้นแล้ว ถ้าเขายังเอามากเกินไป คนอื่นจะรู้สึกไม่พอใจเช่นกัน
“ทุกคน, ข้าขอดาบโค้งนี่ก็แล้วกัน ข้าจะไม่ขอรับสมบัติเทพที่ปรากฏในชั้นสูงๆขึ้นไป นอกจากนี้ถือว่าข้าขอก็แล้วกัน” ถูลี่พูดอย่างจริงใจ “ดาบโค้งนี่คือรูปแบบอาวุธที่ข้าโปรดปรานที่สุด”
ดาบโค้ง
นักรบของทุ่งราบใหญ่ตะวันออกไกลใช้ดาบโค้งเป็นปกติ และตัวถูลี่เองก็มีทักษะในการใช้อาวุธประเภทนี้ในระดับสูง
เพียงแต่..ระดับถูลี่ ปกติอาวุธชั้นดีไม่มีผลต่อหมัดของถูลี่ อย่างไรก็ตามอาวุธเทพแตกต่างออกไป อาวุธเทพมักใช้ออกโดยพวกเทพ และจากตรงนี้ทุกคนสามารถคาดคิดได้ถึงความทรงพลังของมัน
“ลินลี่ย์, เจ้าจะว่ายังไง?” เฟนกับเดลี่มองดูลินลี่ย์
ถูลี่มองดูลินลี่ย์ด้วยนัยน์เปี่ยมความหวัง พูดกันตามตรงถูลี่ยากจะเกิดอาการกระวนกระวาย แต่ตอนนี้เขากังวลว่าลินลี่ย์จะปฏิสธ ถ้าลินลี่ย์ไม่เห็นด้วย เขาคงทำอะไรไม่ได้ บนชั้นหกลินลี่ย์เป็นคนช่วยชีวิตเขาไว้
“ข้าไม่มีอะไรจะคัดค้าน” ลินลี่ย์ยิ้มพลางกล่าว
แม้ว่าถูลี่จะมีการรู้แจ้งในระดับที่สูง แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้นในหัวใจ
“ลินลี่ย์, ขอบคุณ” ถูลี่พูดกับลินลี่ย์อย่างแข็งขัน
ถูลี่ไม่ใช่คนช่างพูด แต่คำพูดขอบคุณของเขาแสดงออกถึงความขอบคุณไม่สิ้นสุด
เมื่อลินลี่ย์ไม่คัดค้านโรซารีย่อมไม่คัดค้านเป็นธรรมดา สำหรับคนอื่น.. ไม่มีคุณสมบัติพอคัดค้านอยู่แล้ว ถูลี่หยิบดาบสีโลหิตทันที “ด้วยดาบเล่มนี้พลังของข้าคงเพิ่มขึ้นอีกมากมาย” ถูลี่ดีใจอย่างเหลือล้นจริงๆ
“ดีล่ะ ดาบแจกจ่ายออกไปแล้ว ไม้เท้าเวทล่ะ?” บีบีชี้ไปที่ไม้เท้าเวท
“พี่ใหญ่, เดเลียก็ต้องใช้ไม้เท้าเวทจริงไหม?” บีบีกล่าว
โรซารีเป็นเซียนจอมเวทคนหนึ่งนางก็ต้องการสมบัติเทพชิ้นนี้เพื่อตัวนางเช่นกัน แต่พอได้ยินคำพูดของบีบี นางไม่อาจพูดได้อีกต่อไป
ลินลี่ย์ให้ความสนใจสีหน้าท่าทางของโรซารีอยู่แล้ว
“ยังจะมีสมบัติเทพในชั้นที่เจ็ดและชั้นที่แปดอีกแน่ และยังยากจะบอกได้ว่าเดเลียต้องการสมบัติเทพหรือไม่”ลินลี่ย์พูดทางใจกับบีบี เขาไม่ใช่คนที่ไม่เห็นแก่ภาพรวม เขาหัวเราะทันทีและกล่าว “คงจะดีกว่าถ้าเราจะใช้อาวุธเทพในทันที ด้วยวิธีนั้นเราจะเอาตัวรอดได้ดียิ่งขึ้นในชั้นสูงๆ ต่อไป”
ลินลี่ย์มองดูโรซารี่และเดลี่ “ท่านโรซารี่กับเดลี่ ทั้งสองคนเป็นเซียนจอมเวทพวกท่านตัดสินกันเองว่าผู้ใดจะได้อาวุธเทพนี้ไป”
“โรซารี่ เจ้ารับไว้เถอะ” เดลี่กล่าวทันที
ในชั้นที่หกยอดฝีมือต่างๆจะใช้เวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน และโรซารีกับถูลี่เริ่มคุ้นเคยกับอาวุธเทพที่ได้มาใหม่มากขึ้นยอดฝีมือสิบคนแรกจะคงอยู่ที่ชั้นหกต่อ ขณะที่มีเพียงยอดฝีมือสามคนในกลุ่มที่สองเหลืออยู่คนอื่นๆ ยอมแพ้และกลับไปที่ชั้นห้า
หนึ่งในสามยอดฝีมือในกลุ่มที่สองที่ยังคงรั้งอยู่ก็คือโอลิเวอร์
ฮิกกินสันยอมแพ้ เห็นได้ชัดว่าความตายของฮาร์เวิร์ดส่งผลต่อเขาน้อยมาก ที่สำคัญเมื่อขึ้นไปที่ชั้นเจ็ด แปดหรือเก้าจะไม่มีชั้นไหนที่อันตรายน้อยกว่าชั้นที่หก
พริบตาเดียวผ่านไปหนึ่งเดือน
ข้างๆแม่น้ำลาวา เดลี่พูดขึ้น “ไปกันเถอะ!”
ลินลี่ย์ถูลี่ โรซารี เฟน ลูเธอร์ฟอร์ด โอลิเวอร์ และคนอื่นลุกขึ้นยืน ทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมสูงสุดในช่วงเดือนนี้
รวมทั้งกลุ่มของโอลิเวอร์ทั้งสามคนด้วย ยอดฝีมือทั้งสิบสามคนขึ้นไปตามบันไดมุ่งสู่ชั้นต่อไป
สุสานเทพเจ้าชั้นที่เจ็ด!
“เฮ้อ!”
ทันทีที่ยอดฝีมือสิบสามคนจากทวีปยูลานเข้าสู่ชั้นที่เจ็ด พวกเขารู้สึกสดชื่น
“สบายดีจริง” ลินลี่ย์ยิ้มให้พวกเขา เทียบกับสภาพแวดล้อมร้อนหมกไหม้ของชั้นที่หกแล้ว ชั้นที่เจ็ดดีกว่ามาก
ชั้นที่เจ็ดเป็นโลกทะเลทราย แต่ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นเข้ามาในโอเอซีสของทะเลทราย โอเอซีสนี้มีขนาดใหญ่มาก อย่างน้อยมีขนาดสิบตารางกิโลเมตร ยอดฝีมือทั้งสิบสามตรวจสอบโดยรอบอย่างระมัดระวัง ทุกคนไม่ประมาท
“มีน้ำอยู่ในที่ไกลออกไป” บีบีเห็นทะเลสาบอยู่กลางโอเอซีสจึงอดตื่นเต้นไม่ได้
“เฮ้? เกิดอะไรขึ้นกับต้นไม้ในที่นี้? ทำไมหญ้าที่นี่ถึงได้คมนัก?” เดลี่ขมวดคิ้วขณะพูด
ทันใดนั้น...
ทันใดนั้นโอเอซีสเคลื่อนไหวทันใดและไม้เลื้อยนับหมื่นงอกขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่โอเอซีสที่มีขนาดสิบตารางกิโลเมตรห่อหุ้มยอดฝีมือทั้งหมดไว้ในภายใน รวมทั้งลินลี่ย์ด้วยเช่นกันติดอยู่ในกรงที่มีหญ้าและใบไม้คมทันที
“แย่แล้ว” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที และประกายสีม่วงวาบขึ้นในมือเขา
“อา!” เสียงร้องโหยหวนลอยมาจากอากาศ
ในพริบตายอดฝีมืออื่นได้รับบาดเจ็บหนักหรือไม่ก็ถูกสังหาร ใครจะรู้กันว่าเป็นใครในสิบสามคนนี้