ตอนที่ 11-16 อสูรจ้าวอัคคี
ยอดฝีมือสามสิบกว่าคนมารวมตัวกันที่หน้าทางเดินชั้นห้ามุ่งสู่ชั้นหกของสุสานเทพเจ้า
ลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าราศีของโอลิเวอร์ดูเหมือนมีการเปลี่ยนแปลง ในใจของเขา เขารู้สึกอดประหลาดใจไม่ได้ “โอลิเวอร์ผู้นี้เป็นไปได้หรือว่าเขาผู้นี้บรรลุขึ้นไปอีกระดับ?” ในฐานะที่เป็นเซียนกระบี่อัจฉริยะโอลิเวอร์ต้องการเพียงสิบสองปีก็มาถึงจุดที่แม้แต่เฮนด์เซนก็ไม่ใช่คู่มือของเขาและยกระดับฝีมือจนเป็นรองแค่ห้าเซียนสุดยอดเท่านั้น
ความก้าวหน้าระดับนี้นับว่าน่ากลัวมาก
ตอนนี้ผ่านไปอีกแปดปี ถ้าโอลิเวอร์ไม่ก้าวหน้าก็คงเป็นเรื่องแปลก
เดลี่มองดูฮาร์เวิร์ดและเซียนอื่นอีกยี่สิบคนจากนั้นพูดเสียงดัง “พวกเจ้าควรจะรู้สถานการณ์ที่ชั้นหก พวกเราสิบคนจะรับผิดชอบสู้กับอสูรจ้าวอัคคี ขณะที่พวกเจ้าที่เหลือจะรับผิดชอบเบากว่า ตราบใดที่พวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ให้ค้นหาทางออกไปชั้นที่เจ็ด”
ยอดฝีมือทั้งยี่สิบพยักหน้า
งานของพวกเขาง่ายกว่ามาก แม้ว่าเดลี่จะไม่สั่งให้พวกเขาทำเช่นนั้นพวกเขาก็ยังต้องไปค้นหาทางออกอยู่ดี
“พอแค่นี้ก่อน เราจะไปกันเดี๋ยวนี้” เดลี่พูดเสียงดังชัด
จากนั้นเดลี่และสุดยอดเซียนที่เหลือลินลี่ย์ บีบี คลีโอและน้องๆ ราชสีห์ทองหกตาเดินนำก้าวเข้าไปในชั้นที่หกโดยมีเซียนยี่สิบคนที่เหลือตามเข้ามาติดๆ
ลินลี่ย์กับบีบีมองหน้ากัน
พวกเขาทั้งสองมั่นใจมาก เทียบกับเมื่อแปดปีที่แล้ว ลินลี่ย์ไม่เพียงแต่ก้าวหน้าในวิชาสัจธรรมแห่งธาตุดินเท่านั้น แต่พลังจิตของเขาก็ก้าวหน้าด้วยเช่นกัน ความจริงลินลี่ย์รู้สึกว่าเขาใกล้จะบรรลุเป็นระดับเซียนจอมเวทแล้ว
ที่สำคัญคือปราณยุทธที่ก้าวหน้าขึ้นมาแล้วนี้ต้องการพลังจิตเพียงเล็กน้อยเพื่อควบคุม
แต่การฝึกฝนแปดปีทำให้ปราณยุทธของลินลี่ย์ขึ้นถึงระดับสูงสุดเต็มที่เท่าที่นักรบเลือดมังกรคนหนึ่งจะเข้าถึงได้
“วืดดด!” “วืดดด!” .....
เซียนผู้ทรงพลังทั้งสิบของทวีปยูลานกลายเป็นร่างเงาเลือนราง ในพริบตา พวกเขาก็เข้าสู่ชั้นที่หก.. โลกของอสูรจ้าวอัคคี
“ร้อน!” แทบจะทันทีที่เขาเข้าสู่ชั้นหก ลินลี่ย์รู้สึกถึงความร้อนที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ตอนนี้ลินลี่ย์และยอดฝีมืออีกเก้าคนกำลังยืนอยู่เหนือหินสีแดง ที่ชั้นหกนี้ปกคลุมไปด้วยหินหลอมเหลวลาวาสีแดง
“ครึก.. ครึก..” ลาวาสีแดงสดไหลเหมือนกับแม่น้ำผ่านชั้นที่หกมีฟองแก๊สเดือดปุดๆ ต่อเนื่อง ในพื้นที่รอบแม่น้ำลาวามีหินร้อนสีแดงสิ่งมีชีวิตธรรมดาจะไม่สามารถรอดชีวิตอยู่ในที่อย่างนี้ได้
ยอดฝีมืออีกยี่สิบคนเข้ามาที่ชั้นที่หกด้วยเหมือนกัน
“เร็วเข้า, รีบหาทางออก” เดลี่สั่งทางใจทันที ยอดฝีมือยี่สิบกว่าคนไม่พูดอะไรบินออกไปทันที
เดลี่มองลินลี่ย์และคนอื่น ไม่จำเป็นต้องพูดทุกคนเริ่มบินออกไปพร้อมกัน ถูลี่โรซารีและลูเธอร์ฟอร์ดบินแนวกลาง ขณะที่ยอดฝีมืออีกเจ็ดบินรายล้อมพวกเขาไว้ ถูลี่และคนอื่นเริ่มเตรียมตัวไว้พร้อมแล้ว
พวกเขาอาจเผชิญหน้ากับอสูรจ้าวอัคคีได้ทุกเมื่อ
“ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอสูรจ้าวอัคคีได้เราก็สามารถเข้าสู่ชั้นเจ็ดได้เลย นั่นก็คงเป็นการดี” ลินลี่ย์คิดในใจ ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบรอบตัวอย่างระมัดระวังมองหาเส้นทางที่จะนำพวกเขาเข้าชั้นเจ็ด
ทันใดนั้นภายในหนึ่งในแม่น้ำลาวา หินก้อนหนึ่งโผล่ออกมา นี่เป็นหินที่แปลกประหลาด... หินนี้มีตาและปากหินลอยออกมาจากภายในแม่น้ำแม็กมาทันที ความจริงมันคือหัวของปีศาจแม็กมา
ปีศาจแม็กมาตัวนั้นคำรามลั่น “มนุษย์!”
“แย่แล้ว” หน้าของลินลี่ย์และคนอื่นเปลี่ยนไปทันที
“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!” .....
จากภายในแม่น้ำลาวาปีศาจแม็กมาโผล่ขึ้นมาทีละตัวๆ ร่างของปีศาจแม็กมามีสีแดงล้วน และมีชั้นไฟสีแดงหุ้มเลือนราง พวกมันมีส่วนสูง 2.5 เมตรและกวัดแกว่งขวานหินเป็นอาวุธ และอาวุธหนักอย่างอื่น
ในพริบตาเดียวลินลี่ย์เห็นปีศาจแม็กมาสามร้อยตนปรากฏอยู่ในบริเวณกลุ่มของเขา
“ในชั้นที่หกมีขนาดใหญ่มาก ถ้าปีศาจแม็กมาในพื้นที่ใกล้เคียงรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่ที่นี่ อย่างนั้นจะต้องมีพวกมันเป็นพันแน่” ลินลี่ย์คิดในใจ ขณะเดียวกันยอดฝีมือเริ่มบินด้วยความเร็วสูง ขณะที่คนที่เหลือตื่นตัวอย่างสูงเตรียมพร้อมรับการโจมตีได้ทุกเมื่อ
“โอว, พวกมนุษย์มากันแล้ว?” เสียงพึมพำดังสนั่นอยู่ภายในชั้นที่หก
พื้นหินที่ชั้นหกเริ่มสั่นสะเทือนและแม้แต่กระแสลาวาก็เริ่มเป็นฟองและกระเพื่อมขณะที่ร่างขนาดมหึมาผุดขึ้นมาจากกลางแม่น้ำลาวา มันมีขนาดที่ใหญ่โตมาก ขณะที่มันยืน แม้แต่ระดับของแม่น้ำลาวาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
“มันเหมือนกับภูเขาจริงๆ” ลินลี่ย์เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่อยู่ห่างออกไป อสูรจ้าวอัคคี!
ตลอดทั้งตัวของอสูรจ้าวอัคคีประกอบจากหินแข็งไม่มีข้อต่อมีไฟล้อมรอบไปทั้งตัว ด้วยร่างกายที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นลำพังแค่พลังร่างกายอย่างเดียวย่อมอยู่ในระดับที่น่ากลัวอย่างมิต้องสงสัย
“ทุกคน, ระวังตัวด้วย” หน้าของยอดฝีมือทั้งสิบเคร่งขรึม
อสูรจ้าวอัคคีมองดูพวกเขาด้วยท่าทีเหยียดหยามจากนั้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “พวกเจ้ายังชอบฝันว่าจะได้เข้าไปยังชั้นที่เจ็ดอีกหรือ? ก็คงได้แต่ฝัน วันนี้, พวกเจ้าทุกคนจะต้องตาย! เด็กๆ จงมาฆ่าเจ้าคนนอกให้กับข้า!” เสียงของอสูรจ้าวอัคคีดังมากกว่าธรรมดา คำพูดของเขาก้องราวกับฟ้ากระหึ่มไปทั่วทุกส่วนของโลกนี้
ขณะที่อสูรจ้าวอัคคีพูดเขาเรียกขวานยักษ์สีแดงเข้มออกมาถือไว้ในมือ
แค่หัวของขวานยักษ์นี้อย่างเดียวก็กว้างเกินกว่าร้อยเมตรอย่างไรก็ตามในเงื้อมมือของอสูรจ้าวอัคคีขวานยักษ์กระหายเลือดนี้ไม่มีอะไรต่างไปจากแค่ขวานเล็ก และเขาควงขวานได้อย่างง่ายดายและสง่างาม
“ฆ่า!”
พอได้รับคำสั่งแล้วปีศาจแม็กมาจำนวนมากก็โฉบลงมาจากอากาศส่งเสียงโห่ร้องอย่างต่อเนื่องขณะพุ่งเข้าหากลุ่มของลินลี่ย์ แม้แต่โอลิเวอร์และกลุ่มยอดฝีมือเซียนเกินกว่ายี่สิบคนตกอยู่ภายใต้การจู่โจมของปีศาจแม็กมาด้วยเช่นกัน
“โจมตีพวกมัน” ถูลี่สั่ง
สิบยอดฝีมือหลักไม่ลังเลใจและบุกเข้าหาอสูรจ้าวอัคคี พอไปได้ครึ่งทางก็มีปีศาจแม็กมาเกินกว่าร้อยตนล้อมพวกเขาไว้
ก่อนหน้านั้นที่ชั้นห้าเป็นเดลี่ บีบีและกลุ่มยอดฝีมือฆ่าสังหารปีศาจแม็กมาไปหลายตน แต่ตอนนี้กลับมีปีศาจแม็กมาเกินกว่าร้อยโจมตีใส่พวกเขา
“ต้องป้องกันพวกมันไว้ให้ได้” ยอดฝีมือเจ็ดคนรอบนอกรู้เรื่องนี้ดี เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของปีศาจแม็กม่า ลินลี่ย์สู้ด้วยมือเปล่า
“ไอ้บ้าเอ๊ย” ลินลี่ย์ปล่อยหมัดใส่พวกมันตนหนึ่ง
“ฮ่าฮ่า...” ปีศาจแม็กมาหัวเราะลั่นขณะที่มันปล่อยหมัดใส่ลินลี่ย์ ลินลี่ย์ใช้เกล็ดมังกรและพลังชีพจรคุ้มกันชั้นนอกรับหมัดนี้ไว้ เขารับหมัดหินที่รุนแรงของปีศาจแม็กมาไว้โดยตรง
ร่างของลินลี่ย์สั่นเล็กน้อย แต่ร่างของปีศาจแม็กมาสั่นสะเทือนจากนั้นระเบิดเป็นเศษหิน
“พลังน่ากลัวจริงๆ” ลินลี่ย์ลอบตกใจ
ถ้าเขารับพลังโจมตีเหล่านี้เต็มที่ เขาคงไม่สามารถขับพลังออกไปเบาๆ ได้แน่ เพียงแค่นั้นตอนแรกเขาใช้พลังชีพจรคุ้มกันป้องกันพลังได้ 90% ของพลังโจมตีของศัตรู อีก 10% จะผ่านเกล็ดมังกรของลินลี่ย์ไปได้ยังไง?
สู้กับปีศาจแม็กมาลินลี่ย์ใช้งานพลังคลื่นชีพจรโลกเพียง 256 ชั้น
“บึ้ม!” ปีศาจแม็กมาที่พยายามโจมตีเฟนถูกหมัดสายฟ้าของเฟนกระแทกปลิวกระเด็น ความเร็วของเฟนนั้นรวดเร็วมาก ปีศาจแม็กมาเหล่านั้นไม่สามารถแตะต้องเขาได้แม้แต่น้อย แต่ปีศาจแม็กมาก็ความแข็งแกร่งทนทานมาก และพลังโจมตีของเฟนเพียงแต่ทำให้พวกมันบาดเจ็บหนักเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าเฟนไม่มีพลังพอ แต่เป็นเพราะเฟนไม่กล้าใช้พลังเต็มที่ เขาต้องสงวนพลังเก็บไว้
ปีศาจแม็กมาอีกกลุ่มหนึ่งโจมตีใส่เดลี่เมื่อเข้ามาใกล้เขา ก็จะร่วงลงมาจากท้องฟ้าโดยหาสาเหตุไม่ได้แม้แต่น้อย
เดิมทีเดลี่ก็เป็นเซียนจอมเวทธาตุแสงอยู่แล้ว ปัจจุบันนี้เขาเป็นเซียนชั้นสุดยอด พลังโจมตีวิญญาณของเขายังอยู่ในระดับน่ากลัว แม้ว่าปีศาจแม็กมาเหล่านี้จะมีพลังโจมตีและป้องกันตัวที่น่ากลัว แต่พลังจิตของเดลี่สามารถโจมตีจุดอ่อนของพวกเขาได้
“ฉัวะ!” ราชสีห์ทองหกตาใช้พลังอุ้งเท้าตะปบใส่ปีศาจแม็กมาอย่างดุเดือดส่งผลให้หินกระเด็นกระจายไปทุกที่และปีศาจแม็กมาบาดเจ็บล้มตายไปหลายตน
บางครั้งเมื่อราชสีห์ทองหกตาก็ต้องการจะอ้าปากกลืนปีศาจแม็กมาลงท้องพวกมัน
แต่บีบี..บีบีก็น่ากลัว ความเร็วของเขาเทียบได้กับเฟนและปีศาจแม็กมาไม่สามารถแตะต้องบีบีได้แม้แต่น้อย แต่ส่วนใหญ่กรงเล็บจากบีบีได้แต่ทำร้ายปีศาจแม็กมาให้บาดเจ็บหนักเท่านั้น
“พี่ใหญ่ปีศาจแม็กมาแข็งมากยากจะรับมือจริง ร่างของพวกมันแข็งมาก ”เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์
“แน่นอนพวกมันแข็งมาก” ลินลี่ย์เข้าใจ
เมื่อเขาพยายามทำอย่างบีบีและใช้ความเร็วหลบการโจมตีของศัตรู จากนั้นใช้พลังล้วนๆโจมตีใส่ร่างของปีศาจแม็กมา แต่พลังป้องกันของปีศาจแม็กมาแข็งแกร่งมาก พลังโจมตีล้วนๆของลินลี่ย์ได้แต่ทำร้ายมันบาดเจ็บเท่านั้น
“ปัง!”แต่อีกหมัดหนึ่งจากลินลี่ย์สั่นสะท้านและเปลี่ยนสภาพของปีศาจแม็กมาอีกตัวหนึ่งเป็นผุยผง
“ความรู้แจ้งที่แตกต่างกันส่งผลต่อระดับพลังโจมตีที่แตกต่างกัน” ลินลี่ย์อดลอบถอนหายใจไม่ได้ “สัจธรรมแห่งธาตุดินของข้า แม้ว่ายังไม่ถึงขีดจำกัด แต่ในแง่พลังกลับอยู่เหนือกว่าพลังสัจธรรมแห่งธาตุลมไปมาก”
แม้แต่เซียนระดับสูงก็ยังมีความแตกต่างกันในเรื่องพลังอย่างมากมาย ตัวอย่างเช่นผู้นำของแมวแพนด้าหิมะผู้เชี่ยวชาญและแข็งแกร่งรู้แจ้งในสัจธรรมแห่งธาตุลม สำหรับเดลี่และเฟนความรู้แจ้งที่พวกเขาได้รับอาจนับได้ว่ามีพลังโจมตีต่ำมากเมื่อเทียบในบรรดากฎแห่งธาตุต่างๆ
“บึ้ม!” “บึ้ม!” ....
ปีศาจแม็กมาแต่ละตัวที่ถูกลินลี่ย์โจมตีใส่จะพังทลายกลายเป็นผุยผง ภาพนี้ทำให้เซียนอื่นรู้สึกประหลาดใจมาก แค่พลังกายโจมตีล้วนๆพวกเขาส่วนใหญ่อาจทำร้ายปีศาจแม็กมาสะเก็ดหินหลุดแค่ชิ้นเล็กๆ แต่พวกเขาไม่สามารถขยี้พวกมันให้เป็นผุยผงได้
“อสูรจ้าวอัคคีอยู่ที่นี่” เดลี่เรียกเบาๆ
“เจ้าตัวเล็กน่ารำคาญ เจ้าจะต้องตายก่อน” อสูรจ้าวอัคคีจ้องมองลินลี่ย์อย่างโกรธกร้าว จากนั้นเหมือนกับสายฟ้าฟาดมันกระโจนออกจากพื้นหินทำให้พื้นหินสั่นสะเทือนและแตกแยกขณะที่มันฟันขวานยักษ์กระหายเลือดในมือของมัน
เห็นได้ชัดว่าความเชี่ยวชาญในการรบของลินลี่ย์ถูกอสูรจ้าวอัคคีสังเกตได้
“โรซารี” ถูลี่พึมพำ
โรซารีถูลีและลูเธอร์ฟอร์ดที่เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา ในที่ก็เริ่มโจมตี ในทันใดนั้นน้ำแข็งนับไม่ถ้วนไหลเทลงมาครอบคลุมพื้นที่หลายกิโลเมตรและแม้แต่แม่น้ำลาวาก็ยังถูกแช่เย็นจนกลายเป็นหินธรรมดา
ไฟที่คลุมอยู่รอบตัวอสูรจ้าวอัคคีมอดลงและเนื้อหินสีแดงบนร่างของเขามีสีแดงที่หม่นหมองลงเช่นกันเกล็ดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนปกคลุมรอบตัวเขา
ความเคลื่อนไหวโจมตีของอสูรจ้าวอัคคีชะงักลงทันที เหมือนกับว่าเขาถูกแช่แข็ง
เวทต้องห้ามธาตุน้ำ:ศูนย์สัมบูรณ์
ภายใต้พลังโจมตีของเวทศูนย์สัมบูรณ์กล่าวโดยทั่วไปเมื่อเวทนี้ถูกใช้อุณหภูมิจะลดลงอย่างน่ากลัวจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามถูกแช่แข็ง จากนั้นจะแตกเป็นเสี่ยงๆแม้แต่วิญญาณศัตรูที่ถูกแช่แข็งก็แตกสลายไปด้วย
แต่เป้าหมายของเวทนี้ก็คืออสูรจ้าวอัคคี เวทต้องห้ามศูนย์สัมบูรณ์นี้สามารถส่งผลต่อวิญญาณของเขาและทำให้เขามึนงงได้ชั่วคราว นอกจากนี้การผนึกอยู่ในน้ำแข็งนับไม่ถ้วนทำให้เขาอ่อนแอลง และพลังของเขาตกลงด้วยเช่นกัน
“ควั่บ!”ทันทีจากนั้นลูเธอร์ฟอร์ดเปลี่ยนรัศมีแสงบุกตรงใส่อสูรจ้าวอัคคี
ลูเธอร์ฟอร์ดเป็นเซียนหมายเลขหนึ่งของแดนน้ำแข็งขั้วโลกเขาฝึกฝนอยู่ที่นั่นมาหลายพันปีจนถึงระดับใช้พลังธารน้ำแข็งได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฝ่ามือของลูเธอร์ฟอร์ดเรืองแสงสีฟ้าทันทีและเขาบดกระแทกใส่ร่างของอสูรจ้าวอัคคี
เรื่องที่แปลกก็คือ....
น้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนและร่างที่ถูกแช่แข็งเป็นชั้นรอบตัวอสูรจ้าวอัคคีซึมลึกเข้าไปในร่างของอสูรจ้าวอัคคีทันที “แคร็ก” ร่างขนาดมหึมาของอสูรจ้าวอัคคีเริ่มมีรอยร้าวบางๆ นับไม่ถ้วนเกิดขึ้น
ร่างของอสูรจ้าวอัคคีมีความร้อนมาก แต่หลังจากถูกปกคลุมด้วยคาถาธาตุที่ตรงกันข้ามอย่าง ‘เวทศูนย์สัมบูรณ์’ และจากนั้นยังถูกพลังที่ลูเธอร์ฟอร์ดฝังพลังงานลึกลงไปในร่างของเขา ร่างหินแกร่งที่ไม่มีใดเทียบของอสูรจ้าวอัคคีเริ่มมีรอยร้าวกว้างหลังจากอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
“บัดซบ” อสูรจ้าวอัคคีฟื้นคืนจากสภาพมึนงง เมื่อเขาตระหนักได้ถึงสถานการณ์ เขาอดคำรามด้วยความโกรธไม่ได้
“ตาย!” ถูลี่มาถึงตัวของอสูรจ้าวอัคคี
เพลิงสีดำรอบหมัดของถูลี่และพื้นที่ทั้งหมดรอบตัวเขาเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวในห้วงเวลานับไม่ถ้วน หมัดของถูลี่ดูเหมือนจะแฝงด้วยพลังถล่มฟ้าในตัวมันเอง ขณะที่เขากระแทกหมัดใส่ร่างของอสูรจ้าวอัคคี รอยแตกในร่างของเขา..
“บึ้ม!!”
หินนับไม่ถ้วนปลิวว่อนไปทั่วทุกที่จากแรงระเบิดที่น่ากลัว อสูรจ้าวอัคคีระเบิดเป็นหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน
“สำเร็จ” ถูลี่ โรซารีและลูเธอร์ฟอร์ระบายลมหายใจโล่งอกกันทุกคน
นี่คือพลังโจมตีสูงสุดร่วมกันของทั้งสามคน ก่อนอื่นพวกเขารวบรวมพลังไว้ด้วยกันทำให้วิญญาณของอสูรจ้าวอัคคีถูกโจมตี ขณะเดียวกันก็โจมตีตอบโต้ร่างกายของอสูรจ้าวอัคคีที่มีความร้อนสูงด้วยเวทต้องห้าม‘ศูนย์สัมบูรณ์’ จากนั้นลูเธอร์ฟอร์ดจะควบคุมน้ำแข็งให้ฝังลึกลงไปในร่างของอสูรจ้าวอัคคี
ไฟและนำแข็งเป็นขั้วพลังที่ตรงกันข้ามและจู่ๆ ขั้วตรงข้ามทั้งสองปะทะกัน จะทำให้หินซึ่งสร้างเป็นร่างของมันเกิดรอยแตกร้าว นี่ทำให้พลังป้องกันของอสูรจ้าวอัคคีตกลงมาถึง90%ด้วยพลัง 10% ที่เหลืออยู่ถูกเป่ากระจัดกระจายไปเมื่อเผชิญกับพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของถูลี่
“ถ้าพวกเขาไม่ร่วมสู้พร้อมกันพลังป้องกันที่น่ากลัวของอสูรจ้าวอัคคีบางทีอาจทำให้มันรับพลังโจมตีจากถูลี่ได้โดยไม่มีผลอะไรมาก” ลินลี่ย์กล่าว
ตอนนี้อสูรจ้าวอัคคีตายแล้ว ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเป็นธรรมดา คงจะจัดการปีศาจแม็กมาที่เหลือได้ตามปกติ
“เรารีบหาทางออกให้เจอกันเถอะ” เดลี่กล่าว ทุกคนพยักหน้าและรู้สึกผ่อนคลายมาก
อย่างไรก็ตาม...
สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตก็คือระหว่างที่มีการระเบิดรุนแรงก่อนนั้นเมื่อเศษหินศิลานับไม่ถ้วนระเบิดออกไปทั่วทุกตำแหน่ง ดูเหมือนมีหินโปร่งใสขนาดเท่ากำปั้นยิงออกไปในระยะไกล หินใสที่อยู่ในที่ไกลนี้เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว
“ครืนนน...”
พื้นหินข้างล่างเริ่มสั่นสะเทือน
“เกิดอะไรขึ้น?” ถูลี่ ลูเธอร์ฟอร์ด ลินลี่ย์และคนอื่นๆรู้สึกตกใจ
“ครืนนน”รอยแยกขนาดมหึมาปรากฏอยู่ที่พื้นชั้นหก และจากนั้นหินก้อนมหึมาก้อนแล้วก้อนเล่าเป็นล้านๆ ชิ้นลอยสูงขึ้น
ลินลี่ย์และคนอื่นๆตะลึงมองปากอ้าตาค้าง
“แย่แล้ว” ทุกคนมีความรู้สึกว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม...ไม่มีใครรู้ว่าปัญหาคืออะไร เซียนยอดฝีมือทั้งสิบตั้งท่าป้องกัน และตรวจสอบรอบๆ อย่างระมัดระวัง แต่บนชั้นที่หก หินก้อนแล้วก้อนเล่ายังคงลอยขึ้นไปในอากาศ
“ควั่บ!” “ควั่บ!” “ควั่บ!’
หินยักษ์ทั้งหมดเหมือนกับกำลังฟังคำสั่งพุ่งไปยังตำแหน่งเดียวกันมีเสียงคลื่นระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง หินเป็นล้านๆก้อนรวมกลุ่มกันในตำแหน่งหนึ่งทันที และตำแหน่งนั้นเป็นที่ซึ่งหินแก้วใสลอยอยู่
หินนับไม่ถ้วนรายล้อมหินแก้วใส
ในพริบตาเดียว...
อสูรจ้าวอัคคีอีกตนหนึ่งก็ปรากฏ!
ยอดฝีมือทั้งสิบถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
“ศิลาใสนั่น” ดูเหมือนยอดฝีมือทั้งสิบจะรู้กันแล้ว เพียงแค่นั้นหินนับไม่ถ้วนได้หุ้มรอบศิลาแก้วใสนั้นไว้ หน้าของเดลี่หม่นหมองลง “นั่นคือแก่นพลังของอสูรจ้าวอัคคี เมื่อไม่ได้ทำลายศิลาใสนั่น เราก็ฆ่าอสูรจ้าวอัคคีไม่ได้ เขาสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้”
“พวกเจ้าทำให้ข้าโกรธจริงๆ แล้ว”
ร่างของอสูรจ้าวอัคคีที่มีขนาดภูเขามีเพลิงหุ้มอีกครั้งหนึ่ง และตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเช่นกัน มันควงขวานยักษ์กระหายเลือด ตะคอกด้วยความโกรธ “เจ้าพวกมนุษย์ที่น่ารังเกียจต้องจะเข้าไปที่ชั้นเจ็ดหรือ? ฝันไปเถอะ! พวกเจ้าทุกคนจะต้องตายกันหมด!”
เสียงตะโกนที่เปี่ยมพลังของอสูรจ้าวอัคคีดังกึกก้องไปทั้งชั้นที่หก!