ตอนที่แล้วตอนที่ 11-14 โลกหิมะ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11-16 อสูรจ้าวอัคคี

ตอนที่ 11-15 แปดปีในสุสาน


คลื่นความร้อนแทรกซึมอยู่ทั่วชั้นที่ห้า  ยากจะมองเห็นคนได้ในระยะไกล  เนื่องจากสภาพอากาศที่ทำให้เห็นภาพบิดเบือน

“ลินลี่ย์!  รีบขึ้นมา!”  เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นแต่ไกล  ลินลี่ย์อดมองไปตามเสียงไม่ได้  ร่างที่อยู่ในระยะไกลพร่าเลือนมาก  แต่ลินลี่ย์สามารถบอกได้ว่าคนที่ยืนอยู่ในระยะไกลนั้นคือศิษย์คนโตจากวิทยาลัยเทพสงคราม‘เฟน’

แม้ว่าลินลี่ย์จะมีความท้อแท้แต่ก็ยังมีความมั่นคง

ในสถานที่อย่างสุสานเทพเจ้าเว้นแต่เขาเลือกจะยอมแพ้ ทางเลือกอีกทางเดียวก็คือเชื่อมั่นและไปต่อทีละก้าว

“บีบี, ไปกันเถอะ”  ลินลี่ย์กล่าวอย่างใจเย็น  และบีบีกระโดดขึ้นไหล่ลินลี่ย์ทันที

เมื่อกลายเป็นร่างเลือนรางลินลี่ย์ก็มาถึงสถานที่ซึ่งมียอดฝีมือรวมตัวกัน  ไม่เพียงแต่เฟนเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น เดลี่โรซารี่ ถูลี่และลูเธอร์ฟอร์ดก็อยู่ด้วยเช่นกันทั้งห้าเป็นสุดยอดเซียนที่รวมตัวอยู่ด้วยกัน

นอกจากทั้งห้าแล้วยังมีราชสีห์ทองหกตาอยู่ด้วยเช่นกัน

“คราวนี้พวกเจ้าทั้งสองก็มาถึงที่นี่แล้ว  ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า”  เดลี่พูดพลางหัวเราะอย่างสงบ

ลินลี่ย์อดรู้สึกงุนงงไม่ได้  หมายความว่ายังไง?  ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว?

“ลินลี่ย์!มานั่งตรงนี้”  เฟนทำท่าเรียก  “ข้าได้ยินว่าในชั้นล่างนาคราชตื่นขึ้นนั่นนับเป็นหายนะแท้จริง โชคดีที่เจ้ารอดมาได้ ตอนนี้มาปรึกษาหารือการไปในชั้นที่หกกันก่อน”

ลินลี่ย์เข้ามาสมทบและนั่งขัดสมาธิ

สำหรับเกล็ดของลินลี่ย์คลื่นไฟความร้อนที่มาจากด้านล่างไม่ส่งผลคุกคามอะไรมาก

“ท่านไม่ได้ปรึกษาพูดคุยกับพวกเขาด้วยหรือ?” บีบีชี้ไปที่ทั้งคนและอสูรเวทที่สับสนอยู่ในระยะไกล

ยอดฝีมือเกินกว่าสามสิบคนรอดมาได้และอยู่ในชั้นที่ห้า  ในบรรดาพวกเขามีเกินกว่าสิบเป็นอสูรเวท  มีจำนวนพอๆ กับมนุษย์  ในตอนแรกมียอดฝีมือฝ่ายมนุษย์หกสิบจากยอดฝีมือแปดสิบกว่าคน  แต่รวมๆ สามสิบคนตายไปที่ชั้นสามและหลายคนมีแนวโน้มว่าจะตายที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองด้วยเช่นกัน มีเหลือราวๆสิบคนอาจจะซ่อนตัวอยู่ในชั้นที่สองไม่กล้าเข้าสู่ชั้นสามอีก

“พวกเขา?” ถูลี่ที่มีท่าทีจริงจังพูดอย่างใจเย็น “ถ้าพวกเขามีส่วนร่วม ก็มีแต่จะกวนใจเราเท่านั้น”

ลินลี่ย์เข้าใจทันทีเมื่อมองไปที่โอลิเวอร์และฮาร์เวิร์ดที่อยู่ห่างออกไป  เขาคิดถึงตนเอง  “ความตั้งใจของถูลี่ชัดเจนมาก  มีเพียงยอดฝีมือหัวกะทิเพียงสิบเท่านั้น  บีบีกับข้าไม่ได้อ่อนแอกว่าพวกเขา  ขณะที่ราชสีห์ทองหกตาพลังของพวกเขาก็สุดหยั่งคาด สำหรับโอลิเวอร์ ฮาร์เวิร์ด ศิษย์วิทยาลัยเทพสงครามและอสูรเวทยอดฝีมือต่างๆ..พวกเขาอย่างน้อยยังมีพลังระดับที่ต่ำกว่า”

ในที่อย่างนี้สิบสุดยอดฝีมือจึงรวมตัวเป็นกลุ่มหนึ่งตามธรรมชาติ

มีอีกยี่สิบกว่าคนที่อ่อนแอกว่าเล็กน้อยรวมกันเป็นกลุ่มที่สอง

แม้แต่ในกลุ่มที่สองก็ยังมีสหายรักของเดลี่อย่างฮาร์เวิร์ดและฮิกกินสัน และศิษย์น้องของเฟนหลายคน ศิษย์ของถูลี่อีกหลายคน ไม่มีอะไรที่ทำได้อยู่แล้ว

“ลินลี่ย์ บีบี คลีโอและน้องทั้งสองของเจ้าพวกเจ้าทั้งห้าอาจจะยังไม่คุ้นกับชั้นที่หกของสุสานเทพเจ้าเราจะอธิบายให้ฟัง” เดลี่พูดอย่างเคร่งขรึม  “บีบีเจ้าก็เห็นเมื่อครู่นี้แล้วว่าที่นี่ในชั้นที่ห้ามีปีศาจแม็กมาอยู่สองสามตัว  ในแง่ของพลัง พวกเขามีพลังเทียบได้กับฮาร์เวิร์ด”

“ปีศาจแม็กมา?” ลินลี่ย์งง

เขาไม่เคยเห็นปีศาจแม็กมาเดลี่มองดูลินลี่ย์  “ลินลี่ย์,เจ้ามาไม่ทันเวลา พวกปีศาจแม็กมาสร้างขึ้นมาจากลาวาและมีขนาดเทียบเท่ากับตัวมนุษย์  พวกมันแข็งแกร่งมากมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมแต่พวกมันค่อนข้างช้า  พลังของพวกเขา..เอ่อ.. พอจะเทียบได้กับบาร์เกอร์สหายของเจ้า แม้ว่าพลังป้องกันอาจจะอ่อนกว่าบาร์เกอร์เล็กน้อย”

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจสัตว์ประหลาดเหล่านี้แล้ว

“ชั้นที่ห้าก็คือชั้นที่อ่อนที่สุดของห้าชั้นแรก  ปีศาจแม็กมาเหล่านั้นถูกเราทำลายไปแล้ว”  เดลี่พูดต่อ “ชั้นที่ห้านี้เป็นชั้นที่เราเตรียมตัวพักอยู่  แต่ในไม่ช้าเราจะเข้าไปที่ชั้นหก...”

ลินลี่ย์บีบี และราชสีห์ทองหกตาทั้งสามฟังอย่างตั้งใจ

ในชั้นที่หกระดับของความอันตรายเพิ่มขึ้นมากมากยิ่งกว่าสี่ชั้นก่อน

“ชั้นที่หกเป็นโลกหินหลอมเหลว  มีอสูรกายที่ทรงพลังอยู่ที่นั่นมันคืออสูรจ้าวอัคคี”

อสูรจ้าวอัคคี?

“พูดตามตรง อสูรจ้าวอัคคีนี้สูงร้อยเมตรและร่างของมันเกิดจากหินแข็งนับไม่ถ้วน พลังของมันก็คือก้อนหินนั่นเอง และพลังป้องกันของมันอยู่ในระดับที่น่ากลัว”  เดลี่กล่าวสีหน้าเคร่งขรึม  “ที่สำคัญที่สุดมันใช้ขวานยักษ์กระหายเลือด ถ้าพวกเราคนใดคนหนึ่งโดนขวานยักษ์นั้นโจมตี  เราอาจตายได้

ลินลี่ย์หัวใจกระตุก

ตราบใดที่ถูกโจมตีใส่ครั้งเดียวนั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก

“และนั่นยังไม่สำคัญ  นอกจากอสูรจ้าวอัคคีแล้วชั้นหกยังคงมีปีศาจแม็กมาหลายร้อย” หน้าของเดลี่เข้มกว่าเดิม “ปีศาจแม็กมาหนึ่งหรือสองตนไม่เป็นปัญหา แต่ปีศาจแม็กมาเป็นร้อยนั่นอันตรายมาก

ลินลี่ย์รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะพูด

“ปีศาจแม็กมาเป็นร้อย  นั่นเท่ากับมีนักรบอมตะร้อยคนไม่ใช่หรือ?”  ลินลี่ย์ลอบตกใจ “แม้ว่าปีศาจแม็กมาเหล่านี้จะมีพลังป้องกันที่อ่อนกว่านักรบอมตะเล็กน้อย  แต่ก็ยังมีหลายร้อยตัวนั่นเป็นเรื่องน่ากลัวมาก”

เดลี่พูดต่อ “ปีศาจแม็กมาจำนวนมากเหล่านี้เชื่อฟังคำสั่งของอสูรจ้าวอัคคี  ความจริง, ข้ารู้สึกว่า...อสูรจ้าวอัคคีก็มีพัฒนาการจากปีศาจแม็กมา  คิดดูสิพวกมันทั้งหมดก่อตัวขึ้นมาจากหินหลอมเหลว ยกเว้นแต่อสูรจ้าวอัคคีที่มีขนาดเท่ากับภูเขา  ขณะที่ปีศาจแม็กมามีขนาดเท่าตัวมนุษย์”

ลูเธอร์ฟอร์ดที่อยู่ใกล้ๆหัวเราะอย่างเย็นชา “อสูรจ้าวอัคคีก็คือปีศาจแม็กมาที่ขยายขนาดหลายร้อยเท่า  พลังของมันมากกว่าปีศาจแม็กมาเป็นร้อยเท่า”

ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง

“พี่ใหญ่,ปีศาจแม็กมาแข็งแกร่งมากเท่ากับบาร์เกอร์จริงๆถ้าพลังของอสูรจ้าวอัคคียังมากกว่าปีศาจแม็กมาเป็นร้อยเท่า...”  เสียงของบีบีดังขึ้นในใจของลินลี่ย์  ลินลี่ย์ยังคงเงียบ

ตอนนี้ลินลี่ย์เข้าใจชัดมากขึ้นแล้วว่าชั้นที่หกมีสภาพเหมือนอะไร

ศัตรูในชั้นที่หกก็คืออสูรจ้าวอัคคีที่สั่งการปีศาจแม็กมานับร้อยได้  อสูรจ้าวอัคคีเองเหมือนกับภูเขาลูกหนึ่ง และมีพลังบดขยี้ของภูเขาให้เป็นจุลได้ด้วยการต่อยเพียงหมัดเดียว  ไม่มีใครสามารถทนรับพลังเช่นนั้นได้

เดลี่เงียบอยู่นาน หลังจากลินลี่ย์และคนอื่นรับทราบข่าวสารนี้แล้ว  เดลี่พูดต่อ“ในพวกเราไม่มีใครเป็นคู่มือของอสูรจ้าวอัคคีได้เลย แต่ถ้าเราร่วมกำลังกันและสู้ด้วยกันเราอาจบุกผ่านชั้นหกได้”

ลินลี่ย์พยักหน้าถอนหายใจ

“สามพันปีที่แล้วเรารบกับอสูรจ้าวอัคคีมาแล้ว”  เดลี่กล่าว

ตาของลินลี่ย์บีบี และราชสีห์ทองหกตาเป็นประกายขอเพียงมีประสบการณ์ก็สามารถสร้างกลยุทธ์ที่ดีในการรับมือกับอสูรจ้าวอัคคีได้

“ความจริงในครั้งล่าสุดเป็นเฟนกับถูลี่ที่โจมตีอสูรจ้าวอัคคี  สำหรับพวกเราที่เหลือถูกส่งไปไล่พวกปีศาจแม็กมา” เดลี่เสริม  สามพันปีที่แล้วเขาไม่มีโอกาสเข้าถึงอสูรจ้าวอัคคี

เฟนกล่าว  “บรรดาเราทั้งห้าคนถูลี่มีพลังโจมตีแข็งแกร่งที่สุด”

ไม่มีใครปฏิเสธเรื่องนี้

ลินลี่ย์อดมองคนผู้นี้ไม่ได้ ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งทุ่งราบตะวันออกไกล  บุรุษที่รู้จักกันในนามว่าเซียนนักรบ  ถูลี่กล่าวอย่างใจเย็น “พลังป้องกันของอสูรจ้าวอัคคีนับเป็นพลังป้องกันที่น่ากลัวที่สุดที่ข้าเคยพบเห็นมา  แต่เมื่อสามพันปีที่แล้ว  พลังของเรายังอ่อนกว่ามัน แต่ในตอนนี้”

คนอื่นพยักหน้าทุกคน

หลังจากสามพันปีแล้วทั้งห้าคนกลายเป็นสุดยอดเซียน พลังของพวกเขาก้าวหน้ามากเมื่อเทียบกับสามพันปีที่แล้ว

“เมื่อเราเข้าไปที่ชั้นหก  พวกเจ้าทั้งเจ็ดจำเป็นต้องช่วยข้า,ลูเธอร์ฟอร์ดและโรซารีคอยเบิกเส้นทาง เราสามคนจะร่วมกำลังกันก็น่าจะจัดการกับอสูรจ้าวอัคคีได้”  ถูลี่กล่าวลูเธอร์ฟอร์ดและโรซารีพยักหน้าทั้งคู่

เดลี่อธิบายให้ลินลี่ย์บีบีและราชสีห์ทองหกตาทั้งสามฟัง “นี่คือการโจมตีเต็มพิกัดซึ่งพวกเขาทั้งสามร่วมพัฒนาและค้นคว้าร่วมกันเป็นเวลานาน  มีแนวโน้มว่านี่จะเป็นพลังโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดที่เราสามารถใช้ได้”

“ก็ได้ ข้าจะช่วยเบิกทาง”  ลินลี่ย์พยักหน้า

เนื่องจากถูลี่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นสุดยอดเซียนที่มีพลังโจมตียิ่งใหญ่ที่สุด  และมีคนอีกสองคนคอยช่วยเขา  พลังที่พวกเขาผสานกันโจมตีกันจะไม่อ่อนแอแน่

“ตอนนี้..สิ่งที่เราจำเป็นต้องทำก็คือ...”  เดลี่หัวเราะอย่างใจเย็น  “ฝึกอยู่ที่นี่และเตรียมตัวอยู่ในชั้นที่ห้า!”

เฟนหัวเราะเช่นกัน  “เราจะใช้เวลาฝึกในช่วงแปดปีก่อน  จากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังชั้นที่หก”

“อะไรนะ?” ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ พวกเขามีเวลาอยู่ในสุสานเทพเจ้าสิบปี แต่พวกเขาจะใช้เวลาแปดปีกับชั้นที่ห้าที่นี่?

แต่ลินลี่ย์ก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว  เขาเรียนรู้จากเคลย์ว่าในชั้นที่หก เจ็ดแปดและเก้าเป็นที่อันตรายมาก ในสี่ชั้นเหล่านี้ บางทีพวกเขาไม่มีโอกาสได้พัก

การผ่านให้ได้ทั้งสี่ชั้นนี้  ถ้าพวกเขาประสบผลสำเร็จมีแนวโน้มว่าพวกเขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพียงสิบวันหรือครึ่งเดือน

“เตรียมตัวให้ดี การเข้าไปในแต่ละชั้นนั้น  ถ้าเราไม่ระมัดระวังให้ดี  เราจะพบกับความตาย  ถ้าพวกเจ้ากลัว  พวกเจ้าสามารถพักอยู่ที่ชั้นห้าได้และรอเวลาจนกว่าจะครบสิบปี”  ถูลี่ยืนยันและพูดอย่างใจเย็น  จากนั้นก็บินไปอยู่ในที่ไกลและเริ่มนั่งสมาธิ

ไม่ใช่แค่ลินลี่ย์และยอดฝีมืออื่นอีกเก้าคนเท่านั้น  แม้แต่โอลิเวอร์ ฮาร์เวิร์ดและยอดฝีมืออื่นอีกยี่สิบคนก็รู้ว่าชั้นที่หกน่ากลัวเพียงไหน  และไม่มีใครรีบเข้าไป  พวกเขาทุกคนจดจ่อและใช้เวลากับการฝึกฝน  บางทีในช่วงเวลาสั้นๆ  พวกเขาอาจจะบรรลุการรู้แจ้งบางอย่างได้

คลื่นความร้อนและอากาศที่บิดเบี้ยวผันผวน  สามารถมองเห็นได้ทุกหนแห่ง

ยอดฝีมือในชั้นที่ห้าของสุสานเทพเจ้าเริ่มทำสมาธิฝึกฝนต่อ

ลินลี่ย์จ้องมองร่างที่อยู่ไกลออกไป  ทั้งหมดเลือนรางเพราะคลื่นความร้อน  โอลิเวอร์ ยอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ยอดฝีมือฝ่ายอสูรเวท..จำนวนรวมสามสิบนี้เป็นกลุ่มยอดฝีมือชั้นสูงทั้งหมดในทวีปยูลาน  ตอนนี้ทั้งหมดกำลังฝึกฝนอยู่อย่างเงียบงัน

ลินลี่ย์และบีบีมองหน้ากันเอง  พวกเขาเชื่อมโยงจิตใจ  มนุษย์และอสูรเวทเริ่มลงมือฝึก

“ตึกๆ!” “ตึกๆ!” “ตึกๆ!” “ตึกๆ!” ......

ชีพจรของโลกมีอยู่ทั่วทุกแห่ง  แม้ว่าลินลี่ย์จะอยู่ในสุสานเทพเจ้า  ลินลี่ย์ก็สามารถรู้สึกถึงความลึกลับนั้นการเต้นของชีพจรโลกที่ลึกซึ้งลึกล้ำ  ชีพจรที่ลึกซึ้งลึกลับมากลินลี่ย์เริ่มนั่งสมาธิและไตร่ตรอง ขณะเดียวกันก็ทดลองพลังสัจธรรมแห่งธาตุดินอยู่ในใจครั้งแล้วครั้งเล่า

หนึ่งปี  สองปี สามปี

ยอดฝีมือหลายคนจะฝึกเป็นเวลาปีหรือครึ่งปี และจากนั้นจะลุกขึ้นทดสอบพลังโจมตีที่พวกเขาได้พัฒนาขึ้น  ขณะนั้นเวลายังคงเดินต่อไป

ในอดีตลินลี่ย์ต้องใช้เวลาหนึ่งปีจึงจะสามารถควบพลังคลื่นชีพจรโลก256 ชั้นจนเหลือ 128 ชั้น แต่เขาต้องใช้เวลาห้าปีเต็มจึงจึงผ่านเลยครึ่งทางของการพยายามควบพลังคลื่น128 ชั้นให้เหลือ 64 ชั้น

นี่คือทั้งหมดที่ลินลี่ย์คาดการณ์ไว้  การเต้นของชีพจรโลกเริ่มผสานตัวยากขึ้นๆในระดับต่อไป

ในพริบตาเดียวผ่านไปถึงแปดปี

สุสานเทพเจ้าชั้นห้ายังคงเป็นเหมือนในอดีตมีคลื่นความร้อนบิดเบือนอากาศ ยอดฝีมือหลายคนฝึกฝนมานาน ที่สำคัญหลายคนมีการฝึกฝนมาเป็นพันปีแล้ว แค่เพียงไม่กี่ปีมานี้ก็ทำให้พลังโจมตีของพวกเขามีความสมบูรณ์ในตนเองมากขึ้น

“ทำไมลินลี่ย์ยังคงฝึกอยู่อีก?  ตอนนี้เรายังรอเขาอยู่เท่านั้น” ลูเธอร์ฟอร์ดอดหงุดหงิดไม่ได้ขณะที่จ้องมองลินลี่ย์ที่อยู่ในระยะไกลเขายังอยู่ในท่านั่งสมาธิ

ตอนนี้ห้าเซียนสุดยอด ราชสีห์ทองหกตาและบีบีหยุดฝึกแล้ว บีบีมีระดับพลังสามารถสร้างร่างเงาร่างมายาได้ถึงแปดร่างแล้ว  ในหน่วยของพวกเขายังเหลือแต่เพียงลินลี่ย์คนเดียวที่ยังหมกมุ่นอยู่กับการฝึก

“อย่าเพิ่งใจร้อนพี่ใหญ่ข้ากำลังฝึกถึงระดับจุดที่สำคัญ เมื่อเขาบรรลุผ่านขั้นนี้ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า”  บีบียืนอยู่ข้างลินลี่ย์จ้องมองคนที่อยู่ข้างหน้าขณะที่เขาพูดอย่างเย็นชา

“ถึงระดับที่จะทำให้เขามีพลังเพิ่มขึ้นหลายเท่าเชียวหรือ?”  เดลี่ ถูลี่และยอดฝีมือคนอื่นอดประหลาดใจไม่ได้

พวกเขาเข้าถึงระดับเซียนชั้นสุดยอดและใกล้จะสุดเส้นทางที่พวกเขาได้เลือกฝึก เว้นแต่พวกเขาเอาจริงกับการบรรลุขั้นสุดท้าย ก็จะบรรลุระดับเทพชั้นต้นมันเป็นความก้าวที่ทำได้ยาก ในระดับการรู้แจ้งปัจจุบันของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่พลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่า  เว้นแต่พวกเขาจะกลายเป็นเทพ

“ฮ่าาาาห์” ลินลี่ย์ผ่อนลมหายใจยาว จากนั้นลืมตายิ้มเต็มหน้า

หลังจากใช้เวลาแปดปีในที่สุดลินลี่ย์ก็เชี่ยวชาญพลังคลื่นชีพจรโลก 64ชั้นและพลังสัจธรรมแห่งธาตุดินของเขาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณอีกครั้ง

ลินลี่ย์มองดูทุกคนที่กำลังยืนรออยู่  และเขาเข้าใจทันที  เขาได้แต่หัวเราะแก้เก้ออย่างช่วยไม่ได้จากนั้นกล่าว  “ขออภัยที่ทำให้ทุกท่านรอนาน  เราจะไปกันหรือยัง?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด