ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 27 คัมภีร์หมื่นวิญญาณและคัมภีร์หมื่นโอสถ
ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน ตอนที่ 27 คัมภีร์หมื่นวิญญาณและคัมภีร์หมื่นโอสถ
“โฮสต์ยังคงเก็บตัวอยู่ในบ้านและทะลวงไปยังขอบเขตจริงแท้ โฮสต์ได้รับรางวัลเป็นสัตว์เลี้ยง วิหคทองคำเขย่านภา”
สัตว์เลี้ยงอีกตัว?
ฉู่เซวียนตรวจสอบข้อมูลของวิหคทองคำเขย่านภา
“วิหคทองคำเขย่านภา สัตว์เทพโบราณที่มีความเร็วสูงสุด มันสามารถเขย่าเก้าสวรรค์และแยกเก้าพิภพ...”
หลังจากอ่านข้อมูลของวิหคทองคำเขย่านภาแล้ว ฉู่เซวียนกล่าวได้อย่างเดียวว่ามันยอดเยี่ยมมาก!
มันเป็นสัตว์เทพโบราณ
เขานำวิหคทองคำเขย่านภาออกมา
มันเป็นวิหคน้อยที่กล้าหาญ มีกรงเล็บสีทอง ปีกสีทอง และดวงตาที่แหลมคม
ความแข็งแกร่งของมันอยู่ในขอบเขตจริงแท้ขั้นที่หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ตัวมันมีขนาดเท่านกพิราบเท่านั้น
มันยังอยู่ในวัยเด็ก และเขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีกว่ามันจะเติบโตเต็มที่
“เหมียว”
แมววิญญาณสวรรค์กระโดดขึ้นไปและจ้องไปยังวิหคทองคำเขย่านภา
วิหคทองคำเขย่านภากางปีกออกและยกกรงเล็บข้างหนึ่งขึ้นเพื่อจับที่คอของแมววิญญาณสวรรค์
ขนของแมวก็ตั้งชันขึ้นทันที มันปลดปล่อยเสียงคำรามและแรงกดดันที่พลุ่งพล่านก็ปรากฏขึ้น
มันได้ใช้พลังของสัตว์เทพพยัคฆ์ขาว
อย่างไรก็ตาม วิหคทองคำเขย่านภานั้นก็ไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด มันเอียงคอและดูค่อนข้างสงสัยว่าเหตุใดแมวตัวนี้ถึงสามารถปล่อยพลังออกมาได้
ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของแมววิญญาณสวรรค์นั้นอยู่ประมาณขอบเขตรวมศูนย์ขั้นที่สาม มันอ่อนแอกว่าวิหคทองคำเขย่านภามาก แต่เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของฉู่เซวียนด้วยกัน มันจึงมีเพียงการต่อสู้ที่เป็นมิตรและรอยแผลเป็นเท่านั้น ไม่ได้มีการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตาย
หลังจากทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจริงแท้แล้ว ความมั่นใจของฉู่เซวียนก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาเข้าใกล้วิถีไร้เทียมทานในแผ่นดินหนานโจวอีกก้าวหนึ่ง
ลัทธิมารไม่มีอะไรต้องกังวล
ยอดฝีมือธรรมดาๆ ของจักรวรรดิต้าเซี่ยเองก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเช่นกัน
ไม่มีผู้ที่อยู่ในขอบเขตจักรพรรดิในแผ่นดินหนานโจว ตราบใดที่เขาสามารถบรรลุถึงขอบเขตจักรพรรดิ เขาก็จะอยู่อย่างไร้เทียมทานในแผ่นดินหนานโจว จากนั้นเขาสามารถเพิกเฉยต่อจักรวรรดิต้าเซี่ยได้
แน่นอน ขอบเขตจักรพรรดินั้นยังไม่ใช่ตัวตนสำคัญสำหรับที่อื่น
เขาสามารถครองได้เพียงเขตแผ่นดินหนานโจวเท่านั้น
นอกเขตแผ่นดินหนานโจว ในโลกอันกว้างใหญ่นี้ ขอบเขตจักรพรรดินั้นไม่ถือว่ามีอะไรเลย
หลังจากทะลวงไปยังขอบเขตจริงแท้แล้ว การฝึกฝนของคน ๆ หนึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ฉู่เสวียนจึงไม่รีบร้อนและอดทนรอจนกว่าจะถึงหนึ่งปีของการเก็บตัวอยู่บ้านจะผ่านไป
รางวัลสำหรับการเก็บตัวอยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีจะต้องยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย
บางทีรางวัลสำหรับการเก็บตัวอยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีอาจทำให้เขาทะลวงไปสู่ขอบเขตจักรพรรดิได้โดยตรงก็เป็นได้
ตราบเท่าที่เขาได้บรรลุขอบเขตจักรพรรดิ เขาจึงไม่มีอะไรต้องกลัวในแผ่นดินหนานโจวอย่างแท้จริง
วิหคทองคำเขย่านภาเกาะอยู่บนกิ่งของบุปผากลืนวิญญาณ มันเอียงศีรษะและจ้องมองไปยังบุปผากลืนวิญญาณ มันรู้สึกว่าต้นไม้เล็ก ๆ ต้นนี้ค่อนข้างพิเศษ
ในฐานะที่เป็นสัตว์เทพโบราณ มันมีความเย่อหยิ่งโดยธรรมชาติ
สิ่งที่สามารถดึงดูดสายตาของมันได้ไม่ใช่สิ่งธรรมดา
ฉู่อวิ๋นยังคงอยู่ในช่วงปิดด่านฝึกฝน มันไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนฉู่เซวียนที่สามารถทะลวงเหมือนกับการดื่มน้ำที่ใช้เวลาไม่นาน
สำหรับคนอื่น ๆ แม้แต่การทะลวงขั้นย่อยก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวัน
หลังจากทะลวงผ่านไปแล้ว พวกเขายังจำเป็นต้องทำให้ฐานการฝึกฝนมั่นคงด้วย
เมื่อมองไปที่กระถางต้นไม้ในลานบ้าน ฉู่เซวียนรู้สึกว่าเขานั้นไม่มีอะไรที่จะทำ ด้วยเหตุนี้เขาจึงหยิบกรรไกรออกมาและตัดเล็มกิ่งไม้ของต้นไม้ในกระถาง
วิถีชีวิตสบายเช่นนี้มันช่างสะดวกสบายเสียเหลือเกิน
เขาขาดเพียงสาวใช้แสนสวย!
ไม่ว่าดอกไม้จะสวยงามเพียงใด มันก็ไม่สามารถเทียบได้กับความสวยงามที่อยู่ข้างกายเขาได้
มีสาวใช้ที่สวยงามมากมายในตระกูลฉู่ ทว่าไม่มีผู้ใดที่มีความสามารถมากพอ
เขาไม่ต้องการสาวใช้ธรรมดา
ดังนั้นตอนนี้เขาจึงได้แต่อยู่บ้านคนเดียวต่อไป
“โฮสต์ได้ตัดแต่งต้นไม้ในกระถางและสนุกกับวิถีชีวิต โฮสต์ได้รับรางวัลเป็นคัมภีร์หมื่นวิญญาณและคัมภีร์หมื่นโอสถ”
ฉู่เซวียนหยุดชะงักครู่หนึ่ง เขาเรียกรางวัลแบบสุ่มอีกครั้ง?
สุดยอด!
หลังจากตัดแต่งต้นไม้ในกระถางเสร็จแล้ว ฉู่เซวียนก็เอนหลังบนเก้าอี้และตรวจสอบรางวัลจากระบบ
คัมภีร์หมื่นวิญญาณได้บันทึกทรัพยากรและสมบัติทั่วทั้งฟ้าดิน
หากใครได้รับคัมภีร์หมื่นวิญญาณ คนนั้นจะสามารถรับรู้ถึงสมบัติอะไรก็ตามในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นสมบัติแห่งฟ้าดิน สมบัติที่หายสาบสูญไป และสมบัติหายากที่จะรับรู้
รวมถึงได้บันทึกคุณสมบัติและวิธีใช้งานทั่วไปของสมบัติแต่ละชนิด
นอกจากคัมภีร์หมื่นวิญญาณแล้ว เขายังได้รับคัมภีร์หมื่นโอสถ
คัมภีร์หมื่นโอสถได้บันทึกสูตรโอสถนับไม่ถ้วนเช่นเดียว
ทั้งสูตรโอสถและวิธีการปรุงโอสถที่หายสาบสูญล้วนสามารถหาพบได้ในคัมภีร์นี้
ฉู่เซวียนได้รับคัมภีร์หมื่นวิญญาณและคัมภีร์หมื่นโอสถ คัมภีร์ทั้งสองเล่มนี้ไม่หนานัก ทว่าแต่ละหน้ามีข้อมูลจำนวนมหาศาล
นี่ก็เป็นวิธีพิเศษในการบันทึกข้อมูล เนื้อหาในแต่ละหน้าสามารถเลื่อนลงมาได้เรื่อยๆ นอกเหนือจากคำอธิบายแล้วยังมีรูปภาพประกอบอีกด้วย
วิถีแห่งการปรุงโอสถที่บันทึกไว้ในคัมภีร์หมื่นโอสถไม่เพียงแต่บันทึกคำอธิบายเท่านั้น ทว่ายังรวมถึงแผนภาพเต๋าแห่งโอสถด้วย
ฉู่เซวียนไม่ได้ขอให้ระบบนำเนื้อหาของคัมภีร์ทั้งสองเข้าสู่ความทรงจำของเขาในทันที ทว่าเขาพลิกดูเนื้อหาของพวกมันอย่างคร่าวๆ ก่อน
การอ่านคัมภีร์หมื่นโอสถก็เหมือนกับการอ่านหนังสือสมุนไพร
เขาคิดถูกแล้วที่ให้เวลาในการอ่านมัน
ฉู่เซวียนได้อ่านหนังสือส่วนใหญ่ในตระกูลฉู่หมดแล้ว ดังนั้นทั้งคัมภีร์หมื่นวิญญาณ และคัมภีร์หมื่นโอสถ มันสามารถทดแทนการอ่านหนังสือในยามว่างตอนนี้ได้ดี มันถือเป็นการฆ่าเวลาสำหรับเขาเลย
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็สามารถใช้คัมภีร์หมื่นวิญญาณและคัมภีร์หมื่นโอสถได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อน
เขาไม่ได้ขาดแคลนโอสถ
หรือไม่ได้ขาดสมบัติเช่นกัน ในทุกวันที่เขาเก็บตัวอยู่บ้าน ระบบได้มอบรางวัลทุกชนิดแก่เขา
ฉู่เซวียนได้เก็บหนึ่งในวิธีการปรุงโอสถและสูตรโอสถหลายสูตรจากคัมภีร์ไว้ให้ฉู่อวิ๋น
ฉู่เซวียนไม่สนใจว่าฉู่อวิ๋นจะสนใจความรู้เหล่านี้แล้วเรียนรู้มันได้หรือไม่
เขาแค่อยากเตรียมสิ่งต่างๆ ให้นางเพื่อช่วยนางเพิ่มอิทธิพลของตนในตระกูล
ศาสตร์ปรุงโอสถนี้คือหนึ่งในวิถีแห่งการปรุงโอสถชั้นยอดในแผ่นดินหนานโจว หลังจากที่ฉู่อวิ๋นเรียนรู้มันแล้ว สถานะของนางในตระกูลฉู่จะต้องเหนือกว่าฉู่ชิงและไม่ต่ำกว่าผู้นำตระกูลอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น สูตรโอสถที่ฉู่เซวียนเตรียมไว้สำหรับนางนั้น ยังรวมไปถึงโอสถที่จะทำให้นางทะลวงไปยังขอบเขตจริงแท้อีกด้วย โอสถแต่ละเม็ดสามารถเพิ่มโอกาสในการทะลวงได้อย่างน้อยสามถึงเจ็ดส่วน
นอกจากโอสถที่สามารถช่วยให้นางทะลวงไปยังขอบเขตจริงแท้แล้ว ยังมีโอสถที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บ โอสถเสริมสร้างเจตจำนงวิญญาณที่จะช่วยรักษาวิญญาณอีกด้วย
หากฉู่อวิ๋นสามารถปรุงโอสถเหล่านี้ได้ ความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามส่วนภายในระยะเวลาอันสั้น
และเมื่อฉู่อวิ๋นสามารถเชี่ยวชาญวิถีแห่งการปรุงโอสถเหล่านั้นแล้ว แม้ว่านางจะต้องการแต่งงานจริงๆ ฉู่เทียนหมิงจะต้องขอร้องนางไม่ให้ออกจากตระกูลฉู่เป็นแน่
สามวันต่อมา ฉู่อวิ๋นออกจากการปิดด่านฝึกฝน
สิ่งแรกที่นางทำหลังจากออกมาจากการปิดด่านฝึกฝนคือมาที่เรือนสี่ประสาน
นางพลิกดูบันทึกการฝึกฝนอีกครั้งและได้พบเจอกับวิถีแห่งการปรุงโอสถ มันทำให้นางตกใจทันที
อันที่จริง มันมีวิธีการปรุงโอสถว่างเปล่าอยู่รวมถึงสูตรด้วยเช่นกัน
โอสถว่างเปล่านั้นหายากมาก ในแผ่นดินหนานโจวมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถปรุงโอสถว่างเปล่าได้
ครั้งหนึ่งตระกูลฉู่เคยคิดที่จะซื้อโอสถว่างเปล่า ทว่าราคาที่หอจันทร์ทมิฬขายนั้นแพงเกินไป ตระกูลฉู่จะต้องใช้เงินสำรองเกือบหนึ่งในสามเพื่อซื้อมัน
เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงล้มเลิกความคิดที่จะซื้อโอสถว่างเปล่า
หากพวกเขามีโอสถว่างเปล่า ฉู่เทียนหมิงมีโอกาสทะลวงไปยังขอบเขตรวมศูนย์!
ทว่าวิธีปรุงโอสถนี้กลับถูกวางไว้อย่างลวกๆ ราวกับว่ามันไม่มีค่าใด ๆ
“ท่านลุงสามไม่ได้ถ่ายทอดวิถีแห่งการปรุงโอสถนี้ให้ตระกูลหรือ?”
ฉู่อวิ๋นรู้สึกงงงวย หากมีคนจากตระกูลฉู่ได้ครอบครองวิถีแห่งการปรุงโอสถนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่ทะยานขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ตระกูลฉู่สามารถปรุงโอสถเหล่านี้ได้เอง พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องซื้อโอสถจากผู้อื่นอีก มิหนำซ้ำพวกเขายังสามารถวางขายมันในตลาดได้อีกด้วย
ไม่ว่านางจะมองอย่างไร วิถีแห่งการปรุงโอสถนี้มันต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อตระกูลฉู่
ฉู่อวิ๋นไม่เข้าใจว่าทำไมลุงสามถึงไม่ส่งต่อวิถีแห่งการปรุงโอสถนี้ให้กับท่านปู่?
เป็นไปได้ไหมว่าวิถีแห่งการปรุงโอสถนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่เหมือนใคร?
มันจะต้องเป็นเช่นนั้น
ฉู่อวิ๋นรู้สึกสับสน นางควรเรียนรู้มันหรือไม่?
หากวิถีแห่งการปรุงโอสถนี้รั่วไหลออกไป มันจะนำหายนะมาสู่ตระกูลฉู่หรือไม่?
หลังจากลังเลอยู่นาน ฉู่อวิ๋นก็ตัดสินใจแอบเรียนรู้มัน ตอนที่ปรุงโอสถนางค่อยแอบปรุงมันอย่างลับๆ
ตราบใดที่นางไม่ได้ปรุงโอสถในปริมาณมาก และตราบใดที่สามารถเก็บเป็นความลับได้ มันก็จะไม่มีปัญหาใด ๆ
หลังจากตัดสินใจได้ ฉู่อวิ๋นก็เริ่มศึกษามันอย่างจริงจัง