Ep.522 - มหาสงครามเริ่มขึ้น
2/3
Ep.522 - มหาสงครามเริ่มขึ้น
ราชามังกรคลั่งได้รับข่าว
มันนึกไม่ถึงเลย ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะอาจหาญเช่นนี้
ลูกน้องตนหนึ่งรีบเอ่ยว่า “พวกเราควรสั่งให้ผู้ครองแคว้นทั้งหกสกัดพวกมัน!”
เฮสการ์แค่นเสียง “ฮึ่ม! เผ่ามนุษย์ใช้เมืองหนามทมิฬในการเดินทาง สามารถเลี่ยงทางบก ข้ามผ่านแคว้นต่างๆได้ แล้วแบบนี้กองทัพผู้ครองแคว้นจะสกัดพวกมันได้ยังไง!”
ลูกน้องพูดต่อ “เช่นนั้นให้ผู้ครองแคว้นทั้งหกส่งกองทัพที่รวบรวมได้แล้วมายังสันเขามังกรในทันที ช่วยพวกเรารุมโจมตีพวกมนุษย์!”
ชัดเจนว่ามันสายเกินไปแล้ว
เฮสการ์เพิ่งบรรลุข้อตกลงระหว่างผู้ครองแคว้นทั้งหก กองทัพของอีกฝ่ายยังอยู่ระหว่างระดมพล ต่อให้ออกเดินทางตอนนี้ก็ต้องใช้เวลาอีก 2 - 3 วัน นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ว่าพวกเขาต้องผ่านเส้นทางอันวับซ้อนของสันเขามังกรอีกนะ
ต่อให้เป็นกองพลที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ต่อให้เป็นกองพลอากาศ ก็ยังมีโอกาสถูกมอนสเตอร์โจมตีระหว่างทาง
ขณะที่เมืองหนามทมิฬมีฟังก์ชั่นป้องกันมากมาย ดังนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่กล่าวมา
นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ว่าลึกๆแล้วทั้งฝ่ายผู้ครองแคว้นทั้งหกและเฮสการ์ต่างมีความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
หากกองทัพของทั้งหกแคว้นเข้าสู่ส่วนลึกที่สุดของสันเขามังกร แล้วตอนนั้นสถานการณ์รบพลิกผันขึ้นมา อาจเป็นพวกมันที่บุกตีเมืองมังกรเพื่อเข้ายึดซะเองก็ได้
และผลที่ตามมาหลังจากนั้นคือหายนะ!
ดังนั้นมีเพียงวิธีเดียวที่ดีที่สุด
ราชามังกรออกคำสั่ง “หลังจากผู้ครองแคว้นทั้งหกรวมทัพเสร็จสิ้น ให้พวกเขาบุกไปอีกทาง เดินทัพโจมตีแคว้นทะเลตะวันตก แคว้นทุ่งขจี และแคว้นเดียวดายตามลำดับกองทัพใดที่ตีเมืองหลักศัตรูแตกก่อน ข้ามีรางวัลให้อย่างงาม!”
เจ้าบุกรังข้า เช่นนั้นข้าก็จะบุกรังเจ้า!
เผ่ามนุษย์ ในเมื่อพวกเจ้าเลือกโยนไข่ลงในตะกร้าใบเดียว เช่นนั้นก็จงยอมรับถึงผลที่ตามมาซะ!
หากเผ่ามนุษย์ตีเมืองมังกรพลาด หรือพ่ายแพ้กองทัพสันเขามังกร พวกเขาจะไม่มีที่ยืนในอาณาจักรมังกรโลกาอีกต่อไป
สิ่งที่รออยู่เหลือมีเพียงความพินาศ!
หลังจากกองทัพฮังอวี่ออกจากแคว้นเดียวดาย ปัจจุบันที่นั่นเหลือเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอ และสมุนทหารสายการผลิตเท่านั้น
ด้วยการป้องกันของพวกเขา ไม่มีทางหยุดการปิดล้อมปราบปรามของเหล่าผู้ครองแคว้นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคว้นทุ่งขจีและแคว้นทะเลตะวันตก ทั้งสองแคว้นนี้ ฮังอวี่ยังควบคุมได้ไม่เต็มที่ มีขุนนางเล็กไม่น้อยที่ยังไม่ยอมรับใช้เขา ต่อให้ฮังอวี่สัญญาว่าจะมอบผลประโยชน์มากมายให้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้มีอำนาจท่วมท้น สิ่งแรกที่ต้องรักษาไว้ก็คือชีวิตอยู่ดี!
สองวันต่อมา
เมืองมังกรเข้าสู่สถานะพร้อมรบเต็มรูปแบบ
เขตแดนป้องกันและค่ายกลป้องกันถูกเปิดใช้งาน
เมืองมังกรไม่ได้ทำสงครามมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
แต่พลังป้องกันที่มี ก็ยังคงอยู่ในจุดสูงสุดของอาณาจักรมังกรโลกา
อาศัยแค่เขตแดนป้องกันเพียงอย่างเดียว มีบาเรียซ้อนทับกันเป็นสิบชั้น ไหนจะอาวุธและอุปกรณ์ที่ทรงพลังที่ได้ติดตั้งเอาไว้
เมืองๆนี้ แค่ทำลายชั้นการป้องกันเพียงอย่างเดียวก็ยากแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่าข้างในมีสมุนทหารชั้นเลิศอีกกว่า 80,000 - 90,000 นาย
ในแง่ปริมาณ อาจน้อยกว่ากองทัพกบฏ แต่ด้านพลังรบที่แท้จริง สูงกว่ากองทัพกบฏมาก
น่าเสียดาย
แม่ทัพมังกรทั้งสามไม่อยู่แล้ว หากพวกมันร่วมรบด้วย พลังรบโดยรวมของกองทัพสันเขามังกรจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20 - 30 เปอร์เซ็นต์!
แน่นอน
แม้แม่ทัพมังกรผู้เกรียงไกรทั้งสามจะไม่อยู่แล้ว แต่เฮสการ์ยังมีลูกน้องฝีมือดีอีกมาก ต่อให้ไม่รวมเผ่ามนุษย์ ข้างในก็ยังมีเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาอยู่มากกว่า 2,000 -3,000 ตน และอย่างน้อยเกือบสิบตนมีพลังรบในระดับกึ่งผู้ครองแคว้น
ขอแค่ส่งพวกมันไปยังแคว้นต่างๆ ก็สามารถกลายเป็นผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ!
เป็นขุมกำลังที่ทรงพลังมาก!
หากคิดทำลายกองทัพมังกร อย่าฝันว่าจะจบลงง่ายๆ!
“รายงานฝ่าบาท!”
“เมืองหนามทมิฬ... มาถึงแล้ว!”
เฮสการ์พอทราบข่าวก็รีบออกมาตรวจสอบทันที
เมืองหนามทมิฬยังอยู่ห่างไกล แต่ด้วยความสามารถในการตรวจจับของราชามังกรคลั่ง แน่นอนว่ามองเห็นได้ง่ายๆ
ขณะนี้ปรากฏป้อมปราการพีระมิดเหล็กดำลอยอยู่กลางฟ้า ห่างออกไปจากเมืองมังกรเกือบร้อยไมล์
ฝั่งนั้นกำลังปรับองศา และลดความเร็วลงอย่างช้าๆ
สำหรับชาวเมืองมังกร นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเมืองระดับตำนาน เมืองที่ดูเทอะทะนั่น ลอยอยู่บนฟ้าได้อย่างไร?
เพียงมองแสงที่สะท้อนลงมาจากเมืองเบื้องบน ก็มากพอแล้วที่ทำให้คนเบื้องล่างรู้สึกกดดัน
เฮสการ์ไม่ได้ใส่ใจนัก “ต่อให้เมืองลอยฟ้าดูมีมนตร์ขลังเพียงใด หากคิดคุกคามเมืองมังกร? นั่นเปล่าประโยชน์ มนุษย์โง่เขลาเหล่านี้ เดี๋ยวก็รู้ว่าหนทางที่พวกเจ้าเลือกคือความตาย”
ไม่น่าแปลกใจที่เฮสการ์จะไม่จริงจังกับเมืองหนามทมิฬนัก
ป้อมปราการลอยฟ้ารับมือได้ยากก็จริง แต่เมื่อครั้งสงครามเมืองพายุระห่ำ ตัวเฮสการ์เคยอาศัยกำลังพลเพียงน้อยนิด ทะลวงเข้าไปข้างในเมืองได้มาก่อน
ทำให้มันทราบดี ว่าพลังรบของเมืองหนามทมิฬนั้นคนละชั้นกับเมืองมังกร
“กองทัพมังกรบินหน่วยที่หนึ่งและสองเตรียมตัวให้พร้อม!”
ภายใต้คำสั่งของราชามังกร กองพลหน่วยมังกรบินเตรียมพร้อมรบ
เฮสการ์ตั้งใจว่าหลังเมืองหนามทมิฬเข้าตีเมืองมังกรสักพัก จะใช้ประโยชน์จากช่องว่างระหว่างแนวรุกของศัตรู นำทัพกองพลมังกรบิน ทะลวงแนวป้องกันเมืองหนามทมิฬด้วยตัวเอง
กระนั้น
ใครจะรู้
ขณะที่ราชามังกรกำลังสั่งระดมทัพเพื่อเตรียมออกปฏิบัติการ
ในพริบตา ภายในเมืงอมังกร จากทิศทางหนึ่ง จู่ๆพลันเกิดแสงสว่างจ้า
แสงนั้นแพรวพราวมาก ทำให้ผู้คนลืมตาไม่ขึ้น และสิ่งที่ตามมา คือแรงสั่นสะเทือนและคลื่นกระแทกอย่างรุนแรง
วินาทีที่เกิดการระเบิด อาคารและค่ายกลหลายสิบแห่งได้รับผลกระทบ
เขตแดนเมืองมังกรที่เดิมถูกวางไว้เป็นสิบชั้น เกินกว่าครึ่งสีซีดจางลง
ก่อนที่เฮสการ์และสมาชิกเมืองมังกรตนอื่นๆจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวอีกสองครั้งติดกัน
ตามจุดต่างๆในเมืองมังกร เกิดหลุมระเบิดขนาดใหญ่หลายแห่ง กองทหารจำนวนมากได้รับผลกระทบ
เครื่องกำเนิดพลังป้องกันที่สำคัญนับสิบถูกทำลาย!
และด้วยแรงระเบิดอันน่าสะพรึงนี้ มีสมุนทหารอย่างน้อยหลายพันนายบาดเจ็บและเสียชีวิต! ระบบป้องกันได้รับความเสียหายอย่างมาก
มีช่องว่างขนาดใหญ่ตามเขตแดน ทำให้สามารถบุกเข้ามาได้
ประสิทธิภาพการป้องกันโดยรวมลดลงอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง!
เกิดอะไรขึ้น!
เหล่ายอดฝีมือเมืองมังกรตื่นตระหนก
สีหน้าของเฮสการ์แปรเปลี่ยนไปอย่างมาก “ไม่ได้การ! ภายในเมืองมีคนทรยศ!”